มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 311 รอดได้แค่คนเดียว
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 311 รอดได้แค่คนเดียว
เมื่อลุงอู๋ได้ยินคำพูดนี้ก็ยิ่งหวาดกลัวเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง
ให้ตายเถอะ
ไม่ต้องกลัวงั้นเหรอ ตอนนี้เขากลัวจนแทบบ้าแล้ว ยังมาบอกว่าแค่ฉันจับเขาได้ อำนาจที่อยู่เบื้องหลังเขาจะไม่กล้าทำอะไรฉัน จะบ้าเหรอ นายจะให้ฉันไปจับนักเสวียนเนี่ยนะ
นายกลัวฉันจะไม่ตายเร็วใช่ไหม
ทว่าชั่วพริบตาเดียว วินาทีที่อู๋ซื่อซวินพูดออกมา ลุงอู๋ก็เคลื่อนตัวมาอยู่ตรงหน้าอู๋ซื่อซวินแล้ว จากนั้นสะบัดมือตบหน้าอู๋ซื่อซวินอย่างแรง
อู๋ซื่อซวินโดนตบจนล้มคว่ำลงบนพื้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตกใจกลัวเหมือนเห็นผีอย่างไรอย่างนั้น
ตอนนี้ในใจเขาก็เหมือนเห็นผี ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
พ่อตบเขายังไม่เท่าไร ทำไมแม้แต่ลุงอู๋ก็ยังตบเขาด้วย มู่เซิ่งเป็นใครกันแน่ มีเบื้องหลังใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ
“คุณมู่ ก่อนหน้านี้ฉันไม่รู้ว่าเจียงหว่านเป็นภรรยาคุณ ถึงได้ช่วยเหลือคนผิดทำเรื่องผิดๆ ตอนนี้คุณช่วยให้โอกาสฉันได้ทำความดีชดเชยความผิดสักครั้งสักครั้งเถอะนะ” ลุงอู๋คุกเข่าลงบนพื้น พูดอ้อนวอนไม่หยุด
“ทำความดีชดเชยความผิดงั้นเหรอ” มู่เซิ่งนั่งลงบนโซฟา แล้วบีบนิ้วมือเบาๆ จากนั้นพูดว่า “นายจะชดเชยความผิดยังไง”
“คุณมู่ ฉันต้องทำให้คุณพอใจแน่นอน” ลุงอู๋รีบพูดทันที
พูดจบ ลุงอู๋เดินเข้าไปหาอู๋ซื่อซวิน อู๋ซื่อซวินตะโกนอย่างตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จะให้คนขวางลุงอู๋เอาไว้ แต่พวกลูกน้องตระกูลอู๋มีใครกล้าเข้าไปบ้างล่ะ ทำได้เพียงปล่อยให้ลุงอู๋จับตัวอู๋ซื่อซวิน
“อู๋ซื่อซวิน นายอวดดีจนเคยตัวแล้ว คิดไม่ถึงว่าครั้งนี้จะกล้าล่วงเกินคุณมู่ ไม่รู้ที่เป็นที่ตายจริงๆ วันนี้ฉันจะใช้วิธีโหดเหี้ยมที่นายเคยใช้กับนาย ให้นายได้รู้ว่ามันรู้สึกยังไง”ลุงอู๋พูดอย่างเย็นชา
“ไม่ ไม่……ลุงอู๋ ลุงเป็นคนตระกูลอู๋ ทำไมลุงทำกับฉันแบบนี้ล่ะ” อู๋ซื่อซวินตะโกนด้วยความตกใจกลัว
ลุงอู๋ติดตามข้างกายเขามานานแล้ว
ดังนั้นลุงอู๋จึงรู้วิธีการทรมานคนอื่น ถ้าให้ลุงอู๋ลงมือ จุดจบของอู๋ซื่อซวินต้องทรมานกว่าการตายแน่นอน
“ตอนนั้นที่นายล่วงเกินคุณมู่ นายควรคิดได้ว่าจะมีจุดจบแบบนี้” ลุงอู๋แสยะยิ้มแล้วเอ่ยขึ้น
“มู่เซิ่ง ไม่สิ คุณมู่ ฉันสำนึกผิดแล้ว ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันสำนึกผิดแล้วจริงๆ ฉันยอมขอโทษ ฉันยอมชดใช้ด้วยเงิน” อู๋ซื่อซวินตื่นตระหนกมาก เขาหันไปคำนับขอโทษมู่เซิ่งไม่หยุด
เขาหวังแค่ว่ามู่เซิ่งจะปล่อยเขาไปสักครั้ง
ทว่ามู่เซิ่งส่ายหน้าอย่างเฉยเมย ไม่พูดอะไรสักคำ
อู๋ซื่อซวินหน้าซีดเหมือนกระดาษ
“ตัวเองคิดวิธีทรมานคนอื่นมากมายขนาดนั้น ถ้าไม่ลองสัมผัสสักหน่อย ก็ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลน่ะสิ” ลุงอู๋เอ่ยขึ้น เขาใช้มือจับหัวอู๋ซื่อซวินแล้วกดลงบนโต๊ะ
จากนั้นเขายกคีมเหล็กขึ้นมา ดึงเล็บนิ้วของอู๋ซื่อซวินออกมาทีละเล็บ
เล็บออกมาพร้อมเลือดและเนื้อสาดกระจาย บนโต๊ะไม้เต็มไปด้วยเนื้อและเลือดปะปนกันเต็มไปหมด
เสียงร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวดของอู๋ซื่อซวินก้องไปทั่วคฤหาสน์ อู๋หนานฝ่าได้ยินแล้วขนลุก แต่เขาไม่สามารถขัดขวางสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากมองอู๋ซื่อซวินโดนทำให้พิการ
“พ่อช่วยฉันด้วย ช่วยฉันด้วย ฉันเป็นลูกชายพ่อนะ” อู๋ซื่อซวินตะโกนเรียกแทบขาดใจ ความเจ็บสุดชีวิตแผ่จากนิ้วมือไปทั่วร่างกาย แต่มือของลุงอู๋กดเขาไว้เหมือนคีมเหล็ก ทำให้เขาไม่สามารถขยับได้เลย
“ล่วงเกินคุณมู่ ถึงนายตายก็สมควรแล้ว!” อู๋หนานฝ่าละสายตาไปทางอื่น
ตอนนี้เขาทำได้เพียงใจแข็งยอมให้ลูกชายโดนทรมาน หวังว่าหลังจากลูกชายของตัวเอง มู่เซิ่งจะปล่อยตระกูลอู๋ไป
เล็บทั้งห้านิ้วโดนดึงออกมาหมดแล้ว
ตอนนี้มือขวาของอู๋ซื่อซวินไม่รู้สึกอะไรแล้ว เลือดไหลทะลักออกมา เจ็บจนเขาแทบจะเป็นลม
แต่ลุงอู๋ควบคุมแรงได้เป็นอย่างดี ทุกครั้งที่อู๋ซื่อซวินจะสลบ เขาจะผ่อนแรงลง ทำให้อู๋ซื่อซวินตกอยู่ในความเจ็บปวด
เมื่อเห็นว่าอีกมือของตัวเองกำลังจะโดนลุงอู๋จับไว้ ใบหน้าอู๋ซื่อซวินเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขาพูดอ้อนวอนมู่เซิ่งด้วยความเจ็บปวด “มู่เซิ่ง ฆ่าฉันเถอะ มีปัญญาก็ฆ่าฉันซะ”
“นายไม่ตายเร็วขนาดนั้นหรอก อย่างน้อยก่อนจะจบ นายก็ไม่มีทางตาย” มู่เซิ่งเอ่ยขึ้น
จะไม่ให้ตัวเองตายก่อนจบงั้นเหรอ
หัวใจอู๋ซื่อซวินหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ครั้งนี้ตัวเองจบเห่แล้วจริงๆ เขาพยายามจะพุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง แต่โดนลุงอู๋กดตัวเอาไว้ ทำได้เพียงมองลุงอู๋เอามืออีกข้างของเขากดลงบนโต๊ะ
หลังจากนั้นเล็บนิ้วโป้งก็โดนดึงออกมา
“อ้าก อ้าก อ้าก.…..”
อู๋ซื่อซวินร้องโอดครวญอย่างเจ็บปวด เขาถูกโอ๋มาตั้งแต่เด็กจนโต ไม่เคยเจอความเจ็บปวดแบบนี้มาก่อน
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เล็บนิ้วมือทั้งสิบนิ้วของอู๋ซื่อซวินโดนดึงออกมาจนหมด เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่นาทีสำหรับอู๋ซื่อซวิน ทรมานเหมือนตกนรกอย่างไรอย่างนั้น
สองพ่อลูกอู๋หนานฝ่ากับอู๋ซื่อซวินคุกเข่าลงตรงหน้ามู่เซิ่ง ใบหน้ามีความยำเกรงรวมถึงความหวาดกลัวอย่างรุนแรง
“คุณมู่ เรื่องนี้ตระกูลอู๋ของเราทำเกินไปจริงๆ ตอนนี้ลูกชายฉันได้รับผลกรรมที่เขาสมควรได้รับแล้ว คุณปล่อยเขาไปเถอะ” อู๋หนานฝ่าคุกเข่าพูดอ้อนวอน
เขากลัวมากว่ามู่เซิ่งจะใช้วิธีนั้นกับเขาเหมือนกัน
“ปล่อยเขางั้นเหรอ ตอนที่ฉันคุกเข่าต่อหน้าเขา เขาเคยคิดจะปล่อยฉันกับเจียงหว่านไหม” มู่เซิ่งแสยะยิ้ม ในรอยยิ้มเต็มไปด้วยความอาฆาต
เขาก้มมองอู๋ซื่อซวินที่ชักดิ้นชักงอไม่หยุดเพราะความเจ็บปวดแล้วถามว่า “อู๋ซื่อซวิน นายอยากรอดไหม”
อู๋ซื่อซวินกัดฟันพูดว่า “อยาก”
ขอแค่เขารอด เขาก็มีโอกาสแก้แค้นแน่นอน!
“อู๋หนานฝ่า นายอยากรอดไหม” มู่เซิ่งถามต่อ
อู๋หนานฝ่าไม่เข้าใจว่าทำไมมู่เซิ่งถามแบบนี้ แต่เขาก็พยักหน้าพูดว่า “คุณมู่ ฉันอยากรอดอยู่แล้ว”
มู่เซิ่งปรบมือหนึ่งครั้ง “พวกนายสองคนอยากรอด นี่ทำให้ฉันจัดการยากมาก ตรงนี้มีมีดอยู่หนึ่งเล่ม พวกนายตัดสินใจกันเอาเองเถอะว่าใครจะมีชีวิตรอด”
เมื่อสิ้นเสียง สองพ่อลูกอู๋หนานฝ่ากับอู๋ซื่อซวินสั่นไปทั้งตัว หมายความว่ายังไง รอดได้แค่คนเดียวงั้นเหรอ นี่จะให้พวกเขาสองพ่อลูกฆ่าแกงกันเองงั้นเหรอ
“คุณมู่ ฉันยอมใช้ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของตระกูลอู๋ซื้อชีวิตลูกชายฉัน ขอแค่คุณปล่อยเราสองพ่อลูกไป” อู๋หนานฝ่าคุกเข่าพูดอย่างจริงใจ
“ทรัพย์สินครึ่งหนึ่งเหรอ มูลค่าเท่าไร เงินแค่นั้น นายคิดว่าฉันไม่มีงั้นเหรอ” มู่เซิ่งส่ายหน้า
“ทรัพย์สินทั้งหมดของตระกูลอู๋ รวมถึงเงินที่ฉันฝากไว้ในธนาคารรุ่ยซื่อ รวมกว่าหมื่นล้าน แค่คุณปล่อยเราไป!” อู๋หนานฝ่าแผดเสียงสุดชีวิต เขาไม่เชื่อว่าทรัพย์สินเป็นหมื่นล้านวางอยู่ตรงหน้าแล้วมู่เซิ่งจะไม่หวั่นไหว เงินพวกนั้น ถึงเป็นตระกูลระดับสูงก็ต้องให้ความสนใจ
มู่เซิ่งยิ้มอย่างเฉยเมย
อย่าว่าแต่หมื่นล้านเลย ถึงเป็นเงินแสนล้าน ล้านล้าน วางอยู่ตรงหน้าเขา เขาก็ไม่สนใจสักนิด เงินเป็นเพียงสิ่งของนอกกายสำหรับเขามาตลอด
“พวกนายสองคน มีหนึ่งคนที่ต้องตาย” มู่เซิ่งพูดคำพูดก่อนหน้านี้ซ้ำอีกรอบ แล้วพูดเสริมอีกประโยค “หลังจากสามนาทีถ้ายังไม่มีคำตอบ พวกนายสองคนอย่าหวังว่าจะรอด”
เมื่อสิ้นเสียง……