มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 199 เจียงหง
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 199 เจียงหง
ณ ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เซี่ยลี่
ดูเหมือนเป็นชื่อร้านธรรมดา แต่ลูกค้าที่อยู่ภายใน ไม่ใช่คนธรรมดา ร้านอินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยหมอกควัน และชายฉกรรจ์ทุกประเภทที่มีรอยสักมังกรเสือและกวนกง กำลังนั่งสูบบุหรี่ขณะท่องอินเทอร์เน็ต ก้นบุหรี่อยู่ทั่วพื้น กองพะเนิน ด้วยกล่องอาหารกลางวัน และยังมีขวดเบียร์นับไม่ถ้วน กองอยู่ตรงมุมหนึ่งของร้าน
บรรยากาศในนี้ สกปรกจนถึงขีดสุด
“เจ้าของร้าน ผมขอเวลาอีกสองนาที!”
“ไอ้บ้า กล้าแย่งกูkillห้างั้นหรอ?เดี๋ยวกูโทรเรียกคนมาจัดการมึงหรอกมึงเชื่อไหม!”
“บะหมี่ล่ะ เจ้าของร้านทำไมยังไม่ต้มบะหมี่มาให้กูอีก”
มีเสียงตะโกนทุกอย่างในร้านอินเทอร์เน็ต กลิ่นไม่พึงประสงค์และกลิ่นเหม็นรุนแรง แถมยังมีคนจำนวนไม่น้อยนอนอยู่บนโซฟา ไม่รู้ว่านอนหลับ หรือใหลตายไปแล้ว
ในตอนที่จ้าวเหมยเหมยกับถงเสว่เหมยเดินเข้ามาในร้าน กลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้ถงเสว่เหมยอดที่จะขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้ แต่เธอยังคงกัดฟัน เดินเข้าไปภายในห้อง
วันนี้คนที่เธอม่เจอ คือแฟนเก่าของเธอ ได้ยินว่าเจียงหง เป็นคนใหญ่คนโตในเจียงหนาน
“ลูกพี่ มีสาวคนหนึ่งมาหาครับ”
หลังจากที่ถงเสว่เหมยเดินเข้ามาในห้อง ก็พบว่าคนที่กำลังเล่นเกมอยู่พากันหยุดชะงัก หูฟังที่พวกเขาสวมอยู่ แล้วมองไปทางถงเสว่เหมย ใช้สายตาประเมินมองตั้งแต่หัวจรดเท้า มองจนถงเสว่เหมยรู้สึกไม่สบายใจ
“พี่เจียง”ถงเสว่เหมยเดินเข้าไปหาเจียงหง แล้วพูดอย่างเหนียมอาย
เจียงหงที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาพึ่งจบไปหนึ่งเกม เขาลูบผมที่ยุ่งเหยิงของตัวเอง รอยสักที่ลำคอแผ่ขยายไปทั่วทั้งหน้าอกของเขา
“พวกแกออกไปก่อน”เจียงหงโบกมือไล่
นักเลงพวกนั้นเข้าใจในทันที ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แล้วรีบลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง
“เธอก็ออกไปด้วย!”เจียงหงชี้ไปที่จ้าวเหมยเหมยที่มองซ้ายมองขวา ยืนอยู่ด้านหน้าห้อง
จ้าวเหมยเหมยพึ่งรู้ว่าเจียงหงหมายถึงตัวเอง เธอขมวดคิ้วแล้วพูดว่า“ฉันเป็นแม่ของเธอ แกมีสิทธิ์อะไรไล่ฉันออกไป!”
“ถ้ามึงยังไม่ไป เชื่อไหมว่าดูจะเรียกคนมากระทืบมึงออกไป?”เจียงหงพูดอย่างเย้ยหยัน
จ้าวเหมยเหมยเคยรังแกคนอ่อนแอแต่กลัวคนแข็งแกร่ง เมื่อได้ยินดังนั้น เธอก็สะดุ้ง ท่าทางปอดแหก แม้แต่คำพูดคำจายังสั่นเครือ พูดตะกุกตะกักไม่เป็นภาษา“ฉันไป……ไปเตี๋ยวนี้แหละ”
หลังจากพูดจบ เธอก็รีบผลักประตูวิ่งออกไป ไม่กล้าอยู่ต่อในร้านอินเทอร์เน็ตแม้แต่วินาทีเดียว เธอวิ่งออกไปนอกร้านทันที
ตอนนี้ในห้อง เหลือเพียงเจียงหงกับถงเสว่เหมยสองคน
เจียงหงตบไปที่ก้นของถงเสว่เหมยหนึ่งครั้ง ด้วยใบหน้าหื่นกระหาย แล้วพูดว่า“จะรุกเองหรือจะให้ฉันเริ่ม?”
ถงเสว่เหมยหน้าซีดเผือด เธอรู้กฎของเจียงหงดี ถ้าจะขอให้เขาทำอะไร ผู้ชายให้เงิน ผู้หญิงต้องใช้ร่างกายแลก แต่กว่าเธอจะจับเขยเต่าทองคำมาได้กลับถูกมู่เซิ่งจัดการจนไม่เหลือ เธอจึงรู้สึกเกลียดมู่เซิ่งเป็นอย่างมาก เธอกัดฟัน แล้วนั่งลงไป
ในห้อง เต็มไปด้วยเสียงร้องแห่งความเสน่หา
หลังจากเสร็จสิ้น เจียงหงก็สูบบุหรี่ มองดูถงเสว่เหมยที่ทรุดตัวอยู่ที่โซฟา ด้วยเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยเหงื่อ เขายิ้มแล้วจุดบุหรี่ขึ้นสูบ พลางพูดว่า“เอาเงินมาเถอะ”
“เงินอะไร?”ถงเสว่เหมยตกตะลึง
“กูบอกตั้งแต่เมื่อไรว่าจะไม่เอาเงิน?ให้ฉันทำงานให้ ยังไม่อยากจ่ายอีกงั้นหรอ?งั้นก็ไสหัวออกไปซะ”เจียงหงยิ้มอย่างเยือกเย็น เดิมทีเขากับถงเสว่เหมยแค่เล่นๆกันเท่านั้น ไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ถึงจะรู้สึกรัก มันสำคัญมากกว่าเงินทองอีกงั้นหรอ?
ถงเสว่เหมยรู้ตัวว่าตัวเองถูกหลอก แต่เธอก็ไม่กล้าโมโห ทำได้แค่กัดฟันกรอด เอาความโกรธแบบนี้คิดบัญชีไว้ที่มู่เซิ่งไว้ทั้งหมด จากนั้นเธอก็พูดอย่างเย็นชา“ได้ แต่ฉันต้องเห็นพวกเขาสองคนคุกเข่า ขอโทษฉันต่อหน้า!”
“สองคน?เงินหนึ่งหมื่นของเธอไม่พอหรอกนะ”เจียงหงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง กล่าว
“ใช่ไม่พอ แต่เงินหนึ่งหมื่นนี้ เป็นเงินทั้งเนื้อทั้งตัวของฉัน ถ้าพี่เจียงอยากได้เงินเยอะกว่านี้ ฉันมีวิธี ไปเอาเงินจากเจียงหว่านสิ”ถงเสว่เหมยกล่าว
“อ่อ ไปเอาเงินยังไง?”เจียงหงได้ยินแบบนั้น ก็เริ่มรู้สึกสนใจ จึงถามว่า“เจียงหว่าน ฉันได้ยินมาว่าเป็นคนของตระกูลเจียงไม่ใช่หรอ?ถึงแม้ว่าจะเป็นตระกูลระดับสอง แต่ก็ต่อกรไม่ง่ายเลยนะ”
“พี่เจียงวางใจเถอะ ถึงเธอจะเป็นคนของตระกูลเจียง แต่ตระกูลเจียงไม่มีอำนาจอะไรด้วยซ้ำ สามีของเธอก็เป็นคนไม่เอาไหน วันๆเอาแต่เกาะกระโปรงผู้หญิงกิน เป็นเศษสวะที่ทำอะไรไม่เป็น”ถงเสว่เหมยกล่าว
“ทำไมเธอถึงรู้เรื่องของตระกูลเจียงเยอะแบบนี้?”เจียงหงอดตกตะลึงไม่ได้
“เพราะเธอเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉันยังไงล่ะ!”
“ลูกพี่ลูกน้อง?”เจียงหงรู้สึกแปลกใจ“ถงเสว่เหมย ทำไมเธอถึงเปลี่ยนเป็นคนโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ แม้แต่คนของตัวเองเธอก็ลงมือจัดการได้?หรือเธอไม่รู้ว่า ถ้าอยากให้ฉันลงมือ ฉันจะตัดแขนขาของมัน?”
“พี่หง ไม่ต้องสนใจฉันหรอกค่ะ ลงมือยิ่งโหดยิ่งดี ทางที่ดีสั่งสอนมันให้หลาบจำ!”ถงเสว่เหมยกัดฟันพูดด้วยความแค้น
เธอเกลียดคนอย่างเจียงหว่านที่สุด รวยกว่าเธอ สวยกว่าเธอ มาวันนี้พอมีโอกาสอีกครั้ง เธอแทบอยากจะเห็นเจียงหว่านตายต่อหน้าต่อตาของเธอ!
เจียงหงพยักหน้า ความขัดแย้งแบบนี้ เธอขี้เกียจสนใจ เขาแค่ต้องการรู้ว่า เอาเงินมาแล้วทำงานก็พอ
“ถ้าฉันเอาเงินมาจากเจียงหว่านกับมู่เซิ่งสองคนนั้นมาไม่ได้ล่ะก็ ฉันจะเอาจากตัวเธอ!”เจียงหงพูดอย่างเย้ยหยัน
“วางใจเถอะ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เจียงหว่านเหมือนจะเชื่อใจไอ้คนมาเอาถ่านนั่น เอาเงินไปไว้ที่มันทั้งหมด ในกระเป๋าของเขามีเงินอย่างน้อยหลายหมื่นเลยนะ!”ถงเสว่เหมยกล่าว
สิ่งที่สำคัญกว่านั้นถงเสว่เหมยไม่ได้พูด เงินค่ารื้อถอนบ้านของพวกเขา อยู่ในบัญชีของมู่เซิ่งทั้งหมด !เรื่องนี้มีแค่เธอกับจ้าวเหมยเหมยสองคนที่รู้ พวกเธออยากแย่งเงินก้อนนี้กลับมา
“ไสหัวไปได้แล้ว รอฉันไปหามู่เซิ่งกับเจียงหว่านเจอก่อน ฉันจะลากพวกเขามาข้างหน้าเธอ”เจียงหงพูดอย่างเยือกเย็น
ถงเสว่เหมยวิ่งออกจากร้านอินเตอร์เน็ตเซี่ยลี่สภาพโซซัดโซเซ ท่าทางแปลกๆ ทำให้ผู้คนพากันตลกขำกันใหญ่
แต่เธอไม่สนใจ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น ราวกับเห็นเจียงหว่านกับมู่เซิ่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้า อ้อนวอนร้องขอชีวิตด้วยความเจ็บปวด
ถึงเวลานั้น เธอไม่มีทางปล่อยพวกเขาไปง่ายๆแน่นอน!
“ลูกจัดการไปถึงไหนแล้วเป็นยังไงบ้าง?”เมื่อเห็นถงเสว่เหมยออกมา จ้าวเหมยเหมยก็รีบก้าวไปถาม
“วางใจเถอะค่ะ แม่คะ หนูจัดการเรียบร้อยแล้ว อย่างมากอีกสามวัน เจียงหงจะลากตัวไอ้สารเลวสองคนนั้นมาขอโทษเราค่ะ!”ถงเสว่เหมยกล่าว แล้วพูดอย่างมั่นใจ
จ้าวเหมยเหมยได้ยินแบบนั้น ก็รู้สึกปลื้มปริ่ม จึงพูดเสริมว่า“ทางที่ดีใช้เงินสักหน่อย จับนังแพศยาจ้าวหลินนั่นมาพร้อมกันเลย”
จ้าวหลินวันๆเอาแต่โอ้อวดอยู่ต่อหน้าของเธอ จ้าวเหมยเหมยไม่ชอบเธอมานานมากแล้ว
“ได้ค่ะ เดี๋ยวหนูบอกให้พี่เจียงจัดการให้ค่ะ”
ทั้งสองเดินออกจากร้านอินเตอร์เน็ต แล้วกลับไปยังบ้านเช่าของตัวเอง
มาวันนี้ พวกเขาไม่มีบ้านอยู่แล้ว ทำได้แค่อยู่ในห้องเดี่ยวที่ทั้งเก่าและโทรม
แต่ภายในร้านอินเตอร์เน็ตเซี่ยลี่นั้น
เจียงหงไม่ใช่คนที่เอาเงินมาแล้วไม่ทำงาน ไม่นานเขาก็ให้ลูกน้องไปสืบเรื่องของมู่เซิ่งมา เนื่องจากถงเสว่เหมยบอกว่า เงินอยู่ที่มู่เซิ่ง อีกทั้งจากการสืบของลูกน้องได้เรื่องมาว่า มู่เซิ่งเป็นดั่งที่ถงเสว่เหมยกล่าว เป็นไอ้คนไม่ถ่านอย่างสมบูรณ์แบบ
ในวันธรรมดาเขาไปตลาดผักเพื่อซื้อผัก และกลับบ้านเพื่อทำอาหารกับล้างจาน นี่เป็นครั้งแรกที่เจียงหงเห็นอะไรแบบนี้ มีคนสามารถหน้าไม่อายเกาะผู้หญิงกินได้ขนาดนี้
แต่หลังจากการสังเกตการณ์ของเจียงหง ดูเหมือนว่า มู่เซิ่งคนนี้จะแตกต่างจากไอ้คนไม่เอาถ่านที่เคยได้ยินมาเล็กน้อย
“พี่เจียง ไอ้คนไม่เอาถ่านคนนี้ไปที่สนามมวยใต้ดินของท่านเซียว”
มีลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามา แล้วพูดกับเจียงหง