ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 443 หลินเข่อ!
ตอนที่ 443 หลินเข่อ!
“จะออกไปง่ายๆ แบบนี้เลยงั้นเหรอ” สาวน้อยโลลิค่อยๆ ลุกขึ้น ตอนนี้เธอดูสงบเยือกเย็นมาก แต่ในดวงตาของเธอกลับมีแต่ความเย็นชาน่ากลัว เธอโกรธมาก โกรธสุดขีด เพราะเธอหายตัวไปเกือบจะสามวันแล้ว
คนพวกนั้นในร้านหนังสือจะต้องสืบเรื่องนี้แน่นอน และการสืบเสาะเค้าโครงของเรื่องทั้งหมด สำหรับพวกเขาไม่น่าใช่เรื่องยาก เมื่อนึกว่าคนในร้านหนังสือรู้แล้วว่าตัวเองถูกจับตัวไปขาย สาวน้อยโลลิจึงโกรธแทบจะเป็นบ้า! ตัวเองถูกจับตัวไปขายจริงๆ! เด็กทั่วไป ผู้ปกครองมักจะเตือนและสั่งสอนพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้ระวังอย่าพูดกับคนแปลกหน้า ถ้าหากมีคนแปลกหน้าอยากให้คุณเดินไปกับเขา อย่าไปเป็นอันขาด
แต่หลินเข่อไม่ใช่เด็กแล้ว ถ้านับรวมอายุขึ้นมาจริงๆ หากเธอมีลูกชายและเขามีกำลังวังชาดีพอ คงสามารถทำให้ลูกสาวคนอื่นตั้งท้องได้แล้ว! อีกทั้งเธอยังเป็นยมทูตอีกต่างหาก แต่ดันโดนจับตัวไปขาย!
เมื่อคิดว่าวันหลังตอนที่ตัวเองทะเลาะกับผีดิบโง่ในร้านหนังสือ ไม่ว่าตัวเองจะพูดอะไร อีกฝ่ายคงจะตอบประโยคเดียว ‘เจ้าเคยถูกจับไปขาย’ ไม่ว่าตัวเองจะอธิบายอย่างไร โวยวายอะไร อีกฝ่ายก็จะพูดประโยคเดียว ‘เจ้าเคยถูกจับไปขาย’
อ๊ากๆๆๆๆๆ!!!!!!
หน้าอกของเธอเริ่มกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด ความโกรธ ความอัดอั้น การดูถูกเหยียดหยาม ปัจจัยต่างๆ เริ่มซ้อนทับอยู่ในใจของเธอ บวกกับการโดนจับตัวมาขาย เด็กกับผู้หญิงมักจะเป็นผู้เคราะห์ร้ายมากที่สุด ดังนั้นหลินเข่อจึงรู้สึกเจ็บปวดใจกับเรื่องนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก
และสิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะจิตใจใฝ่ในความยุติธรรม และไม่ได้เกี่ยวกับหลักธรรมอะไร แต่เป็นเพราะหลังจากที่เธอได้เจอเรื่องราวเหล่านี้ด้วยตัวเอง เธอจึงรู้สึกมีอารมณ์ร่วมโดยอัตโนมัติ
ผู้หญิงสองคนนั้นที่โดนขังอยู่ในศูนย์รับซื้อของเก่าพร้อมกับเธอ ตอนนี้ไม่รู้ว่าโดนทารุณและได้รับการปฏิบัติแบบไหน อีกทั้งในช่วงหลายปีต่อจากนี้ จะถูกมองว่าเป็นเครื่องจักรผลิตลูก ความรู้สึกแบบนี้ทำให้เธอโกรธจนตัวสั่น
“สาวน้อย เป็นอะไร” ชายชราคนขับรถกำลังรอรับเงินอย่างอารมณ์ดี อันที่จริงเขาเดาออกถึงโชคชะตาของผู้หญิงพวกนี้ได้ แต่เขากลับไม่พูดอะไร และไม่มีอะไรต้องทำ
หาเงินได้ก็พอ ส่วนเรื่องอื่นก็ปล่อยไปแล้วแต่เวรกรรมของใครของมัน
คนบางคนเกิดมาอยู่สุขสบาย แต่คนบางคนเกิดมาต้องประสบเคราะห์ เลขาผู้หญิงวัยกลางคนที่เตรียมจะลงไปข้างล่างพร้อมกับชายชราคนขับรถเริ่มขมวดคิ้ว เธอรู้สึกว่าเด็กผู้หญิงคนนี้สมองมีปัญหา แต่พอนึกถึงเจ้านายของตัวเอง… จึงไม่สนใจว่าสมองดีหรือไม่ดี ไม่มีความสำคัญอะไรแล้ว
หลินเข่อเดินไปหาพวกเขาทีละก้าว สายตาของเธอสำรวจบนตัวของพวกเขาตลอดเวลา ในสายตาของชายชราคนขับรถกับเลขาผู้หญิง หลินเข่อในตอนนี้กำลังกลัวและหวาดผวา ไม่กล้าอยู่ในห้องรับแขกที่ใหญ่ขนาดนี้ตามลำพัง ทว่าแท้จริงแล้วนี่คือสายตาของสิงโตที่กำลังสำรวจเหยื่อของตัวเอง เป็นสายตาที่กำลังพิจารณาว่าจะฆ่าเหยื่อด้วยวิธีไหนและกินเนื้อชิ้นไหนก่อนถึงจะดี
“พวกเราไปกันเถอะ ผมต้องรีบกลับไป” ชายชราคนขับรถพูดเร่ง ยังมีเพื่อนอีกสองคนกำลังรอเขาอยู่ที่ศูนย์รับซื้อของเก่า เสร็จงานนี้แล้ว ทุกคนก็สามารถเกษียณได้เสียที
พวกเขาทำอาชีพนี้มาหลายปี เชื่อมโยงชะตามามากมายหลายสาย ตัวเขาเองก็ยังนับไม่หมด แต่ไม่ว่าอย่างไรตัวเองสามารถสร้างบ้านใหม่ ซื้อของในห้างสรรพสินค้าในเมืองได้ ลูกๆ ของตัวเองมีที่พึ่งพิง ถือว่าคุ้มค่าแล้ว
ส่วนตัวเขาเองก็ควรพักผ่อนใช้ชีวิตหลังเกษียณเสียที
“คุณ ขึ้นมา คอยจับตาดูเธอ” เลขาผู้หญิงพูดกับผู้ชายในชุดยูนิฟอร์มที่ยืนอยู่หน้าทางขึ้นบันได ผู้ชายคนนั้นรีบเดินขึ้นมาทันที เขาไม่ได้ทำตัวหยาบคายต่อหลินเข่อ และได้แต่จ้องมองเธออยู่ตรงนั้น เขาเท่มาก เท่เหมือนลูกพี่บอดี้การ์ดในภาพยนตร์ฮ่องกง หน้าตาเคร่งขรึม แต่ไม่ช้าเขาก็เท่ไม่ขึ้นแล้ว
เพราะว่าเขาเห็นสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าตัวเองอ้าปาก เห็นเธอแลบลิ้นออกมา เดิมทีแค่นี้ก็ไม่มีอะไรหรอก แต่หลังจากที่เห็นลิ้นนั่นเริ่มยาวขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงนิ่งไม่ไหว เบิกตาโต ทำท่าอย่างกับเห็นผี
และในความเป็นจริง ลางสังหรณ์ของเขาก็แม่นยำ เขาเจอผีจริงๆ
“ยมโลกมีกฎระเบียบ ข้ามสู่แดนน้ำพุเหลือง!” หลินเข่อกดเสียงของตัวเอง ในดวงตาของเธอเต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ไม่ สิ่งสกปรกอย่างพวกคุณ ถือสิทธิ์อะไรข้ามแดนน้ำพุเหลือง!!!”
ลิ้นของเธอเหมือนงูเหลือมตัวใหญ่หวดใส่ผู้ชายในชุดยูนิฟอร์มลอยไปกระแทกกับผนังอย่างแรง ต่อจากนั้นลิ้นของเธอได้ทะลวงเข้าไปตรงหน้าอกของเขา
‘ฉึก!’ เหมือนมีดคมเล่มหนึ่งแทงทะลุหน้าอกของเขา จากนั้นก็คว้านอย่างแรง ผู้ชายรู้สึกว่าอวัยวะภายในของตัวเองเหมือนถูกกวาดด้วยรถดันดินอย่างแรง ดวงตาของเขายิ่งเบิกโต
‘ฉึบ!’ หลินเข่อชักลิ้นกลับมา แล้วยื่นมือเช็ดคราบเลือดที่ติดอยู่ตรงมุมปากของตัวเอง กลิ่นเลือดสดทำให้เธอรู้สึกรังเกียจอยู่บ้าง เธออยู่กับเถ้าแก่ปลาเค็มมานานเกินไป จึงรู้สึกว่าตัวเองก็กลายเป็นคนอนามัยเช่นกัน แต่เวลาแบบนี้กลิ่นของเลือดสดกลับทำให้เธอยิ่งตื่นเต้น มองดูผู้ชายในชุดยูนิฟอร์มนอนล้มอยู่ตรงนั้น หลินเข่อเดินเข้าไปเหยียบร่างของเขาแล้วเดินลงจากบันไดไป
…
“เสียงอะไร” ชายชราคนขับรถเงยหน้ามองไปชั้นบน เมื่อครู่ดูเหมือนตัวเองจะได้ยินเสียง ‘เคร้ง’
เลขาผู้หญิงก็รู้สึกเหมือนกัน จึงเดินถอยหลังสองสามก้าวโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะเดินไปดูที่หน้าบันไดอีกครั้ง
‘สวบ’ ลิ้นอันหนึ่งพุ่งตรงมารัดคอของเธอ จากนั้นยกร่างเธอขึ้นมาทั้งตัว หลังจากชายชราคนขับรถได้เห็นฉากนี้ก็ตกใจทรุดตัวลงไปกับพื้น
“ปีศาจๆๆๆ!!!”
หลินเข่อเดินลงบันไดทีละก้าว เธอยังคงอ้าปากเหมือนเดิม ลิ้นของเธอขยายยาวออกมาจากปากของเธอ เวลานี้เลขาผู้หญิงที่ถูกพันด้วยลิ้นของเธอได้เผยสีหน้าที่ตกใจกลัวออกมา
แต่เสียดายเธอพูดไม่ได้ และหลินเข่อก็ขี้เกียจฟังเธอพูดไร้สาระ
‘ปึง!’ ลิ้นสะบัดหนึ่งที ร่างเลขาผู้หญิงลอยกระเด็นไปกระแทกเข้ากับโคมไฟระย้าที่อยู่บนเพดาน
‘เพล้งงงง….’ เสียงดังชัดแจ๋วติดต่อกัน ต่อจากนั้นก็คือเสียงของหนักอึ้งร่วงลงมาบนพื้น
เลขาผู้หญิงนอนอยู่บนพื้นเลือดท่วมตัว เศษแก้วทิ่มอยู่ตามร่างกายของเธอ ดวงตาเบิกกว้าง เธอกำลังจะตายและแทบไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองได้เห็นอะไรอย่างนี้ก่อนตาย
ชายชราคนขับรถก็ตกใจตะลึงงัน เมื่อเห็นสาวน้อยโลลิเดินมาหาตัวเอง เขาจึงคุกเข่าลง โขกศีรษะยอมรับผิดต่อสาวน้อยโลลิ
“ขอร้องละ อย่าฆ่าผม ปล่อยผมไปเถอะ ปล่อยผมไป!!!!” เขารู้สึกว่านี่คือความฝัน เป็นฝันร้าย แต่ไม่สามารถตื่นจากความฝันนี้ได้
หลายปีที่ผ่านมา เขาทำเงินได้ไม่น้อย และตัวเองได้ถวายแผ่นป้ายบูชาเทพเจ้าตามวัดโบราณต่างๆ ซึ่งก็คือแผ่นป้ายอธิษฐานที่ระบุราคาตามวัด เขารู้สึกว่าตัวเองควรจะได้รับการคุ้มครองบ้างสิ
‘ฉึบ!’ ไม่ต้องพูดให้มากความ สาวน้อยโลลิขี้เกียจแม้แต่พูดจาไร้สาระกับตาแก่คนนี้ และไม่สนใจเล่นบทรับฝากคำพูดทิ้งท้ายก่อนตายอะไรกับเขา ลิ้นของเธอรัดห่อหุ้มเขา จากนั้นจึงเริ่มออกแรง
‘กรึก!’ แขนซ้ายหัก
“โอ๊ยๆๆ!!!”
‘กรึก!’ แขนขวาหัก
“โอ้ยๆๆ!!!”
‘กรึก!’ ขาหักทั้งสองข้าง
‘ปึง!’ ชายชราคนขับรถถูกโยนทิ้งไปบนพื้น เขายังไม่ตาย แต่แขนและขาของเขากลับบิดอยู่ในทิศที่สวนทางกัน เหมือนถูกพับขึ้นมา และได้แต่อาศัยหน้าอกกับคางของตัวเองในการคืบคลานเท่านั้น
เขาคิดจะหนี!
สาวน้อยโลลิอยู่ข้างตัวเขา เดินสองสามก้าวอย่างเชื่องช้า จากนั้นสาวน้อยโลลิจึงโน้มตัวพูดแผ่วเบาว่า “หัก!”
เงาดำเงาหนึ่งทอดขยายออกมาจากใต้ร่างของสาวน้อยโลลิยืดยาวไปถึงตัวของชายชราคนขับรถ
ลิ้นของชายชราคนขับรถเริ่มยาวเหมือนสาวน้อยโลลิ แต่ลิ้นของสาวน้อยโลลิสามารถควบคุมยืดหดได้ แต่ของเขาทำไม่ได้
หลังจากยาวได้ระดับหนึ่งแล้วลิ้นก็ถูกตัด ‘ฉึบ!’ ชายชราคนขับรถคลานอยู่บนพื้นเลือดเต็มปาก
“เหอะๆ” สาวน้อยโลลิหัวเราะ มองชายชราดิ้นเหมือนหนอนอยู่บนพื้นต่อไป เธอไม่รีบร้อนฆ่าเขา เวลานี้จะฆ่าหรือไม่ฆ่าเขา มันไม่มีความหมายเท่าไรแล้ว ปล่อยให้เขามีชีวิตอีกสักพัก ถึงจะเป็นการลงโทษที่ยิ่งใหญ่
สาวน้อยโลลิหมุนตัวเดินขึ้นไปข้างบนอีกครั้ง เมื่อไม่มีการซื้อขายก็ไม่ต้องเจ็บตัว พ่อค้ามนุษย์สมควรตาย ฝ่ายที่ซื้อสมควรตายยิ่งกว่า! สมควรตายทั้งหมด!
สาวน้อยโลลิเคยได้ยินเถ้าแก่ของตัวเองกับทนายอันดื่มกาแฟพร้อมกับพูดเรื่องโทษของการจับคนไปขาย เถ้าแก่รู้สึกว่าตั้งบทลงโทษเบาเกินไป
ทนายอันบอกว่านี่ไม่ได้ทำเพื่อปกป้องพ่อค้ามนุษย์ แต่ปกป้องคนน่าสงสารพวกนั้นที่โดนจับไปขาย ถ้าหากลงโทษหนักบีบบังคับให้พวกเขาต้องถึงแก่ความตาย ถึงตอนนั้นคนที่โดนจับไปขายก็จะมีความเสี่ยงโดนจับฆ่าเป็นตัวประกันได้ง่ายมาก
จริงๆ แล้วมีหลากหลายเรื่องราวที่มีสองด้าน แต่ด้วยอารมณ์ที่สุดโต่งของมนุษย์ จึงขี้เกียจที่จะสนใจทั้งสองด้านนี้ สำหรับสาวน้อยโลลิ พ่อค้ามนุษย์กับผู้ซื้อสมควรตายทั้งหมด!
เมื่อจัดการตรงนี้แล้ว จึงค่อยไปหมู่บ้านนั้น จากนั้นค่อยไปที่ศูนย์รับซื้อของเก่า แล้วฆ่าๆๆ ฆ่าให้หมด!
นัยน์ตาสีเลือดของสาวน้อยโลลิเริ่มเข้มขึ้น อารมณ์โกรธแค้นได้ควบคุมสติและความคิดของเธออย่างสิ้นเชิงเหมือนกับกล่องแพนโดรา เมื่อถูกเปิดออกก็ยากที่จะเก็บกลับคืน
เธอเดินขึ้นไปชั้นบนอีกครั้ง ตอนที่เธอกำลังจะผลักประตูห้อง กลับพบชายชราคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ ชายชราห่มผ้าห่มอยู่บนตัวของเขา หน้าต่างบานใหญ่เปิดอยู่ มีลมพัดเข้ามาพัดผมเผ้าหนวดเคราของชายชราปลิวไสว เขานั่งโยกเก้าอี้อยู่ตรงนั้น ทันใดนั้น ผ้าห่มบนตัวของชายชราได้ร่วงลงมา เผยให้เห็นส่วนที่อยู่ด้านล่างศีรษะของชายชรา ซึ่งมีแต่กระดูกสีขาว!
บนนั้นยังมีเศษเนื้อและคราบเลือดสดหลงเหลืออยู่! สีเลือดในดวงตาของสาวน้อยโลลิเริ่มหายไป การกระตุ้นแบบนี้ ทำให้เธอเริ่มมีสติเมื่อรู้ตัว
“หึๆๆ…” เสียงหัวเราะที่แหบพร่าดังเป็นระยะ ในเสียงหัวเราะแฝงไปด้วยเสียงเด็กที่ไม่ประสา มีเด็กผู้ชายคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านหลังของพนักเก้าอี้ เด็กผู้ชายหัวเราะให้สาวน้อยโลลิอย่างใสซื่อ แล้วพูดด้วยความดีใจว่า “พี่สาว ตรงนั้นคุณจัดการเสร็จหรือยัง”
………………………………………………………………………..