ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 623 ผู้จับกุมที่มีคุณค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์!
- Home
- ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล
- ตอนที่ 623 ผู้จับกุมที่มีคุณค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์!
ตอนที่ 623 ผู้จับกุมที่มีคุณค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์!
ไม่มีใครอยู่ต่อในโลกมนุษย์ แต่กระจายหายไปอย่างสงบสุขกลับชาติไปเกิดใหม่ เป็นฉากที่เคร่งขรึมจริงจังและน่านับถืออย่างมาก หน้าที่ของยมทูต จริงๆ แล้วก็คือกระจายไปทุกพื้นที่ในโลกมนุษย์ จับวิญญาณที่มีเหตุผลต่างๆ หรือไม่ยอมลงไปนรกด้วยตัวเองให้กลับไปนรก
ด้วยเหตุนี้ เวลาที่อยู่ในร้านหนังสือจึงเห็นวิญญาณที่มีความแค้น ได้รับความไม่ยุติธรรม หรือยังอาลัยอาวรณ์จนคุ้นชิน คนที่เจอบ่อยๆ ก็จะเบื่อ คนที่ฟังมากๆ ก็จะหูชา แต่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า อีกด้านหนึ่งของแม่น้ำนู่ กลับถึงบ้านแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเสียดาย ข้ามชายแดนตายอยู่ในแผ่นดินของประเทศ เมื่อสมปรารถนาจึงนอนตายตาหลับ
สวี่ชิงหล่างสูดลมหายใจลึกๆ มุมตามีน้ำตาซึมเล็กน้อย เขาเห็นผีชอบพูดเซ้าซี้อยู่ในร้านหนังสือเป็นประจำ และเห็นตัวอย่างของวิญญาณที่เกิดความแค้นเพราะเรื่องบุญุคุณความแค้นของตัวเอง เรื่องชายหญิง หรือเรื่องของทรัพย์มามากมาย แต่เวลานี้ฉากที่อยู่ตรงหน้า ทำให้ความคิดของเขากลับตาลปัตร
“โอเค ไปหมดแล้ว ความกังวลของคุณ เป็นส่วนเกิน”
ทนายอันได้ยินแล้วจึงหัวเราะเอ่ยว่า “จริงๆ แล้วก็พอเด้าออกว่าจะเป็นแบบนี้ พวกเขาเดินทัพไปต่างประเทศในตอนนั้น สิ่งที่คาดหวังคือปกป้องชายแดนรักษาความสงบสุขของประชาชนชายแดนไม่ใช่เหรอ ในเมื่อตายไปกลายเป็นผีแล้ว จะกลายเป็นพิษทำลายประชาชนได้อย่างไร”
“เมื่อกี้๊คุณไม่ได้พูดแบบนี้”
“แบบนี้เรียกว่าพูดตรงกันข้ามกับผลลัพธ์ที่ต้องการให้กำลังใจทางอ้อม คุณเข้าใจไหม” ทนายอันตบขากางเกง ยืนตัวตรง บิดขี้เกียจแล้วได้ยินเสียงเอวของตัวเองดัง ‘ก๊อก’
“โอ๊ย สองสามวันนี้เหนื่อยจริงๆ เดี๋ยวไปหาอำเภอที่อยู่ใกล้ๆ แถวนี้แล้วจะไปนวดทั้งตัวเลย นวดตรงมุมสามเหลี่ยมกางเกงในด้วยก็ดี”
“ลงไปดูก่อน ไม่เห็นเถ้าแก่นอนอยู่ตรงนั้นเหรอ คุณไม่เป็นห่วงเลยหรือไง”
“เป็นห่วง? ไม่เป็นไร เถ้าแก่ไม่ตายหรอก คุณไม่เห็นมาดของเขาที่เดินติดต่อกันสองวันสองคืนเหรอ แม่งเอ๊ย ถ้าไม่รู้ คิดว่าเขาคงตื่นรู้กำลังจะปรินิพพานแล้ว”
“ผมไม่เป็นห่วงเขา ผมเป็นห่วงคุณ”
“เป็นห่วงผม” ทนายอันพูดอย่างสงสัย “ผมมีอะไรต้องเป็นห่วง”
สวี่ชิงหล่างเดินไปข้างหน้าก่อน เลือกเนินที่ไม่ชันมากแล้วไถลลงไป ทนายอันก็ตามอยู่ข้างหลังเขา ทั้งสองคนลงจากหน้าผามาถึงริมน้ำ สวี่ชิงหล่างถึงได้เอ่ยว่า “แม้แต่ผมก็ยังมองออก คุณคิดว่าเถ้าแก่เขาจะมองไม่ออกเหรอ”
“ผมหวังดีกับเขา”
“พวกขุนนางส่วนใหญ่ก่อนที่จะถูกฆ่าทิ้งเพราะหมดประโยชน์แล้วก็มักจะพูดแบบนี้”
“รักษาโรคอยากหายไวก็ต้องใช้ยาแรง! หากไม่มีการกระตุ้นจากหมอกหนานี้ คุณคิดว่าเถ้าแก่จะเข้าถึงสู่อารมณ์ได้เร็วไหม”
“ผมสงสัยมาก เหล่าอัน ถ้าหากสุดท้ายแล้วเถ้าแก่สุดท้ายทำไม่สำเร็จ วิญญาณทหารหลายหมื่นนายก็จะถูกส่งไปยังสถานที่ที่ไม่รู้ว่าเป็นที่ไหนเพราะหมอกนี้ใช่ไหม จิตสำนึกของคุณถูกหมากินไปแล้วหรือไง”
ทนายอันยักไหล่ “อย่างน้อยสถานการณ์ตอนนี้ ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี”
“โอเค คุณจัดการเองแล้วกัน คุณระวังไว้เถอะรอเถ้าแก่ตื่นมาก่อน”
“คุณไม่พูด ผมไม่พูด ขอแค่ไม่พูด เขชาก็จะไม่ว่าอะไร” ทนายอันพูดทันที
“ทำไม”
“คุณมองไม่ออกเหรอ เถ้าแก่เปลี่ยนไปเยอะมาก หลังจากกลับมาจากนรก ก็เปลี่ยนไปเยอะมาก ถึงแม้จากคำบรรยายของเถ้าแก่จะบอกว่า อิ๋งโกวฆ่าคนไปทั่วนรก ทำลายร่างธรรมของพญายมมากมาย แถมยังกวาดล้างทหารของยมโลกนรกอีกมาก ดูแล้วมีมาดสง่าน่าเกรงขามมิอาจต้านทาน
แต่เงื่อนไขของเรื่องนี้ทั้งหมด อย่างแรกคือมผิงเติ่งหวังลู่ยอมใช้มีดผ่าตัวเอง มอบให้อิ๋งโกวได้กิน แล้วจึงจุดไฟลูกนั้นของอิ๋งโกว จากนั้นอิ๋งโกวจึงเรียกกายเนื้อยุคแรกของตัวเองที่แข็งแกร่งที่สุดในตอนนั้นออกมา ใช้ไฟเผาร่างเพื่อแลกกับการรับพลังรอบที่สอง
แต่คุณลองคิดดู บนโลกนี้คุณจะไปหาผิงเติ่งหวังคนที่สองจากที่ไหน และกายเนื้อยุคแรกของอิ๋งโกวถูกรีดเค้นคุณค่าสุดท้ายออกไปแล้ว และมลายหายไป สิ่งสำคัญที่สุดคือ ตัวของอิ๋งโกวที่ได้กลับชาติมาเกิดหลายครั้งเพื่อสะสมทรัพย์สินในบ้าน ได้ถูกบังคับนำมาใช้หายไปตั้งแต่ครั้งนั้น และตัวเองก็ตกอยู่ในห้วงของการหลับใหล
เถ้าแก่พูดว่าถ้าหากสามารถหาวิธีได้ ก็คือสามารถปลุกอิ๋งโกวให้ตื่นได้ และยังไม่ต้องพูดถึงว่ายากที่จะหาวิธีเจอ ต่อให้หาเจอ หลังจากอิ๋งโกวตื่นขึ้นมาแล้ว คาดว่าคงจะไม่มีความสามารถและพลังที่จะกวาดล้างนรกได้เหมือนครั้งที่แล้ว ถ้าหากคุณอยากจะถามว่าสามารถหาวิธีฟื้นพลังของอิ๋งโกวได้ไหม เหอะๆ ถ้าหากหาได้จริงๆ อย่างนั้นอิ๋งโกวที่กลับชาติไปเกิดสองสามพันปีกำลังกินขี้อยู่เหรอ ตัวเขาเองไม่ตามหาเหรอ เลี้ยงสุนัขตั้งมากมายขนาดนั้นน่าสนุกหรือไง”
ทนายอันพูดรวดเดียวจนหมดแล้วจึงเดาะปากเสียงดัง “ดังนั้น เถ้าแก้ครั้งนี้เถ้าแก่ถึงได้ยอมมาที่ยูนนาน เขามีความรีบร้อนจริงๆ ถึงแม้ท่าทีจะไม่แตกต่างจากเมื่อก่อน แต่ทางด้านสภาพของจิตใจ กลับไม่เหมือนเดิมแล้ว”
“สภาพของจิตใจ” สวี่ชิงหล่างไม่ค่อยเข้าใจ
“ประมาณว่าเมื่อก่อนอิ๋งโกวมองเขาเป็นที่รัก ตอนนี้อิ๋งโกวไม่ไหวแล้ว เขาอยากสะสมทรัพย์สมบัติให้ตัวเอง รอให้อิ๋งโกวตื่นขึ้นมา แล้วปล่อยให้อิ๋งโกวเป็นที่รักของเขา”
“…” สวี่ชิงหล่าง การยกตัวอย่างนี้ ทำไมฟังแล้วแปลกพิลึก
“โอเคๆ ไม่เป็นหรอก ถึงแม้เถ้าแก่จะมองออก ก็จะไม่พูดอะไร”
“แต่สุดท้ายจะทำให้เสียความรู้สึก หากวันไหนเถ้าแก่ไม่อยากใช้งานคุณแล้ว จุดจบของคุณก็น่าสงสารมาก”
“ยังเร็วไป ต่อให้เถ้าแก่อยากเป็นผู้ตรวจสอบ ก็ยังมีที่ให้ใช้ประโยชน์จากผม” ทนายอันยื่นเท้าเหยียบลงไปในแม่น้ำ ตัวสั่นหงึกๆ แล้วพูดว่า “น้ำเย็นเหลือเกิน คุณเป็นงู รีบเอาเกล็ดของคุณออกมา พาผมว่ายข้ามไปด้วย”
สวี่ชิงหล่างไม่แม้แต่จะมองเขา กระโดดลงไปในน้ำแล้วเริ่มว่ายน้ำโดยตรง ทนายอันไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้แต่กระโดดลงไปในน้ำ ตอนที่ทั้งสองคนว่ายน้ำขึ้นฝั่ง ต่างก็เหนื่อยหอบและมีด้วยสภาพที่ทุลักทุเล
“ฮู้!” สวี่ชิงหล่างยื่นมือจับผมของตัวเอง รู้สึกว่าว่ายข้ามแม่น้ำครั้งนี้สดชื่นจริงๆ ความอึดอัดและหดหู่ใจที่ต้องอยู่ในป่าฝนสองสามวันได้หลายเป็นปลิดทิ้ง
ทนายอันกลับเดินไปข้างๆ โจวเจ๋อ ตอนนี้อิงอิงตอนนี้กำลังคุกเข่าดูแลโจวเจ๋ออยู่ข้างๆ
“เถ้าแก่ไม่เป็นไรใช่ไหม” ทนายอันถาม
“ยังไม่ตื่นเลย” อิงอิงตอบ
“อืม ไม่น่าเป็นปัญหาใหญ่ แค่เหนื่อยจัดเท่านั้น” พูดจบ สายตาของทนายอันตกลงไปที่ตำแหน่งตรงหน้าอกของโจวเจ๋อ แล้วโน้มตัวยื่นมือเก็บสิ่งนั้นขึ้นมา “โอ๊ย…ร้อนมากจริงๆ!” ทนายอันพลิกสองมือไปมาไม่หยุด ป้ายสีทองอันนั้นกำลังกลิ้งไปมาอยู่ในมือของเขา สุดท้ายจึงจับมันได้ในที่สุด บนป้ายอันนี้วาดด้วยตัว ‘ผีซิวเซี่ยจื้อ’ ไว้หนึ่งตัว ถึงแม้จะแลดูโบราณ แต่กลับทรงอานุภาพอย่างมาก
“นี่คืออะไร” สวี่ชิงหล่างถาม
“หนังสือรับรองยมทูตไง อ้อไม่ ตอนนี้ต้องเรียกว่าป้ายผู้จับกุม” ทนายอันยื่นป้ายนี้ให้สวี่ชิงหล่างดู ขณะเดียวกันก็หัวเราะแล้วเอ่ยว่า “ยมทูตทั่วไปหลังจากเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุมแล้ว ป้ายจะเป็นสีดำ เถ้าแก่ของพวกเราเป็นสีทอง แม่งเอ๊ย ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเพิ่งจะมีเป็นครั้งแรกเลยมั้ง นี่คือผู้จับกุมที่มีคุณค่าสูงสุดที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจริงๆ!”
พวกเขาเดินทางอย่างยากลำบากเพื่อเข้ามาในพม่า เข้ามาในป่าฝน สิ่งที่ต้องการก็คือสิ่งนี้ไม่ใช่เหรอ เมื่อมีสิ่งอันนี้แล้ว ทางเดินหลังจากนี้จะง่ายเยอะขึ้น บุญกุศลที่สะสมได้ในครั้งนี่ยิ่งใหญ่จริงๆ
“รอเถ้าแก่ตื่น ฟื้นฟูสภาพร่างกายแล้ว ตอนที่เปิดประตูแห่งนรก ฝ่ายของนรกทางยมโลกน่าจะมีรางวัลสำหรับการเลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุม โดยทั่วไปแล้วจะเป็นวิธีการฝึกตนแบบทั่วไป ซึ่งยมโลกนรกจะมอบให้โดยเฉพาะ
แต่ผมเห็นว่าของเถ้าแก่เป็นป้ายสีทอง ดังนั้นจะต้องได้ของดีอย่างอื่นแน่นอน ไม่ว่าอย่างไรคอยดูตอนนั้นก็พอ นรกตอนนี้ยมโลกเองก็วุ่นวายโกลาหล คาดว่ายังไม่มีของดีอะไรมอบให้ แต่ไม่แน่นะ เถ้าแก่ถือหนังสือรับรองยมทูตที่ทิ้งไว้โดยไท่ซานฝู่จวิน ผมยังคาดหวังว่าไท่ซานฝู่จวินจะจงใจทิ้งของล้ำค่าอะไรไว้ให้กับผู้สืบทอดของตัวเองบ้างหรือไม่
และคิดว่าพวกหลินเข่อยมทูตทั้งห้าคนนั้น หนังสือรับรองยมทูตของพวกเขาก็น่าจะเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน บนนั้นน่าจะระบุไว้โดยเฉพาะว่าผู้จับกุมของตัวเองเป็นใคร กระทั่งอาจจะมีสีทองเขียวแซมติดไปด้วยนิดหน่อย เวลาออกไปข้างนอกสามารถโอ้อวดได้ ว่า ลูกพี่ของฉันเป็นพี่ปลาเค็มในย่านคอสเวย์เบย์ที่ร่ำรวย!” พูดจบ ทนายอันก็โน้มตัว วางป้ายนี้ไปที่หน้าอกของโจวเจ๋ออีกครั้ง และตอนนี้ โจวเจ๋อค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา เขาฟื้นแล้ว
อิงอิงรีบถามอย่างเป็นห่วง “เถ้าแก่ ฟื้นแล้วเหรอ อยากกินอะไรไหมเจ้าคะ หรือจะดื่มน้ำไหม กินอะไรสักหน่อยดีกว่าเจ้าค่ะ เมื่อกี้๊ตอนอยู่ใต้น้ำน่าจะดื่มน้ำไปไม่น้อย”
สายตาของโจวเจ๋อสับสนเล็กน้อย เดินวกไปวนมารอบนี้ ทำให้กายเนื้อของเขาแสนจะเหนื่อยล้า แต่ความเหนื่อยล้าของจิตวิญญาณกลับลึกซึ้งมากที่สุด สามารถพูดได้ว่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีภูเขาไท่ซานอยู่ในวิญญาณของเขา ต่อให้วิญญาณทหารหลายหมื่นนายไร้ซึ่งเจตนาร้ายกับตัวเขาเองก็ตาม ตอนที่เขาเดินนำพวกเขา ความรู้สึกกดดันและบีบคั้นนี้ สามารถทำให้วิญญาณของเขาถูกทำลายได้โดยตรง
ในเมื่อทนายอันทราบดีถึงโอกาสที่มีอยู่ในนี้ เช่นนั้นคนที่รู้จะต้องมีไม่น้อย ทำไมถึงปล่อยให้วิญญาณทหารหลายหมื่นนายอยู่ที่นี่ต่อ ปล่อยโอกาสการสร้างบุญและกุศลขนาดใหญ่ไว้ เว้นเสียแต่ว่าไม่มีเงื่อนไขนี้ และกลัวว่าตัวเองจะตัวแตกตายเท่านั้น
ทนายอันขยับใบหน้าของตัวเองมาอยู่ตรงหน้าโจวเจ๋อ ยื่นมือชี้นิ้่วมาที่ตัวเองแล้วพูดว่า “เถ้าแก่ ยังจำผมได้ไหมผมคือทนายอัน พ่อบ้านที่คุณเชื่อใจมากที่สุด พี่น้องที่ร่วมเป็นร่วมตายของคุณ!”
สายตาของโจวเจ๋อเริ่มกลับมาสดใสอย่างช้าๆ และในสายตานั้นเหมือนจะแฝงไปด้วยความหมายที่พิเศษบางอย่าง จากนั้นเขาจึงมองไปทางอิงอิงที่อยู่ข้างกาย
“อิงอิง…”
“เถ้าแก่”
“ซัดเขา…หนึ่งที…”
“…” ทนายอัน
อิงอิงมองไปทางทนายอันที่อยู่ข้างๆ แล้วมองเถ้าแก่ของตัวเองอีกที เมื่อเห็นเถ้าแก่พยักหน้า เธอจึงขานรับทันที “ได้เลย เถ้าแก่!” อิงอิงลุกขึ้น ถกแขนเสื้อขึ้น!
“เฮ้ยอ้าว เธอเข้าใจผิดแล้ว คนที่เถ้าแก่อยากจะอัดคือเหล่าสวี่ เขากล้าถอดเสื้อผ้าต่อหน้าเตรียมจะตากให้แห้ง แถมยังโชว์ให้เห็นหัวนมอีกด้วย ทำอนาจาร ทำอนา …”
อิงอิงเหวี่ยงกำปั้น ‘“ปึ้ง!’”
“โอ๊้ย!!!”
……………………………………………………………………….