มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 26 แค่ประโยคเดียวก็เปิดเผยความลับ
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 26 แค่ประโยคเดียวก็เปิดเผยความลับ
หัวไชเท้า
ทุกคนต่างรู้สึกตกตะลึง และมองเจียงมู่หลงด้วยความประหลาดใจ
มู่เซิ่งนั่งหัวเราะเสียงดัง และบรรยากาศในห้องโถงเต็มไปด้วยความคึกคัก
บางทีอาจเป็นเพราะได้รับอิทธิพลจากมู่เซิ่ง ตอนนี้แม้แต่มุมปากของเจียงหว่านก็ยังมีรอยยิ้มที่มีเสน่ห์
กล่าวตามตรง มู่เซิ่งไม่ค่อยหัวเราะเยาะคนแบบนี้ เว้นเสียแต่ว่าเขาจะทนไม่ได้จริง ๆ
ก่อนหน้านั้น เขาเห็นภาพวาดปลอมเกรดสูงในหอเฉียนเป่า ถึงแม้ว่ามันจะเป็นของปลอม แต่เขาแค่ส่ายศีรษะเท่านั้น เพราะภาพวาดนั้นเลียนแบบได้เหมือนจริงมาก แต่คราวนี้ เห็นได้ชัดว่าของขวัญที่เจียงมู่หลงนำมานั้นเป็นแค่หัวไชเท้า
โสมธรรมชาติสามารถบำรุงกำลัง บำรุงเลือดลม บำรุงม้ามและบำรุงปอด ฯลฯ ดังนั้น โสมจึงมีมูลค่าทางตลาดที่สูงมาก และยิ่งโสมมีอายุมากก็ยิ่งมีมูลค่าสูง
และเนื่องจากโสมเป็นของหายาก ดังนั้นบางคนจึงมีความคิดเลวทราม และทำของปลอมขึ้นมา
มู่เซิ่งเคยศึกษาทางด้านการแพทย์ ดังนั้นแค่มองแวบเดียว เขาก็สามารถบอกอายุและคุณภาพของโสมได้
แต่สิ่งที่เรียกว่าโสมพันปีที่อยู่ตรงหน้า เห็นได้ชัดว่ามันเป็นหัวหัวไชเท้า ที่หลังจากตากแห้งแล้วทาผงโสมอีกชั้น และหนวดโสมเหล่านั้นก็ตัดมาจากโสมต้นอื่น ๆ แล้วนำมาประกบกันทีละเส้น
นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณภาพอีกต่อไปแล้ว เพราะเห็นได้ชัดว่ามันเป็นหัวไชเท้า แต่เจียงมู่หลงมองไม่เห็นความผิดปกติ และถือว่าหัวไชเท้าเป็นสมบัติล้ำค่า ซึ่งนี่เป็นเหมือนการนำสติปัญญาของทุกคนกดและถูอยู่บนพื้น? มันเป็นเรื่องที่น่าขำมาก!
“คุณ…คุณหัวเราะทำไม!”
สีหน้าของเจียงมู่หลงเปลี่ยนเป็นสีแดง
“ขอโทษด้วย ผมกลั้นไม่ไหวจริง ๆ” มู่เซิ่งปิดปาก และพยายามไม่หัวเราะออกมา “ผมไม่เคยเห็นหัวไชเท้าที่เหมือนจริงขนาดนี้มาก่อน”
“หัวไชเท้า? คุณตาบอดเหรอ? ถึงได้แยกแยะไม่ออกระหว่างหัวไชเท้ากับโสม?” คอของเจียงมู่หลงกลายเป็นสีแดง และตะโกนออกมาทันที
โสมอายุพันปีต้นนี้ เก็บมาจากชนบท เขาไม่ได้ให้ผู้เชี่ยวชาญทำการตรวจสอบ และเขาก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นโสมจริงหรือไม่ ตอนนี้เมื่อเขาได้ยินมู่เซิ่งพูดเช่นนี้ ทำให้เขารู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม เขายังคงแกล้งทำเป็นสงบ แล้วนำโสมที่อยู่ในมือให้หลี่น่องที่อยู่ด้านข้างดู
“คุณหมอหลี่น่อง คุณเป็นคนที่มีความรู้กว้างขวาง รบกวนคุณช่วยตรวจสอบว่านี่คือหัวไชเท้าหรือโสม”
หลี่น่องรับโสมมา
วันนี้เพื่อต้องการแก้แค้นเรื่องที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ดังนั้นหลี่น่องจึงมาถึงที่นี่ก่อนเวลา และอาจารย์บอกว่าวันนี้มีคนสำคัญบางคนมาด้วย ดังนั้นอาจารย์จึงไปซื้อสูทที่ห้างสรรพสินค้าก่อน แล้วค่อยมาร่วมงานเลี้ยง
หลี่น่องรู้สึกสงสัยมาก กะอีแค่มารักษาท่านสามไม่ใช่เหรอ ตระกูลชั้นสองเช่นนี้ เมื่อพวกเขาพบเห็นพวกเรายังต้องให้เกียรติ ยิ่งไปกว่านั้น สถานะของอาจารย์ยังไม่ธรรมดาอีกด้วย อาจารย์จำเป็นต้องจริงจังขนาดนั้นเชียวเหรอ?
เขารู้สึกสงสัย แต่เขาก็มางานเลี้ยงก่อน
หลังจากมาถึงงานเลี้ยงแล้ว ท่านสามมาต้อนรับเขาตามที่คาดการณ์ไว้ และเขาถูกจัดให้นั่งที่สำคัญถัดจากท่านสามอีกด้วย
หลี่น่องถือโสมและมองสำรวจอย่างละเอียดต่อหน้าทุกคนสักครู่ จากนั้นเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองเจียงมู่หลงแวบหนึ่ง
ด้วยสายตาที่ไม่พอใจ
หัวใจของเจียงมู่หลงเต้นแรง จบสิ้นแล้ว
เจียงหว่านสังเกตเห็นรายละเอียดนี้ ทำให้เธอรู้สึกดีใจ และแน่นอนว่ามู่เซิ่งพูดถูกอีกแล้ว
แต่คำพูดต่อไปของหลี่น่อง ดับความคิดของเจียงหว่านทันที
“คุณชายเจียง นี่เป็นโสมพันปีจริง ๆ”
หลี่น่องพยักหน้าเบา ๆ ยืนยันว่านี่คือโสมพันปี
จากนั้นเขาก็หันไปถามมู่เซิ่งด้วยสีหน้าเย็นชา
“มู่เซิ่ง คุณเป็นลูกเขยแต่งเข้าที่ไม่เอาถ่าน ทำอะไรก็ไม่เคยประสบความสำเร็จ ดังนั้นอย่ามาแสดงความคิดเห็นกับวัตถุดิบยาหายากนี้ เมื่อคนในวงการอย่างพวกเราได้ยินแล้ว มันจะกลายเป็นเรื่องตลก”
“ถ้าไม่รู้เรื่องเหล่านี้ ก็หุบปากซะ!”
เจียงหว่านรู้สึกตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าหลี่น่องจะพูดแบบนี้
สีหน้าขาวซีดของเจียงมู่หลง เปลี่ยนเป็นปีติยินดีทันที ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว หลี่น่องกำลังช่วยเขา!
“คุณหมอหลี่ คุณดูละเอียดอีกครั้ง โสมนี้มัน……”
เจียงหว่านยังไม่ยอมแพ้
“โสมนี้เป็นอะไร?”
“คุณกำลังสงสัยสายตาของผมเหรอ? คุณคิดว่าผมที่เป็นหมอมาเป็นเวลาสิบกว่าปี จะมองไม่ออกว่าเป็นโสมจริงหรือปลอมเหรอ?”
“ผมบอกว่ามันเป็นของจริง มันก็ต้องเป็นของจริง!”
หลี่น่องขัดจังหวะคำถามของเจียงหว่านด้วยเสียงดังลั่น!
และขณะนี้ ชายชราคนหนึ่งลุกขึ้นยืนและพยักหน้าเห็นด้วย “โสมนี้เป็นของจริง ด้วยประสบการณ์เปิดร้านขายยาเป็นเวลาหลายสิบปีของผม โสมนี้มีมูลค่าอย่างน้อยห้าล้าน”
“มันแน่นอนแล้ว ไม่จำเป็นต้องคิดแล้ว หัวไชเท้าจะเป็นแบบนี้ได้อย่างไร”
“คนไม่เอาถ่านคนนี้ ตาบอดจริง ๆ”
หลังจากชายชราเอ่ยปาก ทุกคนต่างพยักหน้าเห็นด้วย และเกิดเสียงดุด่าดังสนั่นไปทั่ว
จ้าวหลินที่นั่งอยู่โต๊ะโซนด้านหน้า กัดฟันและกล่าวความโกรธ “คนไร้ประโยชน์ ถ้าคุณยังพูดจาเหลวไหลอีก ฉันจะไล่คุณออกไปจากงานเลี้ยง!”
หลี่น่องที่ยืนอยู่บนเวที มองมู่เซิ่งด้วยความเย่อหยิ่งและสีหน้าเต็มไปด้วยความลำพองใจ
ราวกับเขากำลังบอกว่าผมรู้ว่าโสมนี้เป็นของปลอม แต่แล้วไงล่ะ? คราวนี้ ผมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเข้าข้างเจียงมู่หลง ก็เพื่อจะทำให้คนไม่เอาถ่านอย่างคุณอับอายขายหน้า!
“ผมพูดตั้งแต่แรกแล้วว่าคนไร้ประโยชน์คนนี้ ไม่รู้จักวัตถุดิบยาหรอก”
เจียงมู่หลงรู้สึกจิตใจฮึกเหิมและกล่าวว่า “คนไม่เอาถ่าน รีบมาขอโทษผมซะ!”
“ถูกต้อง ต้องขอโทษ!”
เฉินเสว่มองมู่เซิ่งด้วยความเยาะเย้ย
ขณะที่ญาติทุกคนกำลังตำหนิมู่เซิ่ง คนรับใช้ที่อยู่ตรงประตูก็เดินเข้ามา และกล่าวกับท่านสามว่า “ผู้นำตระกูลเจียง หลิวเจี้ยนหัวมาถึงแล้ว ตอนนี้เขาอยู่ที่นอกประตู”
“รีบเชิญหมอเทวดาหลิวเข้ามา!” ท่านสามกล่าวซ้ำ ๆ
หลิวเจี้ยนหัวเป็นหมอเทวดาที่มีชื่อเสียงในเมืองเยียนจิง แค่ลูกศิษย์ของเขาลงมือรักษา ก็สามารถรักษาโรคเรื้อรังที่เป็นหลายปีหายขาดได้
ประกอบกับได้ยินเจียงมู่หลงพูดว่าตอนที่เขาสลบ มู่เซิ่งฝังเข็มที่แขนของเขา จนทำให้ท่านสามรู้สึกอึดอัดไปทั่วร่างกาย ราวกับว่าการฝังเข็มของมู่เซิ่งนั้นมีปัญหา และตอนนี้เขาตั้งหน้าตั้งตารอให้หมอเทวดาหลิวมาตรวจรักษาตนเอง
ขณะนี้ สีหน้าของหลี่น่องเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
ตอนอยู่ในห้องพักผู้ป่วย มู่เซิ่งไม่ยอมรับเรื่องที่แย่งความดีความชอบ แล้วยังพูดจาเหลวไหลอีก และบอกว่าหลิวเจี้ยนหัวไม่สามารถเข้าใจเทคนิคการฝังเข็มของเขาได้ ตอนนี้อาจารย์มาถึงแล้ว และอาจารย์จะต้องทำให้มู่เซิ่งอับอายขายหน้าอย่างแน่นอน
บวกกับเรื่องก่อนหน้านั้น เมื่อถึงเวลาแล้ว เมื่อทุกคนตำหนิติเตียนมู่เซิ่ง จะคอยดูว่าคนไร้ประโยชน์คนนี้จะมีหน้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร!
หลี่น่องมาต้อนรับอาจารย์ที่หน้าประตู “อาจารย์ เชิญเข้าไปข้างใน”
หลิวเจี้ยนหัวสวมสูท เดินเข้ามาในห้องโถงด้วยท่าทางกระปรี้กระเปร่า และสีหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาหันไปมองหลี่น่อง อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จากนั้นเขาปัดโสมออกจากมือหลี่น่อง
“หลี่น่อง คุณถือหัวไชเท้าทำไม?”
“หัวไชเท้านี้เสียนานแล้ว”
“แล้วด้านบนยังมีดินโคลน รีบเอาไปทิ้ง มันสกปรกมาก”
หลังจากหลิวเจี้ยนหัวกล่าวจบ
ทุกคนต่างนิ่งเงียบ
ทุกคนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง
นี่มัน…เป็นหัวไชเท้าจริง ๆ เหรอ?
เฉินเสว่อุทาน‘ห๊ะ’ออกมาเช่นกัน ดวงตาของเธอเบิกกว้าง และมองภาพนี้ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
วินาทีก่อน เธอยังเยาะเย้ยมู่เซิ่ง กระทั่งต้องการให้มู่เซิ่งกราบขอโทษ แต่วินาทีต่อมา เธอรู้สึกอับอายทันที
ทุกคนต่างรู้จักหลิวเจี้ยนหัว เขาเป็นหมอเทวดาอันดับหนึ่งในเมืองเยียนจิง แม้แต่เขาก็บอกว่ามันเป็นหัวไชเท้า และตอนนี้แม้แต่คนโง่เขลา ก็รู้ว่ามันเป็นหัวไชเท้าอย่างแน่นอน
ที่แท้สิ่งที่มู่เซิ่งพูดเป็นความจริง!
หลี่น่องรู้สึกหน้าร้อนผ่าว
เขานึกไม่ถึงว่าจะถูกอาจารย์ของตนเองเปิดโปง และเขาก็ไม่สามารถพูดหักล้างได้
สีหน้าของเจียงมู่หลงหมองหม่นเช่นกัน
“รีบเอาไปทิ้ง”
หลิวเจี้ยนหัวขมวดคิ้ว เขาไม่รู้เรื่องที่หลี่น่องพูดเรื่องเท็จให้เป็นเรื่องจริง ดังนั้นเขาจึงโยนหัวไชเท้าที่อยู่ในมือของหลี่น่องลงไปในถังขยะทันที และเช็ดมือด้วยความรังเกียจ