มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 286 ของจริงเลียนแบบ
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่286 ของจริงเลียนแบบ
ได้ยินคำอ้อนรักเชย ๆ คำนี้เข้า แม้แต่คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ยังค้อนตาคว่ำ คำพูดแบบนี้มันเกรดต่ำจริง ๆ แต่คนอยู่ในความรักเห็นอะไรก็สวยไปหมด เจียงหว่านแม้จะรู้สึกว่าเชย แต่ก็ชอบมากกับประโยคที่มู่เซิ่งพูด
“สวยขนาดนั้นเลยจริงหรือ?” เจียงหว่านถามไปด้วยสีหน้าแดงเรื่อ
“แน่นอนเลย ที่เขาพูดกันว่าเธอคือหนึ่งในสามหญิงงามในเจียงหนาน แต่ฉันว่าไม่ใช่ ต้องเธอคือหญิงงามหนึ่งเดียวในเจียงหนาน!” มู่เซิ่งพูดจริงจังจากใจ
เวลาพูดคำนี้ออกมานั้น คุณนายเจ้าของร้านก็ยังไม่มีคำที่จะค้าน
เพราะหล่อนเห็นว่า เจียงหว่านสมกับที่จะเป็นหญิงงามหนึ่งเดียวในเจียงหนานจริง ๆ!
เพียงแต่ว่า หลังจากได้พบกับเจียงหว่านแล้ว ในใจของหล่อนให้รู้สึกเสียดายแทนเจียงหว่าน คนงามแท้และมีวิสัยทัศน์ดีขนาดนี้ ควรจะเคียงคู่อยู่กับระดับอิทธิพลยิ่งใหญ่ถึงจะเหมาะ ทำไมกลับต้องมาแต่งให้กับพ่อบ้านที่รู้จักแต่ทำครัวกับทำงานบ้าน
ถึงแม้ว่า มู่เซิ่งพอได้เปลี่ยนชุดสากลเต็มสูตรแล้ว บุคลิกมีการยกระดับดูดีขึ้น แต่ในทัศนคติของคุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ที่มองมู่เซิ่งเป็นได้แค่หนุ่มหน้ามน เกาะผู้หญิงกิน เป็นภาพลักษณ์ที่ยังคงลบไม่ออก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มู่เซิ่งกับเจียงหว่านอยู่ในฐานะลูกค้าของร้านหล่อน โดยเฉพาะเป็นลูกค้าที่ซื้อชุดวิวาห์ชุดนี้ไป หล่อนก็ไม่สะดวกใจที่จะไปจี้กระทบ ฉะนั้นตอนที่มู่เซิ่งกับเจียงหว่านเตรียมตัวจะเดินออกไปนั้น ตัวหล่อนเองก็เดินเข้าไปข้างมู่เซิ่ง
“คุณมู่เซิ่ง คุณรักภรรยาคุณมั้ย?” คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ถามขึ้นมาในทันที
มู่เซิ่งเงยหน้ามองหล่อนไปแวบหนึ่ง ไม่เข้าใจว่าหล่อนทำไมถึงได้ถามมาแบบนี้ แต่ก็ยังตอบไปให้ว่า “แน่นอน”
“ในเมื่อคุณรักภรรยาคุณขนาดนี้ งั้นคุณก็น่าจะต้องรู้นะ เรื่องแหวนสำหรับผู้หญิงนั้น เป็นเรื่องสำคัญมากขนาดไหน?” คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์ถาม
“ผม……” มู่เซิ่งอึ้งชะงัก ตบหัวกะโหลกตัวเองในพลัน
เขาก็ต้องรู้อยู่แล้วนี่นา
แต่ว่า เขาลืม!
มาฮันนี่มูนกันที่นี่ มู่เซิ่งจะตื่นเต้นยิ่งกว่าเจียงหว่านเสียอีก เพราะฉะนั้น ขนาดเรื่องสำคัญมากอย่างแหวนแต่งงานเขายังลืมเตรียมมา ตอนนี้คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์เตือนมา เขาจึงเตรียมโทรศัพท์สั่งให้คนส่งมาให้ในทันที
“อีกสองวันบนเกาะนี้จะมีงานประมูลรายการหนึ่ง ในงานประมูลครั้งนี้ จะมีแหวนเพชรสุดยอดที่สุดวงหนึ่งมาเปิดประมูลขาย ถ้าคุณคิดจะให้ของขวัญเจียงหว่านละก้อ น่าจะไปลองดู แน่นอนว่า ตัวคุณต้องมีความสามารถด้วยตัวเอง” คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์พูด
“มีอย่างนี้ด้วยนะ?ต้องขอบคุณมากเลย ผมจะต้องไปแน่ ๆ” มู่เซิ่งรีบพูด
คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์เห็นท่าทางของมู่เซิ่ง ในใจอดไม่ได้ที่จะนึกดูแคลน แน่ใจได้ว่าเขาต้องไม่มีเงินซื้อสร้อย แล้วก็ไม่อยากให้ถูกแทงใจดำ ก็จึงได้แกล้งพูดมาแบบนี้ แหวนเพชรระดับนี้ราคาอย่างน้อยขั้นต่ำก็ต้องร้อยล้านขึ้น มู่เซิ่งจะมีปัญญาเอาเงินที่ไหนไปประมูลได้?
แต่ในเมื่อมู่เซิ่งพูดมาแบบนี้ งั้นหล่อนก็จะต้องไปงานประมูลนี้ด้วย หล่อนจะขอไปดูสภาพที่มู่เซิ่งถูกฉีกหน้าให้ได้
ฮึ แกนี่มันไม่คู่ควรกับผู้หญิงอย่างเจียงหว่านเลย
คุณนายเจ้าของร้านชุดวิวาห์สะบัดฮึหนาวเยือก มองไปที่เจียงหว่าน หล่อนคิดย้อนกลับมาถึงชีวิตของตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ
หล่อนเองในตอนนั้น ในกลุ่มคนงามนั้นอยู่ขนาดหาเทียบไม่ได้ แต่ว่ากลับแต่งงานได้กับไอ้ขยะคนหนึ่ง ต้องจมปลักอยู่กับเกาะนี้ในสถานะคุณนายเจ้าของร้านค้า…….
…………..
มู่เซิ่งไม่รู้ด้วยกับความคิดของคุณนายเจ้าของร้าน อีกทั้งต่อให้เขารู้ เขาก็ต้องไปงานประมูลครั้งนี้แน่นอน เพราะในการมาฮันนี่มูนครั้งนี้ เขาตั้งใจทำเป็นพิธีวิวาห์ชดเชยให้เจียงหว่าน จะต้องไม่ให้มีอะไรขาดตกบกพร่องอย่างเด็ดขาด
ฉะนั้น แหวนที่ระลึกแต่งงาน เขาจะต้องให้มี!
เขาพาเจียงหว่านออกไปจากร้านชุดวิวาห์พร้อมกับหยางเหนิง เดินทางเที่ยวรอบเกาะนี้ตามหมายกำหนดการ เก็บภาพแต่ละที่ไปเรื่อย ไปถึงจุดแรก ที่นั่นมีคู่แต่งงานใหม่เตรียมตัวรอกันอยู่จำนวนไม่น้อย โพสต์ท่ารักหวานซาบซึ้ง ยืนถ่ายรูปกันตามจุดวิว
บริเวณวิวสวยนั้นกว้างมาก มีคนอื่นอยู่ก็ถ่ายเข้าไปด้วยกัน และก็มีไม่น้อยที่เป็นมุมเจาะจงเฉพาะ ก็รอคิวต่อจากคู่แต่งงานคู่ก่อนถ่ายเสร็จออกมา พวกเขาจึงเข้าไปถ่าย
ตรงบริเวณริมทะเล ต้องบอกว่าเป็นจุดที่มีคนล้นหลาม
แต่ทว่า พอมู่เซิ่งกับเจียงหว่านปรากฏตัวขึ้นบริเวณนั้น ทันทีนั้นก็กลายเป็นจุดโฟกัสของทั้งบริเวณ สายตาเป็นจำนวนมากพุ่งใส่ไปที่เจียงหว่านกับมู่เซิ่ง เพราะทั้งสองนั้นโดดเด่นมากจริง ๆ ทำเอาคู่แต่งงานที่มาถ่ายภาพที่ระลึกกันต้องอับแสงหมดสวยไปทั่วทั้งบริเวณ
พวกเขาทุกคน ล้วนเคยไปที่ร้านชุดวิวาห์ที่ใหญ่ที่สุดนั้นไม่ครั้งหนึ่งก็หลายครั้ง ฉะนั้นพอเห็นเจียงหว่านเข้า ก็แน่นอนว่าต้องจำชุดวิวาห์บนตัวของหล่อนได้ และก็รู้ดีอยู่แก่ใจในราคาของชุดวิวาห์นี้ ทำให้รู้อยู่แก่ใจไม่ว่าจากหน้าตาหรือฐานะเบื้องหลัง ห่างกันไกลมากกับมู่เซิ่งและเจียงหว่าน
“ดูหล่อนสิ ใส่ขุดที่เป็นชุดซิกเนเจอร์ของร้านชุดวิวาห์นั่น ถ้าเอาชุดเจ้าสาวชุดนี้มาให้ฉันใส่นะ แน่ใจได้เลยว่าฉันก็สวยไม่แพ้หล่อนหรอก”
ผู้หญิงชอบเปรียบวัดกันอยู่เป็นสันดานอยู่แล้ว และในตอนนี้ คู่แต่งงานใหม่ที่กำลังหามุมถ่ายภาพที่ระลึกแต่งงานคนหนึ่ง พอเห็นเจียงหว่านในชุดวิวาห์นั้นเข้า ส่วนลึกใจก็เกิดความริษยาขึ้นมา ชี้ไปที่เจียงหว่านแล้วพูดกระแนะกระแหนขึ้นมา
เดิมทีหล่อนก็ชอบชุดวิวาห์นี้อยู่เอามาก แต่ตอนเห็นที่ร้านชุดวิวาห์นั้น ด้วยเพราะราคาสูงลิบเลยถูกผู้ชายปฏิเสธ ตอนนี้มาเห็นมีคนเอาไปใส่แล้ว ในใจก็เลยเริ่มออกอาการเจ็บจี๊ดบอกไม่ถูก
“เฮอะ ๆ ชุดวิวาห์ชุดละสามสิบเจ็ดล้าน เธอคิดหรือว่าจะมีคนลงทุนซื้อมาเพื่อใส่แค่ครั้งเดียวนี่?” ฝ่ายผู้ชายเมื่อกี้นี้ก็แอบมองเจียงหว่านอยู่ด้วยหางตา เพราะว่าหล่อนนั้นสวยมากจริง ๆ แต่พอได้ยินฝ่ายเมียพูด ก็จึงได้ดึงสติกลับมา ทำเบ้ปาก แค่นเสียงหัวเราะเย้ยเยาะออกมา “ผมว่านะ ชุดวิวาห์ชุดนี้น่าจะต้องเป็นชุดลอกเลียนแบบจากมือชั้นครูมันก็แค่นั้นแหละ”
ฝ่ายผู้หญิงได้ยินเข้า จึงได้สงบใจลงทันที มีความรู้สึกตามในความเป็นไปได้ในจุดนี้
เพราะว่าร้านชุดวิวาห์ซินซินเป็นร้านชุดวิวาห์ที่ชื่อเสียงโด่งดังที่สุดบนเกาะนี้ ชุดวิวาห์ในนี้ล้วนราคาแพงมาก เพราะฉะนั้นก็จะมีร้านใหญ่เล็กที่ทำเลียนแบบของร้านไป เพื่อสนองความต้องการทางจิตของคนอยากจะใส่ แต่ไม่มีปัญญาจะซื้อ
ส่วนชุดวิวาห์ที่เจียงหว่านใส่อยู่ ก็น่าจะเป็นแบบนี้แหละ
อีกด้านหนึ่ง มู่เซิ่งกับเจียงหว่าน ก็ได้ไปถึงที่ที่เลือกไว้ เริ่มต้นถ่ายภาพคู่วิวาห์กัน
“พวกคุณชิดกันเข้าอีกหน่อย นั่นแหละ คุณมู่โอบเอวคุณเจียงไว้ อุ้มขึ้นมา ใช่เลย อยู่ในท่านี้เฉย ๆ นะ พยายามอย่าขยับ…..”
หยางเหนิงแม้จะเป็นคนประเภทปากเปราะ แต่ก็พูดจริงทำจริง ในเรื่องงานถ่ายภาพวิวาห์ก็เป็นคนมีจรรยาในอาชีพอยู่ พอได้กดชัตเตอร์ ก็กดกันไม่หยุด คอยกำกับให้มู่เซิ่งกับเจียงหว่านวางท่าได้ดีมากอย่างมืออาชีพ
“แบบนี้ได้มั้ย?”
มู่เซิ่งกอดเจียงหว่านไว้ จมูกของทั้งสองชิดกัน ถึงขนาดลมหายใจของทั้งสองต่างรดใส่กันและกัน
สองแก้มเจียงหว่านร้อนผ่าวจนออกแดง
“ได้ ใช่แล้ว เอาแบบนี้แหละ——–”
หยางเหนิงกดฉับ ๆ ๆ ถ่ายภาพอย่างต่อเนื่อง
ถ่ายกันไปได้สักครึ่ง ผู้หญิงกับผู้ชายที่ผูกความริษยาอยู่ก็ได้เก็บส่วนของพวกเขาเรียบร้อยพากันเดินเข้ามาหามู่เซิ่ง พอเดินเข้ามาถึงข้าง ๆ เขาทั้งสองแล้ว ฝ่ายผู้หญิงทำกรีดเสียงพูดขึ้นในทันทีว่า “ว้าว นี่มันเป็นชุดซิกเนเจอร์ประจำของร้านชุดวิวาห์ซินซินเลยใช่มั้ยเนี่ย?แต่ว่าดู ๆ ไป ทำไมเหมือนกับของปลอมเลยนะ?”
“ฮ่า ๆ พี่น้องท่านนี้ คุณไปจ้างเขาลอกแบบมาในราคาเท่าไหร่กันเนี่ย?ดู ๆ ไปก็พื้น ๆ นะ ไม่รู้ไปซื้อที่โรงงานตามบ้านไหน ดูสิ วัสดุที่ใช้ อย่างแย่เลยทีเดียวอ่ะ” ฝ่ายผู้ชายทำปากเบ้ พูดแบบถากถางไป