ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 319 ครองตำแหน่งแต่ไม่ทำงาน
ตอนที่ 319 ครองตำแหน่งแต่ไม่ทำงาน
‘แอ๊ด’ ภายใต้ม่านราตรี ประตูถูกผลักออกเบาๆ เงาร่างหนึ่งเดินเขย่งปลายเท้าออกมาจากด้านใน ตอนที่เขากำลังเดินย่องเตรียมปิดประตูออกไปข้างนอก ไฟตรงระเบียงทางเข้าสว่างพอดี
ชายหนุ่มตกตะลึงยืนอยู่กับที่ เขาใส่หมวกแก็ป ใส่ผ้าปิดปากสีดำ ไม่สามารถมองเห็นสีหน้าทั้งหมดของเขาได้ แต่สามารถมองเห็นความตื่นตะลึงจากแววตาของเขา
‘พึ่บ!’ มีผู้ชายคนหนึ่งใส่ชุดนอนเอนกายอยู่บนเก้าอี้ยาวนอกลานบ้าน เขาจุดบุหรี่หนึ่งมวน ดูเหมือนจะรอเวลานี้นานแล้ว เขาหาวหวอด พลางเขี่ยบุหรี่แล้วพูดว่า “คุณโง่หรือเปล่า ถามใจตัวเองดู เป็นคุณจะนอนหลับไหม แล้วผมจะนอนหลับได้ยังไง ดังนั้นคุณคิดแอบหนีตอนกลางคืนตอนผมนอนหลับ สมองของคุณมีแต่น้ำซาวข้าวเหรอ!”
ทนายอันขึงตาใส่ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังตัวเองอย่าไม่พอใจ ดูการแต่งตัวของเขาแล้วทั้งโกรธและขำ แล้วจึงพูดตามตรงว่า “ดูสภาพการแต่งตัวของคุณสิ คุณกลัวว่าคนอื่นจะไม่รู้ว่าคุณต้องอยู่แบบหลบๆ ซ่อนๆ หรือไง ถ้าหากเจอตำรวจสายตรวจบนถนน คุณจะต้องโดนสอบสวนเป็นพิเศษแน่นอน”
อีกฝ่ายถอดผ้าปิดปากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครา แล้วพูดอย่างไม่ถือสา “ตัวตนของผมมีปัญหาเหรอ”
“ตัวตนไม่มีปัญหาแน่นอน ไม่ว่ายังไงคุณก็ยืมศพคืนชีพ แต่คุณอย่าลืม ตัวตนของคุณคือผู้ป่วยในห้องที่ได้รับการเฝ้าระวังเป็นพิเศษของโรงพยาบาลบ้าฉางโจว!”
“นี่เป็นปัญหาของคุณไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงให้ผมเข้าร่างของคนป่วยโรคจิต ผมไม่เชื่อ ฉางโจวกว้างใหญ่ขนาดนี้ จะหาคนที่เพิ่งตายยากมากขนาดนั้นเชียว!”
“นี่คือการทดสอบชีวิตที่ผมจัดให้ลูกค้าของผมทุกคน เรือนจำและโรงพยาบาลบ้าเป็นสถานที่ทดสอบที่ดีของการใช้ชีวิต ถ้าหากคุณเกิดรู้แจ้งในชีวิตหรือขุดค้นเรื่องราวในชีวิตเจอ ไม่แน่หลังจากนี้คุณอาจจะเป็นนักเขียนได้ออกหนังสือก็เป็นได้”
“ไร้สาระ”
“อือฮึ รู้แล้วก็ดี ตอนนี้กลับเข้าไปเสียดีๆ นอนไม่หลับก็ต้องนอนลงไป รอฟ้าสางวันพรุ่งนี้ผมจะส่งคุณกลับไปที่โรงพยาบาลบ้า ช่วยคุณย้ายโรงพยาบาลอย่างลับๆ”
“ผมไม่กลับ”
“คุณตัดสินใจเองไม่ได้ คุณทำผิดสัญญาแอบหนีออกมา ถือว่าเป็นความประมาทของคุณ เมื่อวานถ้าหากผมปรากฏตัวไม่ทัน ตอนนี้คุณน่าจะโดนจับกลับไปอาบน้ำในกระทะน้ำมันที่นรกแล้ว”
“ผมแค่อยากเจอหน้าแม่กับลูกสาวของผมสักครั้ง พูดกับพวกเขาสองสามประโยค ถึงแม้จะไม่เปิดเผยตัวตน”
“ปัญญาอ่อน ก่อนหน้านี้คุณโดนยมทูตที่ฉางโจวคอยจับตาได้ยังไง เขาแกะเบาะแสร่องรอยของคุณได้แล้วจึงวิเคราะห์ตัวตนของคุณออกมา แล้วยังวางแผนให้คุณติดกับ ผลปรากฏว่าคุณก็โง่กระโดดเข้าไปจริงๆ!”
“ช่วยผมหน่อย”
“ขอโทษ ช่วยไม่ได้”
“ยมทูตตนนั้นโดนคุณทำร้ายบาดเจ็บไม่ใช่เหรอ ช่วงนี้เขาไม่น่าจะออกมาอวดเก่งได้…”
“ยมทูตเมืองอื่นมาแล้ว อยากหาโอกาสกินข้าวให้อิ่มหมีพลีมัน มีอยู่คนหนึ่งเก่งพอสมควร ถ้าไม่จำเป็นผมไม่อยากต่อสู้กับเขา”
“ทำไม”
“เพราะว่าฉางโจวมียมทูตสามตน สองตนในนั้นวันๆ เอาแต่ลุ่มหลงมัวเมา ส่วนคนที่ทำงานเพียงคนเดียวถูกผมทำร้ายเมื่อวานแล้ว ดังนั้นยมทูตเมืองอื่นจึงอยากมาที่นี่เพื่อหาโอกาสทำผลงาน”
“จริงๆ แล้วชีวิตในโรงพยาบาลบ้า ก็ไม่ได้ทำให้รับไม่ได้ขนาดนั้น”
“หากเทียบกับนรกแล้วดีกว่าเป็นพันเท่าหมื่นเท่าแน่นอน”
“แต่ผมยังอยากเจอครอบครับของผม ต้องเจอให้ได้”
ขณะที่พูด ผู้ชายคนนั้นวิ่งออกไปข้างนอกโดยตรง ทนายอันจึงถอนหายใจ “คิดว่าตัวเองหนีออกมาจากนรกแล้วจะเป็นตัวเอกเหมือนจอหงวนนั่งขบวนแห่ติดยศกลับบ้านเกิดเหรอ ในนรก พวกคุณคือสัตว์ที่อยู่ต่ำที่สุด ในโลกมนุษย์ ก็อย่าลืมตัวตนของตัวเอง พวกคุณเป็น…หนูวิ่งข้ามถนน!”
มือของทนายอันที่หนีบบุหรี่อยู่เนื้อเริ่มหายไป เผยให้เห็นกระดูกสีขาวน่ากลัว วินาทีต่อมา เงาร่างของทนายอันพลันหายแวบไปจากเก้าอี้ตัวยาว จากนั้นปรากฏตัวอยู่ข้างหลังผู้ชายคนนั้น แล้วมือกระดูกขาวก็ทิ่มเข้าไปในหน้าอกของอีกฝ่ายโดยตรงด้วยความรวดเร็วและเด็ดขาด กระทั่งลากลำไส้ของอีกฝ่ายออกมา เสียดายที่ตอนนี้ไม่มีหม้อไฟอยู่ข้างๆ เลือดคนกับไส้คนน่าจะอร่อยกว่าต้มเลือดเป็ดและผ้าขี้ริ้วแน่นอน ผู้ชายคนนั้นมองหน้าอกที่โดนแทงทะลุเป็นรูอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“คุณ…ทำไม…กล้า…”
“ที่นี่เป็นโลกมนุษย์ ไม่ใช่นรก ต่อให้คนนั้นที่ส่งคุณหลบหนีมือยาวแค่ไหน ก็ยุ่งกับความเป็นความตายของผมไม่ได้”
‘ฉึก!’ เขาชักมือกระดูกขาวออกมาโดยตรง ผู้ชายคนนั้นตัวทรุดคุกเข่าลงกับพื้น เขาสัมผัสได้ว่าพลังชีวิตกำลังรั่วไหลออกมาจากภายในร่างกายของตัวเองอย่างช้าๆ ขณะเดียวกันวิญญาณของตัวเองก็เริ่มสลายหายไปเนื่องจากการทำงานของร่างกายได้สูญเสียพลังชีวิตอย่างต่อเนื่อง ครั้งนี้เขาไม่มีโอกาสกลับไปนรกอีก ได้แต่สิ้นสุดลงอยู่ตรงนี้
‘กึก…’ ผู้ชายคนนั้นลืมตาทันที เหงื่อเย็นชุ่มไปทั่วร่างกายของเขา ตัวเองยังอยู่ในท่าปิดประตู ราวกับว่าทุกอย่างเมื่อครู่เป็นเพียงแค่ความฝันที่หายวับไปอย่างรวดเร็ว เขาหันกลับมา เห็นทนายอันนอนอยู่บนเก้าอี้ตัวยาวด้านนอก เพิ่งจะใช้มือดับก้นบุหรี่ควันลอยวนหมุนเป็นเกลียวขึ้นไป “อย่าลืม ไม่มีครั้งหน้าแล้ว” เสียงน่าสะพรึงกลัวของทนายอันดังเข้ามา ผู้ชายคนนั้นสูดลมหายใจลึกๆ สองสามที จากนั้นเปิดประตูเดินกลับเข้าไปในห้อง
…
เช้าตรู่ สาวน้อยโลลิออกไปซื้ออาหารเช้าเหมือนเดิม เธอซื้อพวกน้ำเต้าหู้ปาท่องโก๋มาสามชุด
โจวเจ๋อ สาวน้อยโลลิ และหลิวฉู่อวี่สามคนนั่งตรงหน้าโต๊ะกลมขนาดเล็ก ทุกคนต่างต่อสู้กับอาหารที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง
สาวน้อยโลลิเพิ่งจะบ่นโจวเจ๋อที่ไม่พาไป๋อิงอิงมาด้วย เมื่อวานทั้งสองคนไม่สามารถนอนหลับสนิทได้เลย จึงรู้สึกเพลียอยู่บ้าง
โชคดีที่นอนคืนเดียวเท่านั้น จึงไม่เป็นอะไร หลิวฉู่อวี่กลืนโจ๊กแต่ละคำด้วยความลำบากยากเย็น โจ๊กรสชาติเข้มข้นและหอมมาก แต่เขายากที่จะกินมันลงไปจริงๆ
เขาไม่อยากให้สติของตัวเองนอนหลับแล้วปลุกเจ้าของร่างนี้มากินข้าว เพราะเขารู้ว่าเจ้าของร่างที่ตัวเองมาอาศัยอยู่นี้จริตจะก้านเยอะมาก เขาไม่อยากเสียหน้า ซึ่งเหมือนสาวน้อยโลลิที่ไม่กล้าปล่อยให้หรุยหรุ่ยตัวจริงออกมานอนหลับแทนเธอ สาวน้อยโลลิไม่อยากให้ตัวเองกลายเป็นสาวน้อยโลลิน่ารักและเซ่อซ่าจริงๆ นอกจากนี้ยังมีผู้ชายอย่างโจวเจ๋ออยู่ข้างๆ พอคิดว่าหรุยหรุ่ยตัวจริงเรียกเขาว่า ’อาสวี อุ้มหนูหน่อย หรุยหรุ่ยง่วงนอนแล้ว’ สาวน้อยโลลิรู้สึกหนาวใจ แต่ที่ทำให้หลิวฉู่อวี่รู้สึกแปลกใจก็คือ โจวเจ๋อกับสาวน้อยโลลิกินเร็วและสบายใจมาก แทบไม่มีโรคต่อต้านการรับอาหารอย่างสิ้นเชิง
“พวกคุณ กินลงได้ยังไง” หลิวฉู่อวี่ถาม
“คนเป็นเหล็ก ข้าวก็เป็นเหล็ก บังคับตัวเองกินเข้าไปก็ได้แล้ว” โจวเจ๋อพูดอย่างจริงจัง
“บังคับตัวเองกินคำโตๆ ต่อให้เศร้ามีน้ำตามากแค่ไหนก็กลั้นเอาไว้ นี่คือชีวิต” สาวน้อยโลลิพูดเหมือนผ่านโลกมาอย่างโชกโชน
อย่างไรก็ตามไม่สามารถบอกเขาได้ว่าพวกเขาสองคนมีสิ่งที่เรียกว่าน้ำดอกพลับพลึงแดง ของแบบนี้ต่อให้ใช้ไปน้อยแค่ไหนก็หมดไปแค่นั้น ทั้งสองคนจึงต้องใช้สอยอย่างประหยัด จะยอมแบ่งใช้กับคนอื่นได้อย่างไร ไม่มีทาง!
หลิวฉู่อวี่พยักหน้าเหมือนครุ่นคิด จากนั้นจึงหยิบช้อนตักโจ๊กคำโตอย่างสุดชีวิต ฝืนตัวเองให้รีบกลืนลงไป! เหมือนทหารที่วิ่งไปลานประหาร มาพร้อมกับความรู้สึกเศร้าสร้อยอย่างบอกไม่ถูก ต่อจากนั้นก็คือ “อ้วก!” หลิวฉู่อวี่เอามือป้องปากพยายามฝืนทน
โจวเจ๋อกับสาวน้อยโลลิย้ายอาหารเช้าของตัวเองเดินออกจากห้องนี้ พวกเขาไม่อยากให้การดื่มด่ำกับอาหารเช้าของตัวเองถูกทำลายบรรยากาศเพราะไอ้หมอนี่ ตอนที่ทั้งสองคนกินอาหารเช้าเสร็จแล้วเดินเข้ามาในห้องใหม่ โจวเจ๋อเอามือปิดจมูก สาวน้อยโลลิขมวดคิ้ว
ภายในห้องมีเศษอาเจียนเต็มพื้น ส่งกลิ่นเหม็นเปรี้ยวออกมาแสบจมูกสุดๆ หลิวฉู่อวี่คลานอยู่บนพื้น หน้าซีดเผือด คาดว่าคงจะอาเจียนออกมาแทบหมดท้อง
“ผมกิน…ไม่ลงจริงๆ…” หลิวฉู่อวี่พูดด้วยความเสียใจ
“พวกเราก็ผ่านมาแบบนี้” โจวเจ๋อพูดปลอบใจ
“ต้องลองบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชิน คุณต้องเข้าใจว่า การปรับตัวของมนุษย์ยอดเยี่ยมที่สุด” สาวน้อยโลลิพูดให้กำลังใจเช่นกัน
หลิวฉู่อวี่พยักหน้า เพื่อบอกว่าตัวเองเข้าใจ บางทีนี่อาจจะเป็นการบำเพ็ญเพียรอย่างหนึ่ง และการบำเพ็ญเพียรของตัวเองยังไม่ได้เรื่อง
“วันนี้พวกเราจะไปดูที่วัดไหม” สาวน้อยโลลิถามโจวเจ๋อ เธออยากจัดการเรื่องนี้ให้เสร็จโดยเร็ว รีบเก็บคะแนนแล้วกลับบ้านไปนอน
“อืม” โจวเจ๋อขานรับหนึ่งที
อันที่จริงเขาสงสัยว่าคนที่ทำร้ายยมทูตหลิวฉู่อวี่เป็นใครมากกว่า เขารู้สึกมาตลอดว่าคนนั้นจะต้องเป็นปลาตัวใหญ่กว่าแน่นอน
เถ้าแก่โจวคิดไม่ถึงแน่นอนว่าคนนั้นก็คือคนที่ตัวเองกินข้าวด้วยเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ แถมยังช่วยสั่งอาหารให้ตัวเอง บัตรใบนั้นยังนอนอยู่ในกระเป๋าของตัวเองอยู่เลย
ตอนที่จะออกจากบ้าน สาวน้อยโลลิหยิบสมุดยมทูตออกมาเปิดด้วยความเคยชิน จากนั้นเธอจึงตกตะลึง เธอยื่นมือดึงโจวเจ๋อที่กำลังเรียกรถแท็กซี่แล้วพูดว่า “สมุดยมทูตมีตำแหน่งแล้ว”
หลิวฉู่อวี่เห็นทั้งสองคนเดินกลับมาอีก จึงถามอย่างสงสัย “เป็นอะไรครับ”
สาวน้อยโลลิวางสมุดยมทูตหน้านั้นตรงหน้าหลิวฉู่อวี่ จากนั้นพลิกไปอีกหนึ่งหน้า บนนั้นมีประกาศจับผีผู้หญิงสองตัว คุณยากที่จะแยกแยะความสวยงามหรือขี้เหร่บนในประกาศจับได้ เพราะในนั้นเป็นรูปร่างของวิญญาณที่โดนทารุณไม่เหลือชิ้นดี ดังนั้นจึงไม่รู้สึกถึงความสวย
“มีตำแหน่งแล้ว มีร่องรอยเบาะแสของวิญญาณร้ายสองตัว” หลิวฉู่อวี่รู้สึกปวดใจ ทำไมก่อนหน้านั้นไม่เจอเรื่องดีๆ แบบนี้ ผลปรากฏว่า ‘หัวหน้า’ ตัวเองเพิ่งจะมาถึงก็มีผลงานมาส่งถึงที่เลยเหรอ
ถ้าหากก่อนหน้านี้ตัวเองโชคดีแบบนี้บ้าง เขาจะทำตัวเป็นนักสืบคอยสะกดรอยตามหมอนั่นที่ซ่อนตัวเก่งทำไม แถมยังทำให้ตัวเองต้องอยู่ในสภาพที่น่าอับอายแบบนี้อีก
“ประเด็นคือมองที่อยู่สิ ไนต์คลับดาร์กคัลเลอร์” สาวน้อยโลลิชี้ไปบนที่อยู่ของใบประกาศจับ “สองคนนั้นก็อยู่ที่นั่น เมื่อวานคุณบอกว่ามียมทูตสองตนในฉางโจวเปิดไนต์คลับใช่ไหม”
“ฉางโจวมีไนต์คลับนี้ที่เดียว และเปิดที่ชั้นใต้ดิน คนเที่ยวเล่นสนุกในนั้นไม่แบ่งกลางวันหรือกลางคืน สรุปก็คือมีลูกค้าแน่นตลอด”
สาวน้อยโลลิมองโจวเจ๋อแล้วมองสมุดยมทูตอีกที เธอรู้สึกว่าไร้สาระมาก เมื่อก่อนรู้สึกว่าโจวเจ๋อโคตรเหมือนปลาเค็ม แต่วันนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะเจอยมทูตที่สุดโต่งมากกว่า
วิญญาณร้ายสองตัวแอบหลบหนีกลับมา ไปเที่ยวเล่นสนุกที่ไนต์คลับของยมทูตสองคนนั้น แต่พวกคุณกลับไม่ทำอะไรเลย มีคนที่ครองตำแหน่งแต่ไม่ทำงานแบบนี้ด้วยเหรอ…
………………………………………………………………………..