มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 198 รับไม้ต่อ
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 198 รับไม้ต่อ
ในเวลานี้เองมู่เซิ่งลุกขึ้นยืน จู่ๆก็เดินเข้าไปหาไป๋เมี่ยนเซียว
ไป๋เมี่ยนเซียวที่เคยเห็นฝีมือของมู่เซิ่ง รู้ว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เซิ่งแน่นอน จึงถอยหลังไปสองก้าวอย่างไม่รู้ตัว แล้วพูดออกมาว่า“กะ แกจะทำอะไรน่ะ?”
“กรุณาถอยหลัง!”
ลูกน้องของเขาสองสามคนขวางอยู่ข้างหน้าของมู่เซิ่ง ในมือถืออาวุธอยู่ ด้วยท่าทางพร้อมจู่โจม
มู่เซิ่งไม่หยุดก้าว เขายังคงเดินเข้าไปหาไป๋เมี่ยนเซียว
“เชี่ย กูบอกให้มึงถอยไปไง!”
นักเลงที่อยู่ตรงหน้าของไป๋เมี่ยนเซียวสบถด่า แต่แล้วในขณะที่พวกเขากำลังจะยกกระบองเหล็กขึ้นมานั้น ก็ถูกมู่เซิ่งถีบไปสองทีจนล้มลงไปกับพื้น ด้วยสีหน้าเจ็บปวด โดยที่ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้
เมื่อเห็นท่าทีองอาจของมู่เซิ่ง ไป๋เมี่ยนเซียวก็ถอยหลังไปไม่หยุด แล้วพิงกับราวกั้น ภายในใจของเขากำลังคิดว่า นี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกกลัวเช่นนี้ กระทั่งก่นด่าในใจ เขาเคยให้ลูกน้องไปสืบประวัติของมู่เซิ่งมาแล้ว แต่สุดท้ายไอ้พวกงั่งนี่ก็รายงานเขาว่า ไอ้หมอนี่เป็นแค่เศษสวะที่แต่งเข้าบ้านผู้หญิง ไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงอะไร
ได้เป็นถึงลูกพี่ใหญ่ของจางเสวียนหลงได้ และสามารถต่อสู้กับงูไวเปอร์ได้ บุคคลแบบนี้จะเป็นเศษสวะได้อยางไร ทั่วทั้งเจียงหนาน เป็นเศษสวะทั้งหมด!
เมื่อเห็นลูกน้องของเขาล้มลุกคลานอยู่ที่พื้นหลายคน ไป่เมี่ยนก็พูดด้วยเสียงสั่นเทาว่า“มู่เซิ่ง ฉันรู้ว่าแกแข็งแกร่งมาก แต่ว่า แกจะทำอะไรฉันไม่ได้นะ อำนาจมืดที่อยู่เบื้องหลังฉันเป็นถึง……”
พูดยังไม่ทันจบ หมัดของมู่เซิ่ง ก็ชกเข้าไปที่ใบหน้าของไป๋เมี่ยนเซียวอย่างจัง
ปึ้ง!
ไป๋เมี่ยนเซียวถอยไปหลายก้าว พละกำลังของมู่เซิ่งเยอะมาก ชกจนเขาร่วงและกลิ้งลงสังเวียนไปหลายตลบ จากนั้นก็ฟุบไปกับสังเวียน
สองมือของเขากุมท้องเอาไว้ แล้วระเบิดเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด
ผู้ชมพวกนั้นถึงกับเบิกตากว้าง งงเป็นไก่ตาแตก มู่เซิ่งสามารถชนะงูไวเปอร์ได้ จุดนี้พวกเขายังพอสามารถรับได้ แต่ตอนนี้ เขากล้าทำร้ายไป๋เมี่ยนเซียวอย่างนั้นหรอ?
เขาไม่รักชีวิตตัวเองหรอ!
มีเพียงคนไม่กี่คนในสนามที่รู้จักมู่เซิ่ง ล้วนไม่กล้าเชื่อฉากที่เห็นในตอนนี้ เมื่อได้ยินว่าเขาถูกด่าถูกทำร้ายอย่างไรในตระกูลเจียงก็ไม่เคยปริปากพูด ทำไมตอนนี้ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้?
น่าจะเป็นคนชื่อแซ่เดียวกันรึเปล่า
คนพวกนั้นต่างพากันคิดในใจ ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ไม่กล้าเชื่อมโยงมู่เซิ่ง กับคนไม่เอาไหนของตระกูลเจียงเข้าไว้ด้วยกันได้
“ยอมรับว่าแพ้ซะ ส่งสถานที่ใต้ดินตรงนี้ รวมถึงคนที่อยู่เบื้องหลังแก ออกมาให้หมด”มู่เซิ่งกล่าว
ไป๋เมี่ยนเซียวกัดฟันกรอด แล้วส่ายหัวไปมา“มู่เซิ่ง แกฝันไปเถอะ ถึงแกจะฆ่าฉันให้ตาย ฉันก็ไม่มีวันบอกแกหรอก!คนที่อยู่เบื้องหลังฉัน จะทำให้แกรู้สึกกลัวได้อย่างแน่นอน ถ้าตอนนี้แกถอยกลับไป ฉันจะไม่ถือสาเรื่องนี้ก็ได้ จากนี้เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวกันอีก”
ประโยคที่เขาพูดออกมาเหมือนกำลังข่มขู่ แต่ความจริงแล้วกำลังให้ทางลงกับมู่เซิ่ง
ในเจียงหนาน ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลูกพี่ใหญ่ แต่ในสายตาของคนใหญ่คนโตในเยียนจิงเหล่านั้น เป็นแค่สุนัขรับใช้ตัวหนึ่งของพวกเข้าท่านั้น!แถมยังอาศัยการหากินจากธุรกิจสนามมวย ถึงมีสิทธิ์กลายเป็นสุนัขรับใช้ของพวกเขาได้
เมื่อสิ้นสนามมวยแห่งนี้ไป เขาไป๋เมี่ยนเซียว ตายซะยังดีกว่า!
เวลานี้เอง ผู้ชมพวกนั้นถูกจางเสวียนหลงไล่ออกไปหมดแล้ว คนพวกนั้นไม่กล้าอยู่ต่อ แต่ละคนเดินออกจากสนามมวย แต่ในใจของพวกเขาก็รู้ดี หลังจากคืนนี้เป็นต้นไป เจียงหนานที่แห่งนี้ คงจะมีการเปลี่ยนครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!
ภายในสนาม มู่เซิ่งหัวเราะอย่างไม่แยแส แล้วนั่งลงที่นั่งของผู้ชม“ลงมือ จัดการกับมันจนกว่าจะยอม”
“ครับ!”
จางเสวียนหลงทำมือคารวะ แล้วเดินขึ้นไปบนสังเวียนด้วยตัวเอง
นักมวยพวกนั้นของไป๋เมี่ยนเซียว ถูกจัดการจนราบคาบไปหมดแล้ว แม้แต่งูไวเปอร์เองยังนอนสลบอยู่ที่พื้นไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย ลูกน้องอีกสิบกว่าคนที่เหลือก็ไม่จัดว่าเป็นคนภักดีอะไร ล้วนติดตาม ไป๋เมี่ยนเซียวก็เพราะหาเงินใช้ไปวันๆ ตอนนี้ ไป๋เมี่ยนเซียวสูญสิ้นอำนาจแล้ว พวกเขาจะยังกล้าเอาชีวิตเข้าขวางกั้นได้อย่างไร
ทุกคนพากันจ้องมองจางเสวียนหลงเดินขึ้นบนสังเวียน อย่างไม่ทำอะไร
“จางเสวียนหลง หรือแกไม่รู้ว่าฉันมีใครอยู่เบื้องหลัง?จะบอกอะไรให้นะ เบื้องหลังของฉันน่ะ ไม่ใช่คนที่แกคิดจะล่วงเกินได้หรอกนะ!” ไป๋เมี่ยนเซียวชี้หน้าจางเสวียนหลงเพื่อข่มขู่
จางเสวียนหลงหัวเราะอย่างเยือกเย็น เขาจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเบื้องหลังของไป๋เมี่ยนเซียวเป็นใคร?นั่นก็คือตระกูลล่าย เป็นตระกูลชั้นหนึ่งของเยียนจิง!เบื้องหลังนี้ เพียงพอให้เขาตายได้สิบกว่าครั้งแล้ว แต่ตระกูลล่าย ไม่มีค่าอะไร ต่อหน้าของตระกูลมู่แม้แต่นิดเดียว!
คำพูดแบบนี้ แน่นอนว่าเขาไม่มีทางพูดออกมา สิ่งที่ตอบกลับไป๋เมี่ยนเซียวไป มีเพียงกำปั้นที่เขากำจนแน่นเท่านั้น!
ปึ้ง!
จางเสวียนหลงไม่กลัวแม้แต่น้อย เขาใช้แรงต่อยไปที่ท้องของไป๋เมี่ยนเซียว
“จางเสวียนหลง มึงกล้าทำร้ายกูงั้นหรอ?”
“เชี่ย แกจบเห่แน่ ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังฉันรู้เรื่องนี้ ฉันเอาชีวิตแกแน่!”
“หยุดได้แล้ว หยุดได้แล้ว……ฉันตกลง ฉันจะเซ็นชื่อโอนกรรมสิทธิ์ให้เดี๋ยวนี้แหละ”
ภายใต้กำปั้นของจางเสวียนหลง ไป๋เมี่ยนเซียวไม่อาจจะต้านทานไหว สุดท้ายจึงทำได้เพียงแค่คุกเข่าลงกับพื้นด้วยความเจ็บปวด
จางเสวียนหลงเช็ดคราบเลือดที่อยู่บนกำปั้นของตัวเอง แล้วหัวเราะอย่างเย้ยหยัน“ไป๋เมี่ยนเซียว แกตอบตกลงตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่องแล้ว แกคิดว่า ไม่เซ็นสัญญาฉบับนี้แล้ว แกจะมีโอกาสหนีรอดจากที่นี่ได้อย่างงั้นหรอ?”
“จางเสวียนหลง แกไม่กลัวว่าตระกูลในเยียนจิงจะมาแก้แค้นแกทีหลังงั้นหรอ?” ไป๋เมี่ยนเซียวกัดฟันข่มขู่
“กลัว?ถ้าแกไม่กลัวตาย ก็หาโอกาสมาแก้แค้นได้เลย กลัวก็แต่ว่าแกจะไม่มีชีวิตรอดมาแก้แค้นน่ะสิ”จางเสวียนหลงโบกมือไปมาอย่างไม่แยแส
โหดเหี้ยมจริงๆ!
ไป๋เมี่ยนเซียวกัดฟันกริดจ้องมองไปที่จางเสวียนหลง รอเขารอดไปจากตรงนี้ได้ เรื่องนี้เขาจะฟ้องตระกูลล่ายอย่างแน่นอน!ถึงเวลานั้นตระกูลล่ายออกโรง ถึงมู่เซิ่งจะมีเบื้องหลังใหญ่โตแค่ไหน ก็ไม่มีทางรอดไปได้!
เขาถูกจางเสวียนหลงลากไปต่อหน้าของมู่เซิ่ง ด้วยสภาพสะบักสะบอม ราวกับสุนัขจนตรอกไร้ที่พึ่ง
“เซ็นซะ ประโยคนี้ ฉันไม่อยากทวนเป็นรอบที่สาม”มู่เซิ่งโยนปากกาลงไปหนึ่งด้าม น้ำเสียงเย็นยะเยือก
ไป๋เมี่ยนเซียวไม่กลัวจางเสวียนหลง แต่มองไปที่มู่เซิ่ง ในใจของเขามักรู้สึกแปลกๆ ราวกับเขาเป็นเสือที่กำลังหลับใหล ความรู้สึกของการกดขี่นี้น่ากลัว ยิ่งกว่าตอนที่เขาอยู่ตระกูลล่ายเสียอีก
ไป๋เมี่ยนเซียวตัวสั่นอยู่ครู่หนึ่ง ไม่กล้าลังเล รีบหยิบปากกาขึ้นมา แล้วเซ็นชื่อของตัวเองลงไป
หลังจากนั้นมู่เซิ่งก็โยนสัญญาไปที่หน้าของจางเสวียนหลง
“คุณชายมู่……”จางเสวียนหลงจับหนังสือสัญญาขึ้นมา
เดิมทีเขาคิดว่า ในฐานะที่มู่เซิ่งเป็นเจ้าของหนังสือสัญญา แต่สุดท้ายนึกไม่ถึงว่า นอกจากสนามมวยแล้ว โปรเจ็กที่อยู่ในมือของไป๋เมี่ยนเซียวทั้งหมด รวมถึงผับบาร์ทั้งหมด จากความหมายของมู่เซิ่ง นั่นก็คือโอนให้เขาทั้งหมด?
มูลค่าของโปรเจ็กพวกนี้ มันสูงถึงห้าร้อยล้าน
“ไม่เป็นไร เงินแค่นี้ ไม่อยู่ในสายตาฉันหรอกนะ”
มู่เซิ่งพูดขึ้นมาอย่างเรียบเฉย
เพียงไม่กี่ประโยคก็ทำให้ไป๋เมี่ยนเซียวตกใจกลัวได้ ทรัพย์สินของเขาทั้งหมด เป็นแค่เศษเงินงั้นหรอ?
ตกลงมู่เซิ่งมันรวยขนาดไหนกัน?
“ภายในสามวัน จัดการที่ทางทั้งหมดของเขาให้สะอาด”หลังจากพูดประโยคนี้จบ มู่เซิ่งก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากสนามมวยไป
ไป๋เมี่ยนเซียวทรุดนั่งลงกับพื้น มองดูนักเลงพวกนั้นที่เดินมาทางเขา แล้วหิ้วปีกเขาขึ้นมา เขาตะโกนกู่ร้องไปหลายครั้ง หลังจากที่เขาโดนชกท้องหลายหมัด ถึงได้รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในสภาพไหนในตอนนี้
ตอนนี้เขาเป็นเนื้อปลาที่อยู่เขียง จางเสวียนหลงจะทำอย่างไร เขาก็ไม่มีสิทธิ์เข้าขัดขวาง