ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 316 ทนาย
ตอนที่ 316 ทนาย
โจวเจ๋อหยิบโทรศัพท์ออกมา เตรียมโทรหาหลิวฉู่อวี่ ในเมื่อมีวิญญาณร้ายมาที่ทงเฉิง เช่นนั้นฉางโจวก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะมีเช่นกัน ถึงแม้จะพูดว่าเป็นการรับลูกน้องโดยบังเอิญในตอนแรก เทศกาลต่างๆ ก็ไม่ได้ทักทายถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอะไรกัน และยิ่งไม่รู้จักส่งของขวัญอะไรแสดงความกตัญญูมาให้เขา แต่โจวเจ๋อเป็นคนที่มีจิตใจกว้างขวาง การช่วยเหลือคนด้วยเมตตาเป็นกฎประจำตัวที่เขาปฏิบัติมาตลอด ดังนั้นเขาจึงเป็นฝ่ายไปฉางโจว ไปดูว่าสามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายได้หรือไม่
อย่างไรก็ตามวิญญาณร้ายอยู่ในโลกมนุษย์นานหนึ่งวัน จะเป็นภัยต่อการสร้างสังคมที่สงบสุขอีกหนึ่งวัน ในฐานะประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎหมายจ่ายภาษีคนหนึ่ง เถ้าแก่โจวรู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นภาระหน้าที่ของตัวเอง
“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาโทรใหม่อีกครั้งค่ะ…” โจวเจ๋อวางโทรศัพท์ลงแล้วพูดด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “อาจจะเจอเรื่องเข้าแล้ว เพราะปิดเครื่อง”
“ไม่แน่เขาอาจจะบล็อกเจ้าไปแล้วก็ได้” สาวน้อยโลลิพูดซ้ำเติม แน่นอนว่าแค่ล้อเล่นเท่านั้น
ไม่ว่าอย่างไรเลือดวิญญาณของหลิวฉู่อวี่ก็อยู่กับโจวเจ๋อ จึงเท่ากับว่าโจวเจ๋อกำชีวิตของเขาไว้ในมือ ถ้าเขากล้าซุกซนต่อหน้าตัวเอง เถ้าแก่โจวคงต้องนับถือเขาจริงๆ
รถสีขาวมาจอดหน้าร้านหนังสือ ผู้หญิงสวมชุดกระโปรงสีดำคนหนึ่งเดินลงมา ผมยาวประบ่า รูปร่างสมส่วนประกอบกับบุคลิกที่น่าชื่นชมของเธอ ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาแถวนี้ต่างต้องมองเธอ ไม่ว่าข้างตัวเองจะมีแฟนอยู่หรือไม่
สาวน้อยโลลิยื่นมือไปจิ้มโจวเจ๋อ แล้วทำปากยื่นไปข้างนอกร้าน โจวเจ๋อเปิดประตูร้านหนังสือเดินออกมา ข้างนอกแดดแรงมาก บนถนนยิ่งร้อนเหมือน ‘ถูกเผา’ ผู้อำนวยการหลินกลับไม่ถือสา แต่เธอไม่ได้เข้าไปดูสถานการณ์ในร้านหนังสือ และดูเหมือนเธอจะไม่ได้รอโจวเจ๋อ แต่กลับไปดูความคืบหน้าการตกแต่งร้านขายยาที่อยู่ถัดไป
ร้านขายยาอันที่จริงตกแต่งใกล้จะเสร็จแล้ว แขวนป้ายเรียบร้อย และมีสไตล์การตกแต่งหรูหรา หากจะพูดว่าเป็นร้านขายยาน่าจะพูดว่าเป็นคลินิกส่วนตัวระดับไฮเอนด์จะดีกว่า แต่จะมีคุณสมบัติและสามารถดำเนินการได้ไหมต้องดูการใช้เส้นสายของหมอหลินแล้ว
อันที่จริงหากปัดเรื่องโจวเจ๋อลงมือรักษาด้วยตัวเองที่อาจจะทำให้เกิดเรื่องยุ่งยากตามมาภายหลังทิ้งไป การเปิดคลินิกส่วนตัวขนาดเล็กไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผู้อำนวยการหลินเท่าไร ไม่อย่างนั้นเธอจะเปิดโรงพยาบาลในเครือหลายแห่งในผูเถียนได้อย่างไร
“คุณมาแล้วเหรอ” เถ้าแก่โจวเข้ามาก็พูดประโยคที่ไร้สาระทันที ผู้อำนวยการหลินพยักหน้า จากนั้นเถ้าแก่โจวจึงพูดไร้สาระอีกหนึ่งประโยค “กินข้าวหรือยัง”
…
ด้านข้างประตูกระจกของร้านหนังสือ สาวน้อยโลลิกับไป๋อิงอิงยืนเรียงกัน สาวน้อยโลลิสองมือกอดอก ไป๋อิงอิงก็ทำท่าแบบเดียวกัน ผู้หญิงสองคนอย่างน้อยเวลานี้ก็ยืนอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน
“ดังนั้น ชาติที่แล้วเขาถึงเป็นโสดใช่ไหม” สาวน้อยโลลิมองไปทางผีดิบเซ่อซ่าน่ารักในสายตาของเธอที่อยู่ด้านข้าง
ไป๋อิงอิงพยักหน้า “ชาติที่แล้วเถ้าแก่อายุสามสิบปีกว่า ยังไม่ได้แต่งงาน”
“ตามหลักแล้วหัวหน้าในโรงพยาบาล ทั้งยังเป็นศัลยแพทย์ที่มีชื่อเสียง น่าจะโชคดีถึงจะถูก ไม่ว่าหน้าที่การงานหรือตำแหน่งทางสังคม สามารถดึงดูดเพศตรงข้ามและเป็นที่ชื่นชอบของแม่ยาย เขามีฐานะและเงื่อนไขที่ดีขนาดนี้ แต่ยังเป็นโสดได้ ไม่ง่ายเลยจริงๆ”
ไป๋อิงอิงพยักหน้าต่ออย่างเห็นด้วย
“พรืด…คุณมาแล้วเหรอ กินข้าวหรือยัง…” สาวน้อยโลลิเลียนแบบคำพูดและน้ำเสียงของโจวเจ๋อ จากนั้นตัวเองก็กลั้นไม่ไหวหัวเราะออกมาก่อน
“โสดและเก่ง หาเรื่องไม่ได้”
…
“ฉันผ่านมาทางนี้พอดี ดังนั้นจึงอยากมาดูว่าตกแต่งร้านเป็นยังไงบ้าง สงสัยใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ”
“ครับ” โจวเจ๋อขานรับหนึ่งที
“รออีกสองสามวันฉันจะจัดทีมแพทย์และพยาบาลทีมเล็กเข้ามา เรื่องคุณสมบัติการดำเนินงานฉันจะจัดการเอง วันไหนถ้าคุณคันไม้คันมือ ก็ลองเข้าไปเล่นข้างในได้นะคะ ฉันได้จัดห้องผ่าตัดเอาไว้ให้คุณแล้ว อุปกรณ์ล้วนเป็นของชั้นหนึ่ง ส่วนใบประกอบวิชาชีพหมอ ฉันจะทำให้คุณหนึ่งฉบับ ทำเป็นแพทย์แผนจีนนะคะ ฉันเชื่อว่า ด้วยระดับของคุณจะไม่มีปัญหาแน่นอน อย่างน้อยจะไม่มีอุบัติเหตุจากการรักษา”
โจวเจ๋อพยักหน้า เธอตกแต่งร้านขายยาเสร็จแล้ว หากตัวเองยังปฏิเสธคงจะดูกระบิดกระบวนเกินไปหน่อย และตอนนี้เถ้าแก่โจวก็มีความสามารถพิเศษสามารถจับวิญญาณได้ ถ้าหากเป็นหมอก็เท่ากับมีสูตรโกง เวลานี้จู่ๆ โจวเจ๋อมองเห็นคนหนึ่งกำลังนั่งอยู่ในรถของผู้อำนวยการหลิน คนนั้นใส่ชุดสูทสีไวน์แดง สวมแว่นกันแดด นั่งอยู่เบาะหลังกำลังดูโทรศัพท์อยู่ อายุประมาณสี่สิบปี ใส่ของแบรนด์เนมตั้งแต่ข้อมือถึงรองเท้า เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและมีรสนิยม
อีกฝ่ายรู้สึกได้ถึงสายตาของโจวเจ๋อ จึงถอดแว่นกันแดดเผยให้เห็นนัยน์ตาที่ลุ่มลึก พยักหน้าแล้วยิ้มให้โจวเจ๋อเล็กน้อย โจวเจ๋อหรี่ตา เขาจำได้ว่าตัวเองยังไม่ได้หย่า ถึงแม้ความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาจะไม่เป็นจริง แต่สามารถพูดได้ว่ายังอยู่ในนาม ขาดแค่ถือปากกาเซ็นชื่อเท่านั้นความสัมพันธ์ก็จะจบลง แต่อย่างน้อยก็ยังไม่จบใช่ไหมล่ะ ต่อให้จบความสัมพันธ์แล้ว เวลาเห็นแฟนเก่าหรือภรรยาเก่าอยู่กับชายอื่นก็ยังอวยพรได้ คนประเภทนี้เป็นคนจอมปลอมสุดยอดหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
“นี่คือทนายอัน โรงพยาบาลของพวกเราและสำนักงานทนายความของเขาได้ตกลงร่วมงานกันเมื่อเร็วๆ นี้ และทนายอันช่วงนี้ได้ช่วยทำคดีขัดแย้งเรื่องการรักษาให้พวกเราค่ะ จัดการได้เหมาะสมมากเลย” ผู้อำนวยการหลินแนะนำให้โจวเจ๋อรู้จัก
“ทนายอัน คนนี้เป็นสามีของฉันค่ะ สวีเล่อ”
“สวัสดีครับ” อีกฝ่ายพยักหน้าให้โจวเจ๋อเล็กน้อยแล้วพูดหนึ่งประโยคว่า “หนุ่มหล่อสาวสวย”
เขาพูดสวนทางกับความคิด ถ้าหากทุกคนใส่ชุดลำลองเดินจูงสุนัขแถวหมู่บ้าน แล้วถูกวิจารณ์ว่า ‘หนุ่มหล่อสาวสวย’ อย่างนั้นยังพอพูดได้ ไม่ว่าอย่างไรหน้าตาของสวีเล่อก็ไม่แย่ ตอนแรกพ่อแม่ของผู้อำนวยการหลินถูกใจเขยแต่งเข้าอย่างสวีเล่อ หนึ่งเป็นเพราะพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตแล้ว สองเป็นเพราะเขามีนิสัยอ่อนแอ และสามซึ่งเป็นข้อที่สำคัญที่สุด คือ เขาหล่อ แต่ตอนนี้ผู้หญิงแกร่งที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานยืนข้างผู้ชายที่เกาะผู้หญิงกินเปิดร้านหนังสือที่ขาดทุนแบบนี้แล้วพูดว่า ‘หนุ่มหล่อสาวสวย’ เห็นได้ชัดว่าเป็นการเยาะเย้ย
“ไปกินข้าวด้วยกันไหมคะ” ผู้อำนวยการหลินเชิญโจวเจ๋อ
ทนายอันยักไหล่พูดอย่างผิดหวังว่า “สงสัยผมจะเสียโอกาสได้กินข้าวเย็นกับสาวสวยแล้ว”
โจวเจ๋อไม่ปฏิเสธ เขานั่งเบาะข้างคนขับ แล้วตะโกนบอกผู้หญิงสองคนที่ยืนอยู่หน้าร้านหนังสือเหมือนหินคอยสามีว่า “ออกไปคุยงานแป๊บหนึ่ง”
แน่นอนว่าหินคอยสามีทั้งสองมองข้ามประโยคนี้ แล้วพูดเสียงฮึดฮัดขึ้นจมูกว่า “เหอะ ผู้ชาย”
…
พวกเขาเลือกรับประทานอาหารเย็นในร้านอาหารหรูย่านพัฒนา อาหารในร้านพอใช้ได้ ไม่ถือว่าน่าอัศจรรย์ การตกแต่งพอใช้ได้ แต่ไม่มีลักษณะเด่นอะไร
หรือบางทีลักษณะเด่นเพียงอย่างเดียวก็คือพนักงานที่อยู่ในร้าน ผู้หญิงใส่ยูนิฟอร์มกระโปรงสั้น เหมือนสาวออฟฟิศเพิ่งเลิกงานกระทั่งเหมือนนักศึกษา เวลาที่นำอาหารมาเสิร์ฟทุกครั้งจะให้ความเคารพเป็นอย่างมาก การบริการได้คะแนนเต็ม
ทนายอันเป็นคนเลือกร้านนี้เอง เขาตั้งใจเลือกร้านนี้ ผู้อำนวยการหลินกินข้าวได้ครึ่งหนึ่งแล้วจึงวางตะเกียบ จากนั้นพูดขอโทษบอกว่าตัวเองจะไปเข้าห้องน้ำแล้วลุกออกไป
ส่วนทนายอันกลับกะพริบตาให้โจวเจ๋อ ใช้ผ้าเช็ดปากเช็ดมุมปากแล้วชี้ไปที่อาหารตรงหน้าถามว่า “รสชาติเป็นยังไงบ้างครับ”
“พอใช้ได้ครับ” โจวเจ๋อตอบ
จริงๆ แล้วโจวเจ๋อสังเกตเขามาตลอด ตอนแรกเป็นการสังเกตด้วยสัญชาตญาณเหมือนเวลามีเพศตรงข้ามเข้าใกล้ ‘ลิงอุรังอุตังตัวเมีย’ ของตัวเอง จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นความอยากรู้อยากเห็น นับว่าเป็นผู้ชายวัยกลางคนที่มีเสน่ห์มากคนหนึ่ง ทุกการกระทำของเขาสามารถบอกได้ทุกอย่าง
ถึงแม้เถ้าแก่โจวจะเป็นมนุษย์มาสองชาติแล้วก็ยังทำแบบนี้ไม่ได้ หนึ่งเป็นเพราะเรื่องอายุ สองเป็นเพราะเถ้าแก่โจวไม่เคยใช้ชีวิตที่ร่ำรวยหรูหรามาตลอด ของบางอย่างสามารถแซงหน้าได้ในภายหลัง แต่ของบางอย่างต้องอาศัยการทุ่มด้วยเงิน
“ช่วงนี้ธุรกิจของคุณสวีดีไหมครับ” ทนายอันถาม
“พอได้ครับ เพิ่งจะจบงานไปสองชิ้น”
“หมายถึงขายหนังสือได้สองเล่มเหรอครับ” ทนายอันพูดจบแล้วตัวเองก็หัวเราะ จากนั้นจึงชี้ไปที่เมนูอาหารที่อยู่ตรงหน้า หยิบบัตรธนาคารใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋าวางบนโต๊ะแล้วเลื่อนให้โจวเจ๋อ
“ผมรู้ว่าคุณสวีกังวลอะไร วางใจได้ครับ ผมไม่มีเจตนาแบบนี้เด็ดขาด แล้วก็ถ้าหากคุณสวีรู้สึกว่ารสชาติอาหารบนโต๊ะนี้ไม่ถูกปากไม่อยากกินละก็ คุณสามารถสั่งอาหารด้วยบัตรนี้ต่อได้เลยครับ แต่จะมากับภรรยาของคุณไม่ได้”
“สั่งอาหาร”
“ใช่ครับ มากินข้าวที่นี่ สิ่งที่กินไม่ใช่อาหาร แต่เป็นพนักงานที่นำอาหารมาเสิร์ฟ หน้าสุดท้ายของเมนูอาหารจะระบุราคาของพวกเธอ ผู้ชายผู้หญิงมีหมด เย็นนี้ผมเลือกอาหารของผมแล้ว และตอนนี้ฟ้าก็ใกล้จะมืดแล้ว ผมขอตัวก่อน อยากขึ้นไปพักผ่อนแล้ว ฝากขอโทษผู้อำนวยการหลินแทนผมด้วยนะครับ”
ขณะที่พูดทนายอันหยิบกระเป๋าเอกสารของตัวเองแล้วดีดนิ้วหนึ่งที พนักงานหญิงที่เพิ่งนำอาหารจานพิเศษมาเสิร์ฟรีบเข้ามาช่วยถือกระเป๋าให้ทนายอันทันที จากนั้นทั้งสองคนจึงเดินเข้าลิฟต์ ทนายอันยังหันมากะพริบตาให้โจวเจ๋อพลางโอบผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ แล้วหอมแก้มเธอ
โจวเจ๋อเล่นบัตรธนาคารที่อยู่ในมือ “คนล่ะคะ” เสียงของผู้อำนวยการหลินดังมาจากข้างหลัง โจวเจ๋อชักนิ้วกลับทันที เก็บบัตรธนาคารเข้าไปในแขนเสื้อของตัวเอง เหอะ ผู้ชาย
“เขาบอกว่าเหนื่อย ขอตัวกลับบ้านไปพักผ่อน ไม่รบกวนพวกเราแล้ว”
“ได้ค่ะ พวกเราไปเดินเล่นกัน”
…
เวลาตีสามกว่า “คุณไม่รู้สึกเหนื่อยอยากนอนพักบ้างเหรอคะ” ผู้หญิงถามอย่างตกใจอยู่บ้าง
ทนายอันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในดวงตาของเขาเริ่มมีเลือดฝาดอย่างช้าๆ พลางพูดเสียงขรึมว่า “อยากนอนอยู่แล้ว ถ้าหากผมยังนอนได้ละนะ เหอะๆ ใครสั่งให้คนที่นอนข้างผมน่าดึงดูดขนาดนี้”
…………………………………………………………………………