ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 624 ล่อผึ้งเรียกผีเสื้อ!
ตอนที่ 624 ล่อผึ้งเรียกผีเสื้อ!
ระหว่างทางกลับ สวี่ชิงหล่างเป็นคนขับรถ ทนายอันนั่งอยู่ตำแหน่งข้างคนขับ จมูกช้ำหน้าบวม อิงอิงไม่ได้ออมมือ ต่อยหนักทุกหมัดที่ซัดลงไป
ทนายอันก็ไม่ตอบโต้และไม่หลบ ยอมโดนต่อยไปหลายสองสามหมัดแต่โดยดี ถึงแม้อิงอิงจะไม่ได้ลงมือหนักถึงขั้นเอาให้ตาย แต่กำปั้นของผีดิอบสาวก็หนักไม่เบาอยู่แล้ว ใบหน้าของเขายังดีหน่อยโอเค แค่หน้าแตกเท่านั้น ตามแขนและตามขาน่าจะมีกระดูกหักสองสามจุด แต่ใบหน้าของเขากลับไม่มีสีหน้าของความคับแค้นใจ ตรงกันข้ามกลับผ่อนคลาย ถ้าหากไม่ใช่เพราะมุมปากแตกเขายังอยากจะผิวปากแสดงอารมณ์แห่งความสุขของตัวเอง
ถ้าหากเถ้าแก่ไม่พูดอะไรเลย ดูเหมือนจะลมสงบ แต่ได้จดบัญชีนี้ไว้แล้ว และต้องมีเวลาลงโทษในภายหลังแน่นอน เมื่อเทียบกับทุกคนทำสีหน้า ‘สงบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น’ สู้ให้อิงอิงต่อยตัวเองสักตาจะดีกว่า กลับกันจะกลายเป็น ‘อุ้มสูงๆ แล้ววางลงเบาๆ’ และเรื่องนี้ต่อให้ถูกจัดการแบบนี้แล้ว ก็คือถือว่านึกถึงน้ำใจของทุกคน ด้วยเหตุนี้ ถึงแม้จะโดนต่อย ทนายอันกลับรู้สึกอารมณ์ดี ก้อนหินที่หนักอกของเขา ตอนนี้ได้ร่วงลงมาแล้ว
เขาโทรติดต่อไปที่ร้านหนังสือ นักพรตเฒ่าตอบกลับมาว่าพวกโกวซินทั้งสามคนยังไม่ฟื้นเลย ยังอยู่ในห้องไอซียู และเนื่องจากสาเหตุการสืบคดีเหตุระเบิดของฝั่งตำรวจ การตกแต่งในร้านหนังสือจึงเพิ่งจะเริ่มต้น อีกนานกว่าจะจำปรับปรุงเสร็จ และถึงแม้จะตกแต่งเสร็จแล้ว ก็ยังต้องปล่อยให้ระบายอากาศอีกระยะหนึ่ง
ด้วยเหตุนี้ โจวเจ๋อและคนอื่นจึงตัดสินใจไม่รีบกลับไป กว่านานๆ จะได้ออกมาสักครั้งไม่ง่าย เช่นนั้นก็เที่ยวเล่นให้สนุกไปเลย ถือเสียว่าจัดทริปท่องเที่ยวเป็นสวัสดิการของบริษัท ไม่ว่าอย่างไรในหมู่พวกเขาสี่คนที่อยู่ในรถ ยังมีคนป่วยอยู่สองคน และเมืองยูนนานที่มีทิวทัศน์อันสวยงามก็เหมาะที่จะรักษาตัว
สุดท้ายทุกคนจึงเลือกไปลี่เจียง ทนายอันยกแขนที่พันด้วยผ้าพันแผล เลือกโฮมสเตย์แห่งหนึ่งในเมืองโบราณลี่เจียง ตอนที่ขับรถมาถึงลี่เจียงก็เป็นเวลาโพล้เพล้แล้ว หลังลงจากรถ อิงอิงจึงประคองโจวเจ๋อ สวี่ชิงหล่างประคองทนายอัน ทุกคนเดินเข้าไปด้านในภายใต้การนำทางอย่างกระตือรือร้นของเถ้าแก่โฮมสเตย์
เถ้าแก่คนนี้ตัวผอมสูง ใบหน้าเปื้อนยิ้มที่จริงใจ ถึงแม้จะรู้สึกแปลกใจกับคนป่วยเหล่านี้อยู่บ้าง แต่กลับไม่แสดงออกมาทางใบหน้า
ตอนที่จัดห้อง โจวเจ๋อกับอิงอิงนอนห้องเดียวกัน ทนายอันเดิมทีพยายามบังคับให้สวี่ชิงหล่างนอนห้องเดียวกับตัวเอง เพราะว่าเขาบาดเจ็บหนักอยู่คนเดียวจึงไม่สะดวก แต่สุดท้ายด้วยคำยืนกรานของสวี่ชิงหล่าง ยังคงเลือกนอนกันคนละห้อง หลังจากวางสัมภาระแล้ว ทนายอันเดินทีละก้าวอย่างงกๆ เงิ่นๆ เข้าไปในห้องของโจวเจ๋อก่อน โจวเจ๋อกำลังนอนอยู่บนเตียง อิงอิงกำลังเตรียมน้ำอุ่นอยู่ในอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ เดินทางไกลมานานขนาดนี้ เธอรู้ว่าเถ้าแก่ของตัวเองอยากอาบน้ำแน่นอน
ควรทราบว่าตอนที่อยู่ในร้านหนังสือ โจวเจ๋อที่ขี้เกียจขยับตัวตั้งแต่เช้าจรดเย็นต้องอาบน้ำถึงสองครั้ง ถ้าหากออกไปข้างนอก หลังจากกลับมาต้องอาบน้ำอีกครั้ง
ทนายอันหยิบบุหรี่สองซองออกมาจากกระเป๋า โยนให้โจวเจ๋อที่อยู่บนเตียง แล้วตัวเองจึงหยิบออกมาอีกหนึ่งซองจากนั้นหยิบบุหรี่ออกมาสองมวน โยนให้โจวเจ๋อหนึ่งมวน ตัวเองคาบหนึ่งมวน
“ฮิๆ ผมขอยาจากเถ้าแก่คนนั้นมานิดหน่อย เถ้าแก่คุณอยากได้หน่อยไหม”
“ยา”
“ใช่แล้ว เถ้าแก่คุณเป็นหมอ น่าจะมองออก เถ้าแก่คนนั้นเล่นยาจนร่างกายซูบผอมหมดแล้ว ต่อให้ไม่มีเคราะห์ร้ายอะไร คงมีชีวิตอยู่ไม่ถึงสองสามปี แต่เสพยาพวกนั้นช่วยระงับความเจ็บปวด เมื่อกี้๊ตอนที่ผมขอจากเขา เขายังแกล้งโง่ใส่ผมเลย”
“ผมไม่เอา”
“อืม ได้ อ้อใช่ ที่นี่ตอนเย็นจะจัดเลี้ยงปิ้งย่าง เถ้าแก่คุณอยากไปไหม มีลูกค้าที่พักอยู่ที่นี่แล้วก็เพื่อนที่เถ้าแก่เชิญมา ถึงแม้จะบอกว่าปิ้งย่าง แต่คล้ายกับการนัดบอดเล็กน้อย แม่งเอ๊้ย เมื่อก่อนไม่รู้สึก ตอนนี้รู้สึกว่าพอเข้าลี่เจียงแล้วกลิ่นอายวสันต์ของความรักกระจายไปทุกที่”
ในความเป็นจริง ไม่ใช่แค่ลี่เจียงแต่ยังมีต้าหลี่และสถานที่อื่นๆ ถึงแม้จะโปรโมตทกับภายนอกว่าเป็นโรงแรมหรือโฮมสเตย์ แต่มักจะใช้จุดนี้มาเป็นตัวโปรโมตท โจวเจ๋อส่ายหน้า เรื่องที่เกี่ยวกับความ ‘แฮปปี้’ เหล่านี้เขาไม่สนใจเลยสักนิด ตอนนี้อิงอิงที่ปรับน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำหันมาพูดว่า “เถ้าแก่มีแผลตามตัว จะไปได้ยังไง”
ทนายอันได้ยินแล้วจึงหัวเราะ ประนมสองมือแล้วพูดว่า “สามารถทำอมิตาภพุทธได้”
เมื่อเห็นว่าโจวเจ๋อไม่สนใจเรื่องนี้ ทนายอันจึงไม่รั้งอยู่นาน ลุกขึ้นเดินกะเผลกออกไป มองดูเงาหลังที่มีสภาพสะบักสะบอมของทนายอันแล้ว โจวเจ๋อรู้สึกนับถือเขาขึ้นมาในใจ เขามีสภาพเป็นอย่างขนาดนี้แล้ว ยังอยากจะไปเที่ยวเล่นอีก ไม่กลัวทำกระดูกหักเหรอ
“เถ้าแก่ เตรียมน้ำเรียบร้อยแล้ว มาแช่ได้เลยเจ้าค่ะ” ภายใต้การการประคองของอิงอิง โจวเจ๋อลงไปนั่งในอ่างอาบน้ำ แต่รู้สึกว่าน้ำร้อนไปนิด
“ร้อนไหมเจ้าคะเถ้าแก่ ข้าฉันจะใส่น้ำเย็นอีกหน่อย”
“ไม่ต้อง คุณเข้ามานั่งก็พอ”
…
งานเลี้ยงปิ้งย่างตอนกลางคืนจัดอยู่บนดาดฟ้าของโฮมสเตย์ เตาปิ้งย่างสองตัววางไว้เสร็จสรรพ ผู้ชายและผู้หญิงนั่งรวมกลุ่มกัน และมีลูกค้ากับเพื่อนของเถ้าแก่อยู่ไม่น้อยที่รีบเดินมาที่นี่ สวี่ชิงหล่างนั่งบนเก้าอี้จิบเบียร์ไปพลาง เพราะเขาถูกทนายอันลากมา
“สองสามคนนี้ ดูแวบเดียวก็รู้ว่าทำธุรกิจด้านนี้อยู่แถวนี้ ถึงแม้จะแสร้งทำเป็นไร้เดียงวสา แต่ไม่อาจปิดบังบุคลิกและสไตล์ได้เลย ส่วนอีกสองสามคนนั้นที่นั่งอยู่ตรงนั้น น่าจะเป็นลูกค้าที่มาเที่ยว และลูกค้าที่พักอยู่ที่นี่ เสียดายหน้าตางั้นๆ เหอะๆ” สวี่ชิงหล่างดื่มเบียร์ต่อ ไม่สนใจคนพูดจาไร้สาระที่อยู่ข้างๆ
ผู้รับผิดชอบปิ้งย่างคือเถ้าแก่ ดูเหมือนเขาเพิ่งจะเล่นยาเสร็จ สีหน้าท่าทางดูมีความสุขมาก หลังจากเริ่มปิ้งย่างแล้ว เพื่อสร้างบรรยากาศ เขาจึงปล่อยให้คนที่อยากลองปิ้งย่างมารับมือต่อ แล้วหยิบกีตาร์ของตัวเองขึ้นมา เริ่มดีดกีตาร์และร้องเพลง แต่จะว่าไปเขาร้องเพลงเพราะมาก ฝีมือไม่ต่างจากนักร้องประจำตามผับบาร์ ทั้งยังร้องเพลงที่เขาเป็นคนแต่งด้วยตัวเอง
ทนายอันถอนหายใจ ในใจแอบเสียดายเล็กน้อย ทำธุรกิจโฮมสเตย์ก็รุ่ง ส่วนตัวเองก็เป็นคนมีความสามารถ ถ้าไม่เล่นยาล่ะก็ ชีวิตน่าจะสงบสุขมากกว่านี้ รอจนกระทั่งงานเลี้ยงปิ้งย่างดำเนินไปได้ครึ่งทางแล้ว มีบางคนที่ถูกตาต้องใจเพิ่งสบตากับผู้หญิงที่เพิ่งและทำความรู้จักกันเมื่อครู่ ได้ลงไปเข้าห้องเพื่อทำความรู้จักกันมากขึ้นแล้ว แน่นอนว่าที่นี่เปิดกว้างอยู่แล้ว แต่ส่วนใหญ่ล้วนสามารถตกลงราคากันก่อนได้
“ทำไมไม่ไปเล่นครับ” เถ้าแก่ถือเบียร์เดินมาทางข้างๆ ทนายอันพลางหัวเราะเหอะๆ เขามองทนายนอันเป็นเหมือนคนสายเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรก่อนหน้านั้นทนายอันได้ซื้อของจากเขา “ไม่ค่อยมีคนหน้าตาดี” รสนิยมของทนายอันช่างเลือกเป็นอย่างมาก บางครั้งทนายอันก็อิจฉานักพรตเฒ่า นักพรตเฒ่าไม่ว่าอย่างไรเดินไปที่ไหนก็จะไม่ขาดสาวใหญ่ที่ต้องการการดูแลในช่วงที่ชีวตลำบาก
“ไม่ชอบเหรอ คนที่อยู่ข้างๆ คุณไม่สวยหรือไง…” เถ้าแก่ยื่นมือชี้ไปที่สวี่ชิงหล่าง สวี่ชิงหล่างได้ยินดังนั้น จึงกวาดสายตามองด้วยแววตาที่เย็นชา เถ้าแก่จึงมองเห็นลูกกระเดือกของสวี่ชิงหล่างได้ชัดเจน “เอ่อ…” ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเป็นผู้ชาย
“ฮ่าๆๆๆ!” ทนายอันหัวเราะขึ้นมา ยื่นมือกระทุ้งไปที่สวี่ชิงหล่าง “นี่ คุณไม่ไปเล่นเหรอ” เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามไม่ใช่เหรอ สวี่ชิงหล่างส่ายหน้า แล้วดื่มเบียร์ต่อ ทนายอันเห็นเหล่าสวี่นั่งนิ่งและเหงาอยู่ตรงนั้น จึงทำปากจู๋ด้วยความอิจฉา มีประโยคหนึ่งพูดว่าอะไรนะ เพราะว่าคุณหล่อไม่พอ ดังนั้นคุณไม่สามารถรู้ได้ว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายรุกมากแค่ไหน เวลานี้ดูเหมือนจะมีคนตะโกนเรียกเถ้าแก่จากข้างล่าง เถ้าแก่จึงหัวเราะฮ่าๆๆ เดินลงไป
ทนายอันจึงพูดกับสวี่ชิงหล่าง “ถ้าอย่างนั้นไปหาไพ่แล้วไปเล่นโต้วตี้จู่[1]กับเถ้าแก่แล้วก็อิงอิงดีไหม”
“ผมจะไปเดินเล่นในเมืองโบราณ”
“เฮ้ คุณน่าเบื่อจริง”
สวี่ชิงหล่างเดินลงไป ทนายอันนั่งบนดาดฟ้ามองดวงดาวและดื่มเบียร์คนเดียวต่อไป
พออาบน้ำเสร็จรู้สึกสบายมาก อิงอิงช่วยเปลี่ยนเสื้อผ้าให้โจวเจ๋อ โจวเจ๋อไม่รีบไปนอนบนเตียง แต่นั่งพิงเก้าอี้ที่อยู่ในห้อง อิงอิงยืนอยู่ข้างหลังช่วยนวดศีรษะให้เขา
โจวเจ๋อหยิบป้ายนอันนั้นขึ้นมา พูดจริงๆ นะ แต่เดิมเป็นเล่มบัตรจู่ๆ กลายเป็นป้ายเครื่องหมาย รู้สึกไม่ชินจริงๆ เมื่อก่อนหนังสือรับรองยมทูตใส่ในกระเป๋าสตางค์สะดวกมาก แต่ป้ายนี้ต้องเหน็บไว้ที่เอวเหรอ เวลาเดินไปข้างนอกมีคนเห็นเข้าอาจจะถูกคนอื่นมองว่าเป็นคนโง่ ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ใช่ยุคของหน่วยองครักษ์เสื้อแพรแบบนั้นแล้ว
สาวน้อยโลลิ เยวี่ย่หยา พวกเธอทั้งหลายได้โทรศัพท์เข้ามา อิงอิงรับสาย ทุกคนต่างโทรมาแสดงความยินดี ในที่สุดเถ้าแก่ของตัวเองก็ได้เลื่อนขั้นเป็นผู้จับกุมแล้ว และสัญญาของพวกเธอก็เปลี่ยนจากพนักงานสัญญาจ้างกลายเป็นพนักงานประจำเสียที นอกจากนี้หลังจากที่กลายเป็นผู้จับกุมแล้ว ผลงานของโจวเจ๋อได้ปรับคะแนนใหม่กลายเป็น สองต่อหนึ่งร้อย และยังมีรายการการทำความดีความชอบอีกเป็นพรวน แต่บุญกุศลของโจวเจ๋อมีค่าถึงหนึ่งร้อยเต็มหนึ่งร้อย ซึ่งเกินตารางแล้ว บุญกุศลที่นำวิญญาณทหารหลายหมื่นนายกลับบ้าน ช่างน่ากลัวเสียนี่กระไร
นอกจากนี้หลังจากที่ได้เป็นผู้จับกุมแล้ว เวลาที่พวกสาวน้อยโลลิทำผลงาน ตัวเขาเองถึงแม้จะไม่ได้ทำอะไร ก็จะได้ส่วนแบ่งกำไรเสมอ ผลงานจะทำให้โจวเจ๋อค่อยๆ เลื่อนขั้นขึ้นไป
เมื่อได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว โจวเจ๋อกลับไม่รู้สึกดีใจมากเท่าไร อาจจะเป็นเพราะเคยเห็นความน่าเกลียดของพญายมในนรกมาแล้ว จึงรู้สึกว่าเป็นผู้จับกุมไม่ใช่เรื่องยิ่งใหญ่อะไร ตอนนี้สาเหตุที่เขาอยากเลื่อนขั้น หนึ่งเพื่อปกป้องตัวเอง สองเมื่อยืนสูงขึ้นก็จะหาวิธีทำให้เจ้าโง่ฟื้นคืนได้สะดวกขึ้น
เวลานี้ป้ายเที่บีบอยู่ในมือได้สั่นขึ้นมากะทันหัน บนป้ายปรากฏแสงจุดสีฟ้าอยู่ตำแหน่งตรงกลาง และข้างๆ จุดสีฟ้านั่นมีจุดสีดำ และจุดสีดำนี้กำลังเคลื่อนที่มาทางนี้ เป็นยมทูตท้องถิ่นของลี่เจียงกำลังวิ่งมาหาฉันทางนี้เหรอ
โจวเจ๋อแปลกใจเล็กน้อย เขาเป็นผู้จับกุมของทงเฉิง และระยะทางห่างไกลจากที่นี่นับพันลี้ ไม่มีอะไรให้สามารถที่จะติดต่อกันได้ถึงจะถูก นอกจากนี้ด้วยนิสัยของโจวเจ๋อและอาการบาดเจ็บของเขาตอนนี้ ขี้เกียจที่จะออกไปต้อนรับและสนทนาในเวลาเช่นนี้จริงๆ เมื่อลองพิจารณาครู่หนึ่ง ตอนที่เขาก้มหน้ามองป้ายอีกครั้ง กลับพบว่าจุดสีดำที่เคลื่อนไหวก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว นี่คือตายแล้ว หรือว่า…
“อิงอิง เปิดประตู”
“ได้เจ้าค่ะ เถ้าแก่” อิงอิงเปิดประตูห้อง วินาทีที่เปิดประตู ผู้หญิงเลือดท่วมตัวในชุดขี่ม้าอัศวินสีดำคนหนึ่งได้ตัวล้มลงมา
“เถ้าแก่ ทำยังไงดีเจ้าคะ” อิงอิงหันมามองเถ้าแก่ของตัวเอง
โจวเจ๋อโบกมือ “ดูซิว่าตายหรือยัง”
อิงอิงนั่งลงยองๆ ตรวจดูเล็กน้อยแล้วตอบว่า “บาดเจ็บสาหัส เหมือนจะใกล้ตายแล้ว”
“อ้อ อย่างนั้นก็แทงอีกที ให้เธอตายไปเลย”
“…” ยมทูตหญิง
……………………………………………………………………….
[1] โต้วตี้จู่ ไพ่พิชิตแลนลอร์ด