มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 195 งูไวเปอร์ลงสนาม
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่195 งูไวเปอร์ลงสนาม
“คนต่อไป!”
มู่เซิ่งแบะปากยิ้ม
หยิ่งผยอง ห้าวหาญ ไร้เทียมทาน!
นาทีนี้ เขาผู้ที่ยืนอยู่บนสังเวียน ดูเสมือนหนึ่งได้กลับสู่สมรภูมิในการสงครามชายแดน เทพแห่งหน่วยมังกร! ที่ข้าศึกศัตรูได้ยินก็หัวหดขวัญหาย
ปึง!
ถูกความหยิ่งผยองของมู่เซิ่งกระตุ้นต่อมความโกรธขึ้นมา ไป๋เมี่ยนเซียวกระแทกกำปั้นอย่างหนัก ใส่ลงกับราวระเบียง คำรามออกมาลั่น “พวกขยะ!พวกขยะทั้งฝูง!”
เขาก็ได้สั่งไว้ชัดเจนว่าให้พวกเขาใช้วิธีดึงเกมเป็นหลัก บั่นทอนกำลังมู่เซิ่งให้หมด สรุปไอ้ขยะพวกนี้ กลับให้มู่เซิ่งอัดแค่หมัดเดียวจบ แบบนี้มันจะไปบั่นทอนกำลังมู่เซิ่งได้สักเท่าไหร่กัน พวกมันไม่ใช่ขยะ แล้วจะให้เรียกว่าอะไร?
“ไป๋เมี่ยนเซียว เพื่อความปลอดภัยของลูกน้องแก ฉันว่าแกควรจะรีบยอมแพ้ซะ” จางเสวียนหลงพูดด้วยยิ้มยียวน
เตาจั๋วก็ตื่นเต้นเต็มหน้ากับการที่ได้เห็นฉากนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะตัวเขาถูกพันด้วยผ้าก๊อซ น่ากลัวตอนที่มู่เซิ่งซัดหมัดนั้นออกไป เขาคงตื่นใจจนตบราวระเบียงลุกยืนขึ้นแล้ว!
“ชอบใจอะไรกันเชียว ใครจะเป็นคนหัวเราะได้ถึงจบนั้น ยังไม่แน่!”
ไป๋เมี่ยนเซียวสะบัดเสียงฮึ เยือก ๆ สายตามองกลับไปที่สังเวียนต่อ
ความแข็งแกร่งของมู่เซิ่ง ได้ทำให้เขาโกรธแค้นขึ้นมาสุด ๆ แล้ว ในใจไป๋เมี่ยนเซียวได้กำลังคิดอยู่ จะทำยังไงให้เขาอยู่เฝ้าบนสังเวียนนี้ไปตลอดกาล
ไม่นานนัก นักชกคนต่อไป เดินก้าวขึ้นสังเวียน
เขากุมมือทั้งสองยกขึ้นในท่าคำนับ มองไปที่มู่เซิ่ง พูดว่า “พี่น้องท่านนี้ พลังฝีมือของคุณไม่เบาจริง ๆ ผมชื่อหวางเหลียง เป็นหนึ่งในสิบยอดนักชกของสนามมวยแห่งนี้ ในครั้งนี้…..”
“ฉันขี้เกียจไปจดจำชื่อของพวกฝ่ายแพ้” มู่เซิ่งพูดตัดบท กวาดตาเยือก ๆ มองไป เงาร่างพุ่งเข้าใส่ฝ่ายตรงข้ามอย่างกับกระสุนปืนใหญ่
สัมผัสได้กับพื้นสังเวียนที่สั่นไหว แววตาของหวางเหลียงแสดงออกถึงความรู้สึกเครียด ก็แค่วิ่งเข้ามา ก็ยังมีพลังออกมาถึงขนาดนี้ เจ้าหมอนี่มันมีต้นทุนที่ทำให้หยิ่งผยองได้จริง!
“แต่ฉันหวางเหลียง ไม่ได้ด้อยไปกว่าแกหรอก!”
พอจบคำที่เขาพูด ทันทีก็พบว่า มู่เซิ่งก็มาถึงข้างหน้าเขาแล้ว
อะไรจะเร็วขนาดนั้น!
หวางเหลียงสูดหายใจเอาลมเยือกเข้าไป ไม่ทันให้คิดอะไรได้ ยกแขนตั้งการ์ดโดยสัญชาตญาณ ไขว้แขนขวางไว้ที่หน้าอก แทบจะเป็นในเวลาเดียวกัน แขนของเขาก็รับหมัดที่หนักหน่วงเข้าเต็ม ๆ
ปึง!
ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงกระจายไปตามแขน หวางเหลียงทนไม่ไหว ระเบิดเสียงแห่งความเจ็บปวดออกมา เซถอยหลังไปหลายก้าวอย่างยืนไม่ติด สุดท้ายหน้ามืดวูบ ร่วงลงจากสังเวียนไปในที่สุด
หมัดเดียวออกไป
เหมือนเดิม ชัดเจนเฉียบขาด!
“โอ้โหเฮ้ย ไอ้คนนี้เป็นใครนะ?”
“ดุดันอะไรแบบนี้?ดุดันยิ่งกว่าคนที่มาท้าเมื่อวานนี้อีก ช่างเก่งฉกาจจริง ๆ เลย!”
“อีกทั้งยังหนุ่มอยู่ขนาดนี้ คิดไม่ถึงจริง ๆ ในเจียงหนานจะมีนักสู้แบบนี้!”
“ยอดเยี่ยมจริง ๆ เลย โชคดีที่วันนี้ได้ซื้อบัตรเข้ามาดู แค่ดูไปสองรายการที่ผ่านมา ก็คุ้มค่าบัตรแล้ว ฉันดูแล้วเลือดเดือดพล่านเลยอ่ะ!”
บริเวณเขตคนดูระเบิดเสียงตื่นเต้นกันเป็นระลอก โห่ร้องสลับกันไปมา กลบเสียงทั่วไปทั้งหมดในสนาม ถ้าในสนามมวยใต้ดินไม่มีกฎห้ามถ่ายรูป น่ากลัวตอนนี้คงต่างคนต่างควักโทรศัพท์มือถือกันออกมา เก็บภาพอันสะใจแต่ละฉากกันไว้แล้ว
“พวกคุณว่า เขาจะมีความคิดไหมว่า ตัวเขาคนเดียวจะท้าสู้กับคนทั้งสนาม?” ในฝูงคน จู่ ๆ ก็มีคนอดไม่ได้แล้วถามขึ้นมา
คำพูดนี้ ก็เหมือนโยนก้อนหินลงไปในสระน้ำ พาให้เกิดเสียงฮือฮากันทั่วไปในกลุ่มคน
มีคนส่ายหน้า แสดงออกว่าไม่เชื่อ “เขาถึงแม้จะเก่งฉกาจมาก แต่ลูกน้องของท่านเซียว ก็ไม่ใช่พวกระดับโนเนมนะ ยิ่งยังมีงูไวเปอร์อีก ขนาดคนที่มาท้าเมื่อวาน ยังโดนถล่มหักแขนหักขาแล้วจับโยนออกไปเลย คุณคิดว่าไอ้หมอนี่ จะสู้งูไวเปอร์ได้หรือ?”
งูไวเปอร์?
พอคิดถึงการต่อสู้อย่างคลุ้งคาวเลือดเมื่อวานนี้ ทุกคนต่างก็หนาวขึ้นมาในขั้วหัวใจ
การแข่งขันบนสังเวียนยังคงดำเนินต่อ แต่ว่านักชกแต่ละคนที่ขึ้นมา แทบจะเกือบทุกคนต้องถูกมู่เซิ่งกวาดเก็บไปด้วยหมัดเดียว ยังไงก็ไม่ได้บั่นทอนกำลังมู่เซิ่งไปสักเท่าไหร่ ไม่ว่าแม้แต่ไอ้ตาเขียวที่ว่าเป็นนักชกมือวางอันดับสองของไป๋เมี่ยนเซียว แค่รับไปสองหมัดจากมู่เซิ่ง ก็ครวญครางกลิ้งตกสังเวียนไป
กรรมการผู้ตัดสินท่านนั้น หน้าเสียจนสุด ๆ
แพ้ลุ่ย
นักชกสิบกว่าคน ล้วนแต่แพ้หมด
ดูท่าวันนี้มีแต่ต้องให้งูไวเปอร์นักชกที่เก่งฉกาจที่สุดลงสนามสู้ศึกแล้ว เพราะว่าสนามมวยใต้ดินของพวกเขานี้ จะไม่ยอมให้ผู้ท้าดวลมาถล่มป้ายชื่อของพวกเขาทิ้งแน่
“ยังจะสู้ต่อไหม?” กรรมการผู้ตัดสินถาม
“ยังมีคนที่จะสู้ได้มั้ย?” มู่เซิ่งแค่นหัวเราะชืด ๆ ย้อนถามกลับไป
กรรมการตัดสินมาถึงตอนนี้ไม่กล้ามองหมิ่นมู่เซิ่งแล้ว ผงกหัว ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันพูดอย่างเคียดแค้นว่า “สนามมวยของเรายังมีนักชกอีกคนหนึ่ง ฝีมือหมัดมวยสุดยอด จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่ แต่ว่าทุกครั้งที่เขาขึ้นสังเวียน คู่ต่อสู้ตายกว่าร้อยละเจ็ดสิบ ไอ้ที่บาดเจ็บจนพิการนั้นคือร้อยทั้งร้อย คุณแน่ใจหรือที่จะสู้กับเขา?”
“แน่นอน” มู่เซิ่งผงกหัวพลางพูดไป
เขามาในครั้งนี้ ก็เพราะงูไวเปอร์ถึงได้มา
กรรมการตัดสินคนนี้กัดฟันกรอด ไม่ได้พูดอะไรอีก
เขากลับไปที่ห้องพัก ตอนนี้ในห้องพัก พวกนักชกที่พักอยู่ทั้งหมดก็โดนมู่เซิ่งจัดการจนต้องเข้าโรงพยาบาลกันหมดแล้ว ที่เหลือพวกมากอายุและเจ็บป่วย ต่างก็นึกภาวนาขออย่าได้ส่งพวกเขาขึ้นสังเวียนไปต่อยอดเลย
และที่เก้าอี้ตัวกลาง มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งนั่งอยู่ ตัวสูงเกือบสองเมตร เพียงแค่ยืนเข้าใกล้ ก็ให้รู้สึกถูกกดดันบีบคั้น ถึงขนาดจะหายใจไม่ออก
“งูไวเปอร์ ถึงคิวคุณแล้ว” กรรมการผู้ตัดสินพูด
“ในที่สุดก็ถึงผมแล้วหรือ?”
งูไวเปอร์เงยหน้าขึ้น บนใบหน้าของเขา มีรอยแผลเป็นจากมีดดาบนับสิบรอย ไล่เลื่อนไปบนหน้าผาก เป็นรอยแผลเป็นเหมือนเกล็ดงูอันเป็นแผลที่เกิดจากตอนเด็กถูกอวนปลาเกี่ยวเข้าให้ ฉายาที่เรียก ก็มาจากที่จุดนี้
เขาคนนี้เป็นนักชกระดับสุดยอดในสนามมวย การลงมือนั้นโหดเหี้ยมเป็นที่สุด เพราะด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีแฟนคลับมากมาย
“ใช่แล้ว ท่านเซียวบอกว่า ให้คุณกินยาก่อนแล้วค่อยออกไป” กรรมการตัดสินพูดกำชับไป
“ให้กินยาก่อนออกไป?”
รูปร่างใหญ่ยักษ์ของงูไวเปอร์ชะงักกลางอากาศ หยุดลงในทันที
แม้ตอนก่อนหน้านี้ที่เตาจั๋วมาท้าดวล ไป๋เมี่ยนเซียวก็ยังให้เขาลงสนามไปก่อน รอให้เห็นท่าว่าจะสู้เตาจั๋วไม่ได้แล้ว จึงให้กินยา แล้วกลับไปบดขยี้เขา
สาเหตุที่ต้องเข้าประมือกันก่อน นอกจากเพื่อไปดูเชิงคู่ต่อสู้ให้ชัดเจนแล้ว ยังมีอีกประเด็นหนึ่ง นั่นก็คือผลข้างเคียงของยาตัวนี้รุนแรงมาก ในสภาวะทั่วไป ถ้าไม่กินได้ ก็พยายามอย่าไปกิน
“สิบล้าน ท่านเซียวพูดไว้ ขอเพียงให้คุณเอาชนะการประลองในครั้งนี้ได้ เดือนนี้ เพิ่มให้คุณสิบล้าน” กรรมการผู้ตัดสินพูด
“ได้”
งูไวเปอร์ผงกหัว แล้วเดินเข้าไปในห้องส่วนตัว
ภายในห้องของเขา เขาหยิบเอาขวดสีเขียวคล้ำออกมาจากลิ้นชัก เปิดจุกขวดออก แล้วหยิบเอายาเม็ดลูกกลอนที่กรุ่นกลิ่นยาออกมา กลืนลงท้องไป
หลังจากกลืนยาเม็ดลงไปแล้ว วินาทีต่อมานั้น งูไวเปอร์ส่งเสียงคำรามออกมา เลือดทั้งตัวดูเหมือนจะเดือดพล่าน ท่าทีน่าเกรงขาม
“คนอยู่ไหน?”
งูไวเปอร์แสยะปากกว้าง ในขณะนี้ ความใคร่อยากอย่างเข้มข้นในการฆ่า คุกรุ่นอยู่ในอก
“อยู่……..อยู่บนสังเวียน” กรรมการผู้ตัดสินพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกงูไวเปอร์หิ้วตัวขึ้นมา คนที่มีน้ำหนักกว่าร้อยชั่งอยู่ในมือของเขาดูเหมือนตุ๊กตาของเล่น ถูกหิ้วขึ้นมาอยู่กับมือ เดินก้าวออกจากห้องพัก