ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 523 ปีศาจ!
ตอนที่ 523 ปีศาจ!
การทักทายอันร้อนแรงด้วยมิตรภาพระหว่างคนจีนและชาวต่างชาติสิ้นสุดลง ทั้งสองฝ่ายแสดงคุณสมบัติที่สุดโต่งออกมา คนอื่นๆ ในห้องพักที่ยังยืนไหวสองสามคนได้ใช้ภาษาอังกฤษยอดแย่สื่อสารกับเหล่าจาง ในที่สุดเหล่าจางจึงได้ข้อมูลที่ตัวเองอยากรู้แล้ว
เนื่องจาก ‘ไก่คุยกับเป็ด’ (คุยกันคนละภาษา) ใช้เวลานานเกินไป โจวเจ๋อจึงเดินไปสูบบุหรี่ที่ทางเดินหน้าประตู
“เหอะๆ มาเรียนที่ประเทศจีน พูดภาษาจีนก็ไม่ได้ แล้วมาเรียนทำไม” เหล่าจางก็สื่อสารจนเหงื่อตกเหมือนกัน
“ไม่เป็นไร พวกเขาแค่พูดคำว่า ‘สวัสดี’ ได้ พวกเราก็ซาบซึ้งใจแล้ว ถ้าหากพูดอีกหนึ่งประโยคว่า ‘ผมชอบวัฒนธรรมของประเทศจีนมาก’ พวกเราก็ยิ่งภูมิใจ” โจวเจ๋อโยนก้นบุหรี่ทิ้งบนพื้น แล้วพูดต่อ “ถามได้หรือยัง”
“ถามได้แล้ว บอกว่าตอนบ่ายแฟนสาวของเขาได้มาหาเขา เขาจึงออกไป แต่…”
“แต่ทำไม”
“แต่พวกเขารู้แค่ว่าเขารับสายของแฟนสาว แต่ไม่รู้ว่าใช่สวีจงลี่หรือเปล่า หรือจะพูดให้ถูกคือ ไม่รู้ว่าเป็นแฟนคนไหนที่มาหาเขา”
“อ้อ เหอะ”
“ไปไหนก็ไม่รู้” เหล่าจางยักไหล่ “ดังนั้น ตอนนี้จากที่หาคนหนึ่งคน กลายเป็นหาคนสองคน”
ทั้งสองคนเดินออกมาจากหอพักเก่าด้วยกัน จากนั้นจึงได้ยินเสียงร้อง ‘เจี๊ยกๆๆ’ ดังมาจากทางสวนดอกไม้ เจ้าลิงน้อยสะพายกระเป๋าสะพายข้างมุดออกมาจากสวนดอกไม้ ทั้งยังถือโทรศัพท์อยู่ในมือ
“นี่มัน…” เหล่าจางแปลกใจอยู่บ้าง ถามว่า “เถ้าแก่ เป็นคุณ…”
“ใช่ ผมโทรบอกให้เจ้าลิงมาที่นี่” โจวเจ๋อโน้มตัวอุ้มเจ้าลิงขึ้นมา เขายื่นมือลูบศีรษะของเจ้าลิงแล้วกล่าวว่า “มันหาของเร็วกว่าพวกเรา”
ความฉลาดของเจ้าลิงไม่ได้เก่งแค่เรียกรถแท็กซี่กับไลฟ์สตรีมมิ่งบนแพลตฟอร์มโต้วอวี๋เท่านั้น มันมีพรสวรรค์ที่น่ากลัวสุดๆ ด้านค่ายกลและการตรวจสอบ ใช้งานดีกว่าสุนัขตำรวจมากในระดับหนึ่ง
โจวเจ๋อไม่สั่งให้นักพรตเฒ่าหรือทนายอันมาส่งเจ้าลิง เพราะเหล่าจางถึงแม้ตอนนี้จะเห็นความผิดปกติของดวงตาเขาแล้ว ขอเพียงตัวเขาเองไม่เป็นฝ่ายพูดก่อน เหล่าจางก็จะไม่เป็นฝ่ายถามก่อน และจะไม่โง่พูดเรื่องไร้สาระแบบนี้ออกไป แต่ไอ้สองคนนั้นไม่เหมือนกัน
“ลองหาดู แถวนี้มีอะไรผิดปกติไหม” โจวเจ๋อพูดกับเจ้าลิง
ถ้าหากสวีจงลี่พาแฟนหนุ่มผิวดำออกจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ กระทั่งออกจากทงเฉิง อยากจะหาตัวให้เจอตอนนี้ถือว่าเป็นปัญหามาก แต่ถ้าหากพวกเขายังอยู่แถวมหาวิทยาลัยละก็ ด้วยความสามารถของเจ้าลิงน้อยน่าจะรับรู้ได้บ้าง
และก่อนหน้านั้นเจ้าลิงน้อยดูเหมือนจะสัมผัสได้จริงๆ หลังจากที่โจวเจ๋อถาม มันได้โบกแขนไปทิศทางหนึ่งทันที
“ไปกัน” โจวเจ๋ออุ้มเจ้าลิงเดินไปทางนั้น เหล่าจางเดินตามอยู่ข้างๆ พลางเหลือบมองเจ้าลิงเป็นระยะ เหลือบมองจนเจ้าลิงรู้สึกขนลุกอยู่ในใจ
“เถ้าแก่ ลิงตัวนี้วันหลังขอยืม…”
“ไม่ให้ยืม”
“…” เหล่าจาง
เหล่าจางคิดว่าวันหลังถ้ามีโอกาสอยากจะยืมตัวเจ้าลิงมาช่วยสืบคดีให้ตัวเองบ้าง สามารถฟังภาษาคนออกและยังหาของเก่งกว่าสุนัขตำรวจ มีผู้ช่วยแบบนี้ พวกตำรวจอาชญากรรมน่าจะนอนตื่นมาพร้อมกับเสียงหัวเราะ
แต่เถ้าแก่โจวเป็นคนใจแคบ ตัวเองใช้คือเรื่องหนึ่ง แต่ให้คนอื่นยืมเขาจะไม่พอใจ
คุณเคยได้ยินแต่ของหลวงของรัฐบาลโดนเอาเปรียบ แต่มีใครเคยพูดบ้างว่าเอาของของตัวเองไปให้รัฐบาลใช้ทำงาน
“วันหลังถ้ามีคดี คุณก็ไปหาเหล่าอัน เหล่าอันบอกว่าจะช่วยจัดการให้คุณ” โจวเจ๋อพูดเตือน “คุณไม่ไปนครเอกของมณฑล การเลือกนี้จะไม่ทำให้คุณต้องขาดทุนแน่นอน ต่อไปก็ดูว่าจะดำเนินการยังไง ขึ้นเป็นรองหัวหน้าสถานีได้ไหม”
“ผมยังอายุน้อย” เหล่าจางพูดอย่างเขินอายอยู่บ้าง เขาอายุไม่น้อยแล้ว แต่อายุของร่างนี้ยังไม่เยอะมาก
“ความสำเร็จขึ้นอยู่กับคน” ทั้งสองคนคุยกันเรื่อยเปื่อยพลางเดินออกมาจากโซนที่อยู่อาศัย
โจวเจ๋อค่อยๆ หยุดเดิน ด้านหน้าเป็นสถานที่ที่ตัวเองเดินมาเมื่อตอนกลางวัน โรงยิมเก่าแห่งนั้น นี่คือไม่กลัวฉันมาหา หรือว่าไม่คิดจะวิ่งหนีกันแน่ ประตูใหญ่ของโรงยิมถูกล็อกอยู่ โจวเจ๋อจึงใช้เล็บของตัวเองไขกุญแจ แล้วผลักประตูออก
บนพื้นของสนามแบดมินตัน มีสิ่งของสีดำวางเรียงเป็นแถว กระจายกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงออกมา
เหล่าจางหยิบไฟฉายเล็กออกมา เปิดแล้วส่องไปรอบๆ บนพื้นนี้มีศพของสุนัขและแมวอยู่หลายตัว
เจ้าลิงที่อยู่ในอ้อมอกของโจวเจ๋อหลังจากเห็นฉากนี้ อารมณ์ของมันจึงหดหู่ทันที
เหล่าจางโน้มตัว ส่องไฟฉายตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วพูดว่า “เถ้าแก่ พวกมันถูกคนฆ่าอย่างทารุณ สัตว์ขนาดเล็กเหล่านี้ถูกกรีดด้วยของมีคมตามเนื้อตัว ถูกคนทำร้ายด้วยการฉีดยา และยังมีวิธีอื่นอีก”
เขาลุกขึ้นแล้วส่องไฟฉายออกไปไกล ศพของสัตว์ขนาดเล็กวางเรียงกันเป็นระเบียบ คาดว่ามีไม่ต่ำกว่าหนึ่งร้อยตัว ท่ามกลางศพของสัตว์ตัวน้อยตัวใหญ่ มีศพของลูกแมวสี่ตัวที่สะดุดตามากที่สุด เห็นได้ชัดว่าเพิ่งเกิดได้ไม่นานก็โดนฆ่าอย่างทารุณแล้ว
“แก้แค้นเหรอ” โจวเจ๋อพูดพึมพำกับตัวเอง
เจ้าลิงซุกศีรษะของตัวเองเข้าไปในอ้อมแขนของโจวเจ๋อ ดูเหมือนมันไม่อยากมองฉากนี้อีก โจวเจ๋อก้าวเท้าออกไป เดินผ่านสนามแบดมินตัน ผ่านทางเดินที่คับแคบ พลางมองเข้าไปในห้องน้ำและสำนักงาน ทั้งหมดล้วนไม่มีคน แต่ตอนที่เดินมาถึงสนามบาสเกตบอล ดูเหมือนเขาจะมองเห็นเงาดำนั่งอยู่บนห่วงบาสเกตบอลที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
เหล่าจางส่องไฟฉายของตัวเองออกไป เงาดำนั่นก็คือหนุ่มผิวดำ เขาได้รับบาดเจ็บ เนื้อตัวเต็มไปด้วยเลือด แต่ก้นของเขากลับถูกแขวนอยู่บนห่วงบาสเกตบอล ตอนนี้เนื่องจากได้รับแรงกระตุ้นจากแสงที่สาดเข้ามา เขาจึงฟื้นขึ้นมาจากอาการหมดสติ จากนั้นแผดเสียงตะโกนเรียกโจวเจ๋อและคนอื่นๆ ทันที
เขาไม่ได้ตะโกนเป็นภาษาจีน และไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นภาษาที่ผุดมาจากมุมไหนของโลก
“เถ้าแก่ เขากำลังพูดอะไร”
โจวเจ๋อที่อยู่ข้างๆ เหล่าจางตอบว่า “น่าจะกำลังบอกพวกเราว่า ตรงนี้อันตราย บอกว่าพวกเราไม่ต้องสนใจเขา รีบหนีไป เขาเสียสละชีวิตคนเดียวไม่เป็นไร แต่ถ้าหากทำให้พวกเราต้องเดือดร้อน เขาจะเสียใจไปตลอดชีวิต” โจวเจ๋อแปลอย่างตั้งใจและจริงจัง
เหล่าจางอ้าปากหวอ แล้วหัวเราะ
บนฐานของแป้นบาสเกตบอลมีผู้หญิงนั่งอยู่คนหนึ่ง ซึ่งก็คือสวีจงลี่ เธอปล่อยผมสยายลงมา ตัวเอียงไปข้างๆเล็กน้อย ถือโทรศัพท์อยู่ในมือ ในนั้นกำลังฉายวิดีโออยู่
“นี่” โจวเจ๋อตะโกนเรียก
สวีจงลี่หมุนตัวกลับมา แล้วแหวกผมของตัวเอง ซึ่งใบหน้าครึ่งหนึ่งกลับเป็นใบหน้าของแมวตัวหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ
เธอกำลังหัวเราะ ไม่ได้หัวเราะอย่างอบอุ่นแบบนั้น และไม่ได้หัวเราะอย่างเย็นชาเช่นกัน แต่เป็นธรรมชาติและเป็นกันเองเหมือนการแซวเล่นระหว่างเพื่อนด้วยกัน
‘กลุกๆ…’ กระป๋องใบหนึ่งกลิ้งออกมาจากใต้เท้าของเธอ โจวเจ๋อเห็นแล้ว นั่นคือสเปรย์ป้องกันตัวขวดหนึ่ง ดังนั้น เธอกำลังหัวเราะเยาะฉันใช่ไหม
หนุ่มผิวดำยังคงตะโกนเสียงดัง เห็นได้ชัดว่ากำลังขอความช่วยเหลือ เขาตกใจกลัว และตอนนี้ก็มีคนอื่นเดินเข้ามาในที่สุด เขาจึงตะโกนขอให้ช่วยชีวิตทันที
“ยังไม่ถึงเวลา” สวีจงลี่เอ่ยอย่างช้าๆ
“คุณกำลังรออะไร” เหล่าจางถาม “ผมขอเตือนคุณนะ คุณปล่อยคนลงมาก่อน…”
โจวเจ๋อยื่นมือตบไหล่ของเหล่าจาง เพื่อบอกให้เขาอย่ารีบเข้าสู่โหมดทำงานเร็วเกินไป
สวีจงลี่ลุกขึ้น ใบหน้าครึ่งหนึ่งของเธอเป็นแมว อีกครึ่งหนึ่งเป็นใบหน้าคน นัยน์ตาแมวข้างหนึ่งส่องประกายวาววับภายใต้ม่านราตรี เธอยกมือขึ้น โยนโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือของเธอก่อนหน้านั้นทิ้งไป
เจ้าลิงกระโดดออกมาจากอ้อมอกของโจวเจ๋อ กระโดดรับโทรศัพท์กลางอากาศ หลังจากตกลงบนพื้น ก็ไม่ได้ยื่นโทรศัพท์ให้โจวเจ๋อ แต่ตัวเองกลับเปิดวิดีโอที่ยังไม่ได้ปิดบนหน้าจออย่างคล่องแคล่วให้เล่นต่อ
ในภาพเป็นผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงหนึ่งคนกำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานพร้อมกับฆ่าลูกแมวที่เพิ่งเกิดสามสี่ตัว ดูแล้วคุ้นหน้า เหมือนลูกแมวสามสี่ตัวที่วางอยู่ตรงสนามแบดมินตันตอนที่เดินเข้ามา
เมื่อพิจารณาดูอย่างละเอียด ผู้ชายคนนั้นก็คือหนุ่มผิวดำที่ถูกแขวนอยู่บนห่วงบาสเกตบอลอยู่ในตอนนี้ และผู้หญิงก็คือสวีจงลี่
ลูกแมวเหล่านั้นร้องอย่างน่าเวทนาออกมาไม่หยุด แต่กลับทำให้สวีจงลี่และหนุ่มผิวดำยิ่งชอบใจ เสียงหัวเราะของทั้งสองคนกับเสียงร้องน่าสงสารของลูกแมวกลายเป็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
สวีจงลี่หน้าแมวยืนอยู่แต่ไกล มองโจวเจ๋อและคนอื่นที่อยู่ตรงหน้าอย่างใจเย็น
“เจี๊ยกๆๆ!!!!” เจ้าลิงน้อยแยกเขี้ยวยิงฟัน มันคงจะดูวิดีโอตัวนี้แล้วแสดงความโกรธออกมา
โจวเจ๋อก้มหน้า มองเล็บมือข้างซ้ายของตัวเอง ตรงนั้นมีเงาดำขดตัวกันกลุ่มหนึ่ง ซึ่งเป็นวิญญาณของสวีจงลี่ ยังมีวิดีโออีกเยอะมาก ดูเหมือนจะอัปโหลดเข้าไปบนเว็บไซต์อันหนึ่งเพื่อแชร์ให้คนอื่นได้ดูแล้ว
ดูท่าแล้ว ศพของสัตว์ขนาดเล็กเป็นจำนวนมากที่อยู่บนสนามแบดมินตัน ล้วนเป็นผลงานชิ้นเอกของคู่รักคู่นี้
“ฉันจะแก้แค้น” สวีจงลี่หน้าแมวพูดอย่างราบเรียบ เธอคือปีศาจที่ ‘จิตใจสงบ’ มากที่สุดเท่าที่โจวเจ๋อเคยเห็นมา ไม่เห็นความดุร้ายเกรี้ยวกราดบนตัวเธอแม้แต่นิดเดียว
“เอ่อ…” เหล่าจางมองโจวเจ๋อด้วยความลำบากใจ
หนุ่มผิวดำยังคงร้องเรียก พยายามตะโกนเต็มที่
โจวเจ๋อส่ายหน้า เอ่ยว่า “ขอโทษนะ ผมไม่เห็นด้วย”
“เจี๊ยกๆๆ!!!!!” เจ้าลิงน้อยรีบตะโกนใส่โจวเจ๋อด้วยความไม่พอใจอย่างมาก
หนึ่งคนหนึ่งลิงสบตากัน สายตาของโจวเจ๋อยังคงเต็มไปด้วยความหนักแน่น และส่วนลึกในตาของเจ้าลิงน้อยกลับมีเส้นเลือดปรากฏออกมาอย่างช้าๆ ดูเหมือนสถานการณ์นี้ ฉากนี้ การเลือกนี้ ทำให้นึกถึงบางอย่างที่อยู่ลึกสุดลงไปในวิญญาณของมัน
“ขอโทษ ผมเป็นยมทูต ผมไม่อนุญาตให้คุณฆ่าคนต่อหน้าผม และคุณได้ยึดร่างกายของผู้หญิงคนนี้ คุณต้องคืนกลับมา”
“ดังนั้น จึงไม่สนใจใช่ไหม” ใบหน้าแมวบ่นพึมพำ
จางเยี่ยนเฟิงถอนหายใจ ในเมื่อเถ้าแก่ตัดสินใจแล้ว เขาก็ไม่อยากจะพูดอะไร เขาเป็นตำรวจ ดังนั้นจึงยิ่งเข้าใจว่ากฎและกฎหมายแท้จริงแล้วทำให้คนรู้สึกจนใจในบางครั้ง
โจวเจ๋อเป็นฝ่ายเดินเข้าหาสวีจงลี่ก่อน สวีจงลี่ยกสองมือขึ้น โชว์กรงเล็บแมวออกมา
“เมี้ยว!” เสียงแมวดังเข้ามา ต่อจากนั้นเส้นผมของเธอจึงเริ่มสยาย กลิ่นอายปีศาจเริ่มกระจายออกมา
และดูเหมือนจะเป็นปีศาจที่อ่อนแอที่สุดเท่าที่โจวเจ๋อเคยเจอ อ่อนแอจนถ้าหากไม่จับพลัดจับผลูได้รับความช่วยเหลือจากโจวเจ๋อ ตัวเองคงไม่สามารถบีบให้วิญญาณของสวีจงลี่ออกมาได้อย่างสิ้นเชิง
โจวเจ๋อเดินเข้าไปพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อย “ปีศาจที่อ่อนแอขนาดนี้ ตั้งใจบำเพ็ญเพียรจะดีกว่า ทำไมต้องทำลายตบะของตัวเอง”
“ฉันไม่มีทางเลือก” สวีจงลี่หน้าแมวหัวเราะอย่างขมขื่น พุ่งเข้าหาโจวเจ๋อ ข่วนกรงเล็บที่อาบไปด้วยไอปีศาจอันอ่อนแรงไปที่หน้าอกของโจวเจ๋อ
“เจี๊ยกๆๆ!!!!” เจ้าลิงน้อยมองฉากนี้ด้วยความโกรธ มันโมโหมาก ไม่สามารถเข้าใจการเลือกครั้งนี้ของโจวเจ๋อ
ถ้าหากไม่ใช่เพราะสนิทกับโจวเจ๋อ ตอนนี้มันอาจจะกลายเป็นปีศาจลิงเข้าไปต่อสู้กับโจวเจ๋อแล้ว ตอนนี้มันรู้สึกสับสนอย่างมาก
‘ปึง!’ วินาทีต่อมา เถ้าแก่โจวถูกสวีจงลี่หน้าแมวโจมตีกระเด็นลอยออกไป กระแทกกับพื้นของสนามบาสเกตบอล นิ้วมือกางออกอย่างหมดแรง
วิญญาณตัวจริงของสวีจงลี่ที่เดิมทีพันอยู่ตรงปลายนิ้วได้ลอยออกมา ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยใบหน้าที่ตื่นตกใจไร้หนทาง ไหนบอกว่าจะช่วยเธอแย่งกายเนื้อกลับมา ไหนบอกว่าจะช่วยให้เธอกลับไปไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณถึงโดนโจมตีล้มฟุบลงไปแบบนี้
สวีจงลี่หน้าแมวมองกรงเล็บของตัวเองด้วยความตกตะลึง ราวกับไม่อยากจะเชื่อตัวเอง
“…” เจ้าลิงน้อย
“…” เหล่าจาง
“แค่กๆ…” โจวเจ๋อเอามือป้องหน้าอกลุกคลานขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เจ็บปวดยิ่ง แล้วตะโกนพูดกับเหล่าจาง “ปีศาจตัวนี้ แข็งแกร่งมาก!”
………………………………………………………………