ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 440 ความโกรธแค้นของสาวน้อยโลลิ!
ตอนที่ 440 ความโกรธแค้นของสาวน้อยโลลิ!
รถตู้แล่นเข้าไปในหุบเขา และหยุดจอดที่ทางเข้าหน้าหมู่บ้าน
มีคนจำนวนไม่น้อยตั้งตารออยู่ตรงนั้นแล้ว มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง คนแก่ และเด็ก ออกันอยู่เต็มไปหมด บางคนสูบบุหรี่ บางคนนั่งยองๆ คุยกัน และบางคนก็เล่นโทรศัพท์มือถือ แต่ทุกคนต่างก็รอกันอย่างเงียบๆ และบางคนมีสีหน้าดูเฉยเมยราวกับว่ามาที่นี่เพื่อให้มันครบๆ คน
มีคนส่วนน้อยที่รู้สึกประหม่ามาก เฝ้ามองไปทางนั้นตลอดเวลา และเต็มไปด้วยความคาดหวัง มันดูเหมือนขบวนแห่ขันหมากที่ดูลวกๆ และหยาบกระด้าง แต่ทว่าขาดการตกแต่งบางอย่างเลยไม่ค่อยรื่นเริงเท่านั้น
หลายๆ คนมักจะเกลียดรูปแบบงาน และมักจะรู้สึกว่า ‘รูปแบบ’ ใดๆ ก็ตามล้วนเป็นภาระรูปแบบหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น ก่อนที่กิจกรรมงานเลี้ยงใดๆ จะเริ่มขึ้น ผู้นำก็จะขึ้นเวทีกล่าวสุนทรพจน์เพื่ออ่านคำเปิดงานแบบเดียวกันเป๊ะ และทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวในใจว่า เป็นเพียงขั้นตอนการทักทายของแม่แก่ๆ ที่พูดพล่ามไร้สาระอยู่ได้ แล้วค่อยลงไปท่ามกลางเสียงปรบมือที่เบาบาง
แต่บางครั้งรูปแบบงานก็จำเป็นจริงๆ และมีความหมายในการมีอยู่ของมันด้วย
ตัวอย่างเช่น งานแต่งงาน รูปแบบที่ซับซ้อนเต็มไปด้วยรายละเอียดสามารถให้ความรู้สึกเป็นจริงเป็นจังแก่ผู้คน ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นเหมือนหมู่บ้านนี้ในเวลานี้ ทั้งตรงไปตรงมาและขวานผ่าซาก คล้ายกับรอจูงม้าล่อที่ครอบครัวตนเองจ่ายเงินซื้อกลับมา
เมื่อรถตู้แล่นมาถึง ชายชราคนขับลงจากรถ เขายังคงสวมแว่นตากันแดดอยู่ นี่แทบจะกลายเป็นความดื้อรั้นของเขาไปแล้ว ไม่ได้ใส่เพื่ออวดความหล่อ ที่จริงเขาเกินวัยที่จะอวดความหล่อไปแล้ว ดวงตาของเขาบาดเจ็บมาก่อน จึงใส่แว่นกันแดดเพื่อปกปิดมัน
เขาออกมาเพียงคนเดียว ส่วนอีกสองคนรออยู่ที่ศูนย์รับซื้อของเก่า มันเป็นกฎเป็นธรรมเนียม ทุกคนทำงานร่วมกันมาหลายปีแล้ว จึงมีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเข้ามารุมล้อม พากันเหลือบมองและสังเกตเข้าไปในรถตู้ เด็กน้อยซุกซนบางคนถึงกับปีนขึ้นไปบนฝากระโปรงหน้ารถและและมองเข้าไปข้างใน ทุกคนล้วนสงสัยใคร่รู้ว่าสะใภ้มาใหม่หน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ ขณะเดียวกันก็อดที่จะเปรียบเทียบในใจไม่ได้
ก่อนหน้านี้ครอบครัวของจางซานซื้อลูกสะใภ้มาเท่าไร มีการศึกษาระดับไหนและหน้าตาเป็นอย่างไร
ก่อนหน้านี้ครอบครัวของหลี่ซื่อซื้อลูกสะใภ้มาในราคาเท่าไร หน้าตาเป็นอย่างไร
ตรงไหนผิวขาว ตรงไหนผิวดำ ตรงไหนกระดกงอน ดูแล้วสามารถให้กำเนิดลูกได้
แสงแห่งอารยธรรมได้เข้าสู่หมู่บ้านแห่งนี้นานแล้ว คนหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยถือสมาร์ตโฟนในมือ แต่ทุกคนกลับเพลิดเพลินไปกับความสะดวกสบายที่อารยธรรมนำมาให้ พลางยืนกรานที่จะรักษาความเรียบง่ายของตัวเองไว้ด้วย
เก็บเงินก่อนแล้วค่อยส่งมอบสินค้าให้ นี่ก็เป็นกฎระเบียบเช่นกัน
พ่อค้ามนุษย์เพียงแค่ต้องรับประกันว่าคนที่ส่งมามีสุขภาพแข็งแรงก็พอ อายุต้องไม่ห่างกันมากนัก แค่นั้นก็ถือว่าภารกิจเสร็จสิ้นแล้ว
สำหรับสเปกที่คุณชอบไม่ว่าจะอวบอ้วน ผอมเพรียว หรือแบบสวยนอกฉลาดใน ขอโทษที งดเจรจา
แค่มีผู้หญิงมาช่วยอุ้มท้องให้คุณก็เพียงพอแล้ว ยังจะขออะไรมากมายอีก ดังนั้นสิ่งนี้จึงเทียบเท่ากับความเร้าใจของการจับลอตเตอรี
หลายๆ ครอบครัวในเมืองใช้เงินฝากสามชั่วอายุคน จัดหาบ้านหนึ่งหลัง ส่วนที่นี่มีครอบครัวไม่น้อยที่ใช้เงินออมทั้งหมดของตนเอง กระทั่งหยิบยืมเงินจากญาติมิตรเพื่อซื้อเจ้าสาว แต่ว่าที่ผู้ชายหลายคนในเมืองซื้อบ้านก็เพื่อความสะดวกในการพูดคุยเรื่องงานแต่งและสู่ขอลูกสะใภ้ ส่วนที่นี่กลับนึกไปถึงเรื่องปากท้องแล้ว
หญิงสาวทั้งสองคนถูกคนขับรถชายชรากระชากลากถูลงมา และถูกทั้งสองครอบครัวจับแยกจากกันแล้วพาตัวไป คนรอบข้างต่างมองดูและเอะอะโวยวาย ไม่ละอายใจกับเสียงอ้อนวอนและร้องไห้ของหญิงสาวทั้งสองคนเลยแม้แต่น้อย
พวกเขาเห็นฉากแบบนี้มาหลายหนและเมินเฉยกับมันไปนานแล้ว
หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ชายชราคนขับรถยังไม่คิดจากไปทันที เขายังอยากอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ต่ออีกสักพัก กินอาหารเย็น และทำการนัดหมายสำหรับออเดอร์ถัดไป
อันที่จริงเขาวางแผนจะเกษียณแล้ว ในรถยังมีอีกออเดอร์หนึ่ง ถ้าทำเสร็จแล้วก็จะเกษียณเลย แต่หลังจากที่ตัวเองเกษียณแล้ว เขาก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยเหลือคนอื่นสร้างความสัมพันธ์และเป็นคนกลาง เพื่อให้ได้รับส่วนต่างนิดหน่อย
รถแล่นเข้าไปในลานบ้านของครอบครัวหนึ่ง ชายชราคนขับรถลงไปแล้วเข้าไปในบ้านคนอื่น เพื่อดื่มเหล้าและ ตกลงเรื่องราคา
รถตู้ถูกล็อกเอาไว้ และมีเด็กที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นสองสามคนวิ่งเล่นวนรอบรถตู้ เพราะพวกเขาพบว่ายังมีเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งอยู่บนรถตู้ เป็นเด็กผู้หญิงน่ารักน่าชังคนหนึ่งแถมยังสวมชุดแนวฝรั่งจ๋าอีก มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าต่างจากเด็กในหมู่บ้านที่เล่นด้วยกัน
หวังหรุ่ยขดตัวอยู่ที่มุมรถตู้ บนแท่นพวงมาลัยยังคงวางรูปปั้นพระโพธิสัตว์เอาไว้ตรงนั้นอย่างมั่นคงปลอดภัย
เมื่อได้เวลาอาหารกลางวัน เด็กสองสามคนที่เดินวนไปมารอบรถตู้ก็ถูกคนในครอบครัวพากลับไปกินข้าวที่บ้าน พวกเด็กๆ ร้องโวยวายไม่ยอมจากไป ตะโกนโหวกเหวกจะให้พ่อแม่ของตัวเองซื้อเด็กผู้หญิงที่อยู่ในรถตู้คันนั้น เพื่อเอามาเป็นภรรยาของตัวเอง
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง ชายชราคนขับรถก็กลับมาขึ้นรถ เขาเหลือบมองหวังหรุ่ยในรถแล้วยิ้มๆ
หลังจากสตาร์ทรถและออกจากหมู่บ้านแห่งนี้ ตอนที่รถตู้ขับออกจากทางเข้าหมู่บ้าน ทันใดนั้นดูเหมือนหวังหรุ่ยสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงเงยหน้าขึ้นมองทางกระจกหลัง มีเมฆดำทะมึนปกคลุมทางเข้าของหมู่บ้านในระยะไกล จนทำให้ผู้คนรู้สึกหายใจไม่ออก
“ฝนจะตกแล้ว สภาพอากาศผีบ้าในเขาก็เป็นอย่างนี้แหละ”
ชายชราคนขับรถจุดบุหรี่ท่าทางสบายๆ และขับรถไปตามทางบนเขา หลังจากขับรถมาหนึ่งชั่วโมง จริงๆ แล้วไม่ได้ออกไปนอกเขตเทือกเขาเลย กระทั่งยังเข้าไปข้างในอีกหน่อยด้วยซ้ำ
ที่นี่ นานๆ ที ก็จะมีตลาดนัดเล็กๆ โผล่มาให้เห็นแถวทางหลวง เรียกได้ว่าทุรกันดารมาก แต่เมื่อขับต่อไปก็มีบ้านพักตากอากาศสามชั้นปรากฏขึ้นบนที่ราบหุบเขาด้านหน้า
ที่ราบถูกล้อมรอบไปด้วยกำแพงคอนกรีตดูเป็นทางการมาก อีกทั้งดูจากการตกแต่งแล้วเป็นสไตล์ตะวันตกมาก ดูไม่เข้ากับสิ่งปลูกสร้างส่วนใหญ่ที่เห็นระหว่างทางเลย
เมื่อรถขับมาถึงหน้าประตู ชายชราคนขับรถก็ล้วงโทรศัพท์มือถือกดโทรออก หลังจากมาถึงที่นี่เขาก็เปลี่ยนซิมการ์ดทันที เขาไม่รู้ว่าการสอดแนมคืออะไร แต่ทำงานสายนี้มาตั้งนานไม่เคยเกิดเรื่องขึ้นเลย ย่อมเป็นเพราะมีวิธีและประสบการณ์ตามสัญชาตญาณของตัวเอง
ไม่นานนัก ก็มีคนเดินออกมาจากในบ้าน เป็นชายวัยกลางคนสวมชุดสีดำสองคน พวกเขามาเปิดประตูและส่งสัญญาณให้ชายชราคนขับรถเข้าไป ชายชรายิ้มให้พวกเขาผ่านกระจกรถและขับรถตู้เข้าไปจอดไว้ เพียงแต่ว่าเขาสังเกตเห็นแขนของชายวัยกลางคนทั้งสองมีปลอกแขนไว้ทุกข์สีดำพันอยู่
หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ สายไปแล้วงั้นเหรอ
ชายชราคนขับรถหัวเสียเล็กน้อย หากสายไปแล้วถ้าเกิดเขาคืนสินค้าขึ้นมา ความคิดที่ว่าตัวเองจะอาศัยออเดอร์นี้ทำเงินได้มากมายและเกษียณอายุก่อนกำหนดต้องพังทลายลง
เขาจนปัญญาเล็กน้อย แต่ก็ยังลงจากรถไปอยู่ดี
หญิงวัยกลางคนในเสื้อคลุมสีดำและมีปลอกสีดำหุ้มแขนเดินเข้ามา
“เชิญตามดิฉันมาค่ะ”
“ครับ”
ชายชราคนขับรถหันกลับมาอุ้มหวังหรุ่ยขึ้น แล้วเดินตามผู้หญิงคนนั้นเข้าไปในบ้าน อาจจะเป็นเพราะคิดมากเกินไป จิตใจเลยกระสับกระส่าย ทำให้เขาลืมพกเครื่องรางในรถมาจนได้ แต่แน่นอนว่ามันไม่มีอะไรหรอก
ที่จริงเขาไม่ค่อยเชื่อเรื่องพรรค์นี้เท่าไร เหตุผลที่พกของสิ่งนั้นเอาไว้ตลอด อีกทั้งมีไว้ในรถทุกคัน วางไว้ทุกที่ เป็นเพียงเรื่องของความเคยชิน เขาไม่เคยคิดว่าของพรรค์นี้จะมีประโยชน์จริงๆ ซะด้วยซ้ำ
เมื่อขึ้นไปชั้นสาม ผู้หญิงคนนั้นเคาะประตู เมื่อมีเสียงตอบรับจากคนที่อยู่ข้างใน ก็เปิดประตูและส่งสัญญาณให้ชายชราคนขับรถเข้าไป
ชายชราคนขับรถลังเลครู่หนึ่ง แล้ววางหวังหรุ่ยไว้บนโซฟาในห้องนั่งเล่น จากนั้นตัวเองก็เดินเข้าไปก่อน
หวังหรุ่ยนั่งอยู่ตรงนั้นเงียบๆ ก้มหน้าลงไม่พูดไม่จา และไม่ได้มองไปรอบๆ
ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่หน้าประตู หน้าที่ของเธอคล้ายกับเลขาหรือแม่บ้านคนหนึ่งเสียมากกว่า ในเวลานี้เธอพินิจพิจารณาเด็กผู้หญิงน่ารักน่าชังที่นั่งอยู่ตรงนั้น
ผู้หญิงคนนั้นไม่แสดงสีหน้าใดๆ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ และไม่หวั่นไหวใดเลยแม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะเห็นเด็กผู้หญิงนั่งไหล่กระตุกไม่หยุดอยู่ตรงนั้นราวกับกำลังร้องไห้ แต่ทว่าสิ่งที่เธอไม่รู้ก็คือเด็กผู้หญิงที่ก้มหน้าก้มตาอยู่นั้น แท้จริงแล้วสีหน้าของเธอก็เหมือนกับตัวเอง ล้วนไม่แสดงอารมณ์ใดเลยสักนิด
…
ชายชราคนขับรถเดินเข้าไปในห้องหนังสือ รูปแบบการจัดวางที่นี่ให้ความรู้สึกที่แปลกเอามากๆ ก่อนจะรับ ออเดอร์นี้มา ชายชราคนขับรถรู้ว่าคนในครอบครัวนี้น่าจะทำธุรกิจต่างประเทศด้วย เมื่ออายุมากขึ้นจึงเลือกสร้างบ้านพักตากอากาศบนภูเขาที่บ้านเดิมและอาศัยอยู่ที่นี่ ถือเป็นการพักผ่อน
อย่างไรก็ตาม เงินน่าจะมีไม่น้อย เห็นพนักงานรักษาความปลอดภัยและความโอ่อ่าก็รู้แล้ว อีกทั้งคนรวย บางคนมีงานอดิเรกและนิสัยใจคอที่คนธรรมดายากจะเข้าใจได้ สิ่งนี้ไม่ถือว่าน่าแปลกใจเลยสักนิด
ชายชราผมหงอกขาวโพลนนั่งอยู่บนพรม ด้านข้างของชายชรามีโลงศพเล็กๆ อยู่
“สายไปแล้ว” ชายชราผมหงอกปริปากพูด
ชายชราคนขับรถยืนอยู่ตรงนั้น และไม่รู้ว่าควรพูดอะไร
ชายชราคนขับรถชะงักไปครู่หนึ่ง เขาเป็นผู้ค้ามนุษย์ แต่ไม่ใช่เพชฌฆาต
แม้ว่าเมื่อก่อนจะมีสองสามชีวิตเคยตายคามือมาแล้ว แต่ส่วนมากเป็นการทะเลาะต่อยตีแย่งผลประโยชน์กันเองหรือไม่ก็เจอผู้ซื้อที่ไม่ทำตามกฎ
แต่หลังจากได้ยินคำพูดของชายชราผมหงอก เขาก็เข้าใจอะไรบางอยู่อย่างในใจ แต่ว่าเขาไม่พูดอะไร เมื่อนึกได้ว่าสินค้ายังเป็นที่ต้องการอยู่ หัวใจของเขาสงบลงทันที
“ได้ โอเคครับ”
“ลงไปรับเงินกับเธอเถอะ” ชายชราผมหงอกโบกมือ
ชายชราคนขับรถพยักหน้าและโค้งคำนับทันที ก่อนจะหันหลังกลับและเดินออกห้องหนังสือไป
หญิงวัยกลางคนที่ยืนอยู่หน้าประตูเห็นชายชราคนขับรถออกมาแล้วก็พยักหน้าให้เขาและพูดขึ้น
“ตามดิฉันมาค่ะ”
“ครับ ได้เลย”
ชายชราคนขับรถมองหวังหรุ่ยที่นั่งอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่นเป็นครั้งสุดท้าย พลางสูดหายใจเข้าลึก เมื่อนึกถึงชีวิตหลังเกษียณของตัวเองต่อจากนี้ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าชีวิตมีความหวังใหม่อีกครั้ง วิ่งวุ่นมาเกือบทั้งชีวิต ในที่สุดก็สิ้นสุดสักที สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขและมั่นคงได้แล้ว
แต่ทว่า เมื่อทั้งสองกำลังจะลงบันไดไป เด็กผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ กลับเงยหน้าขึ้นมาอย่างเชื่องช้า ผมสยายลงมา แววตานิ่งเรียบกวาดมองบันได มุมปากเผยรอยยิ้มอย่างมีเลศนัย และเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก
“จะออกไปง่ายๆ อย่างนี้เลยงั้นเหรอ”
…………………………………………………….