มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 194 คนต่อไป
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่194 คนต่อไป
เสียงหมัดอัดลงไป สิ่งที่ตามมาคือ เงียบสนิทเป็นตาย
ทุกคนที่เห็นภาพเหตุการณ์นี้ ต่างปากอ้าตาค้าง!
แวดวงของกลุ่มคนที่นี่ มาจากพวกที่มีอารมณ์หงุดหงิด ด้วยสภาวะกดดันจากการงานหรือปัญหาในครอบครัว แล้วออกมาหาความตื่นเต้นสะใจเพื่อผ่อนคลาย มีบ้างที่ขึ้นสังเวียนท้าทาย ก็มักแพ้ลงมาอย่างยับเยินเจ็บปวด แต่ นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนขึ้นมาล้มนักมวยลงได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด!
พวกคนดูที่เริ่มแรกมีความรู้สึกเซ็งในอารมณ์แล้ว ตาตื่นขึ้นมาในพลัน
“อะไรของมันนี่!”
“ตะกี้มันเกิดอะไรขึ้น?มันช่างเร็วอะไรปานนั้น ฉันยังไม่ทันเห็นเลย”
“นี่ฉันไม่ได้ตาฝาดนะ?นักมวยคนนั้นถูกขจัดทิ้งไปในพริบตาเดียวเลยหรือ?ถึงเขาไม่ได้เก่งมาก แต่วันนี้ก็ชนะมาสองรอบรวดเลยนะ”
“เป็นไปได้ไหมว่าทางสนามแกล้งจัดฉาก?”
“ฉันดูว่าไม่นะ ดูไอ้เด็กหนุ่มคนนั้น ถีบขาอย่างมีพลัง มืออาชีพแน่นอน คงเป็นเพราะตัวนักมวยประมาทคู่ต่อสู้เกินไปผลเลยโดนถล่มทิ้งไปในพริบตา”
ฝูงคนวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา มองดูภาพที่เกิดขึ้นบนสังเวียนนี้ มากบ้างน้อยบ้าง ต่างก็มีแววตาไม่อยากเชื่อ
ทว่า ที่ชัดเจนให้เห็นได้จุดหนึ่ง หลังจากที่มู่เซิ่งขึ้นสังเวียนมา บรรยากาศบนอัฒจันทร์คนดู ถูกผลักดันให้ขึ้นถึงจุดไคลแมกซ์
จางเสวียนหลงเห็นแล้วยังเป็นงง ในใจของเขาก็รู้อยู่แล้วว่ามู่เซิ่งแกร่งกล้ามาก แต่ก็ไม่น่าจะถึงขนาดนี้ได้ ถึงยังไงดูตัวของมู่เซิ่งที่อยู่ตรงนั้น เมื่อเทียบกับชายฉกรรจ์หุ่นล่ำบึ้กพวกนั้น พูดได้ว่าเหมือนแขนเล็ก ๆ เทียบกับท่อนแข้ง
แต่ทว่า มู่เซิ่งใช้การกระทำ บอกให้จางเสวียนหลงเห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเขา
อีกทั้ง พละกำลังของเขา แข็งแกร่งอย่างน่ากลัว!
“ไป๋เมี่ยนเซียว ผมว่าคุณคราวนี้ แพ้แน่นอน!” เห็นผลมาแบบนี้ มุมปากของจางเสวียนหลง อดไม่ได้ต้องเชิดขึ้นมา
“จะมาสรุปผลตอนนี้เลย มันจะเร็วไปหน่อยมั้ง?” ไป๋เมี่ยนเซียวหัวเราะเหยียด ๆ ไม่รู้สึกสะทกสะท้าน
เขายอมรับ พลังฝีมือของมู่เซิ่ง เกินคาดของเขาไปมาก แต่แล้วจะเป็นอะไรมี?ครั้งก่อนตอนที่เตาจั๋วขึ้นสังเวียนมา ก็เหมือนกับมู่เซิ่ง กวาดขจัดนักมวยออกไปเป็นชุด แล้วพอถึงสุดท้าย ก็ถูกงูไวเปอร์จัดการหักแขนหักขาไปซะ!
ในสายตาของเขา
มู่เซิ่งถึงแม้เก่งกาจ แต่กับงูไวเปอร์ที่กินยาเข้าไปแล้ว ผลที่ออกมา ก็ไม่ได้มีอะไรต่างกันสักเท่าไหร่
“คนต่อไป” พอมู่เซิ่งยืนนิ่งบนสังเวียนแล้ว ก็พูดกับกรรมการบนสังเวียน
สีหน้าของกรรมการบนสังเวียนคนนั้นยังอยู่ในความงงงันอยู่เลย พอได้ยินเสียงของมู่เซิ่ง จึงได้ตั้งสติคืนมาได้ เอ่ยปากพูดอย่างเบลอ ๆ ว่า “เชิญ เชิญรอสักครู่”
ขณะที่เขากำลังจะขอความเห็นจากผู้จัดการสนามนั้น เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น กลับเป็นโทรศัพท์จากไป๋เมี่ยนเซียว “ปล่อยให้มันชก เริ่มจากไอ้สองตา ขึ้นไปกันทีละคน!”
“แต่ว่าท่านเซียว…….” กรรมการตัดสินชะงัก พลังฝีมือของไอ้สองตา เหนือกว่าคนที่ล้มไปเมื่อกี้นี้ก็จริงอยู่ แต่ถ้าเทียบกันโดยรวมแล้ว ในบรรดานักมวยของสนามนี้ ก็จัดได้อยู่ในระดับกลางนะแค่ระดับกลางเท่านั้น สภาพเหตุการณ์ตอนนี้ ถึงแม้ยังจะไม่ให้งูไวเปอร์ออกหน้า ก็น่าจะเอาพวกระดับแถวหน้าออกไปไม่ใช่หรือ?
“เป็นฉันสั่งให้แกทำงาน หรือว่าแกเป็นคนสอนฉันทำงาน?” ไป๋เมี่ยนเซียวย้อนถาม
กรรมการตัดสินสะท้านไปทั้งตัว รีบวิ่งเหยาะ ๆ ลงไป
“นี่จะเล่นสลับเวียนมาสู้ ไป๋เมี่ยนเซียว แกนี่ช่างน่าด้านไร้ยางอายจริง ๆ!” จางเสวียนหลงอยู่บนอัฒจันทร์ก็ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ ตาลุกกร้าว ชี้หน้าว่าไปที่ไป๋เมี่ยนเซียว
ไป๋เมี่ยนเซียวปรายตามองไปอย่างเหยียด ๆ พูดว่า “ฉันก็ไม่ได้ผิดกฎกติกา จางเสวียนหลง ถ้าแกไม่กล้าละก้อ รีบไสหัวกลับกระดองเต่าของแกไปเลย”
“แก——-”
จางเสวียนหลงโมโหจนนิ้วที่ชี้ไปสั่นระริก
ความคิดชั่วช้าของไป๋เมี่ยนเซียวเป็นที่เห็นชัด ให้สลับเปลี่ยนสู้กับนักมวยสิบคน มันเป็นเรื่องที่บั่นทอนกำลังขนาดไหน เขาต้องการบั่นทอนกำลังของมู่เซิ่ง แล้วค่อยให้งูไวเปอร์ลงสนาม ถล่มบดขยี้ใส่ เอาชนะการแข่งขันเป็นจบกัน!
จางเสวียนหลงมองไปที่มู่เซิ่ง การแสดงออกของเขายังคงเรียบเฉย วางตัวเอ้อระเหยลอยชาย ในเมื่อมู่เซิ่งไม่ได้ออกปาก เขาก็พูดอะไรไม่ได้ ได้แต่ขมึงตาจ้องไป๋เมี่ยนเซียวอย่างเคียดแค้น
“ถ้ามู่เซิ่งรับบาดเจ็บ ฉันจะเอาเรื่องแกอย่างชนิดไม่ตายไม่เลิก!”
“อ้าว ถ้าเขาแพ้ คนที่ต้องไสหัวไปให้พ้นก็คือแกถึงจะถูกนะ” ไป๋เมี่ยนเซียวหัวเราะใส่เหยียด ๆ กับคำข่มขู่นั้น ไม่ได้ต้องใส่ใจ
กรรมการบนสังเวียนก็ได้ให้เจ้าหน้าที่ ไปตามตัวนักชกที่มีฝีมือมากขึ้นลงสนาม คนที่คัดเลือกมาก็คือไอ้สองตา สถิติการชกไม่เคยแพ้มาสิบครั้งต่อเนื่อง จัดว่ามีพลังฝีมือมาก
“ผู้ท้าชิงท่านนี้ ช่วยเซ็นชื่อในหนังสือสัญญาด้วย ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ถ้าคุณรับบาดเจ็บหรือถึงขั้นเสียชีวิตจากสังเวียนนี้ สนามมวยของเรา ไม่ต้องรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น ขณะเดียวกัน หากคุณทำร้ายนักมวยของสนามมวยเราจนเสียชีวิต ก็ไม่มีภาระรับผิดชอบใด ๆ” กรรมการผู้นั้นนำเอาหนังสือสัญญาในข้อตกลงออกมา แล้วบอกกับมู่เซิ่ง
มู่เซิ่งอ่านดูผ่าน ๆ แล้วก็เซ็นชื่อตัวเองลงไป
“ให้ไอ้พวกนักชกพวกนั้นออกมาให้หมดเลย ไม่งั้นอัดเสร็จไปคนหนึ่ง จะต้องเสียเวลาเปลี่ยนตัวอีก”
กรรมการกัดฟันกรอด คนอะไรมันจะโอหังขนาดนี้ เขาก็เพิ่งเห็นครั้งแรกนี่แหละ พูดไปเสียงหนาวเหน็บ “ผู้ท้าชิงท่านนี้ ขอให้โชคดี”
รวบเก็บเอกสารสัญญา แล้วเขาก็เดินลงจากสังเวียนไป
นักชกคนนั้นใส่หน้ากากดำ แค่นหัวเราะเย้ยหยัน “แกนี่นะผู้ท้าประลอง?ฉันเตือนแกรีบคุกเข่ายอมแพ้ซะ แขนขาท่อนเล็ก ๆ ของแกนี่ กูกระแทกไปหมัดเดียวก็แตกกระจุยแล้ว!”
มู่เซิ่งหัวเราะแต่ไม่พูดอะไร สถานการณ์แบบนี้ ไม่เห็นมีอะไรต้องมาต่อปากต่อคำ
เสียงระฆังดังขึ้น
เป็นการประกาศการต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายบนสังเวียน เริ่มต้นได้
ในเวลาขณะนี้ คนดูบนอัฒจันทร์ส่งเสียงกันอย่างตื่นใจ และดังลั่นไปสุด ๆ
และในฉับพลันที่เสียงระฆังดังขึ้น นักชกที่หน้าตาเหี้ยมโหดนั้น กำหมัดทั้งคู่แน่น กระโจนใส่เข้าหามู่เซิ่งอย่างดุดัน!
ก่อนจะขึ้นสังเวียน ท่านเซียวได้กำชับเป็นพิเศษกับเขาไว้ ให้พยายามดึงเกมกับมู่เซิ่ง แต่ว่า การเป็นนักชกในสนามมวยใต้ดินนั้น ความคิดของพวกเขา คงไม่ได้คิดแต่จะดึงเกมกับมู่เซิ่ง
เขายังต้องคิดว่าจะต้องพิสูจน์ความชัดเจนของตัวเอง ถล่มมู่เซิ่งให้แพ้ไปต่อหน้าผู้ชม!ยิ่งไปกว่านั้น ในใจของเขายังคิดถึงการใช้โอกาสนี้ ทำชื่อให้ดังทะลุฟ้า
“ไปตายซะ!”
นักชกตวาดเสียงทุ้มลึก ฝ่ามือเหมือนเป็นมีดดาบ ฟันตามขวางใส่ไปที่มู่เซิ่ง
มู่เซิ่งใช้แรงที่ขาขวาเล็กน้อย ดีดตัวถอยไปกับฝ่ามือ
ทั้งสองข้างหน้าคนข้างหลังคน แทบจะในพริบตาเดียว ก็เข้าประชิดเกือบถึงขอบสังเวียนแล้ว
พอส้นเท้าของมู่เซิ่งย่ำลงตรงขอบสังเวียนแล้ว ในใจของคนดู ในขณะเดียวกันนั้น ก็ยันขึ้นมาถึงหลอดคอ
“หลบเข้า หลบเข้า ไอ้ขยะเอ้ย นอกจากหลบ ยังทำอะไรเป็นอีกมั้ยนั่น!” หลายหมัดที่อัดลงไปพลาด นัยน์ตาของนักชกคนนี้ ถูกความโกรธเคียดอัดไว้เต็มแน่น
“ใช่หรือ?” มู่เซิ่งแสยะปากยิ้ม
มือของเขาจับจุดตรงช่องว่างจากความโกรธเคียดของนักชก ด้วยความเร็วอย่างฟ้าผ่า เอียงตัวสวนหมัดออกไป
“ฉัน——–”
นักชกอ้าปากหวอ เขาคิดจะหลบ แต่ยังไงก็ไม่ทันแล้ว ได้แต่ทำตาแป๋วมองกำปั้นของมู่เซิ่ง ขยายตัวใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วในสายตา
แคร็ก!
เสียงกระดูกหักแตก ดังลั่นในทันใด ได้ยินกันทั่วทั้งสนามประลอง
นักชกคนนั้น เหมือนว่าวสายป่านขาด ลอยลงไปจากสังเวียนประลอง พาเลือดที่แตกกระจายออก ตกลงบนพื้นอย่างหนักหน่วง จมูกมีแต่ลมหายใจออก หายใจเข้าไม่มีแล้ว
หมัดเดียว!
แค่หมัดเดียว ก็ทำให้นักชกคนนี้ หมดสภาพที่จะสู้ได้ต่อ!
ต่อให้มีการทำใจไว้ก่อนแล้ว แต่เมื่อเห็นเข้าอีกครั้ง พวกเหล่าคนดูทั้งหลาย ใจยังคงรู้สึกสะทกสะท้านอย่างที่สุด
ไอ้หมอนี่มันระเบิดพลังที่น่าสะพรึงกลัวนี้ออกมายังไงกัน?หมัดเดียวปิดเกมการต่อสู้ ต่อให้เป็นงูไวเปอร์ ก็ยังไม่มีทางทำได้
ภายใต้สายตาหวาดหวั่นของคนมากมาย มู่เซิ่งเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย มองไป๋เมี่ยนเซียวที่ยืนอยู่บริเวณพื้นที่คนดู ทำแสยะปาก แค่นหัวเราะไม่ออกเสียง
“คนต่อไป”