มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 137 ครีมลบรอยแผลเป็น
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 137 ครีมลบรอยแผลเป็น
“เสิ่นหยิงเซี่ย คุณบอกว่าเขาเป็นเขยที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิงไม่ใช่หรอ?”
จางฮุยมองไปที่แผ่นหลังของมู่เซิ่ง แล้วอดถ่มน้ำลายออกมาไม่ได้
“เขามันเป็นคนไม่เอาถ่าน!”
เสิ่นหยิงเซี่ยกัดฟันกรอด แล้วพูดอย่างมั่นใจ“ไป๋หงกวง น่าจะไม่รู้ว่าได้ข่าวมาจากไหน ถึงรู้วามู่เซิ่งเป็นเจ้าของสปาหรงเหมย ดังนั้นเลยตกใจจนขี้หดตดหายขนาดนี้”
“คิดไม่ถึงว่าไป๋หงกวงคนอย่างเขาที่เป็นถึงผู้นำตระกูล จะเป็นคนขี้ขลาดขนาดนี้”
“แต่จางฮุย คุณไม่ต้องกังวลนะ หลังจากเงินเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของสปาหรงเหมยจบลง และถูกบดขยี้จนราบคาบ ไป๋ของสปาหรงเหมยจะหายไป มู่เซิ่งจะไม่กล้าหยิ่งผยองอีกต่อไป”
จางฮุยที่ได้ยินอย่างนั้นแล้ว ก็รู้สึกมีเหตุผล มุมปากของเขาอดแสยะยิ้มขึ้นมาไม่ได้ เขาแอบเอาสูตรลับของสปาหรงเหมยออกมา งานแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่มีทางผิดพลาดอย่างแน่นอน
“เราเข้าไปกันเถอะ”เสิ่นหยิงเซี่ยกล่าว
เธอแทบอดรนทนไม่ไหวที่จะดูฉากที่มู่เซิ่งอับอายขายขี้หน้า
ภายในห้องโถงใหญ่ ถังเสี่ยวเยว่นั่งอยู่อย่างสงบภายในงาน เอาเท้าไขว่ห้างบนเก้าอี้ ขาของเธอขาวยาว แสดงให้เห็นถึงส่วนเว้าส่วนโค้ง และช่องหว่างขาทั้งสองข้าง มีช่องว่างสีดำ ที่ทำให้ดวงตาของผู้คนที่ได้พบเห็นแทบจะหลุดเข้าไปในนั้น
“บอสมู่คะ ทำไมถึงมาคะ”
ถังเสี่ยวเยว่ตบไปที่เก้าอี้ข้างๆ แล้วบ่นอุบอิบ ท่าทางอ่อนโยน และมีเสน่ห์มาก
มู่เซิ่งปาดเหงื่อออก ถังเสี่ยวเยว่ที่อยู่ข้างๆเขา เหมือนกับน้ำผึ้งกับลูกพีชสุก แต่เขารู้ดี ภายในของเธอซ่อนระเบิดเอาไว้ หากกล้าแม้แต่จะกัดเข้าไปหนึ่งคำ จะต้องระเบิดจนร่างกายเป็นผุยผงอย่างแน่นอน
แต่เขาเป็นคนที่มีครอบครัวแล้ว
“มีเรื่องทำให้เสียเวลาระหว่างทางน่ะ”
มู่เซิ่งไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น นั่งก้มหน้าลงบนเก้าอี้ ด้วยความละอายใจ
“ฉันยังไม่ได้กล่าวสุนทรพจน์เลย ตอนนี้ได้เวลาที่เจ้าของเชียนเหยียนจะกล่าว”ถังเสี่ยวเยว่พูดอย่างยิ้มๆ
“อู๋เยว่คนนี้ พูดจาใหญ่โตจริงๆ แต่เขาอาศัยทรัพย์สมบัติอันน้อยนิดแค่นั้นของพ่อเขา สามารถดำเนินธุรกิจมาถึงขั้นนี้ได้ ถือได้ว่าเขามีความสามารถไม่ธรรมดา”มู่เซิ่งมุมปากแสยะยิ้มขึ้น มองดูอู๋เยว่ที่อยู่บนเวทีคุยโม้โอ้อวด
เขาเป็นลูกชายคนเล็กสุดของตระกูลอู๋ สู้อู๋คุนไม่ได้ ดังนั้นจึงไม่ได้รับความรัก แต่เขากลับอาศัยความสามารถของตัวเองทำให้พ่อของเขามอบบริษัทที่มีมูลค่าทางการตลาดหนึ่งพันล้าน นั่นแสดงให้เห็นความสามารถในการลงทุนของเขา
พูดจากใจจริง อู๋เยว่ถือว่าเป็นลูกหลานคนรวมที่มีความสามารถที่สุดคนหนึ่ง ที่เขาเคยพบเจอมามากมาย เจียนมู่หลงที่อยู่ต่อหน้าของเขา เป็นแค่คนเลวคนหนึ่งเท่านั้น
“มีความสามารถแล้วยังไงล่ะ สุดท้ายก็แพ้อยู่ดี”ถังเสี่ยวเยว่พูดจบ เธอรู้ดี เมื่อผลิตภัณฑ์ของสปาหรงเหมยออกมา ถึงจะมีสปาเชียนเหยียนอีกสิบแห่ง ก็จะถูกบดขยี้จะเป็นผุยผง
“นั่นเป็นเพราะ เขาเจอผมต่างหาก”
มู่เซิ่งยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน เดินไปยังบนเวที
“เพราะ เจอคุณงั้นหรอ?”ถังเสี่ยวเยว่มองมู่เซิ่งอย่างแปลกใจ เห็นเพียงแค่เขาก้าวเดินขึ้นไปยังเวที อย่างองอาจ หัวใจของเธอเต้นรัวแรง สีหน้าของเธอเริ่มแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างประหลาด
“จริงด้วย เพราะเจอคุณเข้า”
“แต่น่าเสียดาย……เมื่อฉันเทียบกับคนคนนั้นแล้ว ยังช้าไปสามปี”
ถังเสี่ยวเยว่พูดบ่นพึมพำ ดวงตาลึกล้ำ มีแววตาแห่งความเศร้าใจเล็กน้อย
มู่เซิ่งสาวเท้ายาวไปยังเวที อู๋เยว่ถอยเว้นว่างให้เขา สำหรับคู่แข่งแล้ว เขายังคงรักษาการให้เกียรติ
“ผมคือเจ้าของสปาหรงเหมย”มู่เซิ่งหยิบไมค์มาพูด
เมื่อพูดออกไป คนที่อยู่ด้านล่างก็พากันตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าเจ้าของสปาหรงเหมย จะเป็นชายหนุ่มที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก
“ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เปิดตัวโดยสปาหรงเหมยของเรา มีชื่อว่าครีมหรงฉาน”มู่เซิ่งเริ่มพูด ยังไม่รีรอ“ครีมลบรอยแผลเป็นนี้ ขอแค่บนร่างกายของคุณมีรอยแผลเป็น เพียงคุณทาลงไปก็จะสามารถรักษาให้หายได้”
หลังจากพูดจบ เขาก็โยนไมค์ทิ้ง แล้วเดินลงไปบนเวที
“พูดจบแล้วหรอ?เร็วขนาดนี้เชียว?”
“ไม่แนะนำสรรพคุณอะไรหน่อยเลยหรอ?ทำไมถึงให้ความรู้สึกทำแบบลวกๆแบบนี้ล่ะ”
“จริงด้วย ครั้งนี้ ฉันไม่ค่อยชอบผลิตภัณฑ์ของสปาหรงเหมยเท่าไร”
การแถลงข่าวเพียงประโยคเดียวของสปาหรงเหมยทำให้กลุ่มผู้ชมต่างพากันตกตะลึง พวกเขาไม่เคยเห็นการแถลงข่าวสั้นๆแบบนี้มาก่อน อีกทั้งขอแค่มีรอยแผลเป็น ก็จะสามารถรักษาให้หายได้?คำพูดนี้มันขี้โม้เกินจริงไปรึเปล่า
ต้องรู้ว่า แม้แต่ผลิตภัณฑ์ของเยียนจิงอันเหมยกรุ๊ป ยังกล้าพูดแค่ว่าทำให้รอยแผลเป็นดูจางลง สีผิวขาวสว่างขึ้น สปาหรงเหมยนี่มัน เป็นใครกล้าดียังไงกัน?
“ฮ่าๆๆ ขำชะมัดเลย”จางฮุยเดินเข้ามา แล้วหัวเราะเสียงดัง
“มู่เซิ่ง ฉันว่าแกถูกไป๋หงกวงที่คุกเข่าอยู่ข้างหน้าประตู ทำให้รู้สึกเหลิงไปกันใหญ่แล้ว?คำพูดแบบนี้ยังพูดออกมาได้ แกคิดว่าผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นที่คิดค้นออกมามันคืออะไรกัน”
เสิ่นหยิงเซี่ยเองก็พูดจาถากถาง“อ่อ ฉันลืมไป ผลิตภัณฑ์ของแก มันลอกเลียนแบบเรามานี่ใช่ไหม?”
ถังเสี่ยวเยว่กัดฟันกรอด แล้วพูดอย่างเย้ยหยัน“พวกคุณสองคนมันพวกลืมบุญคุณคน มีสิทธิ์อะไรมาพูดอยู่ที่นี่?อย่าลืมนะว่า ถ้าไม่ใช่เพราะฉันรับเข้ามาทำงานในสปาหรงเหมย ตอนนี้คงไปเร่ร่อนอยู่ตามถนนแล้ว!”
แอบขโมยสูตรลับของคนอื่นไป ยังมีน่าว่าพวกเขาลอกเลียนแบบอีก ถึงจะเตรียมใจมาแล้ว ถังเสี่ยวเยว่ก็ยังคงตกใจกับความไร้ยางอายของทั้งสองคนนี้
“แล้วยังไงล่ะ?หากคนเราไม่ฝึกฝนจะถูกสวรรค์และนรกยอมรับหรอ ไหนๆคุณก็จะเป็นศัตรูกับผมแล้ว ผมจะโง่รอให้คุณเตะผมออกไปอีกงั้นหรอ?”จางฮุยพูดด้วยสีหน้าไม่แคร์
“ผ่านวันนี้ไป ทั่วทั้งเจียงหนานคงรู้แล้วเรื่องที่ว่า สปาหรงเหมยของพวกคุณลอกเลียนแบบสปาเชียนเหยียน ถึงเวลานั้น คุณคิดว่า คุณจะสามารถอยู่ที่เจียงหนานต่อไปได้อีกหรอ?”
“ฮ่าๆๆ!”
จางฮุยหัวเราะเสียงดัง“พูดจากใจเลยนะ ผมต้องขอบคุณที่คุณบีบผมนะ ไม่อย่างงั้น ผมคงไม่มีวันนี้หรอก!”
เขาได้ฉีกหน้าแตกหักกันไปแล้ว จึงไม่กลัวว่าถังเสี่ยวเยว่จะลงมือทำอะไร ถึงอย่างไรเสีย ด้านหลังของเขาก็มีตระกูลอู๋คอยคุ้มกะลาหัวอยู่
“ผลสรุปจะออกมาแล้ว!”
เมื่อได้ยินพิธีกรกล่าว ทุกคนจึงหันมองไปที่เวที
มาวันนี้ วินาทีที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือ
เห็นเพียงบนเวที มีกระต่ายสองตัววางอยู่บนนั้น เพียงแต่ขนที่อยู่ด้านหลังของกระต่ายถูกไถออก ด้านบนมีรอยแผลเป็นยาวประมาณสิบมิลลิเมตร โดยมีผลิตภัณฑ์ของทั้งสองสปาแปะอยู่บนนั้น เพื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพ ตอนนี้พิธีกรกำลังสวมถุงมือ ค่อยๆปาดครีมทั้งสองข้างออก
ที่ที่ครีมของสปาเชียนเหยียนแปะอยู่นั้น ถึงแม้รอยแผลเป็นยังคงอยู่ แต่ผลลัพธ์มันจางหายไปเยอะมาก เห็นเพียงแค่ร่องรอยนูนเล็กน้อย สำหรับร่องรอยที่น่าเกลียด มันหายไปตั้งนานแล้ว
“ไอ้เศษสวะ แกเห็นไหม!”เสิ่นหยิงเซี่ยหัวเราะอย่างมีชัย“ไม่มีสปาหรงเหมย แกมันไม่มีค่าอะไรด้วยซ้ำ แกเนี่ยนะ อยากเรียกตัวเองว่าบอส?”
มู่เซิ่งยิ้มอย่างเรียบเฉย แล้วมองดูไปที่เวทีต่อไป
เห็นเพียงครีมบนหลังของกระต่ายตัวน้อยถูกปาดออก บริเวณด้านหลัง ร่องรอยของแผลเป็น หายไปเกือบครึ่ง แทบจะหายไปทั้งหมด เมื่อเอามือลูบไปบนนั้น เห็นเพียงแค่ผิวที่อยู่ด้านหลัง ราวกับเกิดใหม่มันนุ่มลื่นมากๆ
เมื่อทั้งสองได้เห็นผลลัพธ์ เป็นที่ประจักษ์ชัด
สูด!
ทั่วทั้งงานพากันสูดหายใจเข้า
หากไม่ใช่ว่าสัญลักษณ์บนตัวของกระต่ายยังอยู่ ทุกคนคงสงสัยแน่นอน ว่ากระต่ายตัวนี้ ต้องถูกสลับเปลี่ยนภายใต้สายตาของทุกคนอย่างแน่นอน
นี่มันรอยแผลเป็นที่ไหนกันล่ะ นี่มันมายากลเวทมนตร์ชัดๆ!
จากนั้นทุกคนก็จำได้ว่ามู่เซิ่งพูดอะไรเมื่อเขาขึ้นมาบนเวที ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ล้อเล่น สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง!
“นะ นี่มันเป็นได้ยังไง!”
เสิ่นหยิงเซี่ยถลึงตาโต มองไปที่ฉากบนเวทีอย่างเหลือเชื่อ