ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 588 ฟังคำสั่ง!
ตอนที่ 588 ฟังคำสั่ง!
“เป็นอะไร” นักพรตเฒ่าลูบศีรษะ มองเด็กผู้ชายคนนั้นตัวสั่นสะท้าน รู้สึกสงสารจับใจ ไม่ใช่เพราะนักพรตเฒ่าจิตใจดีเกินไป ต่อให้ใจดีก็ต้องมีลิมิต นักพรตเฒ่าแค่รู้สึกว่าเด็กคนนี้เจออะไรมากันแน่ กลายเป็นผีแล้วก็ยังหวาดกลัว
มีคำกล่าวว่า คนตายเหมือนตะเกียงดับ ความทุกข์ยากอุปสรรคมากมายตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ แค่กระโดดจากดาดฟ้าก็หลุดพ้นจากทุกอย่างแล้ว
ในความเป็นจริง ตั้งแต่นักพรตเฒ่ามาทำงานที่ร้านหนังสือ เจอผีมาหาถึงหน้าประตูด้วยตัวเองก็ไม่น้อย ไม่ว่าตอนมีชีวิตอยู่จะตายอย่างไร ใช้ชีวิตแบบไหน หลังจากตายแล้ว ส่วนใหญ่ล้วนทำตามกฎระเบียบอย่างเชื่อฟัง
อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นสถานที่ทำการของยมทูต มีอิทธิพลของเถ้าแก่ปลาเค็มคอยควบคุม ผีทั้งหลายต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
แต่เด็กคนนี้ หลังจากเข้ามาในร้านแค่เปิดไฟก็เริ่มร้องโวยวาย ตอนนี้ยิ่งตกใจกลายเป็นแบบนี้ เวรกรรมจริงๆนักพรตเฒ่ารีบเก็บของเล่นในมือของเจ้าลิงทันที ไม่อยากทำให้เขาตกใจไม่ไปสู่สุขคติ
“ตอนมีชีวิตอยู่คงจะถูกทรมานมานาน” สวี่ชิงหล่างยืนอยู่ข้างๆ พลางพูดเดา จากนั้นเขามองไปทางโจวเจ๋อแล้วถามว่า “แต่ผีที่ตายอนาถแบบนี้มาที่ร้านหนังสือก็ไม่น้อย ทว่าสุดโต่งแบบนี้ พบเห็นได้น้อยมากจริงๆ”
โจวเจ๋อกลับดื่มเหล้าแล้วเอ่ยว่า “ถูกทรมานนานเกินไป บาดแผลทางใจบางส่วนจึงไหลลึกเข้าสู่จิตวิญญาณ ก่อนหน้านั้นศูนย์วิจัยทดลองสิ่งมีชีวิตของญี่ปุ่นที่อยู่ด้านล่างของสถานีตำรวจ วิญญาณของที่นั่นก็น่าจะเป็นแบบนี้เหมือนกัน”
“ไม่ได้พูดเกินจริงใช่ไหม” สวี่ชิงหล่างยักไหล่ ไม่ค่อยเชื่อ แล้วจึงพูดต่อ “นั่นเป็นยุคสมัยสงคราม” ในยุคปัจจุบันนี้ถ้าอยากจะทรมานแบบนี้ก็หาสภาพแวดล้อมไม่ได้ ต่อให้เข้าไปอยู่ในเตาเผาถ่านหิน ก็ไม่ถึงขั้นที่จะทำให้มีสภาพเป็นแบบนี้ได้
“มีดใบอ่อนกรีดเนื้อก็เจ็บเหมือนกัน กระทั่งเจ็บยิ่งกว่า”
โจวเจ๋อวางแก้วเหล้า แล้วปัดมือ พูดจริงๆ นะ พอได้ส่งวิญญาณเยอะมากขึ้น คนตายมักจะมีเรื่องราวอยู่เสมอ และโดยพื้นฐานแล้วจะเป็นเรื่องเศร้าอาลัยอาวรณ์เป็นอารมณ์ด้านลบเสียเป็นส่วนใหญ่ พอฟังมากขึ้น จึงมีภูมิคุ้มกันแข็งแรง
เด็กคนนี้เจออะไรมากันแน่ โจวเจ๋อขี้เกียจสนใจ เขาเป็นแค่ยมทูตเท่านั้น ไม่ได้เป็นซูเปอร์แมน
“กินก็กินแล้ว ดื่มก็ดื่มแล้ว ได้เวลาส่งนายเดินทางแล้ว วางใจได้ พอถึงทางเดินน้ำพุเหลือง นายไม่ต้องกลัว ตอนเดินข้ามสะพานไน่เหอ ช่วยทักทายพี่สาวคนนั้นแทนฉันด้วยนะ” ขณะที่พูด โจวเจ๋อวาดวงกลมด้วยเล็บของเขาทางด้านหน้า ปรากฏกรอบสี่เหลี่ยมสีดำขึ้นมา ประตูแห่งนรกได้เปิดแล้ว
หลังจากส่งผีเดินทางแล้ว ตัวเขาเองก็จะได้อาบน้ำพักผ่อน วันนี้ไปที่ดิสนีย์แลนด์ตอนเช้า แล้วไปหาของช่วงบ่าย ถือว่าเหนื่อยมากจริงๆ
“อย่าช็อตผม! อย่าช็อตผม! พวกเราจะเป็นเด็กดี พวกเราจะเชื่อฟัง พวกเราจะไม่ดื้อ อย่าช็อตผม อย่าช็อตผม!” เด็กผู้ชายยังคงขอร้องอ้อนวอนไม่หยุด แทบจะคุกเข่าโขกศีรษะบนพื้นแล้ว
“เถ้าแก่ มันแปลกนะ เขาพูดว่า ‘พวกเรา’” นักพรตเฒ่ารีบขวางทางข้างหน้าโจวเจ๋อแล้วเอ่ยขึ้น
“คุณหูฝาดแล้ว ผมไม่ได้ยิน” โจวเจ๋อเดินอ้อมนักพรตเฒ่า เตรียมตัวจับวิญญาณของเด็กผู้ชายคนนั้น
โง่หรือเปล่า ร้านของฉันเป็นร้านหนังสือ ทำธุรกิจส่งวิญญาณลงนรก ไม่ใช่ในเมืองไคเฟิงมีคนชื่อเปาปุ้นจิ้น!
“ข้าได้ยินไม่ผิด ไม่ผิดแน่นอน!” นักพรตเฒ่ารีบยื่นมือจับแขนของโจวเจ๋อ พลางพูดขอร้อง “เถ้าแก่ ถึงข้าจะเป็นคนถ่อย แต่ก็ทนเห็นเด็กทนทุกข์ทรมานไม่ได้”
โจวเจ๋อพยักหน้า
“แต่เจ้าลองคิดดู เถ้าแก่ เขาตายแล้ว เขาพูดว่า ‘พวกเรา’ หรือว่าจะมีอีกหลายคนที่โดนทรมานเหมือนเขา”
“ผมไม่ได้ยิน!
“เถ้าแก่ ข้าหวังดีกับเจ้านะ ถ้าวันพรุ่งนี้หรือวันมะรืน ต้องเจออีกคน สองคน ที่เป็นเหมือนเขา จิตสำนึกของเจ้าจะไม่เจ็บปวดเหรอ”
“ชินแล้ว” จิตสำนึกของฉันโดนกินไปแล้ว จะไปเจ็บอะไร!
“อย่างนั้นเท่ากับพวกเขาถูกเจ้าฆ่าตายนะ!”
“ตะวันออกกลางมีคนตายเยอะแยะทุกปี ผมก็ต้องรู้สึกละอายใจด้วยไหม”
“ไม่ใช่ๆ เถ้าแก่…” นักพรตเฒ่ารู้ว่าเถ้าแก่ของตัวเองมีนิสัยอย่างไร แต่เวลานี้กลับแกล้งโง่ เขาจึงทำอะไรไม่ได้
“เหล่าโจว ถ้าหากวันหลังมาอีกสองสามคน ร้านของพวกเราเปิดไฟตอนกลางคืนไม่ได้ คงจะยุ่งยาก คุณอยากจุดเทียนอ่านหนังสือพิมพ์ตอนกลางคืนเหรอ” สวี่ชิงหล่างเอ่ยพูดเวลานี้ ไม่ใช่เพราะเหล่าสวี่ติด ‘โรคแม่พระ’ จากนักพรตเฒ่า แต่เป็นเพราะตอนที่เขาเห็นเด็กคนนั้นคุกเข่ากับพื้นร้องไห้ขอร้อง วิญญาณของเขากะพริบแสงวาบไม่หยุด ความหวาดกลัวนี้ถลำลึกเข้าไปจนถึงขั้นนี้แล้ว แม้แต่ร่างวิญญาณก็รักษาไว้ไม่อยู่ นี่คือหลังจากคนตายแล้ว ก็ต้องทรมานวิญญาณของคุณจนขวัญหนีดีฝ่อเหรอ
โจวเจ๋อยิ้ม เลียปาก ตวัดมือแล้วประตูแห่งนรกจึงสลายไป เขายื่นมือชี้ไปที่หน้าของนักพรตเฒ่า
“ฮิๆ เถ้าแก่ ข้ารู้ว่าเจ้ามีจิตใจดี”
“อิงอิง!”
“เจ้าค่ะ เถ้าแก่”
“อาบน้ำ”
“เจ้าค่ะ เถ้าแก่”
โจวเจ๋ออาบน้ำ ทิ้งวิญญาณของเด็กผู้ชายคนนั้นอยู่ในห้องวีไอพี ตอนที่อาบน้ำเสร็จรับเสื้อผ้าสะอาดจากในมือของอิงอิงมาสวมแล้วเดินออกมา นักพรตเฒ่ากับสวี่ชิงหล่างเดินออกมาจากห้องวีไอพีพอดี
“หวังเฉา หม่าฮั่น ถามได้ความว่าอย่างไรบ้าง”
“ใต้เท้า เรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากลแน่นอน!” สวี่ชิงหล่างตอบกลับแนวขี้เล่นเหมือนกัน แต่สีหน้ากลับไม่ได้ล้อเล่น
นักพรตเฒ่าเดินมาตรงหน้าโจวเจ๋อ แล้วพูดอย่างลังเลว่า “เถ้าแก่ โทรหาเหล่าจางเถอะ เรื่องนี้ต้องให้เขาดูแล”
“เด็กคนนี้ถูกส่งไปสถานพินิจของเอกชนใช่ไหม” โจวเจ๋อถาม
“เอ่อ เถ้าแก่ เจ้ารู้”
“พวกคุณไม่ได้ดูข่าวเหรอ” โจวเจ๋อพูดพลางทำมือส่งสัญญาณ แล้วทาบมือบนหน้าอกของเจ้าลิงน้อย
“เจี๊ยกๆๆๆ!!!!!” เจ้าลิงน้อยรีบโบกมือไปมาทันที เหมือนกำลังเป็นลมชัก ให้ความร่วมมือกับการแสดงของเถ้าแก่ของตัวเองเป็นอย่างดี
“ดูสิ แม้แต่ลิงก็ยังดูข่าวเยอะกว่าพวกคุณ”
“เจี๊ยกๆๆ!” เจ้าลิงน้อยยืดอก ทำใบหน้าภาคภูมิใจ
“ช่างเถอะ ไม่ต้องไปหาเหล่าจาง และเหล่าจางก็ไม่สะดวกจัดการเรื่องนี้ นักพรตเฒ่า ในเมื่อคุณอยากจัดการอย่างนั้นคุณก็ไปเอง ถามรู้เรื่องแล้วใช่ไหมว่าอยู่ที่ไหน”
“รู้เรื่องแล้ว” นักพรตเฒ่าพยักหน้า
“อย่างนั้นคุณก็ไปเลย พวกเด็กๆ กำลังรอการช่วยชีวิตจากคุณอยู่” โจวเจ๋อหาวหวอด เตรียมจะเรียกอิงอิงขึ้นไปนอนแล้ว
“แต่ เถ้าแก่ ข้าคนเดียวเนี่ยนะ” นักพรตเฒ่าชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเอง เขาก็รู้ขีดจำกัดของตัวเองเหมือนกัน ยันต์กระดาษอาจจะใช้ได้ผลกับผี แต่สำหรับคนเป็นไม่มีประโยชน์เลย
ถ้าจะพาเจ้าลิงไปด้วยดูเหมือนจะไม่สะดวก เพราะจะปล่อยให้เจ้าลิงกลายร่างเป็นลิงยักษ์ในสถานพินิจแล้วทับคนตายก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ นอกจากนี้ ภาพลักษณ์ของเจ้าลิงบางครั้งก็สะดวกมาก แต่บางครั้งก็ไม่สะดวกมากเหมือนกัน
ความหมายของนักพรตเฒ่าคือ ทางที่ดีที่สุดต้องมีคนไปด้วย และต้องต่อสู้เป็น
“ผมไม่ไปกับคุณ” โจวเจ๋อปฏิเสธความคิดเพ้อฝันของนักพรตเฒ่าโดยตรง
พรุ่งนี้เช้าเขาไม่อยากตื่นขึ้นมาก็ต้องวิ่งออกไปกับนักพรตเฒ่าทำตัวเป็นเดอะพาวเวอร์พัฟฟ์เกิร์ล อ่านหนังสือพิมพ์ ดื่มกาแฟ นอนอาบแดดไม่สบายกว่าเหรอ กว่าจะออกมาจากนรกได้ก็ไม่ง่าย อย่างนั้นจะให้ตัวเองลาหยุดพักผ่อนหน่อยไม่ได้เหรอ
“ถ้าอย่างนั้น…”
“ร้านของเรายังมีใครว่างอีก” สาวน้อยโลลิอยู่บ้าน ไม่สะดวกเรียกเธอออกมา หญิงสาวตัวดำแข้งขาเดินไม่สะดวก และผู้หญิงคนนี้เวลาลงมือก็ไม่รู้จักหนักเบา เดดพูลต้องอยู่ปลูกผัก นี่คือเรื่องใหญ่ของร้านหนังสือ ไม่ว่าเรื่องใดก็แล้วแต่ เรื่องปลูกผักสำคัญที่สุด
นักพรตเฒ่ามองไปที่สวี่ชิงหล่าง สวี่ชิงหล่างไม่ปฏิเสธ เพราะเขาอย่างไรก็ได้
“เขาต้องทำกับข้าว” โจวเจ๋อช่วยปฏิเสธแทนสวี่ชิงหล่างโดยตรง สวี่ชิงหล่างมองนักพรตเฒ่าด้วยสายตาขอโทษที่ช่วยไม่ได้
เวลานี้ประตูร้านหนังสือถูกผลักออก เด็กผู้ชายเดินเข้ามา เงาหลังของคนเหงาอ้างว้างเดินตามแสงจันทร์กลับมา
“นายไปไหนมา” โจวเจ๋อถาม
“ส่งนางกลับบ้าน”
“อยู่เล่นกับเธอจนถึงป่านนี้เลย”
“อยู่ข้างนอก มองนางปิดไฟห้องนอนแล้ว ข้าถึงได้กลับมา” ขณะที่พูด เด็กผู้ชายยื่นมือหยิบบุหรี่หนึ่งซองกับไฟแช็กหนึ่งอันออกมาจากกระเป๋ากางเกงของตัวเอง เขย่าบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนแล้วคาบไว้ในปาก “ข้าค่อยๆ เดินกลับมาคนเดียว”
โจวเจ๋อเดินไปข้างหน้า ยื่นมือแย่งบุหรี่และไฟแช็กของเขา จากนั้นเคาะศีรษะของเขาหนึ่งที “เป็นเด็กเป็นเล็ก เรียนอะไรไม่เรียนดันจะสูบบุหรี่” ขณะที่พูดก็มีเสียงดัง ‘แป๊ก’ จากนั้นตัวเองก็จุดบุหรี่หนึ่งมวน แม่งเอ๊ย ซื้อจักรพรรดิเก้าห้าเสียด้วย!
โจวเจ๋อพ่นควันบุหรี่ออกมา มองเด็กผู้ชายที่เต็มไปด้วยรัศมีแห่งความหดหู่เศร้าใจ แล้วจึงชี้ไปที่เขาพลางตะโกนพูดกับนักพรตเฒ่า “งั้นเป็นเขาก็แล้วกัน วันพรุ่งนี้เขาจะไปกับคุณ คุณออกความคิดเห็น เขาก็จะทำตาม” พูดจบ โจวเจ๋อจึงสั่งเด็กผู้ชายว่า “ครั้งนี้ ห้ามฆ่าคน”
เด็กผู้ชายงุนงงอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าตัวเองถูกสั่งให้ไปทำอะไร แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ใส่ใจนัก เพระชีวิตคนก็เท่านี้ ทำไมต้องใส่ใจอย่างอื่นเล่า
โจวเจ๋อเคาะศีรษะของเขา “ทนายอันคืนนี้ไม่น่าจะกลับมา”
“อ้อ อย่างนั้นข้าขอขึ้นไปข้างบนก่อน” เด็กผู้ชายลากสังขารที่เต็มไปด้วยความเงียบเหงาเดินขึ้นบันไดทีละก้าว
“ฮิๆ เถ้าแก่ ตอนนี้พวกเราถือว่ามีลูกทีมเยอะแล้ว บางเรื่องก็ไม่ต้องให้เจ้าออกโรงด้วยตัวเอง แค่ส่งลูกน้องคนหนึ่งไปก็พอแล้ว รู้สึกเหมือนเล่นละครเป็นตัวร้ายอย่างไรก็ไม่รู้”
โจวเจ๋อกลอกตาใส่นักพรตเฒ่าหนึ่งที
“เถ้าแก่ เอาอย่างนี้ดีไหมอีกสองสามวันข้าจะทำแผ่นไม้ให้เจ้า เหมือนป้ายคำสั่งที่ขุนนางปกครองเมืองในภาพยนตร์ใช้กัน วันหลังเจอเรื่องอะไร เจ้าแค่หยิบป้ายออกมาหนึ่งอันแล้วโยนไปข้างหน้า จากนั้นตะโกนว่า ‘ใครๆๆ จงฟังคำสั่ง!’ แค่คิดก็รู้สึกว่าน่าเกรงขามแล้ว” ขณะที่พูด นักพรตเฒ่าได้ทำท่า ‘โยน’ พร้อมกับเสียงประกอบ ‘ปิ้ว!’ 艾琳小說
โจวเจ๋อมองนักพรตเฒ่าด้วยสายตาเหมือนมองคนโง่ นักพรตเฒ่าหัวเราะด้วยความเขินอาย “เอ่อ ข้าขอตัวไปนอนก่อน” นักพรตเฒ่าพาเจ้าลิงขึ้นไปบนห้อง
สวี่ชิงหล่างเก็บชามและตะเกียบในห้องวีไอพีเรียบร้อยแล้วจึงขึ้นไปพักผ่อน โจวเจ๋อหยิบค็อกเทลขึ้นมาอีกครั้งแล้วดื่มหนึ่งที เวลานี้ไป๋อิงอิงเดินเข้ามาเอ่ยว่า “เถ้าแก่ ผ้าปูเตียงอันใหม่ปูเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” โจวเจ๋อพยักหน้า จากนั้นวางมือบนเคาน์เตอร์แล้วทำท่าเหมือนคว้า ‘อากาศ’ แล้วโยนไปข้างหน้า ‘ปิ้ว!’
อิงอิงมองอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่าหมายความว่าอย่างไร แต่ก็ไม่กล้าชมเถ้าแก่ว่าเก่งมากๆ เหมือนอย่างเคย เธอกลัวว่าจะยิ่งหน้าแตก ดังนั้นจึงถามว่า “เถ้าแก่ นี่คือ”
โจวเจ๋อหัวเราะ จากนั้นจึงพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม จงใจพูดล้อเล่นต่อหน้าอิงอิง “ไท่ซานฝู่จวิน จงฟังคำสั่ง!!!!”
………………………………………………………………………..