มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 178 จ้าวเหมยเหมยงุนงง
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 178 จ้าวเหมยเหมยงุนงง
ในเวลานี้
อีกทางด้านหนึ่งของห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าสากลป๋ายต้า
“พี่รปภ.คะ ไอ้หมอนี่จงใจทำลายเสื้อผ้า และไม่ยอมชดใช้ แถมยังลงมือทำร้ายคุณผู้หญิงคนนี้อีกด้วย!” หลี่ฟางฟางพูดอยู่ข้างๆ
“คุณผู้ชายครับ กรุณาอธิบายให้เราฟังหน่อย”
รปภ.สองนายยืนอยู่ตรงหน้ามู่เซิ่ง สีหน้าไม่เป็นมิตร เพื่อพิจารณาสถานการณ์ พวกเขาไม่ปล่อยจ้าวเหมยเหมยที่อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งไป มีเพียงแค่หนึ่งในนั้นที่หยิบวิทยุออกมาแล้วตะโกนขึ้นสองครั้ง สักพัก ก็มีรปภ.อีก 2-3 เดินเข้ามาในร้าน กุชชี่
รปภ.หลายคนรวมตัวกันต่อหน้ามู่เซิ่ง ด้วยสายตาที่จ้องเขมือบ
“รบกวนหลีกทางหน่อยครับ”
ในเวลานี้ ผู้ชายคนหนึ่งอายุประมาณ 30 ปี สวมชุดสูทเดินเข้ามา เขาคือผู้รับผิดชอบร้านกุชชี่ ข้างๆเขา มีผู้หญิงร่างอวบอิ่มที่มีออร่าเต็มไปด้วยความเป็นมืออาชีพ
รปภ.สองสามคนจำตัวตนของผู้ชายได้ แต่จำผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ว่าคือใคร ยังคิดว่าเป็นกิ๊กของเกาเสียง แต่หลังจากที่เห็นทั้งสองคนแล้ว พวกเขาให้ผู้คนหลีกทางให้
“ผู้จัดการเกา” หลี่ฟางฟางเห็น ก็รีบเข้ามาทักทาย
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะ?”
ทันทีที่เกาเสียงเข้ามาก็เห็นมู่เซิ่ง นั่งไขว่ห้างอยู่บนโซฟา ก็รู้ทีหลังว่าคือหนึ่งในคู่กรณี
เมื่อนึกถึงเนื้อหาในสายโทรศัพท์ เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟทันที
ฉันทำงานต้อนรับคนสำคัญอย่างยากลำบากอยู่ที่นี่ ผลสุดท้ายคุณมาก่อเรื่องในร้านของฉัน? ถ้าเป็นวันปกติ อย่างมากก็สั่งสอนสักยกแล้วไล่คุณออกไป แต่ในวันนี้ฉันจะให้คุณได้รับผลที่ตามมา!
“ผู้จัดการเกา เขานั่นแหละ ไอ้หมอนี่เดิมทีมันไม่มีเงินจะซื้อเสื้อผ้า มาลองเสื้อผ้าในร้านก็ช่างมันเถอะ แถมยังทำชุดสูทเสียหายเป็นรูอีก แล้วด่าว่าเสื้อผ้าในร้านเราคือขยะ!”
“จริงด้วย คุณผู้หญิงคนนี้ช่วยพวกเราพูด ผลสุดท้ายเขาก็ตบหน้าอย่างแรง ผู้จัดการคะ คุณดูสิ เขาตบหน้าคุณผู้หญิงคนนี้กลายเป็นแบบนี้แล้ว?”
หลี่ฟางฟางร้องไห้พร้อมทั้งพูดใส่ไฟอยู่ข้างๆ
“ผู้จัดการเกา สวัสดีครับ ผมชื่อเฉินเสวียลี่ เป็นผู้รับผิดชอบสปาหรงเหม่ยสาขาอำเภอซานเซี่ยง ผู้ชายคนนี้ลงมือทำร้ายผมและคุณป้าของผมในร้านของคุณ ขอให้คุณให้ความเป็นธรรมกับเราด้วย” เฉินเสวียลี่พูดด้วยความโกรธ ลุกขึ้นยืนจากพื้นแล้วก็พูด
คำพูดเหล่านี้ เกาเสียงได้ยินก็โมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ตั้งแต่เขาเปิดร้านค้าในห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าสากลป๋ายต้า ก็ไม่มีใครกล้าก่อเรื่องเลย!
ขณะที่เกาเสียงกำลังจะลงมือกับมู่เซิ่ง จู่ๆร่างอวบอ้วนคนหนึ่ง ก็ปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา เกาเสียงตกตะลึง จึงพบว่าคนที่กำลังก้าวไปหามู่เซิ่ง นั่นก็คือถังเสี่ยวเยว่
“ประธานถังไปทำอะไร หรือว่า เธอก็ทนมองดูนักเลงแบบนี้ไม่ไหว?” เกาเสียงพูดอยู่ในใจ
มีข้อสงสัยอยู่ในใจ แต่สำหรับพฤติกรรมของถังเสี่ยวเยว่ เขาก็ไม่กล้าห้าม
“เถ้าแก่มู่……ไม่สิ คุณมู่ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ถังเสี่ยวเยว่ยืนอยู่ตรงหน้ามู่เซิ่ง พูดด้วยความเคารพ
เธอเกือบจะหลุดปากแล้ว ตอนนี้มู่เซิ่งไม่มีเจตนาจะตำหนิ จึงโล่งใจอย่างระมัดระวัง
“ผมมาซื้อเสื้อผ้ากับภรรยา แล้วคุณล่ะ มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”มู่เซิ่งยิ้มแล้วกล่าว
ช่วงนี้เนื่องจากเหตุผลทางบริษัท ถังเสี่ยวเยว่น่าจะยุ่งมากในเจียงหนานจนไม่สามารถปลีกตัวได้จึงจะถูก พูดตามหลักเหตุผลแล้ว คงไม่มีเวลาว่างมาที่อำเภอซานเซี่ยง
“อำเภอซานเซี่ยงแม้ว่าจะเล็ก แต่ก็ยังเป็นศูนย์กลางของหลายมณฑลใกล้เคียง เพื่อขยายธุรกิจของบริษัท ช่วยไม่ได้ ทำได้เพียงย้ายมาที่นี่”
“แต่กลับเป็น คุณมู่ ทำไมคุณถูกปฏิบัติตัวเหมือนนักเลงตัวน้อยที่มาก่อเรื่อง?”
ถังเสี่ยวเยว่ปิดปากของเธอแล้วยิ้มเบาๆ ดูท่าทางงดงามน่าหลงใหล
“มีคนปากเสีย ก็ต้องโดนตีเป็นธรรมดา” มู่เซิ่งส่ายหน้า ไม่พูดอะไรมาก
แต่สายตาของผู้คน มองไปยังจ้าวเหมยเหมยที่ถูกรปภ.จับตัวไว้อย่างไม่รู้ตัว
“เวรเอ๊ย?”
ผู้จัดการเกาเสียนเห็นฉากนี้ นิ่งกลายเป็นหินทันที
คนนี้ที่เรียกว่านักเลงตัวน้อย คิดไม่ถึงว่าจะรู้จักกับถังเสี่ยวเยว่? แถมยังได้รับการดูแลอย่างสนิทสนมจากเธอด้วย? ท่าทีแบบนี้ แม้ว่าจะเป็นคุณชายตระกูลอันดับหนึ่งก็ไม่เคยเห็น
นี่คือนักเลง?
พวกเขาเป็นคนใหญ่คนโตที่สุดยอดไปเลยโอเคไหม!
เกาเสียงอยากจะร้องแต่ไม่มีน้ำตา หันขวับก็ตบหน้าหลี่ฟางฟางอย่างวู่วาม
คุณอยู่ที่นี่มาตั้งนาน มีวิสัยทัศน์แค่นี้เองเหรอ? แถมยังไม่ดูตัวตนของเด็กหนุ่มคนนี้อีก คนนี้คุณสามารถล่วงเกินได้งั้นเหรอ?
เขาบอกว่าเสื้อผ้าของร้านเราคือขยะ?
พูดถูกแล้ว
เสื้อผ้าของร้านเราในสายตาคนใหญ่คนโตแล้ว ก็แค่ขยะ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการดึงกระดุมเม็ดเดียว แม้ว่าจะเอาเสื้อผ้าของพวกเขาไปทิ้ง เกาเสียงก็ไม่กล้าแตะต้องเลยแม้แต่น้อย
“ผู้จัดการเกา……”
หลี่ฟางฟางไม่รู้จักถังเสี่ยวเยว่อะไรนี่ ขณะที่กำลังจะเอ่ยปากพูดบางสิ่ง เกาเสียงก็ตบหน้าไปฉาดหนึ่ง ตบจนหลี่ฟางฟางเวียนศีรษะ และกลิ้งลงบนพื้นสามรอบ
“คุณผู้ชายแซ่อะไรครับ? ขอประทานโทษจริงๆ ที่ส่งผลกระทบต่ออรรถรสในการช้อปปิ้งของคุณ กระผมเกาเสียง ขออภัยด้วยครับ”
หลี่ฟางฟางคนนี้คือคนในใต้บังคับบัญชาของเขา ในสองสามปี นิสัยบุคลิกแบบไหนเกาเสียงรู้ตั้งนานแล้ว ถ้าหากหลี่ฟางฟางไม่ได้อาศัยลีลาบนเตียง ในด้านกฎเกณฑ์ เธอไม่มีสิทธิ์ทำงานที่นี่ได้เลย
อีกอย่างเขาก็เบื่อไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ ล่วงเกินคนที่ไม่ควรล่วงเกิน เกาเสียงก็ย่อมไม่เกรงใจ
มู่เซิ่งมองดูเกาเสียง ไม่พูดอะไร
“นี่ นี่มันเป็นไปไม่ได้!”
และจ้าวเหมยเหมยที่ยืนอยู่ข้างๆ ถูกรปภ.ประคองไว้อยู่ ส่ายหน้าซ้ำๆ ด้วยความเหลือเชื่อ
สองสามวันนี้ จ้าวเหมยเหมยอยากตบหน้าจ้าวหลินมานานแล้ว แต่เนื่องจากมู่เซิ่งไม่มา จึงเป็นการทำให้อับอายทางวาจา ต่อมารอจนกระทั่งมู่เซิ่งมา เธอแอบสาบานว่า จะต้องทำให้มู่เซิ่งอับอายขายหน้า
ลูกเขยของเธอเป็นหัวหน้าของบริษัทมหาชนจำกัด จากความสัมพันธ์ของเขากับเกาเสียง ให้ไอ้สวะคนนี้อับอายขายหน้า มันไม่ยากเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าไม่ต้องให้เกาเสียงเอ่ยปากพูด ขอเพียงแค่เขาขยิบตา รปภ.นั้น ก็สามารถไล่มู่เซิ่งออกไปได้แล้ว
เมื่อคิดว่าถึงแม้ไอ้สวะคนนี้กล้าตีเขา จ้าวเหมยเหมยก็โกรธจนกัดฟันกรอด สักพักจะต้องคุยกับเกาเสียงให้ดีๆ ให้เขาคุกเข่าลง!
แต่ทว่า
จากนั้นเสียงตบก็ดังขึ้น ขัดจังหวะความคิดที่ไม่ดีของเธอ
จ้าวเหมยเหมยไม่อยากเชื่อ เกาเสียง จะตบหน้าหลี่ฟางฟางอย่างรุนแรง ต่อหน้ามู่เซิ่ง
เกิดอะไรขึ้น?
ควรจะตบมู่เซิ่งไม่ใช่หรือไง?
เมื่อเห็นฉากนี้ ในเวลานี้ จ้าวเหมยเหมยรู้สึกเพียงแค่ว่าสมองของเธอคิดไม่ทันแล้ว
จากนั้น เธอยังไม่เข้าใจอะไร
“กระผมเกาเสียง ขออภัยท่านเป็นอย่างยิ่ง”
เกาเสียงเดินไปหามู่เซิ่งด้วยความเคารพ ท่าทีเหมือนกับการปฏิบัติตัวต่อเจ้านายของตัวเอง
“ทำไม ทำไมถึงเป็นแบบนี้!”
จ้าวเหมยเหมยราวกับว่าเห็นผี เธออยากจะตะโกนเสียงดัง ถึงขั้นที่ว่าจะถามให้เกาเสียงชี้แจง ทำไมเขาถึงเคารพมู่เซิ่งขนาดนี้ มู่เซิ่งคนนี้ก็แค่ไอ้เศษสวะที่เป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินก็เท่านั้นเอง ทำไมเกาเสียงต้องไปขอโทษเขาด้วย?
แต่ทว่า จ้าวเหมยเหมยกำลังจะมาตรงหน้า ก็ถูกรปภ.สองนายจับไว้แน่น
“ลูกเขย สรุปว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น? มู่เซิ่งคนนี้ในสายตาคุณ ก็แค่มดที่ถูกขย้ำจนตายไม่ใช่หรือ?” จ้าวเหมยเหมยหันกลับมาแล้วถาม
เฉินเสวียลี่ไม่มีเวลามาตอบคำถามของจ้าวเหมยเหมยแล้ว
เพราะตอนนี้ เขาคำนับถังเสี่ยวเยว่ด้วยความเคารพ แล้วกล่าวว่า: “ประธานถัง คิดไม่ถึงว่าคุณจะมาอยู่ที่นี่”