ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 686 เขามาแล้ว อยู่ข้างๆ นี่เอง
ตอนที่ 686 เขามาแล้ว อยู่ข้างๆ นี่เอง
โจวเจ๋อไม่เคยสงสัยการแพทย์แผนจีน ถึงแม้ชาติที่แล้วตัวเองจะเรียนหมอและเป็นหมอก็จริง แต่ไม่เคยสงสัยการแพทย์แผนจีนเลย ในความเป็นจริง ในประเทศจีน คนที่เชื่อแพทย์แผนจีนมีเยอะมาก ถึงแม้จะมีข่าวใส่ร้ายแพทย์แผนจีนบนอินเทอร์เน็ตมาตลอด ดูถูกแพทย์แผนจีนจนไม่มีชิ้นดี แต่ส่วนลึกในใจของทุกคน ยังคงให้ความเคารพอยู่เสมอ สามารถพูดแบบไม่เกินจริงได้ว่า แพทย์แผนจีนได้หลอมรวมเข้ากับวัฒนธรรมจีนอย่างลึกซึ้ง และสิ่งที่ถูกมัดอยู่ด้วยกัน ยังมีศิลปะการต่อสู้ของจีนอีกด้วย
แต่ด้วยเหตุนี้ จึงเปิดโอกาสให้ใครหลายคนใช้พื้นที่นี้เพื่อฉกฉวยโอกาส โดยเฉพาะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีสิ่งที่เรียกว่ายาสมุนไพรจีนสุดวิเศษ สรรพคุณเป็นเลิศมากมาย บวกกับปรมาจารย์ไทเก๊กที่สามารถตีวัวข้ามภูเขาได้ เป็นต้น คนกลุ่มหนึ่งใช้ประโยชน์จากความเชื่อใจของประชาชนที่ยอมรับในวัฒนธรรมของตน เริ่มสูบเลือดอย่างบ้าคลั่ง ขณะเดียวกันก็นำสองสิ่งนี้ตกลงไปยังก้นเหวของชื่อเสียง
โจวเจ๋อนำยาเม็ดนั้นมาไว้ในมือ แล้วหมุนด้วยปลายนิ้ว ไม่ต้องพูดถึงหน้าตาที่พอใช้ได้ ยังมีกลิ่นหอมยามที่ดมกลิ่นมันอีกด้วย
“เถ้าแก่ ดังนั้นข้าถูกหลอกเหมือนกันเหรอ” นักพรตเฒ่าไม่ได้เสียดายเงิน ถึงอย่างไรเขาก็ซื้อเล่นๆ เม็ดเดียวเท่านั้น แปดร้อยหยวน สำหรับเขาแล้วไม่ถือว่าเยอะมาก เขาแค่รู้สึกว่าเสียดายของ แต่ถูกเถ้าแก่ของตัวเองว่าเช่นนี้ จึงรีบพูดทันที “แม่งเอ๊ย เมื่อก่อนทำไมข้าถึงคิดไม่ถึง ขายเงินกระดาษทำไม น่าจะเปลี่ยนไปขายยาอายุวัฒนะเก้าลมปราณ! กินแล้วบำรุงหยาง ต้นทุนยาก็แค่ X หนึ่งเม็ดเพิ่มเม็ดน้ำตาลเท่านั้น”
“ทำเรื่องที่ผิดศีลธรรมน้อยหน่อย สภาพร่างกายของคนบางคน ไม่สามารถกินยานี้ได้”
“ฮิๆ แค่พูดเผื่อไว้ๆ ข้าไม่ได้ไลฟ์สดมาระยะหนึ่งแล้ว” นักพรตเฒ่าไม่ได้ไลฟ์สดมานานแล้วจริงๆ จำได้ว่าตอนที่โจวเจ๋อยังเปิดร้านที่จัตุรัสนานาชาติอู่โจว ก็รู้จักนักพรตเฒ่าแล้ว ตอนนั้นเขาถือว่าเป็นเน็ตไอดอลคนหนึ่ง
“ทำเงินได้เยอะแล้ว เลยไม่ไลฟ์สดแล้วเหรอ” โจวเจ๋อถามอย่างสงสัย
“ไม่ใช่เลย เงินไม่ว่ายังไงก็หาไม่พอ ช่วงนี้ข้าเน้นเล่นโต่วอินแทน จากการสำรวจของข้า หลังจากแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นนี้ดังมาก สามารถดึงคนกลุ่มหนึ่งที่ชอบอ่านนิยายดูไลฟ์สดเข้ามาได้มากมาย อย่างน้อยสองสามปีข้างหน้า เจ้าสิ่งนี้น่าจะได้รับความนิยมตลอด”
“หืม” โจวเจ๋อพูดอย่างแปลกใจ “คุณทำแล้วเหรอ”
“ใช่ ทำนานแล้ว ถ่ายคลิปสั้นหนึ่งคลิปต่อหนึ่งวันกับเจ้าลิง ฆ่าหมาแมวที่น่ารักพวกนั้นในพริบตาเลย แต่ตอนหลังเกือบมีปัญหา”
“ปัญหาอะไร”
“ให้ตายเหอะ มีตำรวจมาหาข้า บอกว่าข้าเป็นผู้ต้องสงสัยจับสัตว์คุ้มครองของประเทศอย่างผิดกฎหมาย จึงอยากมายืนยันว่าลิงของข้าตัวนี้เป็นลิงขนทองไหม”
“เหอะ”
“เถ้าแก่ จัดห้องเรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ เสื้อผ้าก็พับเก็บเรียบร้อยแล้ว ท่านจะเปลี่ยนชุดไหมเจ้าคะ” อิงอิงเดินเข้ามาตอนนี้ เธอใส่ผ้ากันเปื้อน มัดผมหางม้าคู่ ดูน่ารักสดใสเป็นอย่างมาก
“ไม่ต้อง ชุดนี้ใส่สบายมากเหมือนกัน”
“ได้เจ้าค่ะ เอ๊ะ นี่คืออะไร ยาเหรอ” อิงอิงชี้สิ่งที่อยู่ตรงปลายนิ้วของโจวเจ๋อพลางถาม
“อ้อ นี่คือบำรุง…” หลังจากสบตากับโจวเจ๋อแล้ว เสียงของนักพรตเฒ่าจึงหงอยลงทันที
“คอฟฟี่เมตรูปแบบใหม่ เก็บเอาไว้ รอทนายอันกลับมาจากเสฉวน แล้วใส่ลงไปตอนที่ชงกาแฟให้เขา”
“ได้เจ้าค่ะ เถ้าแก่” อิงอิงรับยามา
นักพรตเฒ่าบ่นพึมพำเล็กน้อย “ถ้าหากทนายอันรู้ จะต้องร้องไห้ซาบซึ้งใจแน่นอน”
ทันใดนั้น โจวเจ๋อได้กลิ่นอะไรเตะจมูก จึงถามว่า “กลิ่นอะไร”
นักพรตเฒ่ามองไปรอบๆ ดมกลิ่น แล้วเอ่ยว่า “เหมือนจะมีกลิ่นอะไรจริงๆ กลิ่นไหม้”
อิงอิงเงยหน้าตอนนี้ พูดด้วยความสงสัยว่า “เถ้าแก่ ดูเหมือนจะลอยมาจากข้างบน”
โจวเจ๋อกับนักพรตเฒ่าเงยหน้าพร้อมกัน และแล้วตรงเพดาน ก็มีควันสีขาวชั้นหนึ่งกำลังหมุนวนอยู่ตรงนั้นจริงๆ บนนั้นยังจะมีใครอีก
“แม่ง แม่นางสวี่จะจุดไฟเผาบ้านเหรอ!” นักพรตเฒ่า ‘ระเบิดอารมณ์’ ทันที เขาต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหนกว่าจะตกแต่งร้านหนังสือแห่งนี้เสร็จ ทุกคนเพิ่งจะกลับมาอยู่ไม่ถึงหนึ่งวัน ก็จะถูกไฟคลอกแล้ว นักพรตเฒ่าหดหู่ใจจนแทบกระอักเลือดออกมา!
โจวเจ๋อรีบลุกขึ้นเดินขึ้นไปชั้นบน นักพรตเฒ่ากับอิงอิงเดินตามหลังไปติดๆ และเวลานี้ ภายใน ‘สวนผัก’ ที่อยู่ติดกับร้านหนังสือ หญิงสาวตัวดำกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่บนเก้าอี้ ใส่แว่นกรอบทองอันหนึ่งอยู่บนใบหน้าของเธอ ตอนนี้เธอถอดแว่นออก เงยหน้ามองพลางเอ่ยว่า “คุณปกป้องก่อน อย่าให้เผาบ้านของพวกเราจริงๆ ผักมากมายในสวนกว่าจะโตก็ไม่ง่าย ถูกเผาไปเสียดายแย่”
มีเพียงเดดพูลบนพื้นต้นเดียวที่ยังคงหลับตาอยู่ แต่หลังจากฟังคำพูดของหญิงสาวตัวดำแล้ว จึงพยักหน้าช้าๆ
วินาทีต่อมาเถาวัลย์หลายเส้นยืดขยายออกมาจากใต้ดิน ขณะที่มุดออกมาอย่างรวดเร็วในเวลาเดียวกัน ได้เลื้อยออกไปนอกกำแพงเช่นกัน
หากดูจากด้านนอกของร้านหนังสือกลับไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ภายในร้านหนังสือไม่ว่าจะเป็นผนังหรือว่าพื้นกระทั่งเพดานถูกห่อหุ้มด้วยเถาวัลย์หนาแน่น
ตอนที่โจวเจ๋อเพิ่งจะถึงชั้นสอง ก็เห็นใต้เท้าของตัวเองมีเถาวัลย์หลายเส้นปรากฏขึ้น และ ‘ยึดครอง’ ทุกห้องของชั้นสองได้ก่อนด้วยความเร็วที่มากกว่าตัวเอง
เถาวัลย์เริ่มมีหยดน้ำออกมา คล้ายการให้น้ำแบบหยด แต่เวลานี้กลับเป็นวิธีการป้องกันไฟที่แข็งแกร่งที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุด
“คราวนี้ไม่ต้องกลัวหน่วยดับเพลิงมาตรวจแล้ว” นักพรตเฒ่าพูดอย่างทอดถอนใจ
โจวเจ๋อไม่ได้หยุดเดิน เขาเดินไปที่ห้องของสวี่ชิงหล่าง ควันลอยออกมาจากห้องของเขาจริงๆ
“เขากำลังคิดบาร์บีคิวรสชาติใหม่เหรอ” นักพรตเฒ่าพูดเดา
โจวเจ๋อยื่นมือผลักประตูห้อง ทันใดนั้น ควันสีขาวน่ากลัวพวยพุ่งออกมาจากภายในห้องอย่างรุนแรง รู้สึกเหมือนมีเขื่อนใหญ่เปิดประตูระบายน้ำปล่อยน้ำไหลบ่าออกมา โจวเจ๋อโบกมือไปมา แต่ควันขาวเหล่านี้เหมือนจะมีไม่สิ้นสุด ไม่สามารถปัดให้หายไปได้อย่างสิ้นเชิง หรือจะพูดให้ถูกต้องคือ ปัดให้หายไปยังสู้การรวมตัวหนาแน่นไม่ได้ และท่ามกลางควันเหล่านั้นยังสามารถมองเห็นคนโดนเปลวไฟรมควันอยู่ด้านใน เปลวไฟไหววูบไม่หยุด
“เหล่าสวี่ มีปัญหาอะไรไหม” โจวเจ๋อตะโกนเข้าไปข้างใน แต่ไม่ได้บุกเข้าไปโดยตรง ความมั่นใจ ณ จุดนี้ยังมีอยู่ โจวเจ๋อไม่เชื่อว่าสวี่ชิงหล่างจะว่างจัดถึงขั้นเผาห้องของตัวเอง
“เถ้าแก่ เข้าไปไหม” อิงอิงที่อยู่ข้างๆ ถาม
“เข้าไปดูเถอะ เถ้าแก่” นักพรตเฒ่าที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างร้อนใจ
โจวเจ๋อส่ายหน้า “อย่าไปรบกวนเขา” นี่คือความเชื่อใจมากอย่างหนึ่ง จากนั้น ไม่ช้า โจวเจ๋อจึงพบว่าตัวเองถูกตบหน้า เสียงร้องเรียกอย่างอ่อนแรงดังมาจากข้างใน
“ช่วย…ผม…ด้วย…” เสียงของเหล่าสวี่!
ครั้งนี้โจวเจ๋อพุ่งเข้าไปทันที ท่ามกลางควันขาวที่ลอยวนขึ้นไป โจวเจ๋อพบว่าเหล่าสวี่นอนอยู่บนพื้น หายใจไม่ออกจนหน้าเป็นสีม่วงทั่วทั้งใบหน้า เขาไม่กล้าลังเลอีก โจวเจ๋อแบกสวี่ชิงหล่างออกมา จากนั้นเดินลงไปข้างล่าง พลางตะโกนใส่เถาวัลย์ “ไล่ควันออกได้ไหม”
เขาลองพูดตามความเคยชิน แต่เหตุการณ์ที่ทำให้โจวเจ๋อตกใจได้ปรากฏขึ้น เถาวัลย์รีบผลิบานดอกไม้สีเหลืองแต่ละดอกทันที ดอกไม้เหล่านี้สามารถดูดลมออกได้ ชั่วเวลาเดียว ควันสีขาวก็ถูกดอกไม้จำนวนมากมายเหล่านี้สูดเข้าไป เหมือนเครื่องดูดควันขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงกำลังทำงานอย่างบ้าคลั่ง
แบบนี้ก็ได้เหรอ
ควันสีขาวภายในร้านกระจายหายไปในไม่ช้า ไม่สำลักควันเหมือนก่อนหน้านั้นอีก โจวเจ๋อย้ายสวี่ชิงหล่างมาที่โซฟาด้านล่าง ปล่อยให้เขานั่งพิง ผ่านไปพักหนึ่ง ใบหน้าสีม่วงที่น่าตกใจของสวี่ชิงหล่างจึงหายไป เขาค่อยๆ ลืมตา จากนั้นก็เริ่มไออย่างแรง ไอเหมือนจะให้ปอดพุ่งออกมาด้วย
เถ้าแก่โจวเป็นห่วงจริงๆ ว่าสวี่ชิงหล่างไอแบบนี้แล้วจะตาย ยังดีที่หลังจากไอเหมือนปอดฉีกแล้ว สวี่ชิงหล่างก็หยุดลงในที่สุด หายใจหอบไม่หยุด ใบหน้าเริ่มมีเลือดฝาด
“เมื่อกี้นายทำอะไรอยู่ในนั้น” โจวเจ๋อถาม นี่ไม่ใช่ปัญหาว่าจุดไฟเผาบ้านหรือไม่ แต่เล่นทำตัวเองเกือบตายต่างหาก
“ผมใช้วิธีลับ หาตำแหน่งที่ถูกต้องของเขา” สวี่ชิงหล่างตอบอย่างหมดแรง
“วิธีลับ”
“เขาเป็นคนสอนผมเอง”
“เก่งขนาดนี้เชียว ระบบจีพีเอสทั่วโลก” นักพรตเฒ่าเดาะปากเสียงดังอยู่ข้างๆ
สวี่ชิงหล่างมองนักพรตเฒ่าหนึ่งที แล้วพูดช้าๆ “เอ่อ แค่สัมผัสได้ถึงคนไม่กี่คนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับตัวเองมากที่สุด” เมื่อพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของสวี่ชิงหล่างเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยตัวเองออกมา
อาจารย์ของเขากับตัวเขาเอง เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก่อนจริงๆ ต้องพูดว่านี่คือการเยาะเย้ยถากถางที่ใจดำอย่างหนึ่ง
“แล้วได้ผลไหม” โจวเจ๋อถาม
“ยิ่งมีควันเยอะ หมายความว่าเขายิ่งอยู่ใกล้คุณมาก ควันสามารถกลายร่างได้ เพื่อนำทางคุณ ถ้าหากอีกฝ่ายคิดถึงคุณเช่นกัน จะสามารถเกิดการเชื่อมโยงกันได้ท่ามกลางความมืด”
เมื่อฟังคำพูดเหล่านี้แล้ว สายตาของโจวเจ๋อจ้องนิ่ง นักพรตเฒ่ายังอ้าปากค้าง แม้แต่อิงอิงก็มีสีหน้าเปลี่ยนไป
ยิ่งควันเยอะ ยิ่งหมายความว่าอยู่ใกล้มาก เช่นนั้นคือ อาจารย์คนนั้น…
สวี่ชิงหล่างกัดฟัน พยายามตั้งสติกล่าวว่า “ดังนั้น ตัวเขาอยู่ทงเฉิงแล้ว กระทั่งอยู่ในเขตนี้ ถึงขนาดที่ว่าอยู่บนถนนเส้นนี้ หรือไม่ก็อยู่ใกล้ๆ พวกเรา! เขามาแล้ว เขามานานแล้ว ไม่ แท้จริงแล้วมาเขารอพวกเรานานแล้ว”
สวี่ชิงหล่างใช้สองมือจับใบหน้าของตัวเองอย่างแรง จากใบหน้าที่เดิมทีขาวนวลเวลานี้แทบจะถูกบีบให้บิดเบี้ยวดูแล้วน่ากลัวเป็นพิเศษ เสียงของเขาเริ่มสั่น คุณสามารถฟังออกถึงน้ำเสียงที่หวาดกลัวสุดขีดของเขา และยังฟังออกถึงความตื่นเต้นดีใจของเขาได้เช่นกัน “เหอะๆ เขามาแล้ว ในที่สุดเขาก็…มาแล้ว!”
…
“นี่คือยาของคุณค่ะ คุณถือไว้นะคะ อย่าลืมกินสองครั้งเช้าเย็นนะคะ บนนั้นได้ระบุข้อห้ามช่วงที่กินยาแล้วค่ะ ฉันกลัวว่าคุณจะอ่านตัวหนังสือเล็กๆ ในคู่มือการใช้ยาไม่ชัดเจน จึงคัดลอกใส่บนกระดาษใบนี้แล้วค่ะ”
“ขอบคุณครับๆ ขอบคุณน้องสาวอย่างคุณจริงๆ”
“ไม่ต้องเกรงใจค่ะ เดินกลับดีๆ นะคะ ระวังตัวด้วย ขอให้คุณหายดีในเร็ววันค่ะ” ฟางฟางนำถุงยาห่อเล็กยื่นให้ชายชราใส่เสื้อผ้าสีดำที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์
ชายชราใส่หมวกแก๊ปกันหนาวทรงโบราณ ใส่เสื้อกันหนาวสีดำตัวใหญ่ หลังจากจ่ายเงินแล้ว เขารับยาแล้วพูดขอบคุณความมีน้ำใจของฟางฟางพลางเดินออกไป
หลังจากเดินออกจากร้านขายยาแล้ว ชายชราจึงหยุดเดิน หันหน้ามองไปทางร้านหนังสือที่อยู่ด้านหลัง ตอนที่เขาเห็นควันสีขาวลอยฟุ้งอยู่ริมหน้าต่างชั้นสองของร้านหนังสือ ใบหน้าที่ซ่อนอยู่ภายใต้ปีกหมวกแก๊ป เผยรอยยิ้มที่มีความหมายลึกซึ้งออกมา