มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง - บทที่ 65 เห็นสิ่งผิดปกติ
มู่เซิ่ง เขยอันดับหนึ่ง บทที่ 65 เห็นสิ่งผิดปกติ
“มีภรรยาแล้วจะยังไงล่ะ? “
หลี่นั่วหนานถอนหายใจอย่างไม่ค่อยพอใจ และตีไปที่ทรวงอก ทำให้เนินอกทั้งสองกระเพื่อม พร้อมกับพูดขึ้นว่า “นอกจากนี้ เหมือนว่าภรรยาของนายจะไม่ค่อยชอบลักษณะอย่างนายนี้ นายซักผ้าทำอาหารอยู่ที่บ้านทุกวัน นายทนรับได้เหรอ? ”
“ฉันจะทนรับได้หรือไม่ได้ เหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธอเลยนะ? ” มู่เซิ่งพูดขึ้นอย่างเย็นชา
“ฉันก็แค่รู้สึกไม่ยุติธรรมแทนนายเท่านั้น”
หลี่นั่วหนานขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย ในใจคิดว่า ไอ้หนุ่มคนนี้ แม้แต่จะพูดไม่ดีต่อภรรยาก็ยังไม่กล้าเลย ช่างไม่ได้เรื่องเสียจริง แต่เมื่อนึกถึงภารกิจของจางเหวินเจี๋ยแล้ว เธอก็พูดต่อว่า:
“มู่เซิ่ง ผู้หญิงอย่างเจียงหว่านนี้คงจะไม่ยอมให้นายร่วมหลับนอนด้วยใช่ไหมล่ะ? ”
“พูดตามจริง ที่จริงแล้วนายก็มีหน้าตาที่ไม่เลว ซึ่งยังจะมีหน้าตาที่ดูดีกว่าแฟนคนก่อนของฉันอีก”
“นายคิดว่าฉันเป็นอย่างไรบ้าง? ที่จริงแล้ว เพียงแค่นายเต็มใจ ฉันก็สามารถ……”
เมื่อพูดจบ หลี่นั่วหนานก็แนบตัวชิดไปที่ร่างของมู่เซิ่ง หายใจรบเร้า ยักคิ้วหลิ่วตา เสื้อผ้าบนร่างกายแทบจะถอดลงมาเกือบครึ่งแล้ว “มู่เซิ่ง พวกเราไปพูดคุยกันที่ห้องน้ำดีไหม? ”
“ไปที่ห้องน้ำทำไม? ”
มู่เซิ่งรู้สึกว่าน่าขันอย่างบอกไม่ถูก
แม้ว่าเขาจะมีรูปลักษณ์หน้าตาที่สดใส แต่ก็ไม่ได้ดูดีถึงขนาดนั้น ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ เขายังได้ตบหน้าหลี่นั่วหนานอย่างหนักที่ในห้องโถง ทำไมเธอถึงยังจะมาทำดีต่อตนเองอีก? แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าทำไมตอนนี้เธอถึงได้มาล่อลวงยั่วยวนตนเอง แต่คงจะต้องมีเป้าหมายเป็นแน่
ขณะที่กำลังจะพูดอะไรออกไป ทางด้านหลังก็พลันมีเสียงของชายที่มึนเมาดังผ่านเข้ามา “แหะแหะ น้องคนสวย หากว่าเธอหื่นกระหายขนาดนี้ มาหาฉันก็ได้นะ”
เสียงหัวเราะที่ลามกดังขึ้นมาจากด้านหลัง โดยข้างหลังของระเบียง มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังเดินเข้ามา และมองไปที่หลี่นั่วหนาน ซึ่งเขาได้กวาดสายตาและจดจ้องไปยังเนินอกที่อวบอึ๋มของหล่อนอย่างไม่เกรงกลัว
ชายคนนี้มีชื่อว่ากวนหยัง ในฐานะที่เป็นรองผู้จัดการของ Royal Club จึงมีเส้นสายสัมพันธ์กับผู้คนมากมาย มักจะดื่มเหล้ากับพวกลูกค้าระดับสูง ดังนั้นในวงการนี้ ถือว่าพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง โดยทั่วไปจะเรียกขานว่าผู้จัดการกวน
ครั้งนี้ เขาเพิ่งจะดื่มเหล้าเสร็จ โดยอั้นปัสสาวะจนเต็มที่แล้วจึงออกมาเข้าห้องน้ำ
แต่ทว่าขณะที่เขาเข้าห้องน้ำเสร็จ ก็เห็นหลี่นั่วหนานอยู่ที่ระเบียง รูปร่างหน้าตาสวยงาม แต่ผู้ชายที่หล่อนตามจีบนั้น……อยู่ในชุดเสื้อผ้าแบกะดิน มองดูแล้วก็คงจะเป็นผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องทั่วไป
ขณะที่หลี่นั่วหนานใช้สองมือดันทรวงอกขึ้นนั้น กวนหยังก็เกิดอาการแอลกอฮอล์ขึ้นสมอง เขาอดทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงได้ผลักประตูระเบียงและเดินเข้ามา
“นายเป็นใคร? เข้ามาทำอะไร? ” ขณะกระทำการได้เพียงครึ่ง ก็ถูกชายคนนี้ขัดจังหวะเอาไว้ หลี่นั่วหนานจึงโมโหอย่างมาก
“ฉันก็มาหาคุณยังไงล่ะ น้องคนสวย ไม่สิ ควรจะเรียกว่าหญิงสาวสวยต่างหาก” กวนหยังจ้องมองไปที่หลี่นั่วหนานด้วยความลามก และพูดว่า “หญิงสาวสวย คุณสวยงามขนาดนี้ จำเป็นที่จะต้องไปหาคนที่ไม่ได้เรื่องอย่างนี้ด้วยเหรอ? มาอยู่กับฉันดีกว่าไหม ฉันรับรองว่าคุณต้องการอะไรก็จะได้ทุกอย่างตามต้องการเลย”
“ฉันจะชื่นชอบใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับนายด้วย? ” หลี่นั่วหนานสีหน้าไม่พอใจ “มาจากที่ไหน ก็ไสหัวกลับไปที่นั่นซะ! ”
“โอ้ว คิดไม่ถึงว่าอารมณ์จะรุนแรงขนาดนี้เลย” กวนหยังหัวเราะฮิฮิและพูดขึ้น ถึงแม้จะถูกดุด่า แต่สีหน้าท่าทางก็ยังไม่มีความโกรธเคืองแต่อย่างใด
มู่เซิ่งยืนพิงอยู่ที่ขอบระเบียง มองดูเหตุการณ์ดังกล่าวนี้
ที่หลี่นั่วหนานยั่วยวนตนเอง มีจุดประสงค์ที่ไม่บริสุทธิ์ คงจะต้องคิดไม่ดีเป็นแน่ ส่วนกวนหยังที่อยู่ด้านหน้านี้ ชัดเจนว่าไม่ใช่คนดีอะไร สำหรับเรื่องนี้แล้ว เขาไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย
“นายหัวเราะอะไรวะ? ”
กวนหยางยื่นมือชี้ไปที่มู่เซิ่ง และพูดว่า: “รู้กาละเทศะเสียบ้าง รีบไสหัวไปซะเดี๋ยวนี้! ผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องได้ราวอย่างนายนี้ คิดที่จะมาเรียนรู้การตามจีบหญิงสาวด้วย ไม่รู้จริง ๆ ว่าขึ้นมาอยู่ที่ชั้นห้านี้ได้อย่างไร”
“หากยังไม่ไป เชื่อไหมว่าฉันจะเรียกคนมาจับนายโยนลงไปชั้นล่างเดี๋ยวนี้? ”
มู่เซิ่งขมวดคิ้วขึ้น ไม่อยากที่จะสนใจ หันหลังแล้วก็เดินกลับไปที่ห้องรับรอง
เมื่อเห็นว่ามู่เซิ่งหันหลังเดินจากไปแล้ว กวนหยังก็นึกว่าเขาเกรงกลัวแล้ว ก็พลันยิ้มเยาะและยื่นมือไปจับที่หลี่นั่วหนาน “ฮ่าฮ่าฮ่า คุณดูสิว่าคุณตามจีบผู้ชายที่ไม่ได้เรื่องขนาดไหน ถูกดุด่าแล้วก็ยังไม่กล้าพูดตอบโต้เลยสักคำ คุณมาอยู่กับฉันดีกว่า! ”
“ช่วยด้วย มู่เซิ่ง ช่วยฉันด้วย! ”
หลี่นั่วหนานตกใจจนต้องก้าวถอยหลังอย่างไม่หยุด
“ช่วยเหลืออะไรกัน? ไอ้คนที่ไม่ได้เรื่องแบบนี้จะไปมีอะไรดีล่ะ มาอยู่กับฉัน ฉันมีเงินทองมากมายให้คุณได้ใช้จ่าย! ” กวนหยังยิ้ม และจับไปที่ข้อมือของหลี่นั่วหนาน บังคับให้หล่อนไปติดอยู่ที่มุมกำแพง
“ไม่ใช่ ที่จริงแล้วฉันมีแฟนอยู่แล้ว”
หลี่นั่วหนานตื่นตกใจ จนต้องพูดออกมา
“มีแฟนอยู่แล้วยังจะออกมายั่วยวนอีกเหรอ? ฮ่าฮ่า ถ้างั้นฉันทำแบบนี้ ก็สมความปรารถนาของคุณล่ะสิ? ”
“ฉันยังมีเพื่อนร่วมชั้นอยู่ในห้องรับรองนะ ถ้านายทำแบบนี้จะต้อง อ่า—-”
เดิมทีหลี่นั่วหนานคิดที่จะเอ่ยชื่อของจางเหวินเจี๋ยออกมาเพื่อคุ้มครองตัวเอง แต่คิดไม่ถึงว่าเวลานี้กวนหยังได้ยื่นมือมา ฉีกเสื้อผ้าของหล่อนจนขาดหลุดออกมาชิ้นหนึ่ง จนผิวที่ขาวนวลถูกเปิดเผย ทำให้หล่อนตกใจจนถึงกับตะโกนร้องเรียกไม่หยุด
“จุ๊จุ๊ ช่างขาวจริง ๆ หากคิดจะกรีดร้อง ก็ไปกรีดร้องในห้องรับรองกับฉันแล้วกัน! ”
กวนหยังจับตัวหลี่นั่วหนาน บังคับพาหล่อนไปยังห้องรับรองห้องหนึ่งที่ว่างอยู่
“มู่เซิ่ง ช่วยฉันด้วย ขอร้องล่ะ ช่วยฉันด้วย! ” หลี่นั่วหนานตะโกนเรียกพร้อมกับน้ำตาไหล
พูดตามจริง มู่เซิ่งไม่อยากที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้จริง ๆ
เดิมทีหลี่นั่วหนานก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นผู้หญิงที่ดีอะไร แต่ เพราะความเป็นธรรมที่มีมานานหลายปีถ้าหากเห็นหล่อนถูกกวนหยังลากเข้าไปในห้องรับรอง แล้วเขาเองก็จะทนทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นก็ไม่ได้
โธ่
ช่วยเหลือหน่อยเถอะ หวังว่าต่อไปหล่อนจะรู้จักแก้ไขปรับปรุงตัวเองบ้าง
มู่เซิ่งส่ายศีรษะ ยื่นมือมาแตะที่ไหล่ของกวนหยัง:
“เฮ่ยเฮ่ย นายลงมืออย่างโจ๋งครึ่มแบบนี้ มันไม่ค่อยจะดีเท่าไรมั้ง? ”
“นายคิดจะทำอะไร? ”
กวนหยังหันหน้ากลับมา และดุด่า ด้วยสีหน้าท่าทางที่โมโห “ไอ้บ้านนอก ฉันขอเตือนนายให้ไสหัวไปซะดี ๆ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนาย ถ้าหากนายแม่งกล้ามายุ่งเกี่ยวล่ะก็ ฉันจะจัดการนายให้ตายซะ”
มู่เซิ่งขมวดคิ้ว ไม่อยากที่จะพูดคุยอะไรมากกับคนประเภทนี้
เขาถอยหลังหนึ่งก้าว แล้วก็ชกหมัดเข้าไปที่ท้องของกวนหยังอย่างรุนแรง จากนั้นก็ขยับเท้าไปด้านข้าง แล้วก็ใช้ฝ่ามือ ตบไปที่ใบหน้าอ้วนกลมอย่างกับหมูของกวนหยังอย่างแรง
ตุบบบ!
ร่างของกวนหยังโซเซไปมา จากนั้นก็ล้มลงไปกองที่พื้นอย่างแรง
หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว มู่เซิ่งก็ปัดไม้ปัดมือ ซึ่งด้านหลังของเขานั้น ก็มีเสียงกรีดร้องโอดครวญราวกับหมูถูกเชือดดังออกมาจากระเบียงทางเดิน
หลี่นั่วหนานเองก็เดินออกมาจากระเบียงด้านนอก เสื้อผ้าของหล่อนถูกฉีกขาด จนเผยให้เห็นผิวที่ขาวนวล และพูดขึ้นพร้อมทั้งน้ำตาว่า “มู่เซิ่ง ฉัน ขอโทษ ต้องขอบคุณนายมากเลย”
“ไม่เป็นไร”
มู่เซิ่งพูดขึ้นว่า “เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
หมัดนี้ของเขาใช้กำลังไปเพียงแค่ห้าส่วน แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้กวนหยังนอนร้องโอดครวญบนพื้นชั่วขณะหนึ่งแล้ว
“ผู้จัดการกวน คุณเป็นอะไรไป? ”
เวลานี้ ก็มีชายผอมบางคนหนึ่งโน้มตัวออกมาจากห้องรับรองด้านหลัง เมื่อเห็นกวนหยังกวนหยังนอนร้องโอดครวญอยู่บนพื้น ก็ร้อนใจ รีบเข้าไปประคองตัวเขาขึ้น และสอบถาม
“แม่ง เรียกพวกพ้องมากันให้หมด ฉันจะจัดการมันให้ตาย! ” กวนหยังชี้ไปที่มู่เซิ่ง และตะโกนพูดเสียงดัง
“ลูกพี่ ใครกันที่กล้าลงมือกับลูกพี่? ”
“ผู้จัดการกวน เพียงแค่คุณพูดออกมาคำเดียว ฉันจะสับกระดูกของมันให้แหลกเป็นชิ้น ๆ! ”
“ใช่เลย ใครกันที่บังอาจขนาดนี้ กล้าที่จะก่อเรื่องขึ้นใน Royal Club? ”
เวลาผ่านไปสักพัก ชายผอมบางก็ได้ตะโกนเรียกคนมาจำนวนหนึ่งแล้ว ต่างก็เป็นพวกอันธพาลหัวไม้ และได้โอบล้อมบริเวณระเบียงเอาไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
กวนหยังได้ถูกผยุงตัวขึ้นมาจากที่พื้น ที่จมูกของเขาก็ยังคงมีเลือดไหล เจ็บปวดทรมานอย่างมาก โดยเขามองไปที่มู่เซิ่งและพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยมว่า “ไอ้บ้านนอก เมื่อครู่นี้นายกำเริบนักใช่ไหม? ถึงกล้าที่จะลงมือทำร้ายฉัน ฉันจะบอกกับนายว่า วันนี้ไม่ว่าจะมีผู้ยิ่งใหญ่คนใดมา นายแม่งก็ต้องตายลงอย่างแน่นอน! ”