มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 166 ขึ้นราคา
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 166 ขึ้นราคา
มีเรื่องราวของเจียงเทาฉินในตอนก่อนหน้านี้แล้ว มู่เซิ่งสั่งการกับรปภ.เป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าคนของตระกูลเจียงไม่สามารถปล่อยผ่านเข้ามาได้ ดังนั้นในตอนที่เจียงมู่หลงอยู่ที่ปากประตูตระกูลเจียง ก็ได้ถูกรปภ.ขวางเอาไว้แล้ว
“กรุณาแสดงบัตรผ่านด้วยครับผม” รปภ.ขวางรถของเจียงมู่หลง กล่าวเสียงเย็นเยียบ
เจียงมู่หลงบันดาลโทสะจนบ้าคลั่งไปแล้ว รปภ.ต๊อกต๋อยคนหนึ่งกลับกล้าขวางเขา? ดังนั้นจึงตบพวงมาลัยก่นด่าทันทีว่า “สุนัขดีไม่ขวางทาง ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ เชื่อไหมว่ากูจะขับรถชนมึง?”
“คุณจะสร้างความวุ่นวายหรือครับ?” รปภ.ขมวดคิ้วทันที ก่อนจะหยิบวิทยุสื่อสารที่เอวขึ้นมา กล่าวว่า “พี่หู่ครับ มีคนจะมาสร้างความวุ่นวายที่นี่ครับ!”
ก่อนหน้านี้ที่อู๋ชิวอี๋เหยียดหยามก่นด่าพวกเขา เป็นเพราะว่าเธอเป็นคนของตระกูลเจียง ดังนั้นรปภ.จึงไม่กล้าล่วงเกินเธอ ทว่าตอนนี้มู่เซิ่งมีคำสั่งการออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ว่าไม่ต้องสนใจหน้าตาคนตระกูลเจียง เขาจะทนต่อไปได้อีกอย่างไรกัน?
ไม่นานนัก เฮียหู่นำกลุ่มชายชุดดำกลุ่มหนึ่ง ก่อนจะรีบตามเข้ามาแล้ว นี่คือคนที่ท่านหลงจัดแจงเอาไว้ที่นี่โดยเฉพาะ
“ไอ้น้องชาย นายคิดจะสร้างความวุ่นวายที่นี่หรือ?”
เฮียหู่สบตามองเจียงมู่หลงจากมุมมองที่สูงกว่า ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยมีด ดูดุร้ายเป็นอย่างมาก
“ผม ผมไม่ได้ทำ…”
มองเห็นกลุ่มชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งทางด้านหลังแล้ว เจียงมู่หลงลนลานทันที นี่คือเฮียหู่เชียวนะ แขนซ้ายแขนขวาของท่านหลง เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้? เขาส่ายหน้าเป็นพลันวันพลางกล่าวว่า “เข้าใจผิดแล้วครับ เฮียหู่ นี่คือการเข้าใจผิดอย่างหนึ่งครับ”
“เข้าใจผิด? ถ้าอย่างนั้นนายขับรถมาจอดขวางที่นี่ไว้ทำไม? นายมีบัตรผ่านทางหรือ?” เฮียหู่กล่าวอย่างเย็นชา
เจียงมู่หลงส่ายศีรษะ “ไม่มีครับ”
“ไม่มี? ถ้าอย่างนั้นยังไม่รีบไสหัวไปอีก!” เฮียหู่ตบเข้าที่หัวรถอย่างรุนแรงหนึ่งหน
เรี่ยวแรงมหาศาลทำให้ส่วนหัวรถที่ถูกตบไปหนึ่งหนนั้นปรากฏรอยบุ๋มรอยหนึ่งลงไป
ในใจเจียงมู่หลงเจ็บมาก นี่เป็นรถใหม่ของเขาเชียวนะ ทว่าเขาไม่กล้าพูดมากความ ทำได้เพียงแค่ขับรถจากไปเท่านั้น
แต่เจียงมู่หลงกลับยังไม่ถอดใจ หลังจอดรถในโรงจอดรถละแวกใกล้ ๆ แล้วแอบซุ่มอยู่ที่ปากประตูคฤหาสน์เขตซีไห่อีกครั้ง หลังเห็นเจียงหว่านออกมาซื้อผัก จึงรีบพุ่งเข้าไปหาทันที
“เจียงหว่าน ที่เธอพูดในโทรศัพท์เมื่อวานมันหมายความว่าอย่างไรกันแน่? ตระกูลเจียงมีความทุกข์ หรือเธอจะไม่ช่วยเหลือเลยหรือ? เธออย่าลืมสิ ว่าเธอเองก็เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเจียงด้วยเหมือนกัน!” เจียงมู่หลงกล่าวกับเจียงหว่านด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยคำถาม
เจียงหว่านหัวร่อเย็นยะเยือก
ตระกูลเจียงมีความทุกข์?
ไม่ได้เป็นเพราะว่าหลังจากครอบครัวของเจียงมู่หลงได้เงินไปแล้วก็นำเงินเหล่านี้เป็นของตนเองทั้งหมด หากพวกเขานำเงินเหล่านี้มาใช้บนโครงการไซต์ก่อสร้างทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะใช้ไปหมดหนึ่งส่วน ก็ไม่น่าจะกลายเป็นเช่นนี้ได้เหมือนกันไม่ใช่หรือ เผชิญความยากลำบากโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เดิมทีก็รวบรวมสมทบเงินไม่ได้
“วันนี้ฉันมีนัดพบหน้ากับเถ้าแก่ธุรกิจโรงงานหลายท่าน หวังว่าพี่จะไม่สร้างความยุ่งยากให้กับฉันนะคะ” เจียงหว่านกล่าวอย่างเย็นชา คร้านจะสนใจเจียงมู่หลง
จากการรักษาตัวมาหลายวัน รอยแผลบนใบหน้าของเจียงหว่านดีขึ้นเยอะมากแล้ว ไม่ต้องใช้ผ้าคลุมหน้าอีกต่อไปแล้ว ในฐานะที่เธอเป็นคนบ้างานคนหนึ่ง ทั้งก็เตรียมจะรับงานต่อด้วยเหมือนกัน มู่เซิ่งเอาชนะเธอไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ส่งโครงการความร่วมมือธุรกิจก่อสร้างสองสามเจ้าให้เจียงหว่านไปคุยงาน
ส่วนเรื่องไซต์ก่อสร้าง แดดแรงฝนฉ่ำ มู่เซิ่งไม่มีทางอนุญาตให้เจียงหว่านไปอย่างเด็ดขาด
“พบกับเถ้าแก่ธุรกิจโรงงาน?”
เจียงมู่หลงแค้นหัวเราะเย็นชาหนึ่งหน “เจียงหว่าน สถานการณ์ล้วนเป็นแบบนี้แล้ว เธอกลับสนใจแต่ตัวเอง? ถ้าพวกเราคืนเงินกันไม่ได้ เธอเองก็จบเห่ด้วยเหมือนกัน!”
เจียงหว่านสูงลมหายใจลึก ๆ หนึ่งหน กล่าวว่า “เป็นพวกพี่ที่ขับไล่มู่เซิ่งกับฉันออกจากตระกูลเจียง แล้วยังคิดจะเอาโครงการเขตซีไห่ไปจากมือฉันอีก ขอพูดประโยคไม่น่าฟังนะคะ พวกพี่ติดหนี้ล้มละลาย มันเกี่ยวอะไรกับฉันหรือคะ? จุดจบทั้งหมดนี้ พี่สมควรที่จะได้รับแล้ว!”
คำของเจียหว่านทำเอาเจียงมู่หลงบันดาลโทสะแล้ว
ดวงตาทั้งสองข้างของเขาแดงก่ำ คิดอยากที่จะลงมือจัดการต่อเจียงหว่านให้หนัก ทว่ามองเห็นเฮียหู่ที่กำลังยืนอยู่ตรงปากประตูของคฤหาสน์ สายตาสบตามองมาที่นี่ราวกับมีราวกับไม่มี เขากลืนน้ำลายไปหนึ่งอึก สลายความคิดที่จะลงมือแล้ว
เจียงมู่หลงกล่าวกับเจียงหว่านด้วยโทสะว่า “เจียงหว่าน ไม่ใช่ว่าเธอได้โครงการเขตซีไห่มาแล้วหรือ ฉันกลับอยากที่จะดูเสียหน่อย ว่าไม่มีตระกูลเจียงแล้ว เธอจะมีจุดจบที่ดีอะไรได้?”
“แล้วแต่พี่ค่ะ” เจียงหว่านพ่นคำออกมา หมุนตัวจากไป
มองเห็นท่าทีเช่นนี้ของเจียงหว่านแล้ว เจียงมู่หลงก็ยิ่งกัดฟันแน่มากขึ้น ในใจเขานึกว่าหากไม่ได้เป็นชู้กับเฝิงจงเหลียง แล้วละก็ เธอจะสามารถมีโครงการในตอนนี้ได้อย่างไร?
“เจียงหว่าน เธออย่าโอหังนักเลย ช้าเร็วเฝิงจงเหลียงก็จะเล่นเธอจนเบื่อเข้าสักวัน!” เจียงมู่หลงกัดฟันอย่างรุนแรง ทั้งก็กำลังขับรถตามติดทางด้านหลังของเจียงหว่านไปติด ๆ เช่นเดียวกัน
เจียงหว่านขับรถมุ่งหน้าไปห้องทำงาน
เธอมาถึงบริษัท เห็นว่าเจียงมู่หลงกลับตามอยู่ทางด้านหลังมาโดยตลอด ขมวดคิ้วแน่นไปมา คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าหมอนี่กลับเป็นคนน่ารำคาญมากเช่นนี้ ทว่านอกจากร้องเรียกมู่เซิ่งมาแล้ว เจียงหว่านเองก็ไร้หนทางที่จะขับไล่เขาไปแล้วเหมือนกัน สถานการณ์ในตอนนี้ ทำได้เพียงต้องไม่เห็นเพื่อจะได้ไม่รำคาญใจแล้ว
หลังมาถึงห้องทำงานแล้ว ไม่นานนัก ธุรกิจก่อสร้างเหล่านั้นก็ล้วนรีบมากันหมดทุกคนแล้ว รูปร่างอ้วนถ้วนสมบูรณ์ ในมือมีสัญญาข้อตกลง เห็นได้อย่างจัดเจนเลยว่าพวกเขาล้วนนัดกันมาเป็นอย่างดีกันทั้งสิ้น
หากทว่า ช่วงเวลาที่พวกเขามานั้นล้วนช้ากว่าก่อนหน้านี้ไปเล็กน้อย แต่เจียงหว่านก็ไม่ได้สนใจอะไรนัก
“คุณหนูเจียง ขอประทานโทษด้วยจริง ๆ ครับ พวกเรามาช้าแล้ว”
“ใช่ครับคุณหนูเจียง เป็นเพราะว่าช่วงนี้มีโครงการจำนวนมากที่ต้องการเซ็นสัญญาข้อตกลงกับพวกเรา พวกเราค่อนข้างยุ่ง ดังนั้นจึงปลีกตัวมาไม่ได้เล็กน้อย”
“กล่าวได้ไม่ผิดครับ ตอนนี้กิจการก่อสร้างนับวันยิ่งทำเงินได้ง่ายมากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะโครงการใหญ่ของเขตซีไห่ ระยะนี้ได้ยินมาว่ามู่ซื่อ กรุ๊ปก็เคลื่อนไหวเป็นการใหญ่อีก ไม่ทราบว่าคุณหนูเจียงคุณทราบหรือเปล่าครับ?”
คนอ้วนถ้วนที่นั่งอยู่ตรงกลางที่สุดแย้มยิ้มพลางกล่าวพูด สายตาไม่เกรงกลัวกวาดมองบนใบหน้าของเจียงหว่าน
เจียงหว่านอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
คนเหล่านี้ ในยามปกติปฏิบัติต่อเธอก็ไม่ถือว่านอบน้อมมากเท่าไหร่นัก เป็นเพราะว่าปัญหาโครงการของมู่ซื่อ กรุ๊ปล้วนเป็นฝ่ายเข้าหาเธอแล้วเรียกร้องเซ็นสัญญาความร่วมมือกันก่อนทั้งสิ้น วันนี้มาเห็นท่าทีของพวกเขาแล้ว ดูราวกับว่าตนเองได้กลายเป็นนายท่านแล้วเลยก็ไม่ปาน
ในใจเจียงหว่านไม่สบอารมณ์เล็กน้อย กล่าวว่า “ฉันไม่ทราบค่ะ”
“คุณหนูเจียง คุณอย่าเสแสร้งสิครับ ตอนที่พวกเรามาที่ใต้ตึกก็ได้พบกับเจียงมู่หลงแล้ว เขาบอกกับพวกเรามาหมดแล้วนะครับ” ชายวัยกลางคนที่อ้วนถ้วนสมบูรณ์คนนั้นกล่าว “ผมดูแล้วตอนนี้มู่ซื่อ กรุ๊ปไม่คิดจะเซ็นสัญญาข้อตกลงกับพวกคุณแล้วกระมัง? ข่าวนี้ พวกคุณเองก็ปกปิดกันได้ดีเยี่ยมจริง ๆ ก่อนหน้านี้ผมถูกหลอกมาโดยตลอดเลยสินะครับ”
“ประธานหยาง พวกเราจะหลอกพวกคุณได้อย่างไรกันคะ? เรื่องนี้คุณพูดกับฉันให้กระจ่างดีกว่าค่ะ” เจียงหว่านกล่าว
“เหอะ ๆ ยังเสแสร้งอยู่อีกหรือครับ?”
ประธานหยางส่ายศีรษะไปมาอย่างไม่สบอารมณ์ นักธุรกิจสองคนทางด้านข้างเองก็เปิดปากเย้ยหยันกันขึ้นมาแล้วเช่นเดียวกัน “เจียงมู่หลงล้วนบอกมาหมดแล้ว ช่วงระยะเวลาก่อนหน้านี้ เฝิงจงเหลียงไปหาพวกเขา ยกเลิกโครงการไซต์ก่อสร้างของพวกเขาแล้ว ผมให้คนรู้จักต่อสายโทรศัพท์ไปหา เพื่อยืนยันเปอร์เซ็นต์ความจริงของข่าวนี้ ตอนนี้ก็คงใกล้จะถึงตาคุณแล้วเหมือนกันกระมัง?”
“ใช่ครับ ผมยังนึกว่าพวกคุณกับมู่ซื่อ กรุ๊ปมีความสัมพันธ์กันไม่น้อยกันอยู่เลยนะครับ ผลสุดท้ายตอนนี้กระทั่งโครงการของตัวเองก็มัดเอาไว้ไม่อยู่เสียแล้ว”
“ใช่ครับ เจียงมู่หลงยังบอกอีกด้วยว่าตอนนี้กระทั่งการกู้ยืมพันล้านของธนาคารเจียงหนานก็ล้วนถูกเก็บกลับคืนไปทั้งหมด เจียงหว่าน ผมดูแล้วตอนนี้คุณเองก็เหนื่อยกับการวิ่งเต้นแล้วเหมือนกันกระมัง?”
“ไม่มีเงินไม่มีโครงการ ยังเสแสร้งวางมาดใหญ่โตอะไรอีกละครับ? ในครั้งนี้ พวกเราต้องการขึ้นราคา!”
เถ้าแก่หลายคนเหล่านั้นสำรวจเจียงหว่านอยู่ครู่หนึ่ง มุมปากปรากฏรอยยิ้มลำพองตนขึ้นมาหนึ่งสาย
หากไม่ใช่เพราะพวกเขาพบกับเจียงมู่หลงใต้ตึกเข้าแล้วได้ยินจากปากของเขา ก็คงยังไม่ทราบว่าสถานการณ์ของตระกูลเจียงในตอนนี้มันน่าอนาถมากขนาดนั้นเลยนะ! โชคดีที่ก่อนหน้านี้ตนได้กดราคาไว้ก่อน แต่ที่ทำไปก็เพื่อเกี่ยวดองความสัมพันธ์กับตระกูลเจียงเท่านั้น