มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 387 บ้าไปแล้ว
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 387 บ้าไปแล้ว
ซู่!
มู่เซิ่งถอยไปหนึ่งก้าว ยกเท้าขวาขึ้นทันที และยืดร่างกายของเขาตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนธนู ภายใต้แรงกระแทก ก้อนหินที่อยู่ใต้เท้าของเขาแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย แม้ว่าทุกคนในผู้ชมจะมองไม่เห็น แต่ก็สัมผัสได้ถึงคลื่นอากาศที่มองไม่เห็นซึ่งรวมตัวกันที่เท้าขวาของมู่เซิ่ง
จากนั้น เมื่อเท้าขวาของมู่เซิ่งถึงจุดสูงสุด ก็ผ่าลงมาอย่างแรง!
“ระวัง!”
สีหน้าของสมาชิกชมรมเทควันโดเปลี่ยนไป การเตะของมู่เซิ่งมีพลังมากกว่าการเตะของจี้เหว่ยมาก
อย่างไรก็ตาม ขณะที่พวกเขาอ้าปาก การเตะของมู่เซิ่งก็ตกลงมาในอากาศ
ความเร็วนั้นเร็วมาก ราวกับลูกปืนใหญ่ที่ยิงออกมาด้วยความโกรธ ตัดผ่านอากาศ ราวกับว่ายักษ์ป่ายกขวานผ่าภูเขาในมือของเขา แล้วฟันลงบนภูเขาอันใหญ่ ผ่าลงมาสุดแรง
ผ่าลงมา แหลกเป็นสองท่อน!
จี้เหว่ยยังคงเตะไปในอากาศโดยไม่หยุด ร่างกายของเขาลอยอยู่ในอากาศ แต่การเตะของมู่เซิ่งได้เปลี่ยนการเคลื่อนไหวของเขาโดยตรง และทำให้เขาล้มลง และเขาก็กระแทกลงไปที่พื้น กระเบื้องปูพื้นบนพื้นก็แตกออกและ ชิ้นส่วนระเบิดในอากาศไปทั่วทุกทิศ
มู่เซิ่งกลัวว่าการโจมตีจะหนักเกินไป ดังนั้นเขาจึงใช้พละกำลังเพียงไม่ถึงหนึ่งในสิบของพละกำลังของเขา แต่ยังไงซะ เขาก็เป็นนักเสวียนระดับสอง แม้ว่าพละกำลังของเขาจะถูกจำกัดไว้จนถึงขีดสุด และไม่ได้ใช้หมัดห้าสายฟ้า และการเตะนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่จี้เหว่ยสามารถทนรับได้เลย
“บูม!”
ทุกคนได้ยินเพียงเสียงระเบิดพร้อมกับเสียงกระดูกหักที่ทำให้เสียวฟัน
หลังจากที่จี้เหว่ยกระแทกกับพื้น เขาก็เด้งตัวขึ้นอีกครั้ง จากนั้นกลิ้งไปสองครั้งบนเวที และล้มลงไปบนพื้น ดวงตาของเขาปิดแน่น และร่างกายของเขาเต็มไปด้วยร่องรอยของเลือด
ผู้ชมทุกคนต่างตกตะลึง
ทุกคนเงียบกริบ
พวกเขาไม่คาดคิดว่ามู่เซิ่งจะชนะจี้เหว่ยจริงๆ และเขาก็ชนะอย่างง่ายดาย ด้วยการเตะอย่างสบายๆก็สามารถทำให้จี้เหว่ยไม่มีแรงสู้กลับ
“เขา ความแข็งแกร่งของเขาแข็งแกร่งขนาดไหนหรือ?”
ทุกคนสั่นสะท้านในใจ และคำรามเสียงต่ำด้วยความเหลือเชื่อ
จี้เหว่ยแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว เป็นแชมป์ระดับประเทศ และสายดำระดับ 5 ในเทควันโด
อย่างไรก็ตาม คนเก่งกาจเช่นนี้ ต่อหน้ามู่เซิ่ง กลับไม่สามารถรับไว้แม้แต่กระบวนท่าเดียว และได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยตรง
สีหน้าของสมาชิกเทควันโดเปลี่ยนไปชั่วขณะ จากนั้นพวกเขาก็กระโดดลงจากเวทีประลองอย่างรวดเร็ว และวิ่งไปที่ด้านข้างของจี้เหว่ย เมื่อเห็นจี้เหว่ยหมดสติ แววตาก็แสดงความโกรธ
“คุณ คุณกล้าทำร้ายประธานของเราถึงขนาดนี้เหรอ?”
“คุณรู้ไหมว่าเขาเป็นน้องชายของจี้ชาวฉวิน?!”
มู่เซิ่งยักไหล่และพูดว่า”ก่อนหน้านี้ประธานของพวกคุณก็เคยพูดแล้ว สู้ไม่ไหวก็เพราะฝีมือด้อยกว่าคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้น ผมไม่ได้ฆ่าเขานิ”
กลุ่มสมาชิกเหล่านั้นพูดไม่ออก แต่พวกเขายังคงส่งเสียงอย่างเย็นชา ในสายตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง
วันนี้ ชื่อเสียงชมรมเทควันโดของพวกเขาถือว่าดับไปหมดแล้วจริงๆ
มู่เซิ่งส่ายหัว รู้ว่าเขาถูกพวกสมาชิกชมรมเทควันโดเกลียดแล้ว แต่เขาไม่สนใจ นักศึกษาเหล่านี้เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ เขายังคงใช้นิ้วชี้ต่อและพูดว่า”ต่อจากนี้ ชมรมเทควันโดของพวกคุณ อย่าไปหาเรื่องซูอีเข่อกับถงเสี่ยวเย่อีกล่ะ ไม่งั้นคราวหน้าผมจะมาอีก”
สมาชิกชมรมเทควันโดไม่มีใครพูด
ไม่เพียงแต่ผู้คนบนเวทีเท่านั้น แต่ผู้ชมที่อยู่ด้านล่างก็เงียบเช่นกัน หมัดของมู่เซิ่งทำให้พวกเขาตกใจจริงๆ และทำให้พวกเขาเข้าใจความหมายที่ว่า เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน
มู่เซิ่งพอใจกับผลการทำให้ตกตะลึงเป็นอย่างมาก พยักหน้าและกระโดดลงจากเวทีโดยตรง
ในเวลานี้ จี้เหว่ยลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แต่ร่างกายของเขาอ่อนแรงและเท้าของเขาก็ชา ทำได้เพียงเฝ้าดูมู่เซิ่งจากไป
เขา จี้เหว่ย เป็นคนที่หยิ่งผยองเพียงใด เคยได้รับเกียรติมากมายเพียงใด นอกจากพี่ชายแล้วเขาไม่เคยยอมใครเลย แต่ตอนนี้ เขาพ่ายแพ้มู่เซิ่งในที่สาธารณะ เขารู้สึกอับอายและโกรธมาก ไม่ทันใดเลือดก็พุ่งกระฉูดออกมาเต็มปาก
“ไอ้หนู อย่าชะล่าใจไป!”เมื่อเห็นสิ่งนี้ สมาชิกชมรมเทควันโดก็ตะโกนว่า “ถ้าเก่งจริงก็รอพี่ชายของจี้เหว่ยมาสิ เขาเป็นนักบู๊ตัวจริง!”
“ใช่ๆ คุณไม่รู้หรอกว่าจี้ชาวฉวินทรงพลังแค่ไหน!”
“ดูซิว่าคุณจะหยิ่งผยองได้นานแค่ไหน!”
เมื่อคนอื่นเห็นสิ่งนี้ พวกเขาต่างก็คำราม
“พี่ชายของคุณเป็นนักบู๊เหรอ?”มู่เซิงยกคิ้วขึ้นด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ที่แท้จี้เหว่ยมาจากตระกูลบู๊ ไม่น่าล่ะที่เขาอายุแค่นี้ก็ทรงพลังขนาดนี้แล้ว เขาต้องได้รับการฝึกฝนจากปรมาจารย์ในตระกูลแน่นอน แต่ถึงอย่างนั้น มู่เซิ่งไม่สนใจ เขาพูดว่า”งั้นพวกคุณก็เรียกเขามาซะ ผมจะรอ”
หลังจากนั้น มู่เซิ่งก็เดินไปที่นั่งผู้ชมโดยไม่หันกลับมามอง
“เป็นไงบ้าง พอใจไหม?”
มู่เซิ่งยืนอยู่ที่นั่งผู้ชม ถามซูอีเข่อกับถงเสี่ยวเย่
“เอิ่ม…พอใจ พอใจ”
ซูอีเข่อพยักหน้าอย่างเอ๋อๆ เธอรู้สึกทึ่งกับความแข็งแกร่งของมู่เซิ่งมาก เดิมทีเธอคิดว่ามู่เซิ่งเป็นเพียงคนธรรมดาที่เก่งหน่อยๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขาคือปรมาจารย์นะ!
และเป็นปรมาจารย์ที่เก่งกาจมาก!
ฉากในวันนี้ ได้พลิกความรู้ความเข้าใจของทั้งสองคนไปอย่างสิ้นเชิง ใครบ้างที่สู้ได้สวยขนาดนี้ และยังเอาชนะถานซิงกับจี้เหว่ยได้อย่างง่ายดาย!
“ฮ่าฮ่าฮ่า อวดดีสิ ชมรมเทควันโดของพวกคุณเก่งนักใช่ไหม?ต่อไปก็ทำตัวดีๆหน่อย ไม่อย่างนั้นเราจะทุบตีพวกคุณทุกครั้งที่เจอแน่!”
ซูอีเข่อพูดกับสมาชิกชมรมเทควันโดคนนั้นด้วยความเสียงดัง
แก้มของคนกลุ่มนั้นแดงก่ำ แต่พวกเขาโกรธมากจนพูดไม่ออกสักคำ ครั้งนี้ พวกเขาถูกมู่เซิ่งท้าทาย และพวกเขาก็พ่ายแพ้อย่างยับเยิน
ท่าทางแยกเขี้ยวยิงฟังของซูอีเข่อทำให้มู่เซิ่งรู้สึกตลก”อายุน้อยนี่ดีจริงๆ”
หลังจากที่ทั้งสามคนออกจากชมรมเทควันโด และเดินไปตามทางที่มีต้นไม้เรียงรายของมหาวิทยาลัย ทั้งสองคนก็ทนความตื่นเต้นในใจไม่ไหวอีกต่อไป และพูดอย่างอยากรู้อยากเห็นและตื่นเต้นว่า”เหี้ย ลุง ทำไมคุณถึงเก่งขนาดนั้น?”
“ใช่ มันทรงพลังยิ่งกว่าที่ฉันเคยเห็นในหนัง!”
ถงเสี่ยวเย่เตะเท้าของเธอสองครั้ง และพยายามเลียนแบบการกระทำของมู่เซิ่งในเมื่อกี้นี้ พวกเธอเคยเห็นฉากนั้นในทีวีเท่านั้น และไม่เคยเจอในชีวิตจริง
สายตาที่ทั้งสองคนมองไปที่มู่เซิ่งในตอนนี้ เต็มไปด้วยความเคารพ
มู่เซิ่งอดไม่ได้ที่จะยกคิ้วขึ้น“ลุง?ผมแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า พี่มู่ คุณไม่รู้หรือว่าตอนนี้ผู้หญิงชอบลุง?” ซูอีเข่อปิดปากและยิ้ม และมู่เซิ่งเพิ่งสังเกตเห็นหน้าอกที่สั่นเทาของเธอ คิดไม่ถึงว่าผู้หญิงผมลอนใหญ่ ใบหน้าอ่อนเยาว์ ก็เซ็กซี่ไม่เบานะ
มู่เซิ่งย้ายสายตาไปทางอื่นและพูดว่า”ในเมื่อเรื่องนี้ได้รับการแก้ไขแล้ว ผมก็ขอตัวกลับไปก่อนนะ?”
“อ้าว พี่มู่ พี่จะกลับแล้วเหรอ มีธุระด่วนหรือเปล่า?” ซูอีเข่อพูดอย่างไม่พอใจ
“เปล่า ผมแค่…”
“แบบนั้นก็โอเคแล้ว วันนี้ชนะชมรมเทควันโด พี่จะฉลองให้คุณ ไปกันเถอะ!”
ซูอีเข่อดึงมือมู่เซิ่งและเข้าไปในรถของเธอโดยตรง
วันนี้หลังจากเอาชนะจี้เหว่ยต่อหน้าทุกคน ซูอีเข่อก็โทรหาเพื่อนเหล่านั้นของเธออย่างตื่นเต้น โดยบอกว่าเธอต้องการฉลองให้มู่เซิ่ง
……
ในไม่ช้า ซูอีเข่อก็ขับรถมาถึงที่หมาย
หลังจากพวกเขาลงจากรถ มู่เซิ่งก็พบว่าที่นี่ไม่ใช่บาร์ แต่เป็นสนามแข่งรถ แถมยังเป็นสนามแข่งรถใต้ดินส่วนตัวด้วย!
ที่นี่มีผู้คนมากมาย มีรถทุกชนิดจอดเรียงราย สาวงามในชุดบิกินี่เดินผ่านที่นี่ และผู้คนหลายประเภทเดินไปมาตามทาง
มู่เซิ่งอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ซูอีเข่อบ้าไปแล้วใช่มั้ย?คิดไม่ถึงว่าเธอจะพาเขามาสถานที่แบบนี้