มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 173 ไม่กล้ามาแล้ว
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 173 ไม่กล้ามาแล้ว
ปัจจุบันนี้ ณ ตระกูลกู่แห่งเมืองเจียงหนาน
ในช่วงเวลานี้ กู่ชิงเสวียนราวกับซากศพที่เดินได้ เพราะว่าเธอไม่เจอมู่เซิ่งมานานมากแล้ว ก่อนหน้านี้เคยไปหามู่เซิ่งที่ย่านคฤหาสน์มา สุดท้ายถูกแจ้งว่ามู่เซิ่งไปเมืองเยียนจิงแล้ว กู่ชิงเสวียนไม่มีทางเลือกอื่น อยู่ในคฤหาสน์ทั้งวัน ก็เหมือนกับสูญเสียวิญญาณเลยยังไงอย่างนั้น
“ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป คาดว่าเขาคงลืมฉันไปแล้ว”
กู่ชิงเสวียนออกแรงตบที่หน้าผาก พูดว่า : “ไม่ได้ ฉันจะต้องริเริ่มจู่โจมก่อน”
พูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดรหัสตัวเลขที่เรียงเป็นแถวโดยที่หลับตาก็สามารถกดออกมาได้แล้ว
เพิ่งจะวางสายหนึ่งไป ก็มีอีกสายโทรศัพท์เข้ามาแล้ว นี่ทำให้มู่เซิ่งรำคาญ แต่ว่าเขาก็กดรับสายแล้ว “ ฮัลโหล กู่ชิงเสวียน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”
“ไม่มีอะไร ช่วงนี้คุณกลับมาเมืองเจียงหนานแล้วเหรอ?” กู่ชิงเสวียนพูดถาม
“ใช่” มู่เซิ่งพูดกล่าว
ได้ฟังประโยคนี้ สายตาของกู่ชิงเสวียนเปล่งประกายขึ้นมาแล้ว “ช่วงนี้จะถึงวันเกิดฉันแล้ว เตรียมซื้อเสื้อผ้าที่ดูดีหน่อยสักสามสี่ชุด คุณมีเวลาว่างไปเดินช้อปปิ้งเป็นเพื่อนฉันไหม?ถ้าหากคุณไม่ชอบที่มันไกล ฉันไปรับคุณได้”
“ไม่ต้องแล้ว ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาว่าง จะต้องไปฉลองวันเกิดคุณตาของเจียงหว่านที่อำเภอซานเซี่ยง เพราะงั้นสามสี่วันนี้ไม่อยู่เมืองเจียงหนาน” มู่เซิ่งส่ายหน้าพร้อมพูดปฏิเสธ
ได้ฟังประโยคนี้ กู่ชิงเสวียนก็ไม่มีเหตุผลให้มู่เซิ่งไปเป็นเพื่อนเธอแล้ว แต่ว่าเธอเกิดไอเดียขึ้นได้อย่างหนึ่ง ในเมื่อมู่เซิ่งไม่มีเวลาเป็นเพื่อนเธอ ทำไมเธอถึงจะเป็นคนไปหามู่เซิ่งไม่ได้ล่ะ?
“มู่เซิ่ง คุณตาของเจียงหว่านเกิดวันไหนเหรอ?ไม่ว่ายังไงก็เป็นผู้อาวุโสของฉัน ถึงตอนนั้นฉันจะไปเยี่ยมเยียนอย่างแน่นอน” กู่ชิงเสวียนพูดกล่าว
ความคิดของสาวตระกูลร่ำรวย มู่เซิ่งไม่อาจเดาใจได้ แต่ไม่ว่ายังไงกู่ชิงเสวียนก็มาอวยพรวันเกิด เขาไม่สามารถขัดขวางได้ ทำได้เพียงแค่พูดว่า “บ่ายวันมะเรื่อง ที่โรงแรมเซิ่งหลงนะ แต่ว่าของขวัญเตรียมสบายๆก็ได้แล้ว ไม่ต้องล้ำค่ามากเกินไป”
“ได้ ฉันจะไปตรงเวลาแน่!”
กู่ชิงเสวียนวางสายไปอย่างรีบร้อน
เธอรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าทันที เอาเสื้อผ้าใหม่ๆตัวแล้วตัวเล่าออกมา โยนลงบนเตียง เสื้อผ้าพวกนี้เป็นเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่เพิ่งซื้อมาใหม่ช่วงนี้ ไม่เคยใส่มาก่อนทั้งนั้น ถ้าหากจะไปเจอมู่เซิ่ง แน่นอนว่าจะต้องเอาออกมาเตรียมสักหน่อย
“ชิงเสวียนของเราเจอเรื่องที่มีความสุขอะไรเหรอ?พูดให้ปู่ฟังหน่อยสิ ให้ปู่ได้มีความสุขด้วย” กู่มู่สวีนเดินมาจากทางด้านหลัง พูดอย่างดีอกดีใจ
ช่วงนี้ กู่ชิงเสวียนใจคอแห้งเหี่ยว อย่าว่าแต่เธอเอง แม้แต่กู่มู่สวีนก็เป็นกังวลแย่แล้ว
วันนี้เห็นเธอมีความสุขเช่นนี้ แน่นอนว่าจะต้องเดินเข้ามาถามไถ่
“คุณปู่ ผู้อาวุโสของมู่เซิ่งจะจัดงานฉลองวันเกิด เชิญให้พวกเราไปเข้าร่วมโดยเฉพาะ” กู่ชิงเสวียนพูดกล่าว
“ท่านเจียงสาม?แต่ว่าเขาไม่ใช่ว่า……”กู่มู่สวีนตกตะลึงครู่หนึ่ง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วพร้อมพูดกล่าว
“ไม่ใช่ท่านเจียงสาม เป็นจ้าวลิ่วป๋อ อาวุโสในอำเภอซานเซี่ยงของเขานะ”ในเวลานี้กู่ชิงเสวียนก็ไม่สนใจความสัมพันธ์เหล่านั้นแล้ว พูดเสียงดังว่า: “คุณปู่ ถึงตอนนี้พวกเราไปอวยพรวันเกิดกัน จะต้องของขวัญที่ดีที่สุด ทำแบบนี้พวกเราถึงจะมีหน้ามีตา”
กู่มู่สวีนพยักหน้าแล้ว
แต่ว่าในใจของเขา ยังคงสงสัย มู่เซิ่งมีผู้อาวุโสที่ชื่อจ้าวลิ่วป๋อเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
ถ้าหากเขารู้ว่า จ้าวลิ่วป๋อคนนี้เป็นคุณตาของเจียงหว่าน คาดว่าจะโมโหจนมึนงงไปเลย เธอคิดอยากจะไล่จีบมู่เซิ่ง กลับว่าให้ของขวัญแก่คุณตาของเจียงหว่าน นี่คืออะไร?นี่ก็เรียกว่าต่อหน้าทำเป็นรักใครห่วงใย แต่จิตใจมุ่งร้ายไม่หวังดีเหรอ?
“ได้ ปู่จะไปแจ้งเดี๋ยวนี้” กู่มู่สวีนพูดอย่างดีอกดีใจ
เขามีเรื่องอื่นอยากจะเจอมู่เซิ่งพอดี
ในเวลานี้
ณ อำเภอซานเซี่ยง
ครอบครัวของจ้าวเหมยเหมยดูข่าวในโทรทัศน์ ช่วงนี้ สปาหรงเหม่ยโปรโมทผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นชนิดหนึ่งออกมา ผลการรักษาของผลิตภัณฑ์ตัวนี้เรียกได้ว่าน่าตื่นตาตื่นใจ ขอเพียงแค่คุณมีรอยแผลเป็น ทาลงบนผิว ก็ค่อยๆทำให้รอยแผลเป็นเจือจางหายไป ถึงขั้นรอยแผลเป็นผ่าคลอดของบรรดาสาวตั้งครรภ์ ก็เจอจางลงได้ จะเกือบหายเกลี้ยง
เมื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นแบบนี้ออกมา ก็เป็นที่นิยมทั่วทั้งประเทศเลย
ถึงขั้นแม้แต่สปา เชียนเหยียนก็ริเริ่มยอมแพ้การแข่งขันทางด้านความสวยงามในเมืองเจียงหนานแล้ว ริเริ่มกลายเป็นบริษัทลูกของสปาหรงเหม่ย
ภายในงานแถลงข่าว ภาพฉากที่ตระกูลอู๋คุกเข่าลงตรงหน้าของมู่เซิ่ง พวกลูกๆหลานๆตระกูลชนชั้นสูงเหล่านั้นไม่กล้าเผยแพร่เท่าไหร่ กลัวว่าหากพูดไปจะทำให้มู่เซิ่งไม่พอใจ ทำให้เกิดวิบัติการณ์ต่อตระกูล เพราะงั้นคนส่วนใหญ่เพียงแค่รู้ว่าสปา เชียนเหยียนกลายเป็นบริษัทลูกของสปาหรงเหม่ยแล้ว ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นคุณงามความดีของถังเสี่ยวเยว่ทั้งนั้น และไม่รู้สาเหตุที่มีมู่เซิ่งอยู่เบื้องหลัง
จ้าวเหมยเหมยเห็นข่าวในโทรทัศน์ เกิดไอเดียอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ทันที เดินมาตรงหน้าของเจียงหว่าน พูดอย่างได้ใจ : “เห็นแล้วหรือยัง บริษัทของเฉินเสวียลี่ของเรา ตอนนี้ทำงานร่วมกันกับสปาหรงเหม่ย แถมเขายังมีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับถังเสี่ยวเยว่อีกด้วยนะ!ผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นแบบนี้ ในมือของเขามีไม่น้อย”
เฉินเสวียลี่ได้ฟังค่อนข้างร้อนตัว ผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นนี้ เขาเอามาขาย หนึ่งขวดห้าแสนหยวนนะ ตัวเองจะใช้ได้ยังไง?ส่วนถังเสี่ยวเยว่ เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะไปเจอหน้าเลยด้วยซ้ำ ถึงแม้ว่าเขาได้ตัวแทนในเขตพื้นที่ของอำเภอซานเซี่ยงมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนจบ ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะไปพบถังเสี่ยวเยว่
แต่ว่าจ้าวเหมยเหมยคุยโวโอ้อวดต่อหน้าผู้คน เขาก็รู้สึกไม่ดีที่จะเปิดโปง ทำได้เพียงพยักหน้าคล้อยตามอยู่ข้างๆ
แต่ทว่า หลังจากที่เจียงหว่านเห็นการบรรยายผลิตภัณฑ์ลบรอยแผลเป็นในข่าวนี้ ตกตะลึงอย่างช่วยไม่ได้แล้ว
ยาลบรอยแผลเป็นนี้ เธอเคยใช้เหรอ!
แม้ว่ารูปแบบสินค้าไม่ค่อยเหมือนกันเท่าไหร่ แต่ว่าเป็นลักษณะของยาทาลบรอยแผลเป็น เธอไม่มีทางลืมได้ลง
สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ประสิทธิภาพของการรักษาและผลลัพธ์ที่พูดในข่าว เมื่อเทียบกับที่เธอใช้แย่กว่าไม่น้อยเลย ตอนนั้น แค่หนึ่งคืน ก็ทำให้รอยแผลเป็นกลับคืนสู่สภาพเดิมโดยสิ้นเชิงเลย!
“มู่เซิ่ง เอายาลบแผลเป็นมาจากที่ไหน?” เจียงหว่านคิดในใจ
เห็นเจียงหว่านไม่พูด จ้าวเหมยเหมยคิดว่าเธอตกใจแล้ว ยิ้มพร้อมพูดต่อไปว่า : “โธ่ จริงๆนี่ก็ไม่มีอะไร เป็นญาติกันทั้งนั้น ถ้าหากพวกแกขอร้องลูกเขยของฉัน เขาก็สามารถให้ยาทารอยแผลเป็นกับพวกแกสักขวด ถึงยังไงพวกแกก็ทำงานที่ไซต์งานทุกวัน ได้รับบาดเจ็บอยู่บ่อยๆ”
“จ้าวหลิน คุณบอกว่าลูกเขยของคุณเจ๋ง งั้นเขารู้จักถังเสี่ยวเยว่ไหม?”
เจียงหว่านไม่พูด จ้าวเหมยเหมยก็พุ่งประเด็นไปที่จ้าวหลินแล้ว
มู่เซิ่งรู้จักถังเสี่ยวเยว่หรือไม่นั้น จ้าวหลินไม่ทราบจริงๆ แต่ว่าเธอจะยอมแพ้ต่อน้องสาวของเธอได้ยังไงกัน ทำปากยื่นพร้อมพูดว่า : “แม้ว่าไม่รู้จัก เจอกับมู่เซิ่งแล้ว ถังเสี่ยวเยว่จะต้องเป็นคนริเริ่มทักทายก่อนแน่”
“ฮ่าๆๆๆ!” จ้าวเหมยเหมยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
“จ้าวหลิน คุณก็ขี้โม้เกินไปแล้วนะ ลูกเขยของฉันรู้จักถังเสี่ยวเยว่ แถมยังไปทานข้าวกับเธอด้วยกันบ่อยๆ อยากจะนัดไปเจอหน้ากันสักหน่อยไหม ว่าลูกเขยของคุณรู้จักเธอจริงๆหรือเปล่า?”
ได้ฟังจ้าวเหมยเหมยพูดไร้เหตุผลยิ่งขึ้นเรื่อยๆ เฉินเสวียลี่กลัวว่าจ้าวหลินจะตอบรับแล้ว งั้นเป็นแบบนี้ เขาเชิญถังเสี่ยวเยว่มาไม่ได้ ก็อับอายแล้วไม่ใช่เหรอ?รีบพูดว่า : “คุณป้า ตอนนี้ประธานถังยุ่งอยู่นะ จะมีเวลามาพบหน้าได้ที่ไหนกัน ”
จ้าวเหมยเหมยจ้องมองเฉินเสวียลี่อย่างโหดเหี้ยมแวบหนึ่ง เหมือนว่ากำลังโกรธที่เขารบกวนการคุยโวโอ้อวดของตัวเองแล้ว
“จริงสิเจียงหว่าน มู่เซิ่งจะมาเมื่อไหร่กันแน่?” จ้าวเหมยเหมยพูดกล่าว
จ้าวหลินคุยโวเกี่ยวกับลูกเขยของเธอ จ้าวเหมยเหมยอดใจรอไม่ไหวอยากจะตบหน้า รอจนค่อนข้างทนไม่ไหวแล้ว
เจียงหว่านได้สติกลับมาจากท่ามการความคิด พูดว่า : “น่าจะใกล้แล้วแหละ”
“ใกล้อีกแล้ว มู่เซิ่งคนนี้ ฉันว่าขี้ขลาดไม่กล้ามาแล้วสินะ?” จ้าวเหมยเหมยเบะปาก
และในเวลานี้ ก็มีเสียงที่คุ้นเคยแผ่ซ่านเข้ามาจากที่ประตูแล้ว
“ใครบอกว่าผมไม่กล้ามาหรือ?”