ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 512 ฝนจะตกแล้ว
ตอนที่ 512 ฝนจะตกแล้ว
สวี่ชิงหล่างกับผู้หญิงหยุดเดิน มองหน้ากันเหมือนจะแยกกันแล้ว สามารถมองออกว่า ทั้งสองคนคุยกันสนุกมากและยังรู้สึกอาลัยอาวรณ์
มีความคล้ายคู่รักวัยมหาวิทยาลัยที่ไปดูหนังตอนกลางคืนด้วยกัน ทันใดนั้นพบว่าตอนนี้ประตูหอพักปิดแล้วสามารถไปเปิดห้องข้างนอกและสัญญาว่าแค่ถูๆ ไถๆ ไม่ใส่เข้าไปเด็ดขาด
โจวเจ๋อเขี่ยบุหรี่ในมือแล้วพูดว่า “แผลของนายดีขึ้นหรือยัง”
“หนึ่งส่วน” เด็กผู้ชายกล่าว
“ทำไมช้าขนาดนี้”
“ได้ คืนนี้ข้าจะไปฆ่าคนดูดเลือดเพื่อฟื้นฟู”
โจวเจ๋อโน้มตัว มองเด็กซนคนนี้ เขานิ่งมาก นิ่งมากจริงๆ และที่เขาพูดก็คือเรื่องจริง ขอแค่โจวเจ๋อพยักหน้า คืนนี้เขาจะไปฆ่าคน
“วันหลัง ถ้าฉันไม่อนุญาต อย่าฆ่าใครมั่วซั่ว นายเป็นผีดิบ แถมยังระดับสูง ถึงแม้ตอนนี้อยู่กับฉัน แต่ใครก็ไม่กล้ารับประกันผลของการเป็นลูกจ้างชั่วคราวว่าจะเป็นยังไง โดยเฉพาะที่นี่อยู่ในเมือง เป็นสถานที่ที่มีคนแออัด” มีประโยคหนึ่งที่โจวเจ๋อไม่ได้พูด นั่นก็คือโดยทั่วไปเวลาเกิดเรื่อง ลูกจ้างชั่วคราวจะซวยก่อนคนแรก
เด็กผู้ชายเงยหน้ามองโจวเจ๋อ หรี่ตามองแฝงไปด้วยความเยาะเย้ยเล็กน้อย เหมือนเขากำลังพูดว่าเจ้าพูดจาไร้สาระทำไม
“หนึ่งส่วนก็พอแล้ว ไม่ว่ายังไงนายก็ทนทานต่อการโจมตี” ทนทานต่อการโจมตี ก็คือข้อดีอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะข้อดีนี้โจวเจ๋อได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว ชุ่ยฮวาเมื่อก่อนแค่ ‘น้ำตาลหนึ่งก้อน’ ก็ล้มแล้ว แต่เด็กผู้ชายคนนี้กลับกินได้แปดก้อน และยังสามารถฆ่าผีดิบแมนจูที่กำลังคลั่งต่อได้อีก
โจวเจ๋อโยนก้นบุหรี่ลงบนพื้น ฝั่งของสวี่ชิงหล่างก็เพิ่งแยกกับผู้หญิงคนนั้น สวี่ชิงหล่างเดินมาทางร้านหนังสือ ส่วนผู้หญิงเดินไปฝั่งตรงข้ามเพื่อเรียกรถแท็กซี่
โจวเจ๋อพูดตามตรง “สะกดรอยตามผู้หญิงคนนั้น อย่าให้เธอรู้ ดูว่ามีความผิดปกติอะไรไหม”
“ได้เลย” เด็กผู้ชายเดินไปแล้ว เท้าทั้งสองข้างวิ่งไปบนถนนทันที ดูมีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉงมาก ตอนที่วิ่งผ่านสวี่ชิงหล่างเขายังตั้งใจมองเด็กผู้ชายน่ารักคนนี้เป็นพิเศษ เขายังไม่รู้ว่าวันนี้มีสมาชิกใหม่เพิ่มเข้ามา
โจวเจ๋อรู้สึกว่า หลังจากมีผีดิบน้อยแล้วสะดวกขึ้นมาก ต่อสู้ก็เป็นและทนทานต่อการโจมตีอีกด้วย นอกจากนี้ถึงตายไปก็ไม่เสียใจ
ที่สำคัญที่สุดคือ อย่ามองว่าเขาทำตัวเหมือนตัดขาดจากโลกใบนี้ ต่างจากสุนัขจิ้งจอกขาวที่กล้าเปิดคลับในเมือง แต่เขาไม่ได้โง่จริงๆ
ในความเป็นจริงนั้น ในฐานะของมนุษย์ที่มีอายุไม่เกินหนึ่งร้อยปี คุณดูถูกความฉลาดของสิ่งมีชีวิตที่มีอายุหลายร้อยปี ถือว่าเป็นเรื่องที่โง่เขลาอย่างมาก
เถ้าแก่โจวเหยียดขาขยี้ก้นบุหรี่ ทันใดนั้นรู้สึกว่าพาเด็กผู้ชายออกมา เป็นแผนที่ชาญฉลาดจริงๆ กระทั่งตัวเขาเองก็ยังจินตนาการภาพออกว่า ต่อไปตอนที่ตัวเขานอนอาบแดดดื่มกาแฟอ่านหนังสือพิมพ์อยู่บนโซฟาในร้านหนังสือ ถ้าหากนักพรตเฒ่าหรือว่าทนายอันไม่ว่าใครวิ่งเข้ามารายงานว่าเจอเรื่องยุ่งยากอะไร โจวเจ๋อก็สามารถพูดว่า ‘ร้านหนังสือยิ้มให้คุณ และยังมอบเด็กผู้ชายคนหนึ่งให้กับคุณ’ ได้อย่างสิ้นเชิง
“คิดอะไรอยู่ มุมปากกระดกขึ้นมาแล้ว” สวี่ชิงหล่างตบไหล่ของโจวเจ๋อ เรียกโจวเจ๋อให้ตื่นขึ้นจากจินตนาการของปลาเค็ม
“อะไรกระดกขึ้นมา” โจวเจ๋อถามพร้อมมองลงไป
“อะไร!” สวี่ชิงหล่างถอยหลังหนึ่งก้าว หนีบสองขาแน่น
“นายใส่กางเกงยีนส์ ยังจะมีช่องว่างโผล่ออกมาอีกเหรอ”
“ผมว่านะเหล่าโจว คุณเพิ่งกลับมา ทำไมรู้สึกแปลกนิดๆ”
โจวเจ๋อหัวเราะ ยื่นมือจับไหล่ของสวี่ชิงหล่าง จากนั้นโน้มตัวทันที พยายามบังคับให้สวี่ชิงหล่างหมุนตัว มองไปยังทิศที่ผู้หญิงคนนั้นกลับไป ผู้หญิงนั่งรถไปแล้ว ดังนั้นจึงมองไม่เห็น เด็กผู้ชายก็วิ่งไปไกลแล้ว จึงมองไม่เห็นเหมือนกัน
โจวเจ๋อใช้แรง ปกติเถ้าแก่โจวเป็นคนที่ประหยัดแรงมากคนหนึ่ง ดังนั้นเขาใช้แรงก็หมายความว่าตอนนี้เขาโกรธเล็กน้อย
“บอกฉันมา นายลืมแล้วเหรอว่าหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นเหมือนใคร” โจวเจ๋อกดเสียงต่ำซักถาม
สวี่ชิงหล่างเม้มปาก ไม่พูด
“ฉันรู้ว่าครั้งที่แล้วผู้หญิงของเทพเจ้าแห่งท้องทะเลคนนั้น นายมีสัมพันธ์กับเธออยู่บ้าง แต่สมองของนายน่าจะรู้ดีนะว่า ผู้หญิงคนนี้มีหน้าตาคล้ายเธอมาก นายไม่รู้สึกอย่างอื่นเหรอ”
“ผมสืบฐานะของเธอแล้ว เมื่อวานก็ยังไหว้วานเหล่าจางให้ช่วยผมสืบ ก็ไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร”
“แบบนี้ก็ไม่มีปัญหาแล้วเหรอ เหล่าสวี่ นายไม่ได้ไร้เดียงสาขนาดนั้นใช่ไหม”
“เหล่าโจว”
“หืม”
“เรื่องนี้ คุณอย่ายุ่งได้ไหม ผมจะจัดการเอง”
โจวเจ๋อเม้มปาก เขาอยากจะพูดจริงๆ ว่า นายจัดการเองได้เหรอ นายมีความสามารถนี้เหรอ แต่ถ้าพูดออกไปก็จะทำร้ายจิตใจอยู่บ้าง และยังทำลายความสัมพันธ์ ยากที่จะฟื้นคืนกลับมา
ใช่แล้ว ดูเหมือนว่าร้านหนังสือหลังจากที่ย้ายมาจากสถานที่ที่ห่างไกลมาอยู่ที่ถนนหนานต้า จากนั้นก็มีสาวน้อยโลลิ นักพรตเฒ่า ทนายอัน และคนอื่นๆ เข้ามาร่วมทีมอย่างไม่ขาดสาย ทำให้การมีตัวตนอยู่ของสวี่ชิงหล่างค่อยๆ เลือนหายจนแทบไม่เห็นแล้ว
เขายังคงดูดีเหมือนเดิม ดูดียิ่งกว่าผู้หญิง เขายังคงดูแลผิวของตัวเองอย่างดีเหมือนเดิม ยังคงดูแลมือทั้งสองข้างของตัวเอง แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ หลายครั้งหากไม่มีเขา จริงๆ แล้วก็ไม่รู้สึกถึงความแตกต่าง
กระทั่งบทบาทของเขาถูกกำหนดให้เป็น ‘พ่อครัวสาว’ ไปแล้ว สามารถทำอาหารได้ ทำกับข้าวอร่อย ดูเหมือนจะกลายเป็นข้อดีเพียงข้อเดียวของเขาในตอนนี้ จึงได้แต่ทำอาหารสามมื้อเพื่อให้รู้สึกว่ายังมีตัวตนอยู่บ้าง
แต่นั่นคือเทพเจ้าแห่งท้องทะเล ผู้หญิงคนนั้นคล้ายกับ ‘ต๋าจี่’ ที่ฆ่าครอบครัวของมหาเศรษฐีครั้งที่แล้วเป็นอย่างมาก บนโลกนี้ จะมีเรื่องบังเอิญขนาดนี้ไหม
“เหล่าสวี่ คุณคิดว่าหน้าตาเหมือน เป็นเรื่องบังเอิญเท่านั้นเหรอ”
“ผมไม่รู้” สวี่ชิงหล่างส่ายหน้า ไม่แน่ใจ
“ฉันยินดีที่จะเชื่อว่าช่วงนี้คนถูกรางวัลใหญ่มีความน่าจะเป็นเยอะกว่า เพราะช่วงนี้ดูเหมือนหัวหน้าของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลถูกตรวจสอบเป็นพิเศษ”
“ผมจัดการเองได้จริงๆ” สวี่ชิงหล่างพูดยืนกราน
โจวเจ๋อพยักหน้า โอเค เขาพูดถึงขั้นนี้แล้ว ถ้าพูดต่อไป มีแต่จะทำร้ายจิตใจ ไม่พูดดีกว่า
“คุณหิวหรือยัง” สวี่ชิงหล่างถาม “เพิ่งกลับมา ยังไม่ได้กินข้าวใช่ไหม”
“อืม”
“ผมซื้อผักมาแล้ว จะกลับไปทำเดี๋ยวนี้”
“ได้”
สวี่ชิงหล่างกลับไปร้านหนังสือไปทำกับข้าว ส่วนโจวเจ๋อก็มีอิงอิงคอยปรนนิบัติตอนอาบน้ำ ไม่ใช่ว่าโจวเจ๋ออาบน้ำเองไม่ได้ แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บยังฟื้นฟูไม่หมดอย่างสมบูรณ์ ยังมีสะเก็ดแผลอยู่ตามร่างกาย เวลาอาบน้ำจึงต้องระวังหน่อย
แน่นอนว่า ทั้งหมดนี้เป็นข้ออ้าง เหตุผลที่แท้จริงคือยอากให้อิงอิงอาบน้ำให้ตัวเอง!
เมื่ออาบน้ำแล้ว อาหารก็วางเต็มโต๊ะ ไก่ตุ๋นใส่เห็ดหอมหนึ่งหม้อ หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊วหนึ่งจาน ปลาดาบผัดซอสแดงหนึ่งจาน นับว่าเป็นอาหารจานเนื้อ แล้วก็มีผัดผักสองสามอย่าง ล้วนเป็นอาหารบ้านๆ ที่กินเป็นประจำ แต่หน้าตาและรสชาติอร่อยเหลือล้ำ
ทุกคนบนโต๊ะกินอย่างเอร็ดอร่อย โดยเฉพาะทนายอัน ต่อไปไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำดอกพลับพลึงแดงแล้ว เขามีความกระตือรือร้นเรื่อง ‘กิน’ และแทบจะกลายเป็นนักกินก็ว่าได้
หญิงสาวตัวดำกับเดดพูลยังไม่กลับมา เธอโทรกลับมาบอกว่า ต้องรอเก็บของแถวสุสานสาธารณะตอนเย็นดังนั้นจะกลับมาอีกทีวันพรุ่งนี้ตอนเช้า
มีเดดพูลอยู่ข้างกายเธอ จึงไม่ต้องเป็นห่วงอะไร และในความเป็นจริง ขอแค่พิษยังอยู่ในตัวของเธอ ก็ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะมีใจเป็นอื่น
จริงๆ แล้วก็บังเอิญมาก เดดพูลก็ปลูกออกมาเหมือนกัน หญิงสาวตัวดำก็ปลูกผักเก่งมาก ทั้งสองคนเหมาะสมกันจริงๆ
และไม่รู้ว่าหญิงสาวตัวดำสามารถช่วยเดดพูลพัฒนาสายพันธุ์ของเขาได้ไหม จะมัวแต่หัวเราะเซ่อซ่าเหอะๆ ดูเหมือนจะไม่ไหว
เมื่อกินอิ่มแล้ว โจวเจ๋อจึงนั่งบนโซฟา มองแสงไฟนีออนที่อยู่บนถนนด้านนอก และผู้คนที่สัญจรไปมา
ทนายอันนั่งตรงข้ามโจวเจ๋อ ยกขาขึ้นมาอย่างหมดสภาพ
เวลานี้ อิงอิงยกกาแฟของโจวเจ๋อเข้ามาเสิร์ฟ ทนายอันแย่งมาก่อน แล้วดื่มหนึ่งคำ จากนั้นจึงบ้วนออกมา
“ทำไมเหม็นเหมือนอุจจาระ”
“…” โจวเจ๋อ
สักพักหนึ่ง อิงอิงจึงยื่นกาแฟ ‘แก้วยักษ์’ ให้ทนายอัน ทนายอันดื่มคำโตอย่างชื่นใจ แล้วยังเลียปากเพื่อลิ้มรสที่ยังวนเวียนอยู่ไม่รู้ลืม
จากนั้นจึงมองโจวเจ๋อหยิบกาแฟของตัวเองขึ้นมาดื่ม ในใจรู้สึกเศร้าและประทับใจไม่หยุด เงินของเถ้าแก่เอามาเลี้ยงกาแฟให้เขา ดังนั้นตัวเถ้าแก่เองจึงดื่มกาแฟที่แย่ขนาดนี้ใช่ไหม
นักพรตเฒ่าไปล้างจานในครัว โดยทั่วไปแล้ว สวี่ชิงหล่างรับผิดชอบทำกับข้าว นักพรตเฒ่ารับผิดชอบล้างจาน ในร้านหนังสืองานไม่ยุ่ง สามารถหางานทำได้บ้างก็ทำ
เจ้าลิงถือโทรศัพท์ นั่งดูการ์ตูนอยู่ข้างๆ โต๊ะน้ำชาของโจวเจ๋อ เหมือนกำลังดู ‘ดราก้อนบอล’
ทันใดนั้นโจวเจ๋อเหมือนนึกอะไรได้ ยื่นมือเพื่อบอกให้เจ้าลิงเข้ามา
เจ้าลิงกระโดดเข้าหา มองโจวเจ๋ออย่างสงสัยอยากรู้
โจวเจ๋อจับกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กของเจ้าลิงขึ้นมา แล้วยื่นมือเข้าไป จากนั้นกำยันต์กระดาษออกมาเต็มมือ ทนายอันก็เข้ามาแจม มองดูแล้ว จากนั้นจึงพยักหน้าให้โจวเจ๋อ
ใช่แล้ว ถูกต้องแล้ว เป็นยันต์กระดาษบรรพบุรุษของนักพรตเฒ่า ถูกยัดไว้เต็มกระเป๋ากระเป๋าใบเล็ก และมากพอที่จะแสดงให้เห็นถึงความรักของนักพรตเฒ่าที่มีต่อเจ้าลิง
“ไม่ใช่มั้ง…” ทนายอันไม่อยากจะเชื่อ
โจวเจ๋อยัดยันต์กระดาษกลับเข้าไป ตบหัวของเจ้าลิงเบาๆ เพื่อบอกให้เจ้าลิงไปเล่นเอง จากนั้นโจวเจ๋อจึงจิบกาแฟ
เวลานี้สวี่ชิงหล่างจู่ๆ ก็ถือโทรศัพท์วิ่งลงมาจากข้างบนอย่างรีบร้อน
“มีธุระ จะออกไปแป๊บหนึ่ง” พูดจบ สวี่ชิงหล่างก็ผลักประตูร้านหนังสือ แล้วขับรถนิสสันของเขาออกไป
สายตาของโจวเจ๋อไล่มองท้ายรถของสวี่ชิงหล่างตลอดเวลา มองจนมันลับหายไป
“มีอะไร” ทนายอันถาม
“ไม่มีอะไร” โจวเจ๋อส่ายหน้า
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ตอนที่ทนายอันกำลังจะดื่มกาแฟแก้วยักษ์ในมือหมดแล้วและกำลังจะเรียกอิงอิงให้เอาแก้วใหม่มาให้ตัวเอง ผีดิบน้อยได้ผลักประตูร้านแล้วเดินเข้ามา
เขาเดินมาอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ ยื่นมือวางบนโต๊ะน้ำชา จากนั้นคลายมือออก สิ่งที่ร่วงลงมาคือ เกล็ดปลาเป็นประกายสดใส
โจวเจ๋อมองเขา แล้วพูดว่า “เกิดอะไรขึ้น”
“ตามนางกลับไปที่โรมเตี้ยม…โรงแรม รู้สึกว่ามีความผิดปกติ จึงเข้าไป ไปจับนาง แล้วจึงได้อันนี้มา”
โจวเจ๋อยื่นมือหยิบเกล็ดปลาเกล็ดหนึ่งมาขยี้ในมือ และไม่ได้พูดอะไร ดูเหมือนลมจะพัดแล้ว ผู้คนที่เดินอยู่บนถนนก็รีบย่ำฝีเท้า ดูท่าฝนจะตกแล้ว
………………………………………………………………