มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 386 กินบาทาของผมสักหน่อยดีไหม
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 386 กินบาทาของผมสักหน่อยดีไหม?
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ให้ประธานของพวกคุณออกมาหน่อย”มู่เซิ่งกล่าว
สู้กับคนกลุ่มนี้ อย่าไปเสียเวลาเถียงกับพวกเขา ใช้กำปั้นของตนเองเพื่อให้พวกเขาปิดปากดีกว่า
สมาชิกในสมาคมต่างตกใจ แล้วเผยสีหน้าเยาะเย้ย ไอ้หมอนี่กล้าดียังไงมาท้าทายประธานของพวกเขา?
“คุณต้องการสู้กับผมจริงๆเหรอ?”ประธานจี้เหว่ยหรี่ตาลง
การเตะของมู่เซิ่งนั้นน่าทึ่งมาก ไม่ว่าในแง่ของพละกำลังหรือความเร็ว ดูเหมือนว่าไม่ใช่คนธรรมดาจะเตะมันออกมาไม่ได้ ต้องฝึกฝนบูโดมาหลายปี และยังมีพรสวรรค์อยู่บ้าง
แต่จี้เหว่ยมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเองมากกว่า
เขาฝึกฝนเทควันโดมาตั้งแต่เด็ก และฝึกฝนอย่างหนักเป็นเวลาสิบปี ก่อนที่จะได้เลื่อนขั้นจากสายขาวเป็นสายดำ ระดับสายดำแบ่งเป็นหนึ่งถึงเก้าขั้น ขั้นที่หนึ่งถึงสามเป็นสายดำใหม่ ส่วนขั้นที่สี่ถึงหกเป็นสายดำที่ความแข็งแกร่งเป็นระดับปรมาจารย์ ส่วนขั้นที่เจ็ดถึงเก้า ต้องมีความรู้ระดับสูงหรือผู้ที่มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเทควันโดเท่านั้น
และตอนนี้ จี้เหว่ยเป็นสายดำระดับ 5 ในเทควันโด รู้ได้เลยว่าความแข็งแกร่งของเขาถึงระดับที่น่ากลัวอย่างหาที่เปรียบมิได้
ดังนั้น แม้ว่าการเตะของมู่เซิ่งจะน่าทึ่ง แต่สำหรับเขาแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกกลัว
“สู้” มู่เซิ่งเน้นเพียงคำเดียว
รูม่านตาของประธานจี้เหว่ยหดตัว มู่เซิ่งพูดเช่นนั้นแล้ว เขาก็ต้องรับคำท้ามิฉะนั้น ไม่เพียงแต่จะทำให้เขาอับอายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชุมชนเทควันโดทั้งหมดด้วย
เขาก้าวถอยหลังไปหนึ่งก้าว และเมื่อเขากำลังจะวอร์มอัพ มู่เซิ่งก็พูดขึ้นอีกครั้ง
“รอสักครู่”มู่เซิ่งกล่าว
“ทำไม คุณกลัวเหรอ?”ประธานจี้เหว่ยหยุดการเคลื่อนไหวและถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
มู่เซิ่งส่ายหัวและพูดว่า”ผมอยากให้คุณคุยกับสมาชิกของคุณก่อน เกรงว่าเดี๋ยวผมทำคุณเจ็บจนสาหัส และพวกเขาจะบอกว่าผมทำแรงเกินไป”
มู่เซิ่งไม่ต้องการได้ยินคนเหล่านั้นส่งเสียงดังอีก
อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เขาพูดแบบนี้ ด้านล่างก็มีคนไม่พอใจทันที โดยเฉพาะสมาชิกของสโมสรที่ด่าแรงที่สุดในเมื่อกี้ เขาพูดด้วยความโกรธ”มู่เซิ่ง คุณหมายความว่ายังไง?คิดว่าจะเอาชนะประธานของเราจริงๆเหรอ?”
“เหอะๆ หลังจากเอาชนะศิษย์พี่ถานแล้ว ก็มองไม่เห็นตัวตนของตัวเองแล้วเหรอ?”
“ใช่ ผมไม่ได้รู้สึกว่าการเตะนั้นทรงพลังมากนัก อย่างมากก็แค่ศิษย์พี่ถานประเมินศัตรูต่ำเกินไปก็เท่านั้นเอง คิดไม่ถึงว่าจะคิดว่าตนเองเป็นปรมาจารย์จริงๆ และไม่เห็นแม้แต่ประธานของเราอยู่ในสายตา ”
คนในชมรมเทควันโดเกือบทั้งหมดเป็นแฟนตัวยงของประธานจี้เหว่ยคำพูดของมู่เซิ่ง แหย่ให้รังแตนแตกทันที
แม้แต่คนใต้เวทียังทนไม่ได้
พวกเขาล้วนเป็นผู้สัญจรผ่านไปมา และพวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับการต่อสู้พวกนี้ ก็แค่มาดูเพราะความสนุกเท่านั้น แต่ประธานจี้เหว่ยเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงมายาวนานในมหาวิทยาลัยหนานเจิ้งถือเป็นตัวแทนของมหาวิทยาลัยหนานเจิ้ง ตอนนี้ เมื่อมู่เซิ่งพูดอย่างนั้น พวกเขาทั้งหมดก็โกรธมาก
“ประธานจี้เหว่ยเคยเข้าร่วมการแข่งขันนักศึกษาวิทยาลัยแห่งชาติมาก่อน และได้รับรางวัลชนะเลิศ ผู้ชายคนนี้มีความสามารถอะไรเหรอ กล้าบอกว่าเขาจะทำร้ายประธานจี้เหว่ยได้”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ช่างหยิ่งผยองจริงๆ”
“คนประเภทนี้ที่ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ก็ควรถูกยกลงไป!”
เสียงเหยียดหยามและเย้ยหยันทุกชนิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ซูอีเข่อและถงเสี่ยวเย่ดูฉากนี้อย่างประหม่า แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกว่ามู่เซิ่งจะพูดเกินไป
ประธานจี้เหว่ยยกมือขึ้น
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ด้านล่างก็หยุดลงทันที
เขามองไปที่มู่เซิ่งอย่างเคร่งขรึม หลังจากมีชื่อเสียงแล้ว มันเป็นครั้งแรกที่เขาถูกยั่วยุโดยคนแบบนี้ เขารู้สึกโกรธเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ถ้าผมทำให้คุณบาดเจ็บสาหัส คุณจะทำอย่างไร?”
“ฝีมือด้อยกว่าคนอื่น ต่อให้ผมถูกฆ่า ผมก็สมควรได้รับมัน”มู่เซิ่งยักไหล่
“โอเค ดีมาก!” จี้เหว่ยหัวเราะเสียงดัง จากนั้นหันกลับมาและพูดกับสมาชิกที่อยู่ข้างหลังเขา”ในเมื่อมู่เซิ่งพูดเช่นนั้นแล้ว ถ้าครั้งนี้ผมบาดเจ็บสาหัส มันเป็นเพราะฝีมือผมด้อยกว่าเขา ไม่ได้เกี่ยวกับมู่เซิ่ง”
“ประธานจี้เหว่ย ไม่มีทางหรอก!”
“อย่างมู่เซิ่งเนี่ยนะ เขาคู่ควรที่จะทำร้ายคุณเหรอ?”
“อย่างไรก็ตาม ในการแข่งขันต่อจากนี้ ประธานจี้เหว่ย คุณก็ไม่ต้องกังวลอะไร ลงมือให้เต็มที่ เขาพูดเอง ฆ่าเขาตายก็ไม่เป็นไร!”
สมาชิกชุมรมกล่าว
ทุกคนโห่ร้องให้กับฉากที่อยู่ตรงหน้า พวกเขาหวังว่า ประธานจี้เหว่ยจะสั่งสอนชายผู้หยิ่งยโสคนนี้ และให้เขารู้ถึงพลังของเทควันโด
“มาเถอะ!”
หลังจากวอร์มร่างกายเสร็จ ประธานจี้เหว่ยหยุดที่กลางเวที จับเสื้อเทควันโดของเขาและโยนลงไป กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แน่นของเขาดึงดูดสาวๆนับไม่ถ้วนให้ส่งเสียงเชียร์และให้กำลังใจ
ประธานจี้เหว่ยมีรูปร่างที่พอดี สูงและหล่อเหลามาก เหมือนกับพระเอกในละคร และได้รับแฟนๆนับไม่ถ้วน
ส่วนมู่เซิ่งที่ยืนอยู่อีกด้านหนึ่ง แม้ว่าหน้าตาของเขาก็พอได้ แต่รูปร่างของเขาที่ห่อด้วยเสื้อผ้าไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเลย เมื่อเทียบกันทั้งสองคน เขาดูผอมมาก
ดังนั้น ไม่ว่าในแง่ของความสูง ผลงานการต่อสู้ หรือจำนวนแฟนๆ จี้เหว่ย ก็ชนะมู่เซิ่งได้อย่างสมบูรณ์
“ลงมือเลย ถ้าปล่อยให้ผมลงมือก่อน คุณไม่มีโอกาสหรอก”มู่เซิ่งยืนอยู่ที่เดิมโดยไม่ขยับ
“หยิ่งผยองจริงๆ!”
จี้เหว่ยตะคอกด้วยความโกรธ
เขามีประวัติที่น่าทึ่งเช่นนี้ ดังนั้นเขาจึงรู้สึกภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ทั้งมหาวิทยาลัยหนานเจิ้ง คนเดียวที่เขารู้สึกว่าเก่งคือถงเสี่ยวเย่
คนอย่างมู่เซิ่ง เขาจะเห็นเขาอยู่ในสายตาได้อย่างไร
แต่ตอนนี้ กลับถูกคนที่เขาคิดว่าด้อยกว่าเยาะเย้ย ความโกรธในใจของจี้เหว่ยก็ไม่สามารถระงับได้ในพริบตา
เขาไม่ได้ลีลา ถอยหลังไปสองก้าว จากนั้นก็หมอบลงและพุ่งเข้าหามู่เซิ่งด้วยความเร็วสูง!
“ตึ้งๆๆๆ!”
เท้าทั้งสองข้างอยู่บนพื้น เวทีประลองสั่นอย่างรุนแรง!
หลังจากนั้น จู่ๆร่างของเขาก็ลอยขึ้นไปในอากาศและเตะไปที่หัวของมู่เซิ่ง ด้วยความเร็วที่เร็วมาก ก่อนที่เขาจะไปถึงมู่เซิ่ง ก็มีลมกระโชกแรง
“จี้เหว่ยคนนี้ก็เก่งอยู่นะ”มู่เซิ่งมองดูจี้เหว่ยเตะมาที่เขา แต่ร่างกายของเขากลับไม่ขยับ
ด้วยสายตาของเขา แน่นอนว่าเขาสามารถดูออกว่าความแข็งแกร่งของจี้เหว่ยนั้นแข็งแกร่งกว่าของถานซิงก่อนหน้านี้มาก และเขาเกือบจะถึงปรมาจารย์บู๊แล้ว แดนของปรมาจารย์บู๊ หายากแค่ไหน?ในฐานะนักศึกษาวิทยาลัย เขาสามารถเข้าใกล้ถึงแดนนี้ ถือว่าเป็นอัจฉริยะในด้านบูโดแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่เขาสามารถมีชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยหนานเจิ้งได้ในระยะเวลาอันสั้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุผลที่ไม่มีใครชี้แนะ ความแข็งแกร่งของเขา มันจะเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาที่จะพัฒนาขึ้นหลังจากมาถึงระดับนี้ บางทีเขาอาจจะโชคดีที่จะมีโอกาสก้าวไปสู่ปรมาจารย์บู๊ แต่ถ้าไม่ ชีวิตนี้ก็จะไม่มีโอกาสแล้ว
เมื่อเห็นฉากที่เก่งกาจเช่นนี้ ทุกคนในกลุ่มผู้ชมก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงตกใจออกมา
สมาชิกเทควันโดเหล่านั้นสูบหายใจเข้าลึก “ความแข็งแกร่งของประธานจี้เหว่ยพัฒนาขึ้นอีกแล้ว!”
คาดว่าถ้าตอนนี้การไปสอบสายดำระดับหกก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
“ผมก็อยากจะดูว่ามู่เซิ่งจะรับมือกับการเตะนี้ได้อย่างไร!”สมาชิกชมรมเทควันโดเย้ยหยันอยู่ในใจ
หากพวกเขาเผชิญกับการเตะนี้ พวกเขาจะไร้ซึ่งพลังที่จะรับมือ แม้ว่าจะมีพละกำลังเทียบเท่ากับสายดำ ก็ต้องถอยเพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีนี้ แต่เมื่อถอยออกไป การจู่โจมครั้งต่อไปของจี้เหว่ยจะไหลราวกับน้ำท่วม ไหลไม่หยุด
ดังนั้น ในขณะที่ประธานจี้เหว่ย เคลื่อนไหว มู่เซิ่งก็พ่ายแพ้ไปแล้ว
“ความเร็วดี แต่ขาดพละกำลังไปหน่อย…”
อย่างไรก็ตาม การเตะนี้ตกลงไปที่ด้านหน้าของมู่เซิ่ง และมู่เซิ่งไม่ขยับเลย แต่ส่ายหัวและเริ่มแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการเตะนี้
“หาที่ตายชัดๆ!”ดวงตาของจี้เหว่ยแดงก่ำ
เขาโกรธ โกรธมากจริงๆ คนที่เก่งกาจและเป็นที่ภาคภูมิใจอย่างเขา เคยถูกเหยียดหยามแบบนี้ที่ไหนเล่า?เขาตัดสินใจที่จะไม่ยั้งมืออีกต่อไป และเตะมู่เซิ่งให้ตายต่อหน้าทุกคน!
ฮู้!
จี้เหว่ยเร่งความเร็วอย่างกะทันหัน เท้าขวาของเขาอยู่ห่างจากมู่เซิ่งเพียงไม่กี่ก้าว!
“การยืมพลังจากอากาศ ถือว่าเก่ง และมันก็เพียงพอแล้วที่จะดูถูกคนรอบข้าง…”
“ว่าแต่ ลองการเตะของผมดูหน่อยจะเป็นไงล่ะ?”
มู่เซิ่งยิ้มอย่างกะทันหัน และยกเท้าขวาของเขาขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใต้แรงของเท้าซ้ายของเขา กระเบื้องปูพื้นด้านล่างแตกเป็นเสี่ยงๆ และเท้าขวาของเขาเหมือนขวานยักษ์กระแทกลงไปที่จี้เหว่ย!
สีหน้าของจี้เหว่ยเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน