ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 412 หลักฐาน!
ตอนที่ 412 หลักฐาน!
เจ้าของบ้านมาแล้ว เป็นชายวัยกลางคนรูปร่างผอมสูง เส้นผมความจริงได้ล้านเป็นพวกสนับสนุนคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์ประจำท้องถิ่นไปตั้งนานแล้ว
“สหายตำรวจ ว่าไง สวัสดีครับ”
เจ้าของบ้านยื่นบุหรี่ให้เหล่าจาง เหล่าจางไม่รับ แต่กลับหยิบกล้องออกมาวางไว้บนฝ่ามือของตัวเองและให้เขาดู สีหน้าเจ้าของบ้านตกใจจนหน้าซีดทันที ตอนแรกเขานึกว่าตำรวจมาตรวจสอบการป้องกันเพลิง หรือตรวจสอบตัวตนของแรงงานจากต่างเมือง ผลลัพธ์คือไม่คิดว่าตำรวจจะเจอไอ้นี่เข้า
“มันคืออะไรเหรอครับ”
เจ้าของบ้านคิดจะปฏิเสธ แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถขึ้นแท่นรับรางวัลบนเวทีออสการ์ได้ ฝีมือการแสดงของคนส่วนใหญ่ไม่เข้าขั้นแน่นอน นอกจากนี้ เห็นบนอินเทอร์เน็ตยังรู้สึกว่าตำรวจก็อย่างนั้นแหละ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เมื่อเห็นตำรวจตัวจริงสวมเครื่องแบบตำรวจยืนอยู่ตรงหน้าคุณ โดยทั่วไปคนปกติก็มีหวั่นๆ ในใจกันบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกจับได้อีก
จางเยี่ยนเฟิงมองทะลุคำโกหกของเจ้าของบ้านในปราดเดียว และพูดกับเสี่ยวเฉาที่ตามเขามาทันที “คุณควบคุมตัวเขาไว้ ไม่อนุญาตให้ติดต่อครอบครัวเขา อีกอย่างเรียกคนไปตรวจค้นที่พักของเขา”
ขณะที่พูด จางเยี่ยนเฟิงยื่นมือชี้เจ้าของบ้าน และกดเสียงต่ำลง
“หากเราพบวิดีโอนี้ในคอมพิวเตอร์ของคุณหรือที่อื่นๆ คุณรู้หรือไม่ว่าผลที่ตามมาจะเป็นยังไง”
ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร จางเยี่ยนเฟิงเองก็ไม่รู้แน่ชัด เพราะกฎหมายในประเทศค่อนข้างคลุมเครือในเรื่องนี้ หลายเหตุการณ์ที่ถูกค้นพบ อย่างเช่น การแอบถ่าย แอบส่องกล้อง แม้กระทั่งคู่กรณีแจ้งตำรวจไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่ก็จบลงด้วยการเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย
แต่สิ่งนี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเหล่าจางที่ทำทีว่าเข้าใจมันดีมากเพื่อกดดันเจ้าของบ้านทางจิตใจ อีกทั้งเรื่องแบบนี้ถ้ารั่วออกไป การชดเชยจะกลายเป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายหน้าเมื่อข่าวได้แพร่ออกไป
เป็นไปตามคาด เจ้าของบ้านรับมือไม่ไหว คว้ามือของจางเยี่ยนเฟิงไว้ “ผมผิดไปแล้ว ผมหน้ามืดตามัวจิตใจมืดบอด ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้ว…”
“เจ้าของบ้านทำไมแกถึงใจร้ายขนาดนี้ แกนี่มันคนไร้ยางอายสิ้นดี!” ผู้เช่าสาวที่อยู่ข้างๆ เริ่มด่าเปิดเปิง
“พอแล้ว เรื่องนี้ปล่อยให้ทางตำรวจอย่างเราจัดการ ผมจะพาตัวเขาออกไปก่อน” จางเยี่ยนเฟิงไม่ได้มาที่นี่เพื่อจัดการกับกล้องจิ๋วนี่ เขามาที่นี่เพราะคดีฆาตกรรมต่างหาก
“สหายตำรวจ ห้ามปล่อยมันไปง่ายๆ เด็ดขาดนะคะ!”
“ผมทราบแล้ว คุณรอการแจ้งข่าวจากพวกเรานะครับ” ขณะที่พูด จางเยี่ยนเฟิงลากเจ้าของบ้านออกจากประตูห้อง
เจ้าของบ้านแทบจะคุกเข่าคลานบนพื้น และเกือบจะถวายหัวให้เหล่าจางแล้ว เอาแต่โวยวายลั่น ขอร้องไม่ให้เหล่าจางแพร่งพรายเรื่องนี้ออกไป ยิ่งไม่สามารถปล่อยให้ภรรยาของเขารับรู้
“ผมขอถามอะไรคุณหน่อย…”
“สหายตำรวจ ผมมีเบาะแสจะแจ้ง!” จางเยี่ยนเฟิงและเจ้าของบ้านพูดออกมาแทบจะพร้อมๆ กัน
“เชิญคุณพูดก่อน” จางเยี่ยนเฟิงพยักหน้า
“ผมติดตั้งไอ้นี่เพราะว่ามีเหตุผลต่างหาก ไม่ได้เอาไว้ทำเรื่องต่ำตมอะไรแบบนั้นจริงๆ จริงๆ นะครับ คุณต้องเชื่อผมนะ”
“เหตุผลล่ะ”
“จริงสิ มันมีเหตุผลนะ เมื่อสองปีก่อน มีผู้เช่ารายหนึ่งของผมที่นี่ ชื่อซย่าหรือหวังชุนฮวาอะไรเนี่ยแหละ หายตัวไป เป็นเพราะเรื่องนี้ผมถึงได้ติดตั้งกล้องนี้ไว้ ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของบรรดาผู้เช่ายังไงล่ะครับ”
ไอ้จอมหลอกลวง เพื่อความปลอดภัยของผู้เช่า ทำไมถึงไม่ติดตั้งกล้องไว้ที่ทางเดินหรือติดไว้ข้างนอกล่ะ คุณติดตั้งในห้องน้ำเพราะเป็นห่วงว่าหากผู้เช่าลื่นล้มขณะอาบน้ำแล้วจะไม่มีใครมาช่วยหรือไง ทว่าเหล่าจางไม่ได้รีบร้อนตำหนิเขา แต่กลับจี้ถาม “ซย่าชุนฮวาเหรอ คุณรู้เรื่องการหายตัวไปของซย่าชุนฮวาด้วยงั้นเหรอ”
ขณะที่พูด จางเยี่ยนเฟิงคว้าคอเจ้าของบ้านและตะโกนขึ้น “บอกผมมาให้หมดทุกอย่าง คุณยังรู้อะไรอีก!!!!!”
เจ้าของบ้านตกใจไม่กี่วินาที จากนั้นพยักหน้าและพูดขึ้นทันที
“ผมมีวิดีโอ มีวิดีโอคลิปอยู่ในบ้านผม”
…
จางเยี่ยนเฟิงพาเสี่ยวเฉาไปที่บ้านเจ้าของบ้านด้วยกัน เจ้าของบ้านไม่ได้พักอยู่ที่นี่ แต่อาศัยอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย เป็นอพาร์ตเมนต์ที่มีสามห้องนอนและหนึ่งห้องนั่งเล่น
เมื่อเปิดประตูเข้าไป ภรรยาของเจ้าของบ้านกำลังทำอาหารอยู่ในครัว เมื่อเห็นว่ามีคนกลับมาแล้วจึงสวมผ้ากันเปื้อนเดินออกมา
“อะไรกันคะนี่”
“นี่คือตำรวจน่ะ ผมช่วยตำรวจตรวจสอบเรื่องอะไรบางอย่างเกี่ยวกับผู้เช่าอยู่น่ะ” เจ้าของบ้านชิงอธิบายก่อน
จางเยี่ยนเฟิงพยักหน้า การสืบคดีสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด เลยไม่ถือสาและช่วยเจ้าของบ้านปิดบังไปก่อน กระทั่งถ้าหากเจ้าของบ้านสามารถให้เบาะแสที่มีประโยชน์พอ เขาก็ไม่รังเกียจที่จะเป็นคนกลางเจรจากับเจ้าของบ้านให้จ่ายค่าชดเชยให้ผู้เช่าเป็นการส่วนตัว จริงๆ แล้วมันจะเอื้อประโยชน์ต่อผู้เช่ามากกว่าการขึ้นโรงขึ้นศาล
เพราะถ้าหากเรื่องราวถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ เจ้าของบ้านก็จะจนตรอกจนคิดทำอะไรบ้าๆ แต่ถ้าเรื่องราวไม่ถูกเปิดเผย เจ้าของบ้านจะพยายามชดเชยให้ผู้เช่าพึงพอใจที่สุด เพื่อหยุดไม่ให้เรื่องนี้แพร่งพรายออกไปสู่สาธารณชน
นี่ไม่ใช่เพราะจางเยี่ยนเฟิงปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพราะเห็นแก่ความสัมพันธ์ส่วนตัว อันที่จริง จากประสบการณ์ของเขา เหยื่อเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเต็มใจรับผลประโยชน์บางส่วนที่ใช้สอยได้จริงๆ แต่ถ้าคุณบีบคั้นเจ้าของบ้านดำเนินคดีความกับเขาหรืออะไรสักอย่าง กลับกลายเป็นเหยื่อจะไม่รับน้ำใจของคุณ และกล่าวหาว่าคุณแส่เรื่องของคนอื่น
ทุกคนเข้าไปในห้องหนังสือของเจ้าของบ้าน ภรรยาเจ้าของบ้านยกชาเข้ามาเสิร์ฟแล้วก็ออกไป จางเยี่ยนเฟิงให้เสี่ยวเฉายืนเฝ้าประตูไว้ เจ้าของบ้านถึงได้เปิดคอมพิวเตอร์ของตัวเองด้วยความสบายใจและคลิกเข้าโฟลเดอร์
“อยู่ตรงนี้ มันเป็นวิดีโอของเดือนตุลาคม ปี 2016 เป็นเพราะเกิดเรื่องนี้ขึ้น ผมถึงดึงดันติดกล้องเอาไว้ในห้องของผู้เช่า แต่ผมกลัวว่าพวกเธอจะไม่เข้าใจเจตนาดีของผม ดังนั้นถึงได้ไม่บอกพวกเธอ กลัวจะทำให้พวกเธอเข้าใจผิด…”
“หุบปาก แล้วคลิกเปิดวิดีโอ” จางเยี่ยนเฟิงเร่งเร้า ข้อแก้ตัวของเจ้าของบ้านแถจนถลอกหมดแล้ว คุณบอกว่าคุณติดตั้งหลังจากเกิดเรื่องกับซย่าชุนฮวา อย่างนั้นทำไมถึงมีช่วงก่อนที่ซย่าชุนฮวาจะเกิดเรื่องด้วยล่ะ
เจ้าของบ้านกดเปิดวิดีโอ ในวิดีโอไม่ค่อยชัดเจนสักเท่าไร อาจเป็นเพราะกล้องเมื่อไม่กี่ปีก่อนของเจ้าของบ้านไม่ใช่ของชั้นเยี่ยมพัฒนาการยังไม่ล้ำหน้าเท่าตอนนี้ แต่ก็ยังพอมองเห็นเหตุการณ์คร่าวๆ ได้ชัดเจน อย่างน้อยก็ชัดเจนกว่ากล้องธรรมดามาก ถึงอย่างไรถ้าจะมาดูฉากนั้น หากมีโมเสกลายขาวดำเยอะๆ แล้วจะดูทำสากกะเบืออะไร
ในภาพนั้นเป็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังอาบน้ำอยู่ ใบหน้าของหญิงสาวปรากฏขึ้นในกล้องเป็นระยะ จางเยี่ยนเฟิงพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเรียกให้เสี่ยวเฉามาดูด้วย เพื่อยืนยันว่าเป็นซย่าชุนฮวา ศพนิรนามเบอร์ F!
จากนั้นก็ดูต่อไปเรื่อยๆ ดูไปแล้วยี่สิบนาที! จางเยี่ยนเฟิงก้มหน้ามองแถบเลื่อนเวลาและพบว่ายังเหลืออีกยี่สิบนาที
“อาบน้ำนานขนาดนี้เลยเหรอ”
“ใช่น่ะสิ เพราะค่าน้ำหารกันนี่นา ดังนั้นผู้เช่าพวกนี้จึงไม่ยอมให้ตัวเองเสียเปรียบ อาบน้ำก็นานแถมไม่ประหยัดอีก ไม่อย่างนั้นคนอื่นใช้เยอะแล้วตัวเองใช้น้อย พอหารกันออกมาก็ถูกคนอื่นเอาเปรียบใช่ไหมล่ะ”
“เลื่อนๆ เร็วหน่อย!” จางเยี่ยนเฟิงเร่งเร้า
แม้ว่านี่จะเป็นภาพหลักฐานทางพยานวัตถุ ภายในใจของจางเยี่ยนเฟิงและเสี่ยวเฉาก็ไม่ได้มีความคิดล่วงเกินเลยแม้แต่น้อย แต่ถึงอย่างไรผู้ตายก็สำคัญที่สุด บางฉากข้ามได้ก็ข้ามไปเถอะ แค่คิดว่าตอนนี้หญิงสาวในวิดีโอที่กำลังอาบน้ำอยู่นี้ถูกฆ่าฝังไว้ชายแม่น้ำเมื่อสองปีก่อน จนเกือบจะเสียชีวิตโดยไร้ข่าวคราวใดๆ มันทำให้คนปวดใจแปลบๆ อย่างบอกไม่ถูก
เจ้าของบ้านเลื่อนเร็วขึ้นแล้ว เขาน่าจะเคยดูวิดีโอช่วงนี้หลายครั้ง จนถึงนาทีที่ 37 ของวิดีโอ จู่ๆ ในฉากก็มีผู้ชายสวมชุดกันฝนปรากฏตัวขึ้น หลังจากชายคนนั้นเข้ามาก็ตรงเข้าไปปิดหน้าซย่าชุนฮวา และลากเธอออกจากห้องน้ำทันที
ผู้ชายคนนี้น่าจะเป็นฆาตกร! แต่ชายในภาพสวมหน้ากากอนามัยขนาดใหญ่ปิดบังใบหน้าไว้อย่างมิดชิด
“คุณแม่งทำไมตอนนั้นถึงไม่แจ้งตำรวจ” จางเยี่ยนเฟิงตำหนิ
“ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเกิดเรื่องขึ้นจริงรึเปล่า…”
“เธอไม่ได้เอาของอะไรไปเลย คนกลับหายตัวไปเฉยๆ ยังไม่แน่ใจว่าเกิดเรื่องขึ้นไหมน่ะเหรอ”
“ถ้าเกิดว่าเป็นพวกเกาะคนรวย แล้วชักดาบหนีไปที่ไกลๆ ล่ะ อีกอย่างลูกบิดห้องเช่าก็ไม่ได้พังด้วย”
“ไอ้ระยำเอ๊ย!” จางเยี่ยนเฟิงถีบร่างเจ้าของบ้าน
เจ้าของบ้านถูกถีบหงายลงบนพื้น ไม่กล้าส่งเสียงร้องแม้แต่แอะเดียว ข้างนอกประตู ภรรยาของเขาดูเหมือนจะได้ยินเสียงดังตึงตัง รีบวิ่งมาเคาะประตูแล้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจ้ะ คุณไปทำงานของคุณต่อเถอะ!” เจ้าของบ้านรีบตะโกนบอก
จางเยี่ยนเฟิงรู้ดีว่า จริงๆ แล้วเจ้าของบ้านสารเลวคนนี้กังวลว่าหลังจากที่เขาแจ้งตำรวจไปแล้ว เรื่องที่เขาติดตั้งกล้องแอบถ่ายจะแดงขึ้นมา ดังนั้นจึงเลือกที่จะหุบปากเงียบ ไม่ปริปากเรื่องที่หนึ่งชีวิตอาจจะถูกฆ่าตาย!
“เวลา บอกเวลาผมมา” จางเยี่ยนเฟิงย้อนวิดีโอกลับไปดูเวลาในตอนนั้น ในวิดีโอมีการบันทึกไว้ คือวันที่ 24 ตุลาคม 2016 เวลา 15.20 น.
เค้าโครงทั้งก่อนและหลังของอพาร์ตเมนต์ให้เช่าถูกๆ ที่เคยไปก่อนหน้านี้เริ่มผุดขึ้นในหัว
ฆาตกรฝังศพ
กล่าวคือ หลังจากเขาฆ่าซย่าชุนฮวาแล้วก็เอาศพไปด้วย ไม่ว่าเขาจะเอาคนเป็นๆ หรือศพไปด้วย คนตัวใหญ่ขนาดนั้น จุดประสงค์นั้นชัดเจนมาก
“เสี่ยวเฉา ไป กลับไปกับผม!” จางเยี่ยนเฟิงทิ้งเจ้าของบ้านที่ยังนั่งอยู่บนพื้นไว้ไม่สนใจเขาอีก จางเยี่ยนเฟิงสั่งให้เสี่ยวเฉาขับรถมารับตัวเองกลับไปถึงหน้าประตูอพาร์ตเมนต์ให้เช่าราคาถูกแห่งนั้น แต่ทว่า ครั้งนี้จางเยี่ยนเฟิงไม่ได้ขึ้นไป แต่หันกลับมามอง ‘ธนาคารเพื่อการก่อสร้าง’ ที่อยู่ข้างๆ ติดกับปากทางเข้า
“ฆาตกรจะต้องเป็นคนพาเหยื่อลงมา อพาร์ตเมนต์ให้เช่าหลังนี้มีทางเดินขึ้นลงแค่ทางเดียวเท่านั้น ตอนนั้นฆาตกรจะต้องเข้าออกจากที่นี่ ในช่วงวันที่ 24 ตุลาคม 2016 หลังจากเวลา 15:20 น. เป็นไปได้สูงที่ฆาตกรจะพาเหยื่อออกมาจากที่นี่! ไป ไปที่ธนาคารแห่งนี้และดึงข้อมูลกล้องวงจรปิดของพวกเขา”
“เอ่อ ธนาคารจะยินยอมให้เราดึงข้อมูลกล้องวงจรปิดได้เร็วขนาดนั้นเหรอครับ”
“ธนาคารไม่ใช่แอปเรียกรถสักหน่อย”
“อ้อ ก็ใช่ แต่มันผ่านไปตั้งสองปีแล้ว กล้องวงจรปิดอาจจะถูกลบไปนานแล้วก็ได้นะครับ” กล้องวงจรปิดในหลายๆ แห่งเป็นเพราะปัญหาเรื่องหน่วยจุความจำ เป็นเรื่องปกติที่จะลบเนื้อหาก่อนหน้านี้ทุกๆ สามเดือนหรือครึ่งปี
“ธนาคารประชาชนดูเหมือนจะมีกฎครึ่งปี แต่ธนาคารอื่นๆ ส่วนใหญ่จะสำรองข้อมูลวิดีโอเป็นเวลาสองหรือสามปี เพื่อประกอบกับอายุความในการฟ้องคดีแพ่ง”
จางเยี่ยนเฟิงพาเสี่ยวเฉาเข้าไปที่ธนาคารและแสดงบัตรประจำตัว ขอตรวจสอบวิดีโอสำรองของกล้องวงจรปิดก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันก็อธิบายว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ขั้นตอนที่จำเป็นจะตามมาในภายหลัง ธนาคารไม่ได้สร้างความยุ่งยากแต่อย่างใด รีบให้ความร่วมมือกับการจัดการคดีของตำรวจท้องที่อย่างเต็มที่
ไม่นาน วิดีโอที่บันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ในห้องกล้องวงจรปิดก็ถูกดึงออกมา และหลังจากปรับเลื่อนไปช่วงเวลานั้น จางเยี่ยนเฟิงขอให้เร่งความเร็วเป็นสองเท่า เมื่อถึงช่วงเวลา 15.40 น. จางเยี่ยนเฟิงบอกให้หยุดทันที
“ย้อนกลับไปก่อนหน้านิดหน่อย ปรับเล่นให้ช้าลง!”
หน้าจอย้อนกลับไปและเริ่มเล่นออกมาทีละฉากๆ ในภาพมีชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่ปากทางเข้าของตึก ชายชราแต่งตัวคล้ายกับคนงานบิลต์อินบ้าน แถมยังแบกกระสอบหนังงูอีกต่างหาก
“ขยายดูซิ!”
ภาพถูกขยายใหญ่ขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่ธนาคารในห้องกล้องวงจรปิดไม่ได้เป็นมืออาชีพ จึงไม่สามารถแก้ไขและปรับความชัดเจนของภาพได้ แต่หลังจากที่ภาพถูกขยายใหญ่ เหล่าจางก็จำได้ทันทีว่า ผู้ชายที่ถอดหน้ากากอนามัยเดินลงมาพร้อมกับแบกกระสอบและคาบบุหรี่ไว้ในปากคือใคร เป็นชายชราคนนั้น ชายชราที่เสียชีวิตไปในท้ายที่สุด!
ตอนนั้นเขาน่าจะถูกหยกผีควบคุมเอาไว้ เหล่าจางถอนหายใจด้วยความโล่ง เขารู้มานานแล้วว่าใครคือฆาตกรตัวจริง ที่ยังสืบสวนต่อก็เพื่อสืบหาหลักฐาน หลักฐานที่ทำให้นักพรตเฒ่าพ้นโทษ!
………………………………………………………….