ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 449 ที่นี่ที่ไหน!
ตอนที่ 449 ที่นี่ที่ไหน!
“กรี๊ดๆๆๆๆ!!!!!!!!” ผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวร้องกรี๊ดขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้ทนายอันหน้าเขียวทันที เพราะตอนนี้เท่ากับว่าตัวเขาเป็นขโมย แอบเข้ามาขโมยของในบ้านของคนอื่น ต้องระวังตัวเป็นอย่างยิ่ง แต่ในขณะเดียวกันคุณกลับพาวงร้องเพลงประสานเสียงอันไพเราะมาด้วย
อันที่จริงจะโทษผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวที่มีอาการเหล่านี้ก็ไม่ได้ หลังจากที่มาถึงนรกแล้ว พวกเธอสัมผัสได้ถึงความรู้สึกถูกกดข่มโดยสัญชาตญาณ พวกเธอเป็นผีร้าย และในนรกที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบ ผีร้ายไปผุดไปเกิดไม่ได้ ขึ้นสะพานไน่เหอไม่ได้ ดังนั้นนรกจึงเป็นจุดจบสุดท้ายของพวกเธอ
พวกเธอต้องร่อนเร่อยู่ในนรกอันเวิ้งว้าง ไม่อย่างนั้นก็ต้องโดนยมทูตกับผู้ตรวจสอบในนรกจับตัวแล้วเฆี่ยนตีวิญญาณให้แตกดับ ก็เหมือนอะไหล่จากไลน์การผลิตกับอะไหล่ที่ไม่ได้คุณภาพในศูนย์รีไซเคิล พวกเธอต่างเป็นของเสียที่ทั้งสองฝั่งล้วนไม่ต้องการ
ณ ศาลาริมน้ำอันรกร้างไกลลิบ พวกผู้หญิงใส่ชุดกี่เพ้าที่เดินไปข้างหน้าเมื่อครู่นี้ก็หยุดชะงัก พวกเธอยังคงถือร่มกระดาษ รักษาความสวยงามต่อไป ราวกับว่าทุกอย่างไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเธอเลยสักนิด
ก่อนหน้านั้นตอนที่โจวเจ๋อมานรกเป็นครั้งแรก ก็เคยเจอพวกเธอ พวกเธอแค่เดินผ่านทางเดินน้ำพุเหลืองเท่านั้น พวกเธอเดินไม่หยุด และไร้ซึ่งความอาลัยอย่างสิ้นเชิง
ความรู้สึกที่ไม่ลุ่มหลงไปกับโลกแห่งโลกีย์กับความรู้สึกในตอนนี้แทบจะเหมือนกัน คุณสามารถพูดได้ว่าพวกเธอเย็นชา แต่ในขณะเดียวกันก็สามารถเข้าใจว่าพวกเธอเป็นหุ่นเชิดที่โดนตัดทิ้งซึ่งอารมณ์ความรู้สึกทุกอย่าง
มีเพียงหญิงชราที่เดินถือโคมไฟนำขบวนเท่านั้นที่เงยหน้าอย่างกะทันหัน เธออ้าปากเผยให้เห็นฟันดำทั้งปากของเธอ
“เหอะๆ…” เสียงหัวเราะเย็นชาดังออกมาจากปากของหญิงชรา ต่อจากนั้นหญิงชราก็แผดเสียง “กลิ่นเหม็นสกปรก น่าอาเจียนจริงๆ! ผู้หญิงที่เสียเกียรติและความบริสุทธิ์ ยังมีหน้ากลับมาที่นรกอีกเหรอ! ทำไมยังกล้าเพ้อฝันถึงเรื่องเกิดใหม่อีก” ร่างของหญิงชราหายวับอย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่หายตัวก็เข้าใกล้พวกเธอมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับตัวละครที่อยู่ในแผ่นสไลด์ที่หมุนวนไม่หยุด
ในที่สุดเธอก็แวบมาถึงกองอิฐแถบนี้ หลังจากหญิงชรามาถึง เธอพบว่าข้างๆ ผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวนี้กลับมีผู้ชายอีกสองคน ยังดีว่าที่นี่เป็นนรก การเสพสุขระหว่างผู้ชายและผู้หญิงในนรกเป็นสิ่งที่พบเห็นน้อยมาก อย่างไรก็ตามทุกคนต่างไม่มีกายเนื้อ จึงขาดอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานในการก่อเหตุ
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมหลังจากที่เหล่าผีร้ายหนีออกจากนรกกลับไปยังโลกมนุษย์และได้กายเนื้อแล้ว ก็เริ่มปลดปล่อยตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เพราะในโลกมนุษย์สามารถเพลิดเพลินได้อย่างแท้จริง แต่ในนรกนั้นเหมือนกับโลกไร้มลทินของพระที่แสวงบุญ ทุกคนล้วนมี ‘จิตใจสะอาดผ่องใส’
สายตาของหญิงชรากวาดมองไปที่โจวเจ๋อกับทนายอัน แต่เธอไม่ได้สนใจมากเท่าไร เพราะนรกมักจะมีผีร้ายหนีออกไปเป็นประจำ ดังนั้นจึงมีวิญญาณเร่ร่อนกระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ มากมาย นี่ก็เหมือนคนที่อพยพเข้ามาหรือคนเร่ร่อนตามเมืองใหญ่ในโลกมนุษย์ ต่อให้เป็นเมืองที่เจริญสวยงามแค่ไหน ก็หลีกเลี่ยงคนประเภทนี้ไม่ได้
ในความเป็นจริง โจวเจ๋อมีฐานะเป็นยมทูต แต่อย่างแรกคือยมทูตเป็นเจ้าหน้าที่ระดับต่ำที่สุดในยมโลก ไม่มีหน้ามีตาและไม่มีความพิเศษอะไร อย่างที่สอง ยมโลกคือตัวแทนระบบปฏิบัติการทางกฎหมายของโลกหลังความตาย แต่ท่ามกลางนรกนั้น ไม่ได้มีแค่ยมโลกเท่านั้น
ดังนั้นการที่หญิงชรามองฐานะของโจวเจ๋อไม่ออก จึงเป็นเรื่องปกติสามัญมาก
นี่ก็เหมือนกับเวลาที่หัวหน้าใหญ่เดินทาง คนอื่นล้วนหลีกทางให้ ทุกคนมองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นคนใหญ่คนโต ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับล่าง อาจจะเป็นคนข้างๆ ที่แย่งขาหมูกับคุณในตลาดผักก็เป็นได้
ความสนใจของหญิงชรายังคงอยู่ที่ตัวของผีผู้หญิงทั้งเก้า ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความรังเกียจดูแคลน ใช่แล้ว รังเกียจและดูแคลน!
“เป็นผู้หญิง เมื่อเสียเกียรติแล้ว ถ้าไม่จงรักภักดีกับสามีตลอดไป มีทายาทสืบสกุลให้สามี ต่อให้สามีตายแล้วก็ไม่แต่งงานใหม่! ไม่ก็ฆ่าตัวตายถวายความรัก ตายให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย! พวกเธอเสียความบริสุทธิ์แล้ว ยังจะมาโกรธแค้นฆ่าคนอีก ไร้ยางอายจริงๆ!”
“…” โจวเจ๋อ ทำไมรู้สึกว่าทัศนคติของหญิงชราคนนี้มีปัญหาเล็กน้อย สังคมศักดินาเป็นพิษจริงๆ ยังดีที่เถ้าแก่โจวไม่ได้ตระหนักถึงการผดุงคุณธรรมจนบ้าพอที่จะก้าวออกมาตะโกนใส่หญิงชราว่า ‘คุณไร้สาระ!’ เขามัวแต่ขดตัวอยู่ใน ‘มุม’ กับทนายอันอย่างเงียบๆ จะขาดก็แต่ท่องคำว่า ‘มองไม่เห็นฉันๆๆ…’
ผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวเผยสีหน้าโกรธเคืองออกมา พวกเธอเดิมทีน่าสงสารเป็นอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้กลับถูกหญิงชราเหยียดหยาม ยิ่งทำให้พวกเธอแค้นเคืองเป็นที่สุด!
และสถานที่แห่งนี้ก็ไม่ใช่ทางเดินน้ำพุเหลือง ไม่ใช่เขตดูแลโดยตรงของยมโลก ถ้าหากเป็นสถานที่อื่น พวกเธอในฐานะของผีร้ายคงโดนปราบไปนานแล้ว แต่ที่นี่พวกเธอพอที่จะแสดงความโกรธออกมา กระทั่งสามารถโจมตีกลับได้ด้วย!
วิธีการตอบโต้กลับของผีร้ายเรียบง่ายมาก เมื่อเห็นคุณแล้วขัดตา ก็อัดคุณไปเลย! พวกเธอแปดเปื้อนไปด้วยชีวิตของมนุษย์ ความตระหนักรู้ของพวกเธอแทบจะเลือนราง เหลือเพียงสัญชาตญาณดิบเท่านั้น!
ผีร้ายทั้งเก้าตัวพุ่งเข้าหาหญิงชราพร้อมกัน แต่หญิงชรากลับยืนนิ่ง ตอนที่ผีผู้หญิงเข้าใกล้เธอ โคมไฟในมือของเธอกลับมีเปลวไฟสีดำพุ่งออกมาในทันใด เปลวไฟแบ่งออกเป็นเก้าสาย พุ่งเข้ามารัดตัวของผีผู้หญิงทั้งเก้า
เพียงครู่เดียว ผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวถูกมัดอยู่กับที่ ทนทรมานจากเปลวไฟที่แผดเผาร่างกาย เสียงร้องกรี๊ดดังขึ้นเป็นระลอก รู้สึกบีบหัวใจอย่างยิ่ง
“ผู้หญิงไร้ยางอาย ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี พวกเธอมาถูกที่แล้ว ที่นี่เป็นสถานที่ที่พวกเธอสมควรมานัก!” หญิงชราแบมือเผยให้เห็นกระดาษสวยประณีตขนาดเล็กซ้อนกันเป็นชั้น มีลักษณะคล้ายเสื้อผ้าขนาดเล็กที่ตัดเย็บเอาไว้
เธอสะบัดมือ กระดาษเหล่านั้นลอยออกไป ร่วงหล่นไปบนตัวของผีผู้หญิงทั้งเก้าตัว เพียงชั่วครู่ ผีผู้หญิงทั้งเก้าใส่ชุดกี่เพ้างดงาม เปลวไฟหายไป ผีผู้หญิงใส่ชุดกี่เพ้าแล้วเงียบลงทันที เหมือนกับหุ่นเชิด ดูน่ารักเชื่อฟังเป็นอย่างมาก
ในใจเถ้าแก่โจวแอบตกใจขึ้นมา ทัศนคติของหญิงชราคนนี้บิดเบี้ยวไปมาก และลูกไม้ของเธอก็ยอดเยี่ยมไม่ต่างจากทัศนคติของเธอเช่นกัน
เขาเพิ่งเคยเห็นวิธีปราบผีร้ายแบบนี้เป็นครั้งแรกรู้สึกเหมือนเปิดโลกใหม่ให้ตัวเอง นรกนั้นอันตรายมากจริงๆ ในนี้มีบอสใหญ่เยอะเกินไป เมื่อเทียบกันแล้วโลกมนุษย์สบายมากกว่าเยอะ
ผีผู้หญิงทั้งเก้าตัวยืนเรียงแถวเป็นระเบียบ พวกเธอในเวลานี้มีความเป็นกุลสตรีเหมือนผู้หญิงสวมชุดกี่เพ้าที่อยู่ด้านล่างเกือบเจ็ดสิบแปดสิบเปอร์เซ็นต์ จะขาดก็แต่การแต่งหน้าและร่มกระดาษดอกท้อเท่านั้น
หญิงชราตบมือ คล้ายจะรู้สึกสบายใจแล้ว เธอดูเหมือนคนเป็นโรคย้ำคิดย้ำที่จัดการสิ่งที่ขัดหูขัดตาให้สบายตาได้ ก็ทำให้ตัวเองรู้สึกสบายใจไม่น้อย
แต่วินาทีต่อมา หญิงชราก็หันไปมองโจวเจ๋อกับทนายอัน “ไม่ดูตาม้าตาเรือเลยว่าที่นี่เป็นที่ไหน คิดว่าผีกระจอกทั่วไปมีสิทธิ์เข้ามาเหรอ!”
โจวเจ๋อกับทนายอันเริ่มระวังตัวขึ้นมา พวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวชี่ของอีกฝ่ายที่ก่อตัวขึ้นในเวลานี้ เตรียมพร้อมที่จะต่อสู้แล้ว!
“ช่างเถอะๆ ข้าก็ไม่ใช่คนของยมโลก ทำไมต้องยุ่งเรื่องของยมโลกด้วย”
โจวเจ๋อกับทนายอันพลันวางใจ ยมทูตจากโลกมนุษย์มาเยือนนรก ก็เหมือนหัวหน้าตำรวจถูกส่งเข้ามาเมืองหลวง ในท้องถิ่นของคุณ คุณคือเจ้าแห่งขุนเขา แต่เมื่อเข้าเมืองหลวงแล้ว หากจะพูดจาน่าเกลียดหน่อย หน้าร้านโดนทุบเจอคนเป็นสิบ ข้างในนั้นอาจจะมีคนที่มีฐานะและตำแหน่งข้าราชการที่สูงกว่าคุณอีกสองสามคน และด้วยเหตุนี้ จึงเริ่มมีการปัดแข้งปัดขาคนอื่นมากมายในเมืองหลวงตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ในนรก ถ้าคุณยอมรับได้ว่าตัวเองไม่เก่งก็ยอมรับว่าไม่เก่งจะดีกว่า
อันที่จริง นี่ไม่เกี่ยวกับการยอมรับว่าเก่งหรือไม่เก่ง ถ้าหากโจวเจ๋อกับทนายอันมีฐานะอย่างอื่น หรือเป็นยมทูตทั่วไปที่ปฏิบัติหน้าที่ในยมโลก ถ้าอยากจะต่อสู้ก็สู้กันไปเลย
ถึงแม้ยมโลกจะดูแลไม่ทั่วถึง แต่ในนามแล้ว ยมโลกยังเป็นฝ่ายบริหารที่ดูแลนรกเหมือนเดิม ทว่าทนายอันมีความผิดติดตัว ถ้าหากลมหายใจของเขาถูกข้างนอกจับได้ ไม่แน่ว่าจะมีผู้ตรวจสอบเป็นทีมหรือไม่ก็ผู้พิพากษาปรากฏตัวได้
โจวเจ๋อยิ่งเวอร์เข้าไปใหญ่ ถ้าหากอีกจิตสำนึกหนึ่งภายในร่างของเขาตื่นขึ้นมา ไม่แน่อาจจะมีปีศาจหรือมารร้ายตัวไหนโผล่ออกมาเพื่อแก้แค้น ทว่าคำพูดและการกระทำต่อจากนี้ของหญิงชรา กลับทำให้ทั้งสองคนที่เพิ่งวางใจต้องระวังตัวขึ้นมาอีกครั้ง
“ในเมื่อมีผู้หญิงเพิ่มเข้ามาหลายคน ก็ต้องมีบ่าวรับใช้อีกสักหน่อย ข้าจะรับพวกเจ้าไว้ก็แล้วกัน พวกเจ้าอยู่กับข้า อย่างน้อยก็ไม่ต้องถูกยมทูตจับตัวไป” เมื่อพูดเสร็จ หญิงชราจึงแบมืออีกครั้ง และครั้งนี้ฝ่ามือของเธอมีกระดาษอีกสองใบ แต่โจวเจ๋อกับทนายอันกลับมองเห็นอย่างชัดเจนว่าเป็นหมวกเล็กทรงสูงสีฟ้า นี่มันคือชุดของขันทีไม่ใช่เหรอ!
“ไป!” หญิงชราโบกมือ จากนั้นเสื้อผ้าทั้งสองชุดก็พุ่งไปหาโจวเจ๋อกับทนายอัน ใช่แล้ว ถ้าหากเป็นวิญญาณที่เร่ร่อนไปทั่วนรกจริงๆ ก็คงจะยอมรับโชคชะตาแบบนี้ และยอมรับด้วยความสมัครใจ อย่างไรก็ตามคอยรับใช้อยู่ที่นี่ ก็ไม่ต้องเสี่ยงถูกผู้คุมเมืองจับตัวไปมั่วซั่ว
ไม่ว่าอย่างไรคนก็ตายแล้ว ยังจะมาถือสาอะไรอีก และในสมัยโบราณก็มีผู้ชายหลายคนถึงกับยอมตัดไข่ของตัวเองเข้าวังเพื่อให้ได้กินข้าวหนึ่งคำไม่ใช่เหรอ
แต่โจวเจ๋อกับททนายอันไม่เหมือนกัน พวกเขายังมีกายเนื้ออยู่ในโลกมนุษย์ ยังมีตัวตนอยู่ พวกเขายังมีชีวิตที่สวยงามรอคอยพวกเขา ต่อให้เป็นแผนเฉพาะหน้ายอมไปก่อนชั่วคราวก็ไม่ได้ และไม่ต้องพูดถึงการแสดงออกของผู้หญิงทั้งเก้าก่อนหน้านี้ หลังจากใส่เสื้อผ้าแล้วแทบจะถูกควบคุมวิญญาณโดยสิ้นเชิง ถึงแม้จะเหลือเงาบางส่วนของตัวเองไว้มุมหนึ่ง ทว่าสำหรับผู้ชายแล้ว เป็นไปไม่ได้!
คุณลองคิดดู ถ้าหากวิญญาณของผู้ชายปกติคนหนึ่ง หรือก็คือในส่วนลึกของจิตใต้สำนึก คิดว่าตัวเองเป็นขันที แบบนั้นจะเป็นเรื่องที่น่ากลัวมากแค่ไหน
ทนายอันลงมือก่อน มือซ้ายของเขากลายเป็นกระดูกสีขาว จากนั้นฉีกเสื้อผ้าตรงหน้าเป็นชิ้นๆ โจวเจ๋อตกตะลึง แม่งเอ๊ย ไหนๆ ก็ลงมือแล้ว ทำไมไม่ฉีกทั้งสองชุดไปเลยฟะ
เล็บของโจวเจ๋อยาวออกมา ฉีกเสื้อผ้าตรงหน้าตนเองเช่นกัน ในเมื่อลงมือแล้วก็ไม่ต้องกลัวอะไรอีก จากนั้นผู้ชายทั้งสองคนจึงยืนเรียงเป็นแถวเดียวกัน ถ้าหากลมหายใจถูกปล่อยออกไปก็ช่างมัน ตอนนี้ได้แต่ภาวนาว่าที่นี่ไม่ใช่เขตดูแลของยมโลกก็พอ จะได้ไม่เป็นที่สังเกตของบอสใหญ่ตัวอื่นในยมโลก
แน่นอนว่าถ้าต้องต่อสู้ก็ต้องทำ เพื่อศักดิ์ศรีของลูกผู้ชาย!
หญิงชราเห็นเสื้อผ้าของตัวเองถูกฉีกขาด เธอไม่โกรธแต่กลับยิ้มแย้มแล้วพูดว่า “ดี ดีมาก ดีมากๆ”
พูดจบ หญิงชราถอยหลังหนึ่งก้าว ดูเหมือนว่าเธอจะมองออกแล้วว่าผู้ชายสองคนนี้ไม่ธรรมดา เธอจึงตบมือทันทีแล้วตะโกนว่า “เด็กๆ รับแขก!”
………………………………………………………………………..