มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 23 ขอโทษทันที
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 23 ขอโทษทันที
เขยแต่งเข้า?
นี่มันคนไม่เอาถ่านที่เกาะผู้หญิงกินไม่ใช่เหรอ!
หลังจากทุกคนได้ยินประโยคนี้ พวกเขามองมู่เซิ่งด้วยความเหยียดหยาม
“ที่แท้เป็นคนไม่เอาถ่านของตระกูลเจียงนี่เอง ผมได้ยินว่าเขาไม่มีงานทำ มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ เท่านั้น คนไม่เอาถ่านแบบนี้ จะสามารถรู้ว่าภาพวาดเป็นภาพจริงหรือปลอมได้อย่างไร?”
“ถูกต้อง เกรงว่าการที่เขาพูดแบบนี้ เพื่อดึงดูดความสนใจของคนอื่น?”
“คนไร้ประโยชน์ที่ไร้ยางอาย!”
สีหน้าของหญิงสาวน่าเกลียดเช่นกัน เพราะเธอคิดว่ามู่เซิ่งมาสร้างสถานการณ์ที่หอเฉียนเป่าเพื่อเรียกร้องเงิน! และการที่เขาจับผิดภาพวาดนี้ มันเป็นการดูถูกภาพวาด และตอนนี้เขากำลังทำให้หอเฉียนเป่าเสียชื่อเสียง!
“คนไม่เอาถ่าน! คุณรู้ไหมว่าภาพวาดนี้หมายถึงอะไร? อย่าคิดว่าคุณเป็นคนของตระกูลเจียงแล้ว ก็สามารถพูดจาเหลวไหลได้ เชื่อหรือไม่ว่าฉันสามารถให้คนขับไล่คุณออกไปได้ทันที”
หลังจากกล่าวจบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ยืนอยู่ตรงประตู ก็เดินมาล้อมมู่เซิ่งไว้ทันที และมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแต่ละคนถือกระบองไฟฟ้าอยู่ในมือ ถ้าหญิงสาวออกคำสั่ง พวกเขาก็จะลงมือจัดการผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าทันที!
ชายชราโบกมือ เป็นการส่งสัญญาณให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยถอยกลับ
หลังจากนั้น เขามองมู่เซิ่งด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความหมาย และกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “น้องชาย สามารถกินอาหารตามใจชอบได้ แต่ไม่สามารถพูดจาตามใจชอบได้ บอกตามตรง ผมเป็นสมาชิกของตระกูลกู่ในเมืองเยียนจิง และผมยังเป็นเจ้าของหอเฉียนเป่าในเมืองเจียงหนานอีกด้วย ผมได้ภาพวาดนี้มาจากตระกูลกู่”
มู่เซิ่งเหลือบมองชายชราด้วยความประหลาดใจ นึกไม่ถึงว่าเขาจะเป็นสมาชิกของตระกูลกู่แห่งเมืองเยียนจิง
“แต่ตอนนี้ ตามที่คุณพูด เหล่านักสะสมวัตถุโบราณที่ตรวจสอบภาพวาดนี้ ล้วนมองไม่ออกว่าภาพนี้มีปัญหาเหรอ? ความสามารถของพวกเขาทุกคนจำกัดเหรอ?”
“ความสามารถของพวกเขาจำกัดจริง ๆ”
มู่เซิ่งพยักหน้าโดยไม่คิด
“คุณ……”
ชายชรารู้สึกโกรธมาก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนสุขุมเยือกเย็น แต่เขาก็ไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว
เพราะรากฐานของหอเฉียนเป่าไม่ใช่ร้านขายวัตถุโบราณ แต่เป็นสายตาที่เฉียบคมของนักตรวจสอบโบราณวัตถุต่างหาก!
ถ้าพวกเขาไม่มีสายตาที่เฉียบคม พวกเขาจะไม่สามารถมีวัตถุโบราณที่มีค่ามากมายขนาดนี้ได้ และชายชราในฐานะเจ้าของหอเฉียนเป่า ดังนั้นสายตาของชายชราไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน!
เห็นได้ชัดว่าคำพูดของมู่เซิ่ง เป็นการทำลายชื่อเสียงของพวกเขา!
ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะเพิ่งมาเปิดร้านที่เมืองเจียงหนาน ตอนนี้ชายชราคงสงสัยว่ามีคนเจตนาให้มู่เซิ่งมาก่อความวุ่นวาย!
ใบหน้าของชายชราเปลี่ยนเป็นสีแดง เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และกล่าวต่อไปว่า “เจ้าหนู บอกผมสิว่าภาพวาดนี้มันปลอมตรงไหน ถึงได้ทำให้คุณคิดว่ามันเป็นของปลอม?”
“ถ้าคุณไม่สามารถชี้จุดออกมาได้ ถึงแม้คุณจะเป็นลูกหลานของตระกูลเจียง ก็อย่ามาโทษว่าผมขับไล่คุณออกไปจากร้าน!”
ชายชรากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา
คราวนี้เขาโกรธจริง ๆ
“เชี่ย! คนไม่เอาถ่านคนนี้จองหองจริง ๆ!”
“ถูกต้อง นึกไม่ถึงว่าเขาจะบอกว่านักตรวจสอบวัตถุโบราณของหอเฉียนเป่านั้นเก่งสู้เขาไม่ได้ เขาอายุเท่าไหร่? ก็มีความสามารถที่จะมองออกว่าวัตถุโบราณชิ้นไหนเป็นของจริงหรือของปลอมแล้วเหรอ?”
“เดาว่าเขาคงอยากโอ้อวดต่อหน้ากู่ชิงเสวียน” บางคนมองไปที่หญิงสาว
“ผมจะคอยดูว่าเขาจะยุติเรื่องนี้อย่างไร?”
ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์อย่างต่อเนื่อง
หญิงสาวไม่สามารถทนต่อความโกรธได้อีกต่อไปแล้ว เธอเดินไปอยู่ตรงหน้าชายชราและกล่าวว่า “คุณปู่ จะพูดไร้สาระกับเขาอีกทำไม! หนูจะจัดการขับไล่เขาออกไปจากร้านทันที!”
หลังจากหญิงสาวกล่าวจบ เธอใช้เท้าเตะไปที่ท้องของมู่เซิ่งอย่างแรง การเตะของเธอนั้นดุดัน และยังมีเจตนาฆ่าที่รุนแรง!
เธอเคยฝึกบู๊? มู่เซิ่งมองการเตะของหญิงสาว และเขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มตรงมุมปาก
“ฮ่า ๆ ผมจำได้ว่าอาจารย์ของคุณหนูกู่เป็นยอดฝีมือ คนไม่เอาถ่านที่อ่อนแอคนนี้ จะต้องถูกไล่ออกไปจากร้านด้วยความอับอายอย่างแน่นอน”
“คอยชมเรื่องสนุกกันเถอะ”
คนที่อยู่รอบ ๆ ต่างซุบซิบ
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมองเห็นภาพที่มู่เซิ่งถูกทำร้ายจนแขนขาหัก แล้วถูกขับไล่ออกไปจากหอเฉียนเป่า
เมื่อได้ยินทุกคนวิพากษ์วิจารณ์มู่เซิ่ง สีหน้าของชายชราก็เปลี่ยนไป ตอนแรกเขาคิดจะหยุดเธอ แต่หลานสาวของเขาเคยฝึกบู๊กับยอดฝีมือ!
ถึงแม้ว่าเธอจะฝึกแค่สองปี แต่ความแข็งแกร่งของเธอไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใหญ่ทั่วไปจะสามารถต้านได้ ถ้ามู่เซิ่งที่อ่อนแอถูกลูกเตะนี้ เขาอาจได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต!
แต่มันสายเกินไปแล้ว
พรึบ!
หญิงสาวกระโดดไปข้างหน้าด้วยเท้าซ้าย แล้วใช้เท้าขวาเตะไปที่มู่เซิ่ง พลังปะทุออกมาจากร่างกาย กลายเป็นกระแสลม และกระจายไปทุกทิศอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นเช่นนั้น สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปทันที คุณหนูกู่แข็งแกร่งตามที่คาดไว้จริง ๆ!
สีหน้าของหญิงสาวเต็มไปด้วยความลำพองใจ เธอไม่ชอบชายหนุ่มที่ชอบพูดเหลวไหลคนนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เธอในฐานะผู้หญิง สิ่งที่เธอดูถูกที่สุด ก็คือคนไม่เอาถ่านที่เกาะผู้หญิงกินอย่างมู่เซิ่ง และคราวนี้เธอใช้พลังทั้งหมด!
พู่!
อย่างไรก็ตาม ขณะที่มู่เซิ่งยื่นมือออกไป รอยยิ้มบนใบหน้าของหญิงสาวก็หายไป จากนั้นกลายเป็นความประหลาดใจ กระทั่งความตื่นตระหนก!
มู่เซิ่งจับข้อเท้าของเธอไว้แน่น จนเธอไม่สามารถขยับได้แม้แต่น้อย!
เป็นไปได้ยังไง!
เมื่อเธอมองสีหน้าของมู่เซิ่งแล้ว มันสงบเหมือนเวลาปกติ นี่หมายความว่าอย่างไร? หมายความว่าเขาไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด ก็สามารถต้านรับได้
“ว่ากันว่าคำเตือนที่จริงใจนั้นฟังแล้วขัดหู ทั้งที่รู้ว่าผมไม่ชอบพูดโกหก แต่พวกคุณยังคงยืนยันที่จะถามผมว่าภาพวาดนั้นเป็นของจริงหรือของปลอมอีก” มู่เซิ่งถอนหายใจด้วยความจำใจ
สายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาว จากนั้นเขาก็พูดเสริมอีกประโยค
“อย่างไรก็ตาม เท้าของคุณ สัมผัสไม่เลว”
“คุณ——”
กู่ชิงเสวียนไม่เคยถูกคนอื่นพูดจาลวนลามเช่นนี้มาก่อน ทำให้เธอรู้สึกโกรธมาก และปล่อยหมัดขวาไปที่มู่เซิ่งอย่างแรง
มู่เซิ่งยื่นมืออีกข้างออกมา แล้วจับกำปั้นของกู่ชิงเสวียนเอาไว้
สายตาของเขาจับจ้องไปที่หญิงสาว และกล่าวเสริมอีกประโยคว่า “การที่ผู้หญิงฝึกบู๊มันจะมีผลกระทบต่อร่างกาย ถ้าคุณยังคงฝึกต่อไป ไม่ช้าก็เร็วคุณจะกลายเป็นคนพิการ”
“อย่างไรก็ตาม ผมจะเตือนคุณเพียงครั้งเดียวเท่านั้น”
หลังจากกล่าวจบ เขาสะบัดข้อมือเล็กน้อย
พลังแผ่กระจายราวกับคลื่นทะเล ทำให้กู่ชิงเสวียนไม่สามารถควบคุมร่างกายของตนเองได้ เธอถอยหลังอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายได้ยินเสียงดังโครม แล้วเธอก็นั่งอยู่บนพื้น และมองมู่เซิ่งด้วยสีหน้าตกใจ
จากนั้นสีหน้าที่ตกใจของเธอ ก็เปลี่ยนเป็นความโกรธ เพราะเธอไม่เคยพ่ายแพ้เช่นนี้มาก่อน? เธอชี้มู่เซิ่งและดุด่า “ฉันยอมรับว่าคุณมีความสามารถอยู่บ้าง แต่ไม่ว่าคุณจะมีความสามารถแค่ไหน แต่คุณก็ไม่สามารถดูหมิ่นศักดิ์ศรีของหอเฉียนเป่าได้! เด็ก ๆ ขับไล่เจ้าหมอนี้ออกไปจากร้าน!”
หลังจากหญิงสาวกล่าวจบ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่เฝ้ามองอยู่ด้านข้าง รีบวิ่งเข้ามาทันที “เจ้าหนู กล้ามาก่อกวนที่หอเฉียนเป่า รนหาความตาย!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยพวกนั้นพุ่งไปข้างหน้า และขณะที่พวกเขากำลังเอื้อมมือไปสัมผัสร่างกายของมู่เซิ่ง พวกเขาก็ได้ยินเสียงที่โกรธจัดดังมาจากด้านข้าง “ทุกคนหยุด!”
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรู้สึกตกตะลึง กำปั้นขนาดใหญ่ของพวกเขาหยุดอยู่ตรงหน้ามู่เซิ่ง
ทุกคนถอนหายใจด้วยความโล่งอก
การที่กู่ชิงเสวียนไม่สามารถเอาชนะมู่เซิ่งได้ อาจเป็นเพราะเธอประมาท แต่ถ้ามู่เซิ่งถูกหมัดของผู้ชายร่างกำยำที่สูงสองเมตรเหล่านี้ มู่เซิ่งอาจจะตายอยู่ที่นี่จริง ๆ
หลังจากผู้ชายร่างกำยำหยุดกำปั้นของตนเองแล้ว สายตาของทุกคนก็หันไปยังทิศทางของเสียง
เห็นชายชราสวมชุดสูทสีดำเดินออกมา และสายตาของเขามองไปที่มู่เซิ่ง
“ท่านสวี คุณออกมาแล้วเหรอ?”
กู่ชิงเสวียน มองชายชราด้วยสีหน้าประหลาดใจ
เธอมองมู่เซิ่งด้วยความโกรธอีกครั้ง “คนไม่เอาถ่าน คุณทำให้ท่านสวีตื่นตระหนกตกใจ สมควรตายจริง ๆ เด็ก ๆ—”
อย่างไรก็ตาม
ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะพูดจบ ก็ถูกน้ำเสียงที่เฉียบขาดขัดจังหวะเสียก่อน
“กู่ชิงเสวียน หุบปาก! ถ้าตอนนี้คุณไม่ขอโทษคุณชายมู่ ผมสวีเจ๋อปิงจะไม่มาเหยียบหอเฉียนเป่าของพวกคุณตลอดไป!”
ชายชราสวมชุดสูทคำรามเสียงดัง และน้ำเสียงสั่นเล็กน้อย
เขาประหม่า ประหม่ามาก!
เขานึกไม่ถึงว่าเพียงแค่ตนเองออกมาซื้อวัตถุโบราณ ก็บังเอิญเจอมู่เซิ่งที่เป็นคุณชายของตนเอง! และดูเหมือนว่าถ้าเขามาช้ากว่านี้ เกรงว่าคุณชายของเขาคงจะถูกไล่ออกจากร้านจริง ๆ!
“มู่…มู่เซิ่ง คุณมาที่นี่ได้อย่างไร” ท่านสวีอยากจะเดินไปทำความเคารพ แต่ถูกสายตาของมู่เซิ่งหยุดไว้เสียก่อน เขาทำได้เพียงกลืนน้ำลายและกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่น
อย่างไรก็ตาม การกระทำของท่านสวี ทำให้คนที่อยู่รอบ ๆ รู้สึกตกตะลึง กู่ชิงเสวียน รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านข้าง ก็ตกตะลึงเช่นกัน พวกเขามองมู่เซิ่ง และสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ
ชายชรารู้สึกประหลาดใจมาก และพูดอะไรไม่ออก!
สวีเจ๋อปิง เป็นคนใหญ่คนโตที่กว่าเขาจะได้คบหาเป็นเพื่อนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และเขามีตระกูลมู่สนับสนุนอยู่เบื้องหลัง ถ้าสามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาได้ ตระกูลกู่ในเมืองเยียนจิง จะมีโอกาสก้าวขึ้นไปอีกระดับ
แต่คนใหญ่คนโตเช่นนี้ กลับปฏิบัติต่อชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าด้วยความนอบน้อม?
กู่ชิงเสวียนสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และรู้สึกเหมือนหัวของตนเองกำลังจะระเบิด
เจ้าหมอนี้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไรกันแน่?