ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 245 กระโดดดึ๋งๆ!
ตอนที่ 245 กระโดดดึ๋งๆ!
รอยยิ้มของหญิงชราเริ่มหยุดนิ่งอย่างช้าๆ แทนที่ด้วยความเย็นสะท้านที่พลุ่งพล่านขึ้นมาไม่หยุดในส่วนลึกของนัยน์ตา โดยเฉพาะตอนที่ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านตะโกนคำว่า ‘แม่’ ดูเหมือนจะกระตุ้นความรักของแม่ที่อยู่ก้นบึ้งหัวใจของเธอขึ้นมา เธอบิดคอเหมือนกำลัง ‘เพลิดเพลิน’ กับคำเรียกนี้ ร่างกายเริ่มสั่นเหมือนคนติดยาที่ดูดยาหอมๆ หลังจากที่ขาดสินค้ามานาน
จากนั้นเธอจึงคลานเหมือนจิ้งจกตัวหนึ่ง พุ่งไปตรงหน้าผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้าน สองมือเหมือนกับ ‘พลั่ว’ สองเล่มค้ำยันกับโซฟา แล้วกระโจนเข้าไปเหมือนเสือที่ดุร้าย
‘พลั่ก!’ โซฟาถูกชนล้ม ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านพลิกตัวกลิ้งไปนอนกับพื้น เป็นการกระแทกด้วยแรงที่เยอะมาก ไม่รู้ว่าโครงกระดูกหักไปกี่ซี่ ไม่สามารถลุกขึ้นมาได้ทันที
“แม่ๆ อย่าเข้ามา แม่อย่าเข้ามา อย่าเข้ามา!!!” ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านคุกเข่าร้องไห้เรียกอยู่บนพื้น เหมือนกำลังเล่นเกมซ่อนหากับแม่ตอนเป็นเด็ก แต่ลูกชายคนนี้ตัวโตไปหน่อย และแม่ก็มีประสาทรับความรู้สึกไว ความรักของแม่ดั่งขุนเขาจนเกือบจะทับลูกตายแล้ว!
หญิงชรากระโดด พลางอ้าปากของเธอ เผยให้เห็นเขี้ยวคมอันน่ากลัวของเธอ ระหว่างเขี้ยวกับฟันยังมีเลือดที่ยังไม่แข็งตัวไหลหยดลงมา นั่นคือเลือดของลูกสะใภ้กับเลือดของหลานชายของเธอ!
สำหรับลูกชายของเธอ ดูเหมือนเธอจะบ้าคลั่งยิ่งกว่า และแทบจะอดใจไม่ไหวแล้ว เหมือนกับงานเลี้ยงงานหนึ่งให้ชิมกับข้าวที่อยู่ตรงหน้าทีละอย่าง จนกระทั่งอาหารหลักเข้ามาเสิร์ฟ ถึงจะเป็นไฮไลต์…สำคัญของงานเลี้ยงอย่างแท้จริง!
“อ๊าๆๆๆๆ!!!!” ควันสีดำกลุ่มหนึ่งลอยขึ้นมาในทันใดแล้วกวาดไปโดนหญิงชรา หญิงชราจึงส่งเสียงร้องเหมือนแมวที่โดนเหยียบหาง ถอยตัวไปข้างหลัง และที่ดูเกินจริงยิ่งกว่านั้นก็คือ เธอสามารถคลานบนกำแพงได้จริงๆ แถมยังหันหน้ามาตรวจสอบสถานการณ์ อีกทั้งดูจากร่างกายแล้วมีความมั่นคงมาก
โจวเจ๋อเดินเข้าไปในห้องรับแขก มองหญิงชราที่อยู่บนกำแพง ใบหน้าดุดัน ความรวดเร็วของหญิงชราคนนี้เร็วมากกว่าที่เขาจินตนาการไว้
“ช่วยผม…ช่วยผมด้วย…” ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านล้มอยู่บนพื้น ยื่นมือขอร้องโจวเจ๋อ
“เธอเป็นแม่ของคุณเหรอ” โจวเจ๋อถาม
“ใช่แม่ของผม” ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านพยักหน้าพูด
“อ้อ” โจวเจ๋อมองหญิงชราที่อยู่บนกำแพงอีกครั้ง อย่างนั้นก็คือการแก้แค้นของคนในครอบครัวเหรอ
โดยทั่วไป ถ้าหากศพบรรพบุรุษที่ซ่อนอยู่ใต้ดินเกิดการเปลี่ยนแปลง หลังจากออกมาแล้วสิ่งที่มันสัมผัสได้อย่างแรก น่าจะเป็นคนที่มีสายเลือดโดยตรงกับตัวเอง สำหรับพวกมันที่เพิ่งกลายเป็นผีดิบ ก็เหมือนกับแสงสว่างในความมืดคอยนำทางพวกมันให้เดินไปข้างหน้า แล้วฆ่าทิ้งเสีย อันที่จริงสามารถเข้าใจว่าเป็นการตัดสัมพันธ์เก่าของสิ่งมีชีวิตใหม่
“แม่ของผมตายแล้ว ตายไปหลายปีแล้ว” ผู้ชายเจ้าของบ้านร้องไห้พูดเสียงดังกับโจวเจ๋อ ทัศนคติในการมองโลกโลกของเขาได้พังทลายไปแล้ว
สำหรับคนทั่วไป เมื่อเห็นแม่ของตัวเองที่ตายไปหลายปีจู่ๆ มาโผล่อยู่ตรงหน้าตัวเอง และยังจะฆ่าตัวเองอีกด้วยการจู่โจมทางจิตใจแบบนี้ มากพอที่จะทำให้คนพังทลายได้
โจวเจ๋อไม่สนใจลูกชายที่พูดพึมพำอยู่ข้างๆ ตัวเอง แต่เหยียดนิ้วชี้ไปทางหญิงชราที่อยู่บนกำแพง “คุณอยากฆ่าเขาใช่ไหม” โจวเจ๋อชี้ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้าน “อย่างนั้นก็ลงมาฆ่าสิ”
หญิงชราระวังตัวไม่ยอมไปข้างหน้า นัยน์ตาของเธอกวาดมองเล็บของโจวเจ๋อไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเธอกลัวเจ้าสิ่งนี้เป็นอย่างมาก
“เหอะๆ” โจวเจ๋อรู้สึกกลุ้มใจ เขาไม่เคยเห็นผีดิบที่ความรู้สึกไวแบบนี้มาก่อน ต่อให้เป็นไป๋อิงอิง จุดเด่นของเธอก็มีแค่พลังที่แข็งแกร่งกว่าเท่านั้น แต่ถ้าคุณสั่งให้เธอเดินเหินอยู่บนหลังคาก็ไม่สามารถเป็นจริงได้
ทว่าหญิงชราที่อยู่ตรงหน้ากลับทำได้ เธอมีความคล่องแคล่วอย่างชัดเจน ถ้าไม่ใช่เพราะบนตัวของเธอมีกลิ่นศพที่ฉุนมาก โจวเจ๋อคงเริ่มสงสัยว่าผีดิบตัวนี้ถูกวิญญาณเทพเจ้าลิงเข้าสิงหรือเปล่า
ทรมานจริงๆ หญิงชราอยู่บนกำแพง เถ้าแก่โจวก็ไม่เป็นวิชาตัวเบาลอยขึ้นไปไม่ได้ ขณะเดียวกันโจวเจ๋อก็เข้าใจแล้วว่าทำไมตัวเองไม่เจอหญิงชราคนนี้ก่อนหน้านั้นเลย หญิงชราคนนี้น่าจะเคลื่อนไหวไปมาอยู่บนผนังนอกบ้านก่อน แล้วค่อยหาโอกาสเข้ามาฆ่าคน เธอไม่จำเป็นต้องเดินเข้าทางประตูเหมือนเขาเลย
“นี่ คุณจะฆ่าไม่ฆ่า” โจวเจ๋อยกผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านขึ้นมาแล้วส่ายไปมา “มาฆ่าสิ ฆ่าเลย จริงๆ ผมไม่โกหกคุณ คนดี คุณลงมาเถอะ”
“…” ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้าน
หญิงชรายังไม่ลงมา เธอกลัวและระวังโจวเจ๋อ ความรู้สึกกลัวแบบนี้กระทั่งกดทับเธอให้หยุดความคิดบุ่มบ่ามที่จะฆ่าลูกชายของตัวเอง
“นี่ คุณเรียกแม่อีกสองสามทีสิ เรียกแม่ของคุณเข้ามา” โจวเจ๋อพูดกับผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้าน
ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านร้องไห้หน้าเศร้า เขารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ถูก “คุณเป็นใคร…” ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านเอ่ยถามโจวเจ๋อ
“ผมสั่งให้คุณเรียกแม่ คุณถามเยอะแยะทำไม” ขณะที่พูด โจวเจ๋อตบหน้าผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านไปหนึ่งฉาด จากนั้นก็มองหญิงชราที่อยู่บนกำแพงอีกที
“นี่ ถ้าคุณไม่ลงมาผมจะฆ่าลูกชายของคุณแล้วนะ”
หญิงชราหันหน้าเล็กน้อยแล้วคอยสังเกตเหตุการณ์อยู่บนกำแพงต่อไป โจวเจ๋อส่ายหน้า โยนผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านลงบนพื้น และในเวลานี้หญิงชราก็เคลื่อนไหวกะทันหัน เธอเดิมทีอยู่บนกำแพงด้านข้าง ตอนนี้เริ่มคลานช้าๆ เหมือนจิ้งจก เคลื่อนตัวจากเพดานลงมาแล้วกระโดดลงมาข้างล่างทันที! เป็นความเร็วที่สุดยอดมาก และแล้วแม่ก็ลืมลูกไม่ลงจริงๆ
โจวเจ๋อยืนนิ่งกางแขนทั้งสองข้างขึ้นไปข้างบน เล็บทั้งสิบงอกยาวในชั่วพริบตา กลายเป็นใบมีดที่ยาวมากแล้วแทงขึ้นไปข้างบน!
หญิงชราพุ่งเร็วเหมือนสายลม ตอนที่เธอเห็นเล็บที่น่ากลัวของโจวเจ๋อ เธอตกตะลึงไปทั้งตัว แต่เธอพุ่งตัวออกมาแล้วจึงไม่สามารถขัดขวางได้และไม่สามารถหยุดได้
‘ฉึบๆๆ…’ เล็บฉีกร่างเธอและแทงเข้าไปในร่างกายของเธอ แทงเข้าไปอย่างจัง ลื่นไหลไม่มีการหยุดยั้ง เมื่อพูดถึงผีดิบ โจวเจ๋อมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าพืชในเกมพืชปะทะซอมบี้เสียอีก
เคยกินเนื้อย่างเสียบไม้ไหม ตอนนี้โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองเหมือนหนุ่มที่คอยเสียบเนื้ออยู่หลังร้านขาย ‘เนื้อย่างเสียบไม้’ หน้าอกของหญิงชราคนนั้นถูกเล็บทั้งสิบของเขาแทงเข้าไปเต็มๆ ขณะเดียวกันตอนที่หญิงชราคนนั้นร่วงลงมา เธอที่ยังไม่ตายได้อ้าปากพยายามจะกัดโจวเจ๋อ โจวเจ๋อกางขาไปด้านข้างหนึ่งก้าวพร้อมกับเหวี่ยงแขนทั้งสองข้างลงไป หญิงชราถูกโจวเจ๋อเหวี่ยงลงพื้นอย่างแรง กระแทกไปโดนโทรทัศน์ก่อนจะร่วงลงบนพื้น
เธออยากจะลุกขึ้นมา แต่ลำบากมากอย่างเห็นได้ชัด ทว่านัยน์ตาคู่นั้นของเธอกลับจ้องมองลูกชายของตัวเองตาเขม็ง
โจวเจ๋อกวาดตามองเล็บของตัวเองที่มีของเหลวสีเขียวเหลืองไหลลงมา รู้สึกขยะแขยงที่สุด ตอนนี้เขาอยากรีบจัดการหญิงชราคนนี้ให้เร็วที่สุด จากนั้นก็ไปซ่อมเล็บของตัวเอง
ทว่าตอนที่โจวเจ๋อเดินเข้าหาหญิงชราอีกครั้ง มีคนวิ่งพุ่งลงมาจากบันได ซึ่งก็คือตาชุย!
ตาชุยเห็นโจวเจ๋อแล้ว จากนั้นจึงชูแขนขึ้นมา ในมือของเขาถือขวานอยู่ด้ามหนึ่ง ‘ฟิ้ว’ ตาชุยเขวี้ยงขวานไปหาโจวเจ๋ออย่างไม่ลังเลเลยสักนิด โจวเจ๋อวาดเล็บออกไปปัดขวานเล่มนั้นออก แต่วินาทีต่อมา ตาชุยกลับหยิบของที่แบกไว้ด้านหลังออกมา นั่นก็คือหน้าไม้! เป็นหน้าไม้ที่เห็นได้บ่อยๆ ตามซุ้มยิงลูกโป่งในสวนสนุก
‘ฉึบ!’ เสียงดังชัดเจน เถ้าแก่โจวที่เพิ่งปัดขวานออกไปยังไม่ทันได้ตอบสนอง ก็รู้สึกหนักที่หน้าอกของตัวเอง ทั้งตัวเดินถอยหลังไปสองก้าว และต้องคุกเข่าลงกับพื้นอย่างช่วยไม่ได้
“อ้าๆๆๆ!!!” หญิงชราดิ้นรนใช้สองมือคลานอยู่บนพื้น เธอไม่กล้าเข้าไปที่ห้องรับแขกอีก แต่พุ่งไปหาตาชุยแทนทว่าเธอไม่ได้โจมตีตาชุย แต่กลับใช้แขนของตัวเองหนีบตาชุยที่ซูบผอมกระโดดลงมาจากระเบียง
โจวเจ๋อได้ยินเสียงดัง ‘พลั่ก’ สองคนนั้นน่ากระโดดลงพื้นไปเรียบร้อย โจวเจ๋อพยายามอดกลั้นความเจ็บปวดที่หน้าอกแล้วลุกขึ้นยืน ไล่ตามไปที่ระเบียง ตาชุยจนขนาดนั้น แน่นอนว่าไม่มีเงินซื้อของระดับไฮเอนด์แน่นอน ไม่อย่างนั้นตอนที่ตาชุยปรากฏตัวคงจะไม่ได้หยิบหน้าไม้แต่เป็นอาร์พีจี!
นอกจากนี้หน้าไม้อันนี้ไม่ใช่ของแท้แน่นอน คาดว่าตาชุยน่าจะขโมยมาจากสวนสนุก ลูกศรที่ยิงออกไปมีเพียงหัวลูกศรเท่านั้นที่แทงเข้าไปในร่างกายของโจวเจ๋อ จึงไม่บาดเจ็บหนักอะไร ทว่าตอนที่โจวเจ๋อเดินมาถึงระเบียงกำลังจะกระโดดไล่ตามไปนั้น ร่างกายของเขากลับโซเซ คุกเข่าลงไปกับพื้น สายตาเริ่มหมุนวน ในหัวเริ่มสับสน จริงๆ เลยตาแก่คนนี้ได้ทายาบนลูกศร
โจวเจ๋อตาแดงอยูพักหนึ่ง จิตใต้สำนึกบอกให้เขาเข้าสู่สถานะนั้นเพื่อไล่ตามต่อไป จริงๆ แล้วโจวเจ๋อรู้ดีว่า ถ้าหากเข้าสู่สภาวะนั้น ตาชุยกับหญิงชราหนีไม่พ้นแน่นอน แต่โจวเจ๋อไม่กล้าและไม่อยากทำ
เมื่อก่อนไม่รู้ผลข้างเคียงจึงเล่นมั่วๆ สองสามครั้ง แต่ตอนนี้โจวเจ๋อไม่กล้ากระตุ้นเจ้าสิ่งนั้นที่อยากจะตื่นขึ้นมาไม่หยุด ถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะมีคนตายหลายคนแล้วก็ตาม แต่โจวเจ๋อก็ไม่คิดที่จะเสียสละตัวเองเพื่อแก้แค้นให้พวกเขาหรือไม่นี่คงเป็นเพราะความเห็นแก่ตัวใช่ไหม โจวเจ๋อนั่งพิงรั้วระเบียง สติเริ่มสับสน
…
“เธอ…ทำไมถึง…ทำไมถึง…” ตอนที่โจวเจ๋อนั่งพิงระเบียงสลบไปนั้น ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านคนนั้นคลานตัวโซเซลุกขึ้นมาในที่สุด เขาเข้าไปที่ห้องนอนก่อนโดยสัญชาตญาณ เขาอยากจะเรียกภรรยากับลูกชายหนีไปด้วยกัน บอกว่าที่บ้านมีสัตว์ประหลาด แม่ฟื้นคืนชีพแล้ว! ทว่าตอนที่เขาผลักประตูห้องนอนเข้าไปเห็นภาพที่น่าอนาถบนเตียง เขากุมศีรษะของตัวเองด้วยความหวาดกลัว อ้าปากค้าง เขาไม่อยากจะเชื่อกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตรงหน้า
ภรรยาของเขา ลูกชายของเขา…ทั้ง….ทั้งหมด…ผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านเดินกลับมาที่ห้องรับแขกด้วยความสับสน เขารู้สึกว่านี่คือฝันร้าย เป็นฉากที่ทำให้เขาตกใจอยากตื่นจากฝันร้ายทันที
เขากวาดตามองโจวเจ๋อที่นั่งอยู่ริมระเบียงอย่างเงียบๆ จากนั้นเขาจึงหยิบขวานที่ตาชุยเขวี้ยงมาเมื่อครู่ แล้วเดินไปที่ระเบียงทีละก้าว
“พวกแก…เป็นปีศาจทั้งนั้น…เป็นเพชฌฆาตกันหมด…เป็น…ปีศาจ…” ผู้ชายเจ้าของบ้านถือขวานเดินไปหาโจวเจ๋อ แต่โจวเจ๋อกลับหรี่ตาอยู่ เขาปวดหัวมาก ตามหลักการแล้ว เขาน่าจะสลบเพราะยาชา แต่เขานอนไม่หลับ ยาชา ยานอนหลับล้วนไม่มีประโยชน์ จากนั้นก็รู้สึกว่าการนอนไม่หลับเป็นสิ่งที่ทรมานที่สุด
โจวเจ๋อกระทั่งไม่แน่ใจในสถานการณ์ที่อยู่โดยรอบ และกำลังต่อสู้กับฤทธิ์ยาที่อยู่ภายในร่างกายไม่หยุด ‘ปึ้ง!’ เสียงหนักอึ้งดังเข้ามา โจวเจ๋อพยายามฝืนลืมตา เขามองเห็นผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้านล้มลงต่อหน้าตัวเอง มีขวานด้ามหนึ่งร่วงลงมาจากข้างกายของผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้าน ด้านหลังของผู้ชายที่เป็นเจ้าของบ้าน เขามองเห็นเงาร่างที่คุ้นเคยอย่างเลือนราง
…
โอ้ว เหล่าสวี่นายมาแล้วใช่ไหม…เหล่าสวี่ ฉันมึนหัวมาก ตาชุยคนนั้นเป็นพวกเดียวกันกับผีดิบตัวนั้นจริงๆ
…
‘ฉึบ…ฉึบ…’ เสียงฝีเท้าดังเข้ามา
…
เหล่าสวี่ ประคองฉันขึ้นมา ออกไปจากที่นี่ก่อน เดี๋ยวฟ้าสว่างแล้วจะเป็นเรื่อง ฉันยังพอมีเงินกระดาษอยู่ในกระเป๋าอยู่บ้าง พอจะเผาได้นิดหน่อย
…
โจวเจ๋อสัมผัสได้ถึงลมหายใจของอีกฝ่ายที่พ่นมาบนใบหน้าของตัวเอง มาพร้อมกับความอุ่นและความชื้น เขารู้ว่าสวี่ชิงหล่างอยู่ตรงหน้าตัวเอง จากนั้นโจวเจ๋อสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเปียกแฉะบนใบหน้าของตัวเอง
…
เหล่าสวี่ รีบประคองฉันขึ้นมา เอ่อ จริงๆ เลย นายเป็นโรคจิตเหรอ นายเลียหน้าของฉันทำไม…
…………………………………………………………………………