ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 600 โกวโกว!
ตอนที่ 600 โกวโกว!
คุกเข่ากับพื้นกลบดินใหม่แล้วรดน้ำอีกครั้ง หญิงสาวตัวดำยื่นมือช่วยจัดเก็บเส้นผมสีเขียวชอุ่มของเดดพูล เดดพูลถูกฝังลงไปอีกครั้ง อายุปีของเขายังไม่ถึงต้องปล่อยให้โตมากกว่านี้ เมื่อทำสิ่งเหล่านี้เสร็จแล้ว หญิงสาวตัวดำจึงคลานไปบนเก้าอี้ตัวเล็กแล้วนั่งลง ก้มหน้ามองเข่าทั้งสองข้างของตัวเอง
เธอแค้นแต่ไม่ถึงกับแค้นอะไรมากมาย เหมือนเพื่อนข้างบ้านหวังเอ้อร์โก่วยึดที่ดินขนาดเล็กของคุณ คุณรู้สึกโกรธจนเข็ดฟัน อยากจะไปแก้แค้นคืนนั้นทันที แต่ถ้าหากเพื่อนบ้านหวังเอ้อร์โก่วเปลี่ยนเป็นบุคคลที่คุณมิอาจเอื้อม ก็จะกลายเป็นการลงโทษและความพิโรธของฮ่องเต้เป็นพระคุณสำหรับคุณ
เฮ้อ หญิงสาวตัวดำถอนหายใจ เธอไม่รู้ว่าต้องใช้ชีวิตแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหน และดูเหมือนจะไร้ซึ่งความหวัง ยังดีที่เธอเข้มแข็งมากพอ ไปที่ไหนก็ต้องได้ปลูกผักอยู่ดีใช่ไหมล่ะ
ทว่าชั่ววินาทีเดียว สายตาของเธอกลับนิ่งงัน พื้นที่ส่วนใหญ่ของแปลงปลูกผักล้วนปลูกดอกพลับพลึงแดง ถึงแม้จะทำตามความต้องการคนแซ่ชื่อสวี่ในร้านหนังสือ จึงปลูกต้นหอม กระเทียม ขิงบ้าง
แต่พื้นที่ตรงกลาง มีพื้นที่กว้างประมาณโต๊ะตัวหนึ่งมีพืชคล้ายหญ้าหางหมาต้นหนึ่งปลูกอยู่ตรงนั้น และเวลานี้หญ้าหางหมานั่นกำลังเริ่มเป็นสีแดง ขณะเดียวกันก็เริ่มโตขึ้นอย่างรวดเร็วโดยสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ ส่งกลิ่นแสบจมูกเหมือนแก๊สรั่ว
นี่คือพืชที่หญิงสาวตัวดำปลูกเมื่อครึ่งเดือนที่แล้วเรียกว่า ‘หญ้าเฝ้าบ้าน’ พอเห็นชื่อก็พอจะทราบถึงความหมายแฝง ยามที่มีกลิ่นอายของศัตรูเข้าใกล้ มันจะสัมผัสได้ ตอนเช้าพวกโกวซินสามคนเข้ามาในร้าน อันที่จริงก็ไม่ได้มีความเป็นศัตรูอะไร ด้วยเหตุนี้หญ้าเฝ้าบ้านจึคงไม่มีการตอบสนองใดๆ แต่ตอนนี้…
หญิงสาวตัวดำรีบลงจากเก้าอี้เล็กแล้วคลานขึ้นไปบนรถเข็นของตัวเอง เห็นเดดพูลที่เพิ่งถูกเธอตัวเองฝังลงดินเมื่อครู่ก็เริ่มขยับตัวขึ้นมา ครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อใช่เพราะหญิงสาวตัวดำเท่านั้น แต่ตัวของเดดพูลมีหน้าที่อย่างหนึ่งคือ ‘เฝ้าบ้าน’ ถ้าหากมีศัตรูบุกรุกเข้ามา เขาจะต้องเข้าไปขวางอย่างแน่นอน
หญิงสาวตัวดำยื่นมือแตะศีรษะของเดดพูลเบาๆ แล้วถ่มน้ำลาย เดดพูลจึงนิ่งใจเย็นอีกครั้ง “ดูเหมือนคนของร้านหนังสือจะออกไปแล้วเมื่อครู่ ฉันจะไปดูก่อน ถ้าหากมีอะไรจะเรียกนายออกมา” เมื่อกำชับเสร็จแล้ว หญิงสาวตัวดำจึงเข็นรถเข็นของตัวเองไปที่ประตูบานเล็ก แล้วผลักประตู จึงเห็นผู้หญิงชุดขาวยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์
ผู้หญิงผมยาวดำขลับ หน้าตาเหมือนกับสาวใช้ในร้านหนังสือคนนั้นเปี๊ยบ แต่ทั้งสองคนยากที่จะสลับตัวกันได้ เพราะพวกเธอมีมาดที่แตกกต่างกันอย่างสิ้นเชิง!
ไป๋อิงอิงยืนอยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ แม่นางไป๋ยืนอยู่ตรงหน้าเคาน์เตอร์ เจ้านายและบ่าวรับใช้ในอดีต ‘พี่สาวน้องสาว’ ในตอนนั้น เวลานี้กลับเจอหน้ากันอีกครั้งด้วยลักษณะเช่นนี้
หญิงสาวตัวดำตกตะลึงเล็กน้อย ไม่ส่งเสียงดัง แต่คอยมองสถานการณ์ต่อไป พลางคิดคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว เธอรู้ความคิดของเถ้าแก่โจว หากเป็นคนอื่นละก็เขาไม่จะไม่สนใจ แต่ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับผู้หญิงคนที่ชื่อไป๋อิงอิงคนนั้น ตัวเธอถ้าหากอยู่ตรงนี้โดยไม่เป็นอะไร ต่อไปคงจบไม่ดี รวมทั้ง ‘ลูกชายบุญธรรม’ ของเขาก็เช่นกัน
“นายหญิง” ไป๋อิงอิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ถึงแม้จะเป็นเธอ ก็คาดคิดไม่ถึงว่าแม่นางไป๋จะมาปรากฏตัวต่อหน้าตัวเองอย่างกะทันหันเช่นนี้
“ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงเจ้าคะ” ไป๋อิงอิงถาม เธอรู้ว่าก่อนหน้านี้พวกเถ้าแก่ออกไปทำอะไร แต่นายหญิงกลับมาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร
“ตอนนั้น ข้าฉันนำทหารไปรบกับปีศาจชิง กลลวงพวกนี้ยังใช้เป็นอยู่บ้าง” ปีศาจชิงหมายถึงทหารของราชวงศ์ชิง ในทำนองเดียวกัน ตอนนั้นเนื่องจากอยู่ภายใต้การปกครองของผู้ที่กอบกู้ราชสำนักชิงคนในชาติล้วนไว้ปเปียผมยาว ทหารของไท่ผิงเทียนกั๋วจึงตั้งใจไว้ผมยาวแต่ไม่โกนผมที่หน้าผากหน้าและถักเปีย จึงถูกอีกฝ่ายเรียกว่า…ผมยาวเช่นกัน
เสียงของแม่นางไป๋เย็นชาอยู่บ้าง แต่ในแววตาที่มองอิงอิงนั้นกลับมีความอ่อนโยนขึ้นมาอย่างช้าๆ
“เขาดูแลเจ้าดีมาก และไม่ยอมเผาเจ้า”
อิงอิงก้มหน้า วางสองมือบนเคาน์เตอร์ ค่อยๆ กำหมัดขึ้นมา เธอรับปากเถ้าแก่แล้ว ถ้าหากแม่นางไป๋ปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เธอจะต่อยอีกฝ่ายให้ตาย!
แม่นางไป๋หัวเราะขึ้นมา และพูดในเวลาเดียวกัน “เหมือนกับข้าตอนนั้นไม่มีผิด เพื่อเขาจึงยอมแลกทุกอย่าง”น้ำเสียงแฝงไปด้วยความคิดถึงและคำนึงหา
ไป๋อิงอิงกัดฟัน ปลุกความกล้าขึ้นมา เงยหน้าอีกครั้งสบตากับแม่นางไป๋ “นายหญิง ท่านหลอกข้า”
“ข้าหลอกเจ้า ข้าหวังดีกับเจ้านะ เป็นลูกสาวของตระกูลปัญญาชน ทั้งๆ ที่เนื้อตัวขาวสะอาดแต่กลับมีจุดจบโดนจับใส่กรงหมูถ่วงน้ำตาย น่าสงสารมากขนาดไหน เมื่อเทียบกับต้องฟังรากษสหน้าหยกก่อกบฏฟังแล้วน่าจะสบายมากกว่าไม่ใช่หรือ ถ้าหากเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของข้า เขาจะกล้าปล่อยเจ้าไว้ข้างกาย จนเกิดความรู้สึกรักเช่นนี้ไหม”
“นายหญิง ท่านจะทำอะไรกันแน่!”
“เด็กโง่ ข้าหวังดีกับเจ้า เจ้ามีความสุขมากกว่าข้า และโชคดีมากกว่าข้า จริงๆ นะ เจ้ามีความสุขและโชคดีมากกว่าข้าหลายเท่า ตอนนั้นข้าโน้มน้าวให้เขาฆ่าเทียนหวัางแล้วสถาปนาตัวเอง ข้าโน้มน้าวให้เขาไม่ต้องสนใจเทียนจิงตัวเองจะบุกฝ่าออกไปเอง ข้าโน้มจ้น้าวเขาว่าอยู่ที่ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่อย่าได้กลัวไม่มีฟืนภูเขาชิงซานไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีฟืนให้ก่อไฟ สุดท้ายข้าโน้มน้าวให้เขาทิ้งเทียนจิงและไปกับข้า แต่เขาปฏิเสธข้าทุกอย่าง ไม่เคยฟังข้าเลยสักครั้งเดียว!
ข้าออกรบเป็นเพื่อนเขา คอยเฝ้าเมืองเป็นเพื่อนเขา ตอนที่เทียนหวังคุมตัวพ่อ แม่ ภรรยา และลูกของเขา ข้าก็ช่วยไกล่เกลี่ย! เมืองแตกเขาถูกเจิฉิงกั๋วฟานตัดหัว ข้าไม่ยอมศิโรราบ ถูกจับถ่วงน้ำตายในแม่น้ำหาวของทงเฉิง! ข้าทำเพื่อเขามากมาย ทำไมข้าต้องทุ่มเทให้เขาเยอะแยะขนาดนี้ แต่เขากลับมองข้าเป็นลูกสาวของเขาเท่านั้น!”
แม่นางไป๋หัวเราะเยาะตัวเอง มองอิงอิงแล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “อย่างน้อย เขาไม่ามองเจ้าเป็นลูกสาวและไม่มองเจ้าเป็นลูกน้องทั่วไป ข้ามองออกจริงๆ นะ” แม่นางไป๋ถอยหลังสองสามก้าว แล้วพูดอย่างขอโทษว่า “อิงอิง ขอโทษ ข้าพี่สาวขอโทษเจ้าด้วย เดิมทีข้าไม่มีแผนอะไรเลยจริงๆ ข้าแค่อยากให้เจ้าใช้ชีวิตสบายหน่อย แอยากให้เจ้าอยู่ข้างกายเขา ชดเชยความเสียใจในตอนนั้นของข้า กระทั่งสั่งให้เขาเผาเจ้า ก็เพื่อจะลองใจเขา ถ้าหากเขาเผาเจ้าจริงๆ ข้าจะออกลงมือห้าม”
“นายหญิง…”
“เสียดายๆ น่าเสียดายจริงๆ น่าเสียดายมากจริงๆ” แม่นางไป๋เงยหน้า พูดด้วยน้ำเสียงน่ากลัว “ใครสั่งให้ข้ามองเห็นความหวังอีกครั้ง อิงอิง อย่าโทษที่พี่สาวใจดำ เจ้าเดิมทีเป็นกายเนื้อของพี่สาวข้า และในกายเนื้อของพี่สาวได้ซ่อนกุญแจที่สามารถฟื้นคืนชีพของเขาได้ เดิมทีพี่สาวไม่มีความคิดเช่นนี้ แต่ตอนนี้พี่สาวเริ่มเห็นความหวังอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเขาจะกลับมาแค่ดวงวิญญาณ ถึงแม้ว่าจะกลับมาแค่ภาพลวงตา ถึงแม้ว่าจะกลับมาแค่ชั่วครู่ ถึงแม้ว่าเขาจะพูดกับข้าแค่คำสองคำ ถึงแม้ว่าเขาจะมองข้าเพียงหนึ่งครั้ง พี่สาวก็ยอมและทำได้!”
…
‘“อิงอิง’”
‘“เถ้าแก่’”
‘“ถ้าหากจู่ๆ วันหนึ่ง แม่นางไป๋มาปรากฏตัวต่อหน้าเธอ เธอจะทำยังไง’”
‘“เถ้าแก่ ถ้าหากเจอนายหญิงล่ะก็…ข้าฉันจะต่อยนางให้ตายไปเลยเจ้าค่ะ!’”
…
อิงอิงชูหมัดขึ้นมา เธอรับปากเถ้าแก่แล้ว ถ้าหากตัวเองใจอ่อนกับนายหญิง และถ้าหากเถ้าแก่รู้เข้าก็จะไม่สบายใจเป็นอย่างมาก อิงอิงรู้ว่าเถ้าแก่ไม่ชอบเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้นกับตัวเธอเอง และแต่เธอก็ไม่อยากไปจากเถ้าแก่!
“นายหญิง นี่เป็นแค่ร่างแยกวิญญาณของท่านเท่านั้น” ความหมายนอกเหนือจากนี้คือ ท่านสู้ข้าไม่ได้! ตอนนี้ข้าแข็้งแกร่งกว่าเดิมหลายเท่า!
“ต้องทิ้งของจริงไว้ถึงจะตบตาพวกเขาได้ใช่ไหมเล่า” แม่นางไป๋ไม่ถือสา หยกชิ้นหนึ่งปรากฏอยู่ตรงหน้าเธอ กำลังเปล่งแสงนวลลออ
เพียงชั่วขณะ ไป๋อิงอิงรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองพลันนิ่งทื่อ หมัดที่ชูขึ้นมาไม่สามารถขยับได้ ส่วนอื่นของร่างกายก็ตกอยู่ในสภาวะชะงักงัน เหมือนถูกโยนทิ้งลงในถังกาวเหนียว
“โฮก!” ไป๋อิงอิงแผดเสียงคำรามออกมาด้วยความโมโห เส้นผมดำขลับสลวยสวยงามกลายเป็นสีขาวในพริบตาพลังเพิ่มขึ้นมาทั่วทั้งตัว ทว่าแสงของหยกกลับยิ่งสว่าง ถึงแม้เวลานี้ไป๋อิงอิงจะเข้าสู่โหมดระเบิดอารมณ์ไม่เกรงใจใคร แต่เธอยังไม่สามารถต่อต้านพันธนาการได้เหมือนเดิม
“ไม่เคยคิดว่าจะใช้มัน อิงอิง ไม่เคยคิดจะใช้มันจริงๆ” สองร้อยปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เปิดโลงคุยกับเจ้า จริงๆ แล้วข้าใช้หยกชิ้นนี้สะสมกลิ่นอายเลือดวิญญาณของเจ้าให้มันค่อยๆ ฝังอยู่ในหยกชิ้นนี้
“เมื่อก่อนข้าไม่เคยคิดจะใช้มันกับเจ้าจริงๆ แค่ต่อยากเก็บเป็นของที่ระลึกของตัวเองเท่านั้น แต่ตอนนี้ขอแค่มีหยกชิ้นนี้อยู่ในมือของข้า เจ้าก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากพันธนาการของมันได้ เจ้ากับข้าเคยเป็นพี่สาวน้องสาวกันมาก่อน พี่สาวอย่างข้าขอส่งเจ้าไปสู่สุคติ เจ้าชอบเตียงไม้ไผ่นั่นมากไม่ใช่หรือ หลังจากเจ้าไปแล้ว เขาคนนั้นของเจ้าก็คงจะเผาไปให้เจ้าเองใช่ไหม”
ในแววตาของไป๋อิงอิงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยความโกรธ เธอไม่ยอม เธอไม่ยอมจริงๆ! เธอกลัว เธอกลัวอย่างยิ่ง เธอกลัวเป็นอย่างมาก กลัวว่าเถ้าแก่กลับมาแล้วจะไม่เห็นเธอ กลัวว่าเถ้าแก่ไม่มีเธอแล้วจะนอนไม่หลับ…ดฮณ๊ฯดฯฌซ,
แม่นางไป๋ดูเหมือนจะอยู่ในอารมณ์เศร้าหดหู่เช่นกัน เธอเข้าใกล้ไป๋อิงอิงอย่างช้าๆ กลางฝ่ามือของเธอมีเปลวไฟสีเหลืองกำลังเผาไหม้ นี่คือเปลวไฟที่ได้มาจากเทพเจ้าประจำเมือง คอยแผดเผาสิ่งชั่วร้ายทุกอย่าง!
แม่นางไป๋ยื่นมือ ภายใต้การควบคุมของหยก ไป๋อิงอิงสูญเสียพลังต่อต้านเกือบทั้งหมด เธอถูกแม่นางไป๋บังคับให้อ้าปาก “น้องสาว อย่าโทษพี่สาวที่ใจดำ ไม่แน่ ผ่านไปสักพักหนึ่ง พี่สาวก็จะไปหาเจ้าเอง” เปลวไฟถูกแม่นางไป๋ส่งไปถึงปากของไป๋อิงอิง
เวลานี้หญิงสาวตัวดำกำลังจะตะโกนเรียกเดดพูล แต่จู่ๆ เธอดันปวดเข่า ส่งผ่านความเจ็บปวดอย่างรุนแรงเข้ามาเกิดความหวาดผวาในดวงตาของเธอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้! ซึ่งเหมือนกับขาที่เป็นโรคข้ออักเสบสามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศก็ไม่ปาน หญิงสาวตัวดำก็มีความรู้สึกเช่นนี้ และการรับรู้ของตัวเองนั้นไม่ผิดแน่!
“อย่าโทษพี่สาว อย่าโทษพี่เลย ใครสั่งให้พวกเราเกิดมาเป็นผู้หญิงเล่า ลำบากจะตาย”
‘“ครืน!’”
เวลานี้กลางฝ่ามือซ้ายของไป๋อิงอิงกลับเกิดรอยแยกออกกะทันหัน แสงสีดำเปล่งประกายออกมา และด้านหลังของไป๋อิงอิงก็ปรากฏแสงสีดำรวมตัวกันเป็นร่างของผู้ชายคนหนึ่ง
แม่นางไป๋ไม่ทันได้ตอบสนอง เธอกระทั่งไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่!
มือซ้ายของไป๋อิงอิงเหมือนกับจู่ๆ ก็ยกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ ฟาดลงไปทันที!
‘“เปรี๊ยะ!’” แม่นางไป๋ถูกตบลอยออกไปทั้งตัว ประดุจแมลงวันที่โดนไม้ตีแมลงวันตี และเงาสีดำที่อยู่ด้านหลังของอิงอิงได้เอ่ยคำช้าๆ “สาร…เลว…”
………………………………………………………………………..