มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 175 ไม่ให้ลองเสื้อผ้า?
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง #บทที่ 175 ไม่ให้ลองเสื้อผ้า?
หลี่ฟางฟางในฐานะที่เป็นพนักงานขายผู้หญิงในร้าน มีความสามารถในการสังเกตและวิเคราะห์เหตุการณ์ได้รอบด้าน หลังจากที่มู่เซิ่งเดินมาที่ชั้นสี่ เธอก็สังเกตเห็นแล้ว แต่งตัวเสื้อผ้าที่ขายตามข้างทางทั้งตัว ไม่มีตัวไหนเป็นแบรนเนมด์ ลักษณะแบบนี้ไม่เข้ากันกับชั้นสึ่ที่ระดับไฮเอนด์ คิดไม่ถึงว่าท้ายที่สุด จู่ๆมู่เซิ่งก็เดินมาในร้านของพวกเขาแล้ว
หลี่ฟางฟางไม่อยากต้อนรับมาก คิดว่ามู่เซิ่งแค่มาเดินดูสักรอบ ก็เดินจากไปเอง คิดไม่ถึงว่าเห็นไม่มีใครมาต้อนรับ มู่เซิ่งก็ตะโกนพูดขึ้นมาแล้ว
เนื่องจากกฎของภายในร้าน หลี่ฟางฟางทำได้เพียงลุกขึ้นยืน แต่ว่าในใจของเธอ ด่าทอมู่เซิ่งไปรอบหนึ่งแล้ว
ผู้ชายธรรมดาจนๆแบบนี้ จะซื้อเสื้อผ้าในร้านไหวได้ยังไงกันล่ะ ฉวยโอกาสออกไปให้โดยเร็วดีกว่านะ
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชาย ขอสอบถามว่าคุณต้องการอะไรคะ อยากซื้อเสื้อผ้าราคาเท่าไหร่คะ?” หลี่ฟางฟางเอ่ยปากพูด เน้นย้ำคำว่าราคาสองคำนี้เป็นพิเศษ
ความหมายแฝงของเธอ กำลังเตือนมู่เซิ่งว่า เสื้อผ้าที่นี่ราคาแพงมาก ไม่ใช่เสื้อผ้าที่ผู้ชายจนๆอย่างเขาจะซื้อไหว
ใครจะรู้มู่เซิ่งทำอย่างกับไม่ได้ยินยังไงอย่างนั้น ยิ้มเห็นฟันแล้ว “ไม่เป็นไร ภรรยาของฉันซื้อให้ฉัน”
นึกไม่ถึงว่าเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงด้วย!
ในเวลานี้ หลี่ฟางฟางก็ยิ่งดูถูกมู่เซิ่งอยู่ในใจมากยิ่งขึ้นแล้ว
คนที่แม้แต่เสื้อผ้าก็ให้ภรรยาซื้อให้ จะประสบความสำเร็จอะไร?
“งั้นคุณค่อยๆเลือกนะคะ!”
ในใจของหลี่ฟางฟางดูถูกมาก แต่ก็จนปัญญาทำอะไรมู่เซิ่งไม่ได้ ทำได้เพียงกระทืบเท้าอย่างโมโห หันหลังเดินจากไป
อีกฝ่ายเดินจากไป มู่เซิ่งก็มีความสุขสบายๆ เลือกเสื้อผ้ากับเจียงหว่านด้วยกันสองคน
ต้องพูดว่า สายตาของเจียงหว่านค่อนข้างเฉียบคมเลยทีเดียว เลือกเสื้อผ้าสองตัว จับดูแล้วสบายมาก สวมใส่บนตัวไม่รู้สึกว่าไม่สบายใดๆเลยด้วยซ้ำ แนบตัวกว่าชุดชั้นใน
“ที่รัก ฉันไปลองเสื้อสองตัวนี้ก่อนนะ” มู่เซิ่งหยิบเสื้อที่เจียงหว่านเลือก เดินไปที่ห้องลองเสื้อผ้า
แถมยังได้ยินเสียงที่ดูถูกถากถางของหลี่ฟางฟางจากด้านหลังด้วย เธอพูดอย่างไม่พอใจว่า : “ระวังหน่อยนะ เสื้อผ้าพวกนี้ราคาแพงมาก!”
มู่เซิ่งไม่ได้หันหน้ากลับมา เดินเข้าไปในห้องลองแล้ว
“ฟางฟาง เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ?”
พนักงานขายอีกสองคนกำลังเล่นโทรศัพท์ เห็นหลี่ฟางฟางเดินกลับมาอย่างโมโหมาก พูดถามว่า : “ทำไมเธอกลับมาไวขนาดนี้ล่ะ?เขาพูดอะไรหรือเปล่า ผู้ชายจนๆคนนี้ออกไปไหม?”
“จะออกไปได้ยังไง เขายังลองเสื้อผ้าอีกนะ เธอรู้ไหม ผู้ชายจนๆคนหนึ่ง แม้แต่เสื้อผ้าก็อาศัยให้ผู้หญิงซื้อให้ ไร้ค่าจริงๆเลย” หลี่ฟางฟางต้อนรับอย่างเย็นชา สีหน้าจะดีได้ยังไงกันเชียว พูดอย่างขบเคี้ยวเขี้ยวฟันด้วยความเกลียดชังว่า: “ฉันคาดว่า เขาถ่ายรูปอยู่ในห้องลองชุด หลังจากนั้นก็โพสต์ลงโมเม้นท์วีแชทแสร้งทำว่าซื้อใส่ คนแบบนี้ฉันเห็นมาเยอะแล้ว จะซื้อเสื้อผ้าในนี้ได้ยังไงกัน”
“วัยรุ่นในปัจจุบันนี้ คิดอยากจะชิงดีชิงเด่นกันจริงจังเกินไป”
“ใช่ โชคดีที่ยังมีแฟนสาว คิดว่าอีกหน่อยก็ต้องเลิกกัน”
“ใช่ๆๆ” ผู้หญิงอีกคนถือโทรศัพท์ไอโฟนที่เธอเพิ่งซื้อมา เหมือนว่าตระหนักได้อย่างลึกซึ้ง “ฉันรู้จักเด็กผู้หญิงที่เรียนมหาวิทยาลัยคนหนึ่ง เพื่อที่จะซื้อโทรศัพท์ไอโฟนที่ออกมาใหม่ ก็ไปร่วมเตียงนอนกับผู้ชายที่อายุมากกว่าเธอถึง20กว่าปี จุ๊ๆ อายุของผู้ชายคนนั้น ก็เป็นพ่อของเธอได้เลยนะสิ”
“โธ่”
หลี่ฟางฟางสายหน้าพร้อมถอนหายใจ “สังคมปัจจุบันนี้ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”
พวกเขาถอนหายใจที่หน้าเคาน์เตอร์ทันที เจียงหว่านไม่ได้ยินสักประโยค นั่งอยู่บนโซฟา รอมู่เซิ่งออกมาอย่างรอคอย
ไม่นาน มู่เซิ่งสวมใส่ชุดสูทเดินออกมาแล้ว
เจียงหว่านนั่งอยู่บนโซฟา หลังจากที่เห็นมู่เซิ่ง หน้าแดงก่ำทันที
นึกไม่ถึงว่ามู่เซิ่ง จะสวมใส่สูทออกมาได้อย่างหล่อเหลาชวนให้คนหลงใหลขนาดนั้น
“ทำไมเหรอ?ดูไม่ดีเหรอ?”
มู่เซิ่งหมุนซ้ายหมุนขวาที่หน้าเจียงหว่าน พูดถามอย่างอยากรู้
“ไม่ ไม่เลวเลย” เจียงหว่านพูดด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ เธอจะโดนมองออกว่าเขินเพราะความหล่อของมู่เซิ่งไม่ได้ พูดด้วยใบหน้าที่แดงก่ำทันที “มู่เซิ่ง ช่วงไหล่ของเสื้อค่อนข้างแคบเกินไป ไม่งั้น ไปเปลี่ยนอีกตัวดีกว่า”
มู่เซิ่งบิดๆไหล่ รู้สึกว่าค่อนข้างแข็งไปนิดหน่อยจริงๆ พยักหน้า เลือกเสื้ออีกสองตัว
เขาลองเสื้อตัวแล้วตัวเล่า มู่เซิ่งไม่ได้รู้สึกว่ายุ่งยาก มีความสุขในสิ่งที่ทำ ถึงขั้นสัมผัสได้ถึงความสุขที่ผู้หญิงช้อปปิ้งแล้ว มิน่าล่ะทุกครั้งที่ผู้หญิงซื้อเสื้อผ้า ก็จะเดินช้อปปิ้งนานขนาดนั้น แต่ว่าหลี่ฟางฟางที่อยู่ข้างๆ ทนมองต่อไปไม่ได้แล้ว
เดิมทีหลี่ฟางฟางก็โมโหอย่างมากอยู่แล้ว เห็นมู่เซิ่งเปลี่ยนเสื้อผ้าทีละตัวๆ ทนไม่ไหวทันที เดินไปตรงหน่าของมู่เซิ่งเลย ยื่นมือข้างหนึ่งออกไปจับเสื้อในมือของมู่เซิ่งแล้ว เผยใบหน้าอมทุกข์ที่แข็งทื่อยิ่งกว่าร้องไห้อีก พูดอย่างเยือกเย็นว่า : “คุณผู้ชาย คุณเลือกมานานขนาดนี้ สรุปว่าจะซื้อหรือเปล่า?”
“ถ้าหากคุณจะซื้อ เสื้อที่อยู่ในมือขวาของคุณตัวนี้ เป็นสูทแนวสปอร์ต ราคาเจ็ดพันแปดร้อยหยวน และตัวนี้ เป็นสูทสไตล์ผู้ชายที่ได้รับความนิยมมากของเรา ราคาหนึ่งหมื่นหนึ่งพันหยวน ราคาเกินหนึ่งหมื่นรับส่วนลดสองร้อย”
“ขอถามหน่อย คุณซื้อไหม?” หลี่ฟางฟางจ้องมองมู่เซิ่ง เพิ่มแรงในมือ
มู่เซิ่งกลัวว่าเสื้อผ้าจะถูกดึงจนพัง ก็ปล่อยมือลง เสื้อในมือของเขาถูกหลี่ฟางฟางเอากลับไปทันที ใส่บนไม้แขวนเสื้อใหม่อีกครั้ง ท่าทีเย็นชา “คุณผู้ชาย ถ้าคุณจะซื้อ ก็ซื้อเลย”
“ถ้าไม่ซื้อ ก็อย่าลูบจับเรื่อยเปื่อย ถ้าหากทำเสื้อผ้าในนี้เสียหายแล้ว คุณก็ชดใช้ไม่ไหว”
เชี่ยเอ้ย
มู่เซิ่งอดไม่ได้ที่จะหมดคำพูด
เดิมทีเห็นสีหน้าของคนเขาไม่ดี เขาขี้เกียจจะไปสนใจ คิดว่าเลือกเสื้อผ้ากับเจียงหว่านแค่สองคนก็ได้แล้ว สุดท้ายทั้งสองคนลองไปครึ่งหนึ่ง หลี่ฟางฟางก็ใช้ท่าทีที่แข็งกร้าวเช่นนี้มาปฏิบัติต่อพวกเขา
ใช่ว่าพวกเขาจ่ายเงินไม่ได้สักหน่อย
คิดไม่ถึงว่าสถานที่ระดับไฮเอนด์ ยังมีพนักงานแบบนี้ด้วย
มู่เซิ่งพ่นลมหายใจออก เขาออกมาเที่ยวเล่นกับเจียงหว่าน ไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับคนแบบนี้ ในเมื่อร้านนี้ไม่เต็มใจที่จะดูแล งั้นก็ไปร้านอื่นก็ได้แล้ว
แต่ทว่า
หลี่ฟางฟางเห็นมู่เซิ่งยอม ก็ยิ่งยืนกรานความคิดที่เขาเป็นผู้ชายจนๆแล้ว คำพูดต่อจากนี้ ในคำพูดเผยถึงการดูถูกอย่างมาก
“ฮึ ตอนนี้ยามทำอะไรอยู่ ยอมปล่อยให้ใครก็ได้ขึ้นมาถึงชั้นสี่แล้ว ก็ไม่ประเมินดูสักหน่อย ว่าซื้อไหวไหม!”
“คุณหมายความว่ายังไง?”
ได้ฟังคำนี้ เจียงหว่านก็อดไม่ได้แล้ว ลุกขึ้นยืน สีหน้าไม่เป็นมิตร
“ทำไมเหรอ?มาถ่ายรูปในร้านแล้วก็โพสต์ลงโมเม้นท์วีแชท ไม่มีเงินซื้อเสื้อผ้า แถมยังไม่ให้คนว่าอีก?” หลี่ฟางฟางเห็นเจียงหว่าน พูดย้อนคำอย่างไม่เกรงใจเลยสักนิด
“พวกเราพูดตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าไม่ซื้อเสื้อผ้าเหรอ?ฉันให้สามีของฉันลองเสื้อผ้า แล้วจะยังไง ไม่ลองเสื้อผ้า ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเสื้อผ้าตัวไหนเหมาะสมกับสามีของฉัน?” เจียงหว่านพูดอย่างเยือกเย็น
น้ำเสียงของหลี่ฟางฟางแหลมขึ้นเรื่อยๆ พูดตะโกนเสียงดังว่า : “สามีจนๆของคุณคนนี้ลองมาแปดร้อยรอบแล้ว ยังจะลองอีกนะ ทำไมคุณไม่ย้ายตู้เสื้อผ้าไปบ้านคุณเลยล่ะ?”
“ทำไมเหรอ?”
“ฟางฟาง เกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้ว?”
“ทำไมจู่ๆพวกเธอก็เสียงดังขึ้นมา?มีอะไรก็พูดจากันดีๆสิ”
เสียงทะเลาะวิวาทดึงดูดให้พนักงานขายผู้หญิงอีกสองคนเดินมาแล้ว
แม้ว่าพวกเธอจะเข้าใจสถานการณ์ แต่ยังแสร้งทำหน้าทำตาว่าไม่รู้เรื่อง เอ่ยปากพูดถาม
พวกเธอเป็นพนักงานร้านเดียวกัน เจอเรื่องแบบนี้ จะต้องช่วยคนของตัวเองอยู่แล้ว
“คนนี้แหละ!” เห็นเพื่อนร่วมงานเดินมา หลี่ฟางฟางคว้าโอกาส ชี้ด่าทอใส่มู่เซิ่ง : “คนนี้แหละ ไม่ซื้อเสื้อผ้ายังจะลองอยู่ตลอด ส่งผลกระทบต่อการขายของพวกเราเลย!”