ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 312 หนูตัวใหญ่!
ตอนที่ 312 หนูตัวใหญ่!
“ปะ!” สาวน้อยโลลิพูดเร่งไป๋อิงอิง มือเล็กคู่นั้นผลักหลังของไป๋อิงอิงให้เดินไปข้างหน้า
“ทำอะไร!” ไป๋อิงอิงย้อนถาม
“เถ้าแก่ของเจ้าขึ้นรถแล้ว ไปช่วยพวกเราจับคน” ไป๋อิงอิงเพิ่งพบว่าเถ้าแก่ได้เข้าไปนั่งในรถที่อยู่นอกร้านหนังสือแล้ว จึงไม่ชักช้าเดินออกจากร้านหนังสือไปขึ้นรถโดยตรง
โจวเจ๋อนั่งเบาะหลัง ไป๋อิงอิงนั่งตาม นั่งเบาะหลังเป็นเพื่อนโจวเจ๋อ ไป๋อิงอิงพบว่าสีหน้าของเถ้าแก่ไม่สู้ดีนัก เหมือนโดนใครขโมยภูเขาเงินภูเขาทอง และเรื่องจริงก็เป็นแบบนั้น
โจวเจ๋อเดิมทีคิดว่าพอตัวเองตื่นขึ้นมา จะเหมือนมังกรร้ายจอมโลภของทางฝั่งตะวันตก กอดกองเงินกองทองทั้งซ้ายและขวา แต่ความฝันมักจะสมบูรณ์แบบเช่นนี้ ทว่าในความเป็นจริงกลับน่าเศร้า พอตื่นขึ้นมา เงินทองของตัวเองถูกส่งให้กับประเทศทั้งหมด และไม่มอบธงรางวัลให้ตัวเองสักผืน แต่จะทำอย่างไรได้ หรืออยากให้ธงรางวัลเขียนว่า ‘มีเด็กหนุ่มฆ่าเจ้าที่ ขจัดความรุนแรงปกป้องความปลอดภัย’
“อ้าว ใครเป็นคนขับรถ” สาวน้อยโลลินั่งอยู่ที่ตำแหน่งข้างคนขับ ชี้ไปยังตำแหน่งคนขับที่ว่างเปล่า
“คุณขับสิ” โจวเจ๋อพูดอย่างเฉยชาเป็นอย่างมาก
“…” สาวน้อยโลลิ
จากนั้นสาวน้อยโลลิได้ย้ายไปนั่งที่ตำแหน่งคนขับ สตาร์ทรถยนต์อย่างคล่องแคล่ว เธอขับรถเป็นและไม่แน่ว่าอายุการขับรถที่แท้จริงของเธออาจจะมากกว่าโจวเจ๋อก็เป็นได้ แต่เพิ่งจะสตาร์ทรถ ก็มีรถตำรวจคันหนึ่งขับมาแต่ไกล
สาวน้อยโลลิรีบย้ายกลับไปนั่งที่ตำแหน่งข้างคนขับทันที และพูดอย่างจนใจว่า “ข้าขับไม่ได้”
อย่าให้ตัวเองขับรถไปจับคน แต่ผลปรากฏว่าตัวเองกลับโดนจับส่งตำรวจเสียก่อนเลย และร้านหนังสือนี้ก็อับโชคจริงๆ โดนว่าเรื่องไม่มีใบขับขี่สองสามครั้งแล้ว
โจวเจ๋อเงยหน้า ไม่ได้สนใจเหตุการณ์ที่อยู่รอบตัว เขามัวแต่นึกถึงตัวเองในชาติที่แล้วตอนจัดทีมหมอไปเที่ยวที่ภูเขาผู่ถัวซาน ที่นั่นมีพระตั้งร้านทำนายดวงชะตา พระได้พูดกับเขาว่า ‘ห้าธาตุขาดทอง’ ตอนนั้นตัวเขายังคิดว่าพระพูดมั่ว แต่มาคิดดูตอนนี้ เฮ้อ “นักพรตเฒ่า ขึ้นรถ!”
นักพรตเฒ่าเดิมทีกำลังเล่นกับเจ้าลิง พอเห็นว่าเรียกตัวเองจึงรีบกุลีกุจอเข้ามา เขาเหลือบตามองโจวเจ๋อและคนอื่นๆ ในรถหนึ่งที พยักหน้าแล้วนั่งลงที่ตำแหน่งคนขับแต่โดยดี
ศีรษะมีขนปุกปุยของเจ้าลิงโผล่ออกมาจากไหล่ของนักพรตเฒ่า ที่แท้เจ้าลิงน้อยก็ตามมาด้วย ทิ้งสวี่ชิงหล่างที่ป่วยออดแอดไว้เฝ้าร้านหนังสือคนเดียวก็พอแล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ได้หวังว่าร้านหนังสือจะทำกำไรงาม
โจวเจ๋อยังไม่ตื่นจากความเจ็บปวด สาวน้อยโลลิให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก หากโจวเจ๋อได้เป็นหัวหน้าผู้จับกุมก็คือการหลุดพ้นของเธอ และผลงานที่ได้คะแนนเยอะแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ ดังนั้นสิ่งมีชีวิตในร้านหนังสือที่สามารถใช้งานได้ตอนนี้สาวน้อยโลลิจะลากมาด้วยทั้งหมด
สำหรับเธอแล้ว ถึงแม้ครั้งนี้จะเป็นยุงตัวเล็ก แต่ก็ต้องตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่ายุงถูกแยกชิ้นส่วนทั้งห้าแล้วถึงจะได้! แสดงว่าถ้าไม่ใช่เพราะสวี่ชิงหล่างเพิ่งฟื้นจากอาการป่วย เดดพูลยังอยู่ในตู้กระจก สาวน้อยโลลิคงจะลากสองคนนี้มาด้วยแน่นอน
เมื่อรถขับมาถึงทางยกระดับเจียงไห่แล้ว โจวเจ๋อจึงสูดลมหายใจลึกๆ ต่อให้ภูเขาเงินภูเขาทองจะลอยหายไปจากตรงหน้าตัวเองก็ต้องตื่นขึ้นมา เมื่อมองคนกับลิงที่นั่งอยู่เต็มรถ โจวเจ๋อแสยะยิ้มมุมปากโดยไม่รู้ตัว ต่อให้สาวน้อยโลลิพูดโม้ไปเรื่อยๆ ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้ นั่นก็คือเธอกลัวแล้ว
เหตุการณ์ในหรงเฉิงครั้งที่แล้ว ทำให้ตอนนี้สาวน้อยโลลิรู้สึกฝังใจกับเรื่องการจับผีที่หนีออกมาจากนรกอยู่บ้าง แต่ไม่อาจละทิ้งความยั่วยวนของคะแนนที่เยอะขนาดนี้ ดังนั้นเธอจึงพาคนมาด้วยมากมายเพื่อเสริมสร้างความกล้า
หากจะพูดกันถึงแก่นแท้แล้ว เธอกลัวว่าจะได้เจอเหลียงชวนอีก แต่ไอ้หมอนั่นไปอยู่เซี่ยงไฮ้ครึ่งปีกว่าแล้วนอกจากถังซือที่เคยกลับมาครั้งหนึ่ง ดูเหมือนจะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรอีก ระยะห่างจากทงเฉิงกับเซี่ยงไฮ้ก็ไม่ไกลกันมาก ขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมง อย่างไรก็ตามทั้งสองเมืองห่างกันเพียงแค่แม่น้ำกั้น ขับรถผ่านสะพานใหญ่ซูทงก็ถึงแล้ว
แต่อีกฝ่ายไม่ได้ติดต่อตัวเองอีก ดังนั้นโจวเจ๋อจึงขี้เกียจติดต่อเขา ทั้งสองฝ่ายต่างใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
หมู่บ้านสือกั่ง ตั้งอยู่ในเขตทงโจว เมื่อลงจากทางยกระดับเจียงไห่ตรงหมู่บ้านซิ่งเหรินขับมุ่งหน้าไปทางเหนือครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว
สาวน้อยโลลิหยิบสมุดยมทูตออกมาทันที เธอเริ่มบอกทางนักพรตเฒ่าให้ขับรถไปตามตำแหน่งที่ระบุบนนั้น ทว่าไม่ได้ขับรถเข้าไปในหมู่บ้านแต่ขับวนรอบหมู่บ้านแทน สุดท้ายจึงหยุดที่หน้าทางเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง หรือจะพูดให้ถูกต้องคือ เมื่อก่อนที่นี่น่าจะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต แต่น่าจะปิดร้านไปนานแล้ว ประตูใหญ่ปิดสนิท ไม่มีสิ่งของอยู่ในร้าน ชั้นสองแบ่งเป็นห้องเล็กๆ สองสามห้อง ถือว่าเป็นรูปแบบบ้านที่เห็นได้ทั่วไป ด้านล่างเป็นร้านค้าส่วนด้านบนเป็นบ้านพักอาศัย
ทุกคนลงจากรถ โจวเจ๋อจุดบุหรี่ให้ตัวเองหนึ่งมวน แล้วเดินไปข้างหน้าสองก้าว ใช้เล็บของตัวเองไขกุญแจที่ล็อกประตูซูเปอร์มาร์เก็ตจนหัก จากนั้นผลักประตูซูเปอร์มาร์เก็ตเข้าไป
พื้นที่ด้านในใหญ่พอสมควร แต่รกสกปรก ฝุ่นลอยฟุ้งไปทั่ว น่าจะไม่มีคนเข้ามาที่นี่นานแล้ว
“ค้นเลย น่าจะอยู่แถวนี้แหละ เจอเป้าหมายแล้วอย่าเพิ่งวู่วาม ให้เรียกคนก่อน!” สาวน้อยโลลิหยิบสมุดยมทูตออกมาแล้วพูดไปด้วย จากนั้นเธอจึงมองโจวเจ๋อที่ยืนอยู่ที่เดิม แต่ไม่อยากพูดเร่งเขา แล้วตัวเองก็เข้าร่วมทีมค้นหา
เจ้าลิงน้อยที่อยู่บนตัวนักพรตเฒ่าก็กระโดดออกไปทันที ช่วยตามหาคนอีกแรง โจวเจ๋อรู้สึกว่าน่าตลกมาก สมุดยมทูตระบุตำแหน่งชัดเจนขนาดนี้ แม่นยิ่งกว่าแผนที่ของแอปเรียกรถแท็กซี่เสียอีก
หากพูดจากความรู้สึก ผีร้ายกลุ่มนี้กว่าจะหนีออกมาจากนรกได้ก็ไม่ง่าย แต่กลับเหมือนอาหารที่มาส่งถึงที่ รอยมทูตแต่ละพื้นที่ออกจับตามลายแทง แล้วทำให้ผ่านไปพอเป็นพิธีเท่านั้น
บางทีนี่ก็คือการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของฐานะ เหมือนกับเหล่าวีรบุรุษแห่งภูเขาเหลียงซานช่วงปลายราชวงศ์ซ่งเหนือ ที่ไปสู้กับราชวงศ์ก่อน หลังจากกลับมาถึงอำเภอกุยอันแล้วจึงไปสู้กับค่ายที่อยู่ด้วยกันเมื่อก่อน
ซึ่งเหมือนอยู่บ้างจริงๆ แต่ตัวเขาเองได้ชำระล้างตัวตนกลายเป็นสุนัขรับใช้ของยมโลกแล้วเท่านั้นเอง
เขาทิ้งก้นบุหรี่แล้วขยี้ด้วยรองเท้า
“หาเจอแล้ว!” และในเวลานี้ เสียงของนักพรตเฒ่าดังมาจากข้างบน ทุกคนรีบวิ่งขึ้นบันไดไปชั้นบนทันที นักพรตเฒ่ายืนอยู่หน้าประตูห้องหนึ่งของชั้นสอง พลางยื่นมือชี้เข้าไปข้างในแล้วพูดว่า “เถ้าแก่ มีคนนอนอยู่ข้างใน”
โจวเจ๋อพยักหน้า แล้วพูดตามตรงว่า “พังประตู!”
“ได้เลย!”
ไป๋อิงอิงรีบนำหน้าก่อนใช้มือทั้งสองจับสองข้างของประตูแล้วออกแรงเล็กน้อย ดึงประตูลงมาทั้งบาน จากนั้นเธอจึงหมุนตัวจับประตูออกหลีกทางให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ข้างหลัง นักพรตเฒ่าพ่นลมหายใจออกมาอย่างแรง รู้สึกว่าไป๋อิงอิงมีพลังที่สุดยอดจริงๆ
จากนั้นนักพรตเฒ่าจึงเดินเข้าไปในห้อง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แต่หลังจากนั้นเขาก็หน้าเขียวอาเจียนแห้งออกมาทันที
มีคนนอนอยู่ในนั้นก็จริง เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ก่อนหน้านี้นักพรตเฒ่ามองจากหน้าต่างไม่ผิดแน่ แต่เวลานี้บนตัวของผู้หญิงเหมือนถูกบางสิ่งแทะกิน น่าอนาถจนทนดูไม่ได้ นอกจากนี้กลิ่นเหม็นรุนแรงยังคละคลุ้งไปในอากาศ
โจวเจ๋อยื่นมือปิดจมูกเบาๆ เดินเข้าไปนั่งลงยองๆ ข้างศพ สาวน้อยโลลิก็เดินตาม ยื่นมือยกแขนของศพผู้หญิงขึ้นมา เผยให้เห็นกระดูกสีขาวบนแขน สาวน้อยโลลิจึงปล่อยทิ้งลงไป “ตายนานแค่ไหนแล้ว” สาวน้อยโลลิถาม
“ห้าวันน่าจะได้ อากาศร้อนขนาดนี้ ดังนั้นศพจึงเน่าเปื่อยเร็วกว่าเดิม” โจวเจ๋อใช้เล็บของตัวเองสะกิดศพที่อยู่ตรงหน้าเบาๆ เพื่อหาเบาะแสบางอย่าง แล้วจึงถามในเวลาเดียวกัน “เวลาไม่น่าจะถูก หรือการประกาศภารกิจของนรกจะมีความล่าช้า”
สาวน้อยโลลิส่ายหน้า “ตามหลักแล้ว ไม่น่าจะล่าช้าถึงจะถูก”
“อย่างนั้นศพนี้ตายมาห้าวันแล้ว” โจวเจ๋อมองแขนที่ขาดเสียหายของอีกฝ่าย พบว่ามีรอยเข็มทิ่มเป็นรูพรุนเต็มไปหมด
“ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน” สาวน้อยโลลิสงสัยอยู่บ้าง
“เอ่อ ข้านักพรตผู้ต่ำต้อยขอถามหน่อย ถ้าหากเอาศพนี้ไปเผา จะถือว่าเผาส่งลงไปนรกได้ไหม”
“ไม่ถูก” โจวเจ๋อขมวดคิ้ว “ดูเหมือนจะมีปัญหาเล็กน้อย”
“ปัญหาอะไร เจ้าเจออะไรเหรอ” สาวน้อยโลลิถามทันที
“ถ้าหากการแจ้งภารกิจของนรกไม่ได้ล่าช้า อย่างนั้นศพนี้ตายเกินห้าวันขึ้นไปจึงไม่น่าจะใช่คนที่พวกเราตามหา” โจวเจ๋อพูดแล้วหยิบสมุดยมทูตออกมา เปิดหน้าที่มีใบประกาศจับ
“วิญญาณเป็นผู้หญิง แต่หลังจากที่ยืมศพคืนชีพแล้วอาจจะไม่ได้เป็นผู้หญิงเหมือนเดิม และยังมีความเข้าใจผิดที่ใหญ่มากอย่างหนึ่ง นั่นก็คือไม่ใช่วิญญาณร้ายทุกตัวจะหาร่างสิงเป็นอย่างแรกหลังจากที่กลับมาจากนรก อาจจะปลอมตัวเองเป็นคนเป็นไม่ทัน แสดงว่าต้องเกิดอุบัติเหตุอย่างอื่น กระทั่งเธออาจจะยังเป็นวิญญาณอยู่ หรือไม่ก็…”
“หรือไม่ก็อะไร”
“เหอะๆ ศพของผู้หญิงคนนี้ถูกแทะกินมาแล้ว”
“อันนี้พวกเราก็เห็นแล้ว ความหมายของเจ้าคือเธอถูกอะไรกัดตายใช่ไหม”
“ไม่น่าจะใช่ แขนของผู้หญิงคนนี้มีรอยเข็มหลายรู น่าจะเป็นคนติดยา ถึงแม้จะไม่ได้ตรวจสอบอย่างจริงจัง แต่จากประสบการณ์ของผม เธอน่าจะฉีดยาเกินขนาดทำให้เสียชีวิต”
“แต่ร่างของเธอ?”
“ร่างของเธอน่าจะมีตัวอะไรมาพบเข้าหลังจากตายไปแล้ว จากนั้นเจ้าสิ่งนั้นก็กินศพของเธออย่างอดใจไม่ไหว” โจวเจ๋อพูดพลางลุกขึ้นยืน แล้วแลบลิ้นออกมาเลียปาก จากนั้นพูดต่อว่า “แผลที่โดนกัดนี้ น่าจะเป็นฟันของสัตว์ขนาดเล็กมาก ตัวเล็กกว่าแมวหรือสุนัข”
“เล็กกว่าแมวหรือสุนัข”
“เป็นหนูเหรอ” นักพรตเฒ่าพูดทันที ศพน่าจะโดนหนูแทะแล้ว
โจวเจ๋อพยักหน้า “และดูจากร่องรอยบนพื้นหลังจากที่พวกเราเข้ามา บ้านหลังนี้ไม่ได้ถูกหนูทั้งฝูงบุกรุก บางทีหนูที่มากินศพอาจจะมีตัวเดียว และหนูตัวนั้นได้กัดแทะศพนี้มานานแล้ว”
ขณะที่พูด โจวเจ๋อชี้ไปยังตารางข้อมูลของใบประกาศจับ “ตามหลักการพูดของใบประกาศจับ ผีร้ายสาวเคยเป็นผู้ค้ายาเมื่อยังมีชีวิตอยู่ และพวกค้ายาส่วนใหญ่จริงๆ แล้วจะเสพยาด้วย ดังนั้นหลังจากโดนการทรมานจากในนรก ไม่ง่ายเลยที่จะได้กลับมายังโลกมนุษย์ ถ้าหากคุณเป็นเธอ สิ่งที่คุณอยากทำเป็นอย่างแรกคืออะไร”
“ขอเสพยาเพลินๆ ก่อน” นักพรตเฒ่าพูด
“แต่คุณไม่สามารถหาของได้ทัน ทำยังไงดีล่ะ” โจวเจ๋อถามต่อ
“กิน…เนื้อของคนเสพยา!” นักพรตเฒ่าสีหน้าเปลี่ยนทันที
“และถ้าหากสมุดยมทูตระบุตำแหน่งไม่ผิดละก็ มันไม่น่าจะนำทางพวกเราให้มาเจอศพนี้ แต่เป็นหนูตัวใหญ่ที่โดนผีสิงมากินเนื้อแล้วซ่อนตัวอยู่ที่นี่!”
…………………………………………………………………………