ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 592 ความโกรธของเถ้าแก่โจว!
ตอนที่ 592 ความโกรธของเถ้าแก่โจว!
จิ้งจอกขาวกลับไปแล้ว แต่ทิ้งประโยคสุดท้ายเอาไว้ว่า ทางตะวันออกเฉียงเหนือมีมังกรน้ำ ท่านกล้ารับไหม กลับทำให้จิตใจของโจวเจ๋อกระเพื่อมอยู่นาน ลองคิดดู ถ้าหากในสมุดหยินหยางของตัวเองสามารถมีมังกรน้ำอยู่ในนั้นได้จริงละก็ เวลาที่เจ้าโง่ไม่อยู่และวันเวลาที่คิดถึงเขา ตัวเองน่าจะได้รับความรู้สึกปลอดภัยอันยิ่งใหญ่
มิหนำซ้ำก่อนหน้านั้นหยกผีก็ถูกชายดุจสตรีตบตายคามืออย่างน่าอนาถใจ เถ้าแก่โจวยังไม่ทันได้เศร้าเลยด้วยซ้ำตอนนี้ตัวเขาดูเหมือนจะขาดสิ่งของห้อยติดตัวจริงๆ เหมือนกับเวลาออกจากบ้านแล้วไม่พกเงินติดตัว ในใจจึงไร้ซึ่งความรู้สึกปลอดภัย
เฮ้อ หยกผีเป็นเด็กดีมาก โจวเจ๋อนั่งพิงโซฟา หยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาอย่างเงียบๆ เขายังไม่มีแผนการเดินทางไปตะวันออกเฉียงเหนือชั่วคราว อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ไม่นานทนายอันบอกว่าจะไปยูนนาน เตรียมตัวเรื่องเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุม ที่หนึ่งอยู่แดนเหนือ ที่หนึ่งอยู่แดนใต้ แทบจะต้องเดินทางข้ามไปเกือบทั้งประเทศจีนแล้ว
“ตอนกลางวันกินอะไร” สวี่ชิงหล่างผูกผ้ากันเปื้อนพลางถาม
“ขอรสจืดนิดหน่อย”
“ได้” สวี่ชิงหล่างเตรียมตัวไปห้องครัว
นอนอาบแดด รอกินข้าว ความรู้สึกแบบนี้ช่างสวยงามจริงๆ โจวเจ๋อเปิดอ่านหนังสือพิมพ์หน้าถัดไป สายตาของเขาพลางเหลือบเห็นด้านนอกโดยไม่ตั้งใจ เขาเห็นเพื่อนนักเรียนฉวีหมิงหมิงวิ่งมาที่นี่เหมือนคนบ้า!
‘ปึ้ง!’ ศีรษะของเขาชนกระจกประตูร้านหนังสือ แล้วล้มเข้ามาทั้งตัว “ช่วยด้วย ช่วยน้องสาวผมด้วย ช่วยน้องสาวผมที!”
…
โจวเจ๋อเดิมทีไม่อยากมา คิดว่าใครก็ไม่อยากโดนฝูงหนอนและแมลงที่คลานยั้วเยี้ยทำลายบรรยากาศที่สุขสงบยามเช้าหรอก
เบื้องหน้าเป็นหนอนและแมลงมากมายนับไม่ถ้วน ไม่ใช่แค่แมลงพิษเท่านั้น แต่ยังดึงดูดแมลงทั่วไปที่อยู่แถวนี้เข้ามารวมตัวกัน ยังดีที่อินเทอร์เน็ตคาเฟ่อยู่ชั้นล่าง ไม่อย่างนั้นคนที่นั่งเล่นคอมพิวเตอร์อยู่อาจจะได้สัมผัสความสนุกที่ได้เล่นวิดีโอเกมสตาร์คราฟต์ด้วยตัวเอง
ท่ามกลางฝูงแมลง เหมือนจะเห็นคนคนหนึ่งอยู่รางๆ พื้นที่โดยส่วนใหญ่ถูกบดบังด้วยหนอนและแมลง เผยให้เห็นผิวขาวนวลของหญิงสาวออกมาเป็นครั้งคราว
“ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้” โจวเจ๋อมองฉวีหมิงหมิงที่อยู่ข้างๆ ด้วยความรู้สึกยากที่จะช่วยเหลือ
คนเลี้ยงแมลงพิษถูกเล่นงานเอง เหมือนกับนักโทษที่กระทำความผิดแล้วต้องติดคุก สมน้ำหน้าน่ะสิ
“ผมขอร้อง ช่วยหน่อยครับ ช่วยเธอด้วย ได้โปรดช่วยเธอด้วย!”
“เป็นปัญหาเกี่ยวกับตัวของน้องสาวของคุณ แต่ละคนมีด้านที่เก่งไม่เหมือนกัน แล้วจะเรียกแมลงยังไง ผมทำไม่เป็นจริงๆ” โจวเจ๋อกัดฟัน พลางครุ่นคิดแล้วเอ่ยว่า “สามารถกระจายแมลงที่อยู่บนตัวของเธอออกไปก่อนได้ไหม”
“เมื่อก่อนทำได้ครับ แต่ตอนนี้ผมทำไม่ได้ แมลงพวกนี้ไม่ฟังคำสั่งของผมเลยด้วยซ้ำ น้องสาวของผมตอนเช้าจู่ๆ ก็ล้มลงไปบนพื้น จากนั้นแมลงพิษที่อยู่ในร่างกายของเธอก็วิ่งออกมาเอง แถมยังดึงดูดแมลงมากมายที่อยู่แถวนี้ให้มารวมตัวกันที่นี่”
“คิดจะครองบัลลังก์งั้นเรอะ” โจวเจ๋อนั่งลงยองๆ แล้วยื่นมือกด กดมดปลวกตายไปทั่ว พวกนี้ไม่ใช่ ‘ตัวเป้ง’ อย่างพวกมดปลวกกินคนอะไร เป็นแค่มดธรรมดาตามท้องถิ่นเท่านั้น ดังนั้นพลังโจมตีจึงมีจำกัด แต่ความแน่นขนัดแบบนี้มากพอที่จะทำให้คนขนหัวลุกทีเดียว
“ทำไมจู่ๆ ถึงเป็นแบบนี้ พวกคุณคิดอะไรแผลงๆ อีกหรือเปล่า”
“เปล่าครับ ไม่มีจริงๆ ครับ ไม่มีลางบอกเหตุล่วงหน้าแล้วก็เป็นแบบนี้ไปเองครับ”
โจวเจ๋อยื่นนิ้วชี้ไปยังอิงอิงที่อยู่ข้างๆ “ใช้พลังทำความสะอาด” อิงอิงพยักหน้า เดินไปข้างหน้าแล้วปล่อยพลังปราณพิฆาตออกมารอบกาย ‘ฟึบๆ!’ เมื่อเดินไปเดินมาสองสามรอบ จึงสามารถกำจัดแมลงออกไปได้มากมาย ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นสะอาดกริ๊บ ยังคงมีแมลงคลานอยู่บนตัวของฉวีเจินเจินอยู่มาก แต่เมื่อเทียบกับสภาพก่อนหน้าแล้วถือว่าดีขึ้นเยอะ
ฉวีหมิงหมิงหยิบบัตรเอทีเอ็มหนึ่งใบออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วยื่นใส่มือของโจวเจ๋อในตอนนี้
“มองผมเป็นคนแปลกหน้าเหรอ” โจวเจ๋อพูดพร้อมกับหยิบบัตรเอทีเอ็มใส่กระเป๋าของตัวเอง
“ใบบัตรมีเงินไม่มาก ขอแค่ครั้งนี้คุณสามารถช่วยเธอได้ ผมจะมอบอินเทอร์เน็ตคาเฟ่รวมทั้งอาคารหลังนี้ให้คุณทั้งหมดครับ! ผมขอให้เธอหายก็พอ ผมจะพาเธอกลับบ้าน ไปอยู่บ้านหลังเก่าที่พวกเราเคยอาศัยตอนเป็นเด็ก” อันที่จริงเนื่องจากโรคตอนเด็กของฉวีเจินเจิน ทำให้เธอเกือบเสียชีวิตตั้งแต่วัยเด็ก ถ้าไม่ใช่เพราะเพื่อนนักเรียนฉวีหมิงหมิงอาศัยวิธีเลี้ยงแมลงพิษมาต่อชีวิตของเธอ คาดว่าตอนนี้หญ้าบนหลุมฝังศพคงรกมากแล้ว
และตอนนี้ฉวีหมิงหมิงดูเหมือนจะไม่เลี้ยงแล้ว เขารู้ดีว่าสภาพของน้องสาวตัวเองค่อนข้างแย่ ดังนั้นจึงอยากพาน้องสาวกลับบ้านเกิด และอินเทอร์เน็ตคาเฟ่พวกนี้อย่างไรเสียก็ต้องจัดการขายทิ้ง อย่างนั้นสู้มอบเป็นเงินค่าเหนื่อยให้โจวเจ๋อจะดีกว่า
เมื่อได้ยินว่าจะให้ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ ดวงตาของอิงอิงจึงเป็นประกาย ในฐานะหญิงสาวที่ติดเกม สามารถมีอินเทอร์เน็ตคาเฟ่เป็นของตัวเอง มันคือความฝันที่กลายเป็นจริงชัดๆ!
โจวเจ๋อกลับพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ช่วยเหลือคนป่วย เป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้ว และคุณก็เป็นหมอเหมือนกันทำไมถึงพูดจาเหมือนคนแปลกหน้าเล่า” ทันใดนั้นโจวเจ๋อจึงมองไปรอบๆ ดูเหมือนจะไม่ทันมองเห็นว่าฉวีเจินเจินที่นอนอยู่บนพื้นต้องการการช่วยเหลือชีวิตด่วน แต่แสร้งทำเป็นถามไปเรื่อยเปื่อยว่า “อาคารนี้คุณคำนวณยังไงครับ”
“…” ฉวีหมิงหมิง
“ล้อเล่นครับ ล้อเล่น” โจวเจ๋อเดินไปข้างตัวฉวีเจินเจิน หญิงสาวนอนอยู่บนพื้นไม่ขยับตัวนานแล้ว ถ้าหากเป็นการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บทั่วไป เวลาก็คือชีวิต หมอทุกคนที่เคยอยู่แผนกฉุกเฉิน ล้วนได้สัมผัสประสบการณ์อย่างนี้ด้วยตัวเอง
แต่ฉวีเจินเจินไม่เหมือนกัน เพราะเธอคือคนที่ตายแล้ว! โจวเจ๋อพลิกตัวของเธอ เวลานี้ร่างกายของเธอถึงแม้จะไม่มีปรากฏการณ์ของผีดิบ แต่ทั้งตัวของเธอได้เข้าสู่สภาวะที่อวัยวะในร่างกายหยุดทำงานชั่วคราว คล้ายมนุษย์ผักขั้นรุนแรง และโดยพื้นฐานแล้วไม่มีความน่าจะเป็นที่จะฟื้นขึ้นมา
นี่คือวิธีที่ทำเพื่อปล่อยให้แมลงพิษเข้าร่าง ใช้วิธีการเฉพาะกั้นชีพจรของร่างกายมนุษย์ให้ปิดสนิท ลดสมรรถภาพทางร่างกายของมนุษย์ให้ต่ำลงมากที่สุด แทบจะเหมือนสภาวะของคนตายทั้งเป็น ถึงจะไม่เกิดการปะทะกับแมลงพิษ สุดท้ายจึงถ่ายพลังชีวิตของแมลงพิษเข้าไปในร่างกาย จากนั้นคนก็จะ ‘รอดชีวิต’ กลับมา
ถึงแม้ในประเทศจีน การแพทย์แผนจีนและการแพทย์แผนตะวันตกจะมีผลกระทบซึ่งกันและกัน และแพทย์แผนตะวันตกทุกคนก็พอรู้ถึงขนาดเข้าใจหลักการของแพทย์แผนจีนอยู่บ้าง แต่วิธีการเช่นนี้โจวเจ๋อไม่เคยพบเจอมาก่อนจริงๆ
เขาหันหน้ามองฉวีหมิงหมิงที่ยืนอยู่ข้างหลัง ไอ้หมอนี่เป็นปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนอย่างแท้จริง ถ้าอยู่ในยุคโบราณ จะต้องมีป้ายชื่ออยู่ในสำนักหมอหลวงแน่นอน
ยังดีที่เถ้าแก่โจวไม่ได้เป็นหมอนานแล้ว และไม่มีความคิดที่จะแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการแพทย์อะไรที่นี่ ทันใดนั้นเล็บของโจวเจ๋อได้งอกยาวออกมา จากนั้นแทงเข้าไปในข้อมือของฉวีเจินเจินอย่างเงียบๆ ร่างกายของฉวีเจินเจินเริ่มสั่นขึ้นมา ไป๋อิงอิงเม้มปากอยู่ข้างๆ ความเจ็บแสบของเล็บเถ้าแก่ เธอเคยลิ้มลองมาก่อน เธอในเวลานั้น ตอนที่เพิ่งฟื้นขึ้นมาในร้านหนังสือ ก็ถูกเถ้าแก่…
ใบหน้าของฉวีเจินเจินเริ่มมีเลือดฝาดเล็กน้อย นี่คือสัญญาณว่าสมรรถภาพของร่างกายถูกกระตุ้นให้ทำงานอีกครั้ง แต่เล็บของโจวเจ๋อมีพลังยิ่งใหญ่จริง ไม่นานนัก ใบหน้าของฉวีเจินเจินได้ปรากฏสีเขียวคล้ำขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นผลกระทบของพิษศพอย่างชัดเจน! 艾琳小說
ฉวีหมิงหมิงมองดูอยู่ข้างๆ ไม่กล้าหายใจแรง ถึงแม้เขาจะเป็นแพทย์แผนจีนชั้นยอด แต่คนที่อยู่ตรงหน้า ไม่สามารถมองเขาในมุมมองของคนทั่วไปได้อีกต่อไป ดังนั้นต่อให้สภาพของน้องสาวตัวเองดูเหมือนจะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฮวบฮาบ ทว่าเขายังคงอดกลั้นไม่พูดอะไร
เล็บของโจวเจ๋อเริ่มย้ายออกจากข้อมือ จากนั้นเริ่ม ‘เคลื่อนไหว’ ไปทั่วร่างกายของฉวีเจินเจิน หากดูจากสถานการณ์ในเวลานี้ มีความเหมือนเติ้งถูจื่อบ้ากามตัณหากลับ แต่วินาทีถัดมาสายตาของโจวเจ๋อจ้องนิ่ง เล็บทิ่มเข้าไปในร่างกาย จากนั้นดึงหนอนพยาธิสีดำตัวหนึ่งออกมาด้วยเล็บของเขา เล็บของเขาถูกันไปมาอย่างรวดเร็ว หนอนพยาธิสลายกลายเป็นเถ้าธุลีในทันใด
โจวเจ๋อปัดมือ แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ห้องน้ำ เขาต้องการล้างมือ
“ว้าว เถ้าแก่สุดยอดมาก!” อิงอิงเดินมาข้างๆ แล้วเอ่ยชม
“แค่เปลี่ยนจากมีดผ่าตัดเป็นเล็บของตัวเอง และเปลี่ยนจากนิวเคลียร์แมกเนติกเรโซแนนซ์สเปกโทรสโกปี(NMR) เป็นการเหนี่ยวนำด้วยพลังปราณพิฆาตเท่านั้น” โจวเจ๋อล้างมือสามรอบ จากนั้นมองกระจกพลางส่ายหน้า แล้วจึงล้างหน้าไปเลยให้รู้แล้วรู้รอด ตอนที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำ ทั่วห้องรับแขกกลับไม่เห็นแมลงสักตัว
“บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่รู้จะตอบแทนด้วยสิ่งใด!” ฉวีหมิงหมิงโน้มคำนับ
“มีผลข้างเคียงนะครับ แต่พิษศพพวกนั้นคุณไม่น่ามีปัญหา ส่วนแมลงพิษ น่าจะกลับไปหมดแล้ว และเรื่องพักฟื้นบำรุงร่างกาย ก็เป็นงานถนัดของคุณอยู่แล้ว”
“แน่นอนครับ แน่นอน” ฉวีหมิงหมิงพูดจบแล้วจึงหัวเราะ “แปลกพิสดารน่าเหลือเชื่อจริงๆ ครับ”
“ไม่ต้องเกรงใจ ไม่ต้องเกรงใจ โอเค คุณดูแลน้องสาวของคุณเถอะครับ เพราะคุณก็มีงานต้องยุ่ง อิงอิง พวกเรากลับกันเถอะ”
“ได้เจ้าค่ะ เถ้าแก่!” โจวเจ๋อกับไป๋อิงอิงเดินมาถึงหน้าประตู ฉวีหมิงหมิงยืนส่งแค่นั้น แล้วจึงมองสภาพของน้องสาวตัวเองที่อยู่ในห้องรับแขกต่อ
โจวเจ๋อหยุดเดินไม่รีบออกจากประตู อิงอิงก็หยุดเดินเช่นกัน แล้วมองเถ้าแก่ของตัวเองด้วยความสงสัย
โจวเจ๋อโน้มตัว ชี้นิ้วไปที่พื้นกระเบื้องที่อยู่ด้านล่างและถามว่า “อิงอิง คุณคิดว่ากระเบื้องสี่เหลี่ยมที่อยู่ด้านล่างเหมือนอะไร”
“เหมือน…เหมือนหิมะ”
“ไม่ๆๆ” โจวเจ๋อส่ายหน้าพลางโบกมือ จากนั้นจงใจพูดเสียงสูงแล้วพูดแก้ไขให้ถูกต้อง “เหมือนเอกสารรับรองการเป็นเจ้าของบ้าน”
“…” เพื่อนนักเรียนฉวีหมิงหมิง
…
เรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ รอให้ฉวีหมิงหมิงช่วยดูแลการพักฟื้นของน้องสาวตัวเองให้เรียบร้อยแล้ว เขาจะไปดำเนินเรื่องด้วยตัวเอง เขาเดินไปที่ประตูอีกครั้งแล้วสาบานว่าจะไม่ผิดคำพูดเด็ดขาด โจวเจ๋อกับอิงอิงถึงเดินออกไป
“เถ้าแก่ อาบน้ำไหมเจ้าคะ” อิงอิงรู้ว่าโจวเจ๋อชอบความสะอาด เมื่อครู่แค่ล้างมือเท่านั้น เถ้าแก่อาจจะยังไม่พอใจ
“รออีกสักพัก ผมขอไปดูแปลงผักข้างๆ ก่อน” เขาผลักประตูบานเล็กที่อยู่ในร้านหนังสือ โจวเจ๋อเดินมาอยู่ในสวนผัก ผักที่อยู่ในสวนมีลำต้นและใบงอกออกมาแล้ว หมอกควันสีดำหนึ่งชั้นลอยวนอยู่บนดิน ดูลึกลับเป็นอย่างยิ่ง
นี่คือปรากฏการณ์ที่แปลกประหลาดของดอกพลับพลึงแดง หญิงสาวตัวดำนั่งอยู่บนเก้าอี้ และในหลุมที่อยู่ตรงหน้าเธอก็คือเดดพูลที่ถูกฝังอยู่ในนั้น ผมบนศีรษะของเขาเริ่มกลายเป็นสีเขียว
“โอ๊ะ เจ้าของร้านคนเก่งของฉันในที่สุดก็ยอมมาดูทาสของตัวเองเสียที” หญิงสาวตัวดำเอื้อนเอ่ย
โจวเจ๋อเดินไปข้างๆ หญิงสาวตัวดำ “ลำบากคุณแล้ว”
“ไม่กล้ารับ เกรงใจค่ะ เกรงใจ ยังต้องรอให้คุณช่วยถอนพิษให้ฉันอีก ใช่ไหมคะ”
โจวเจ๋อพยักหน้า “สายมากแล้ว”
หญิงสาวตัวดำพยักหน้า หยิบกาน้ำที่อยู่ข้างๆ ขึ้นมาแล้วรดให้เดดพูลเล็กน้อย ต่อจากนั้นจึงวางกาน้ำลง เหลือบมองโจวเจ๋อที่ยืนอยู่ตรงนั้นหนึ่งที แล้วจึงถามอย่างสงสัยว่า “คุณยังมีธุระอีกเหรอ”
โจวเจ๋อพยักหน้า แล้วก็ ‘เปรี๊ยะ!’ เขาตบหน้าหญิงสาวตัวดำไปหนึ่งฉาดจนเธอล้มกลิ้งไปบนพื้นทั้งตัว ขาของเธอตอนนั้นถูกอิ๋งโกวทำหัก ลุกขึ้นไม่ได้ เธอจึงได้แต่คลานบนพื้นพร้อมกับเช็ดเลือดที่ไหลตรงมุมปาก
“เหอะๆ เถ้าแก่ คุณหมายความว่ายังไง” หญิงสาวตัวดำนอนอยู่บนพื้นยื่นมือเช็ดคราบเลือดขณะมองโจวเจ๋อ
“ประโยคนี้ ผมน่าจะถามคุณมากกว่า!”
………………………………………………………………………..