ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 707 คุณคือเจ้ารุ่งเรือง!
ตอนที่ 707 คุณคือเจ้ารุ่งเรือง!
เห็นน้ำพุที่อยู่ข้างหน้าไหม ชายชราในเวลานี้หลังจากโดนเด็ดหัวแล้ว เหมือนกับน้ำพุขนาดเล็กอันหนึ่ง แต่อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้เลือดไหลมากเกินไป เป็นผลทำให้เขาไม่เหมือนน้ำพุที่พ่นน้ำออกมาอย่างแรง แต่เหมือนกับเด็กน้อยฉี่ ‘จ๊อกๆๆ’… มาเป็นระลอก มาเป็นช่วงๆ ต้องกล่อมเล็กน้อย ผิวปากสักหน่อย ขู่สักนิด
ตำรวจเฉินยืนอยู่ข้างกายเขา ถือศีรษะของเขาอยู่ในมือ ถ้าหากตอนนี้มีช่างภาพอยู่ที่นี่ จะต้องจับภาพที่สวยงามที่สุดได้แน่นอน
ผู้หญิงคนหนึ่งร่างเปลือยเปล่า ชายชราคนหนึ่งไม่มีศีรษะ เลือดสด ความมืด บวกกับฉากหลังเป็นโรงพยาบาลที่มาพร้อมกับความงามจนทำให้คนหยุดหายใจ
ใช่แล้ว เหมือนกับที่ชายชราพูดไว้ก่อนหน้านั้น เขาเป็นแค่คนตกอับคนหนึ่ง ต่อให้ดิ้นรน ต่อให้กระโดดโลดเต้นแค่ไหน เมื่ออยู่กับคนกินเนื้อ แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก
เซี่ยจื้อในฐานะสัตว์วิเศษที่มีมานานแต่โบราณ มีหรือจะถูกควบคุมได้อย่างง่ายดายกลายเป็นหุ่นเชิดของคุณ
ตี้ทิงสามารถสัมผัสได้โดยบังเอิญขณะที่อยู่ในนรก ก็สามารถตัดเส้นเหล่านั้นของชายชราให้ขาดสะบั้นได้ทันที กับดักและแผนการที่วางไว้ของชายชราก่อนหน้านั้นล้วนสูญเปล่า ถูกบีบบังคับให้ต้องเข่นฆ่าแบบดั้งเดิมที่แสนเรียบง่ายตัวต่อตัว
เซี่ยจื้อจะแย่กว่าตี้ทิงเหรอ จะถูกจัดการง่ายๆ ได้อย่างไร อีกอย่าง มันก็อยู่ในยุคเดียวกับอิ๋งโกว
แววตาสดใสในนัยน์ตาของตำรวจเฉินค่อยๆ หายไป เวลานี้ ความไม่อยากจะเชื่อและโกรธเคืองยังอยู่ในนัยน์ตาของเธอ อย่างน้อยตอนนี้ ยังเป็นแววตาของชายชรา
“เธอกำลังจับฉันเป็นแพ เธอใช้ฉันเป็นแพ!!” ศีรษะที่ถืออยู่ในมือตำรวจเฉินเริ่มตะโกนเสียงแหบแห้ง เขาโกรธมาก เขาไม่ยอมจริงๆ!
เขาเดิมทีควรเป็น ‘สายน้ำที่ใสสะอาด’ ในโลกมนุษย์ ตอนที่มาร้านหนังสือครั้งแรก ภายใต้ร่างแยกมากมายนับไม่ถ้วน เกือบฆ่าคนของร้านหนังสือได้ยกแก๊ง!
ความยิ่งใหญ่ของเขา ความยอดเยี่ยมของเขา ไม่ว่าเขาจะสุดโต่งแค่ไหน เห็นแก่ตัวแค่ไหน คุณก็ไม่สามารถลบคุณลักษณะพิเศษของเขาที่ทำให้คนกังวลและหวาดกลัวได้เหมือนเดิม
แต่นี่คือเกมที่ไม่ยุติธรรม ไม่ใช่เกมที่ตัดสินอย่างเท่าเทียมกัน ตอนที่มาร้านหนังสือครั้งแรก เขาถูกอิ๋งโกวซัดจนตาย มาครั้งที่สอง เขาเก่งกว่าครั้งแรก ผลปรากฏว่าถูกท่านแม่ทัพตี้ทิงจัดการก่อน แล้วค่อยโดนเซี่ยจื้อต่อต้านภายหลัง คู่ต่อสู้ที่เขาต้องเผชิญหน้าทั้งหมด น่ากลัวเกินไปแล้วจริงๆ ถึงแม้เขาจะพยายามกระโดดออกไป ก็ไม่สามารถข้ามพ้นความสูงของคนเหล่านี้ได้ กระทั่งแม้แต่ปลายเท้าของพวกเขาก็ยังเขย่งไม่ถึง
แววตาของตำรวจเฉินเริ่มหายไปอย่างช้าๆ สิ่งที่เข้ามาแทนที่คือสีแดงที่เย็นชา
แสงสีแดงเริ่มเข้ามาแทนที่ สุดท้ายปกคลุมนัยน์ตาทั้งสองข้างอย่างสิ้นเชิง ด้านหลัง เงาใหญ่ยักษ์ของเซี่ยจื้อสัตว์วิเศษเขาเดียวค่อยๆ โผล่ออกมา ด้วยพลังอำนาจที่แท้จริงของสัตว์วิเศษ ทำให้คนต้องตื่นตะลึง!
มันคือกฎ กฎก็คือมัน คนอื่นมีชีวิตอยู่ด้วยควันธูป แต่มันกลับอยู่ในตัวบทกฎหมาย
ตำรวจเฉินหลับตา แล้วค่อยๆ ลืมตา สีหน้านิ่งเฉยดังเดิม แต่กลับเหมือนเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ถ้าจะให้อธิบาย น่าจะมีความรู้สึกเหมือน ‘คน’ มากกว่าก่อนหน้านี้ คุณสามารถรับรู้ได้ถึงสติของเธอ สามารถสัมผัสได้ถึงนิสัยของเธอ ไม่ใช่หุ่นเชิดที่ถูกควบคุมตัวนั้น
มือของมันเริ่มออกแรง ‘ปึ้ง!’ ศีรษะที่อยู่ในมือเริ่มแตกร้าว เสียงของแตกดังออกมาจากด้านในไม่หยุด แต่ไม่ระเบิดเหมือนลูกแตงโม ทว่ากลับเต็มไปด้วยรอยแตกหนาแน่น ของเหลวสีแดงเริ่มไหลออกมา ซึ่งไม่ใช่เลือดจากตัวของชายชรา แต่เหมือนขี้ผึ้งที่ใช้ปิดช่องโหว่ของสิ่งของ ทั่วทั้งใบหน้าของชายชราถูกปกคลุมด้วยสีแดงเลือดเป็นเส้นๆ อย่างสิ้นเชิง ดูแล้วเหมือนเครื่องเคลือบลายครามที่งดงามชิ้นหนึ่ง
ขณะเดียวกัน สายโลหิตแต่ละสายได้กระจายออกจากโรงพยาบาล ห่อหุ้มพื้นที่บริเวณนี้โดยสมบูรณ์ ปิดกั้นอิงอิงและคนอื่นที่อยู่ด้านนอก ปิดกั้น ‘การรับรู้’ ทุกอย่างที่มาจากด้านนอก รวมไปถึง ‘ท้องฟ้า’ ที่อยู่เหนือศีรษะ
การกระทำเช่นนี้ คือไม่อยากให้ชายชราตายไปทื่อๆ หลังจากซัดเขาจนเลือดท่วมแล้ว ยังกักขังเขา กะว่าค่อยจับเขาออกมาทีหลัง แล้วค่อยๆ จับนาบกับเสาร้อนๆ
สาวน้อยโลลิตอนแรกก็เคยได้ยินกิตติศัพท์ของชายชรามาก่อน ทุกครั้งเขาปรากฏตัวช่วงหนึ่ง แล้วหายตัวไปจากนั้นปรากฏตัวอีก ทำซ้ำวนเวียนอยู่แบบนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะมีอิสระจริงๆ ความอิสระเสรีของเขา เกิดขึ้นเพราะผู้ที่แข็งแกร่งตัวจริงกับคนระดับสูงมองข้ามเขา
เมื่อจัดการสิ่งเหล่านี้เสร็จแล้ว สายตาของตำรวจเฉินมองไปที่โจวเจ๋อ โจวเจ๋อคุกเข่าข้างเดียวอยู่กับพื้น ฝ่ามือสั่นไม่หยุด สีขาวในนัยน์ตาหายไปแล้ว แต่โจวเจ๋อยังพยายามฝืนอยู่ ตำแหน่งหน้าอก ทั้งๆ ที่โจวเจ๋อไม่มีแผลตรงนั้นแท้ๆ แต่ปราณพิฆาตของผีดิบยังคงแสดงอานุภาพไม่หยุด นี่เป็นเพราะบาดเจ็บจากค่ายกล ปราณพิฆาตภายในร่างกายถูกเจาะทะลุ แต่ปราณพิฆาตคือรากแก่นที่แท้จริงของร่างผีดิบ
“คุณรู้จักฉัน” ตำรวจเฉินเอ่ยถาม ขณะเดียวกัน เธอกำลังเดินไปหาโจวเจ๋ออย่างช้าๆ ประดุจราชินีองค์หนึ่งกำลังก้มมองทาสที่อยู่ใต้เท้าของตัวเอง
โจวเจ๋อกัดฟัน ยังคงดิ้นรน เขาอยากลุกขึ้น แต่ตอนนี้ร่างกายกลับสั่นตลอดเวลา พลังที่อยู่ภายในร่างลดต่ำฮวบฮาบ ความรู้สึกเช่นนี้ ทรมานและอึดอัดเป็นอย่างยิ่ง
เหมือนกับคุณมีเครื่องบินสมรรถภาพดี แต่กลับไม่มีเชื้อเพลิงให้มันบินขึ้นมา
“คุณ…รู้จักฉันใช่ไหม” ตำรวจเฉินเดินมาตรงหน้าโจวเจ๋อ กระทั่งโจวเจ๋อสามารถมองเห็นเท้าที่สะอาดคู่นั้นของอีกฝ่าย ไม่ได้ทาน้ำยาทาเล็บ สะอาดเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้จะผ่านการต่อสู้มาแล้ว ตามเนื้อตัวของเธอนอกจากรอยแผลก็ไม่มีสิ่งสกปรกอย่างอื่น
“เหอะ คุณรู้จักฉัน” ครั้งที่สามแล้ว ตำรวจเฉินใช้มือข้างหนึ่งจับคอของโจวเจ๋อ ยกโจวเจ๋อขึ้นมา สีขาวในนัยน์ตาของโจวเจ๋อแสดงความสับสนว้าวุ่นอย่างเห็นได้ชัด
“สงสัย คนที่ฉันกำลังตามหา น่าจะเป็นคุณ” ในทงเฉิง ในสถานที่แบบนี้ สามารถทำร้ายร่างแยกของเธอได้ มีเพียงโจวเจ๋อเท่านั้นจริงๆ
อาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านั้นโจวเจ๋อไม่ได้แสดงพลังที่น่ากลัวออกมา แต่เมื่อเผชิญหน้ากับชายชรา พลังทั้งหมดที่โจวเจ๋อแสดงออกมานั้นมากพอแล้ว ถึงแม้จะพูดว่า นี่ไม่ใช่พลังอันแท้จริงที่โจวเจ๋อฆ่าร่างแยกของเธอในตอนแรก
“เหอะๆ” ตำรวจเฉินยื่นมือจับใบหน้าของโจวเจ๋อ สีขาวในดวงตาของโจวเจ๋อหายไปอย่างสิ้นเชิง เผยให้เห็นรูม่านตาเดิมของเขา
“มือของคุณ เอาออกไป” โจวเจ๋อเอ่ย
“โอ๊ะ”
“มือของคุณ เอาออกไป”
“ถ้าฉันไม่ล่ะ”
มือของตำรวจเฉินลูบคลำอยู่บนใบหน้าของโจวเจ๋อต่อไป ดูเหมือนมันจะเพลิดเพลินกับความรู้สึกเช่นนี้
ดูท่าแล้ว ชายชราพูดถูกนิดหน่อย ผู้สูงส่งยืนอยู่บนที่สูงเท่านั้น แต่พวกเขาก็แสร้งทำเป็นตาบอด ทั้งยังมีความคิดและความสนใจหลายอย่างเหมือนพวกมนุษย์ อย่างเช่น เพลิดเพลินไปกับความรู้สึกของผู้ชนะ พวกเขาไม่ได้หลุดพ้นจากความสนุกระดับต่ำอย่างแท้จริง
“ฉันสงสัยมากจริงๆ ทำไมคุณถึงทำลายร่างแยกของฉันที่ทงเฉิง คุณรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร หรือว่า ใครสั่งให้คุณทำเรื่องนี้”
สาเหตุที่ตำรวจเฉินไม่ฆ่าโจวเจ๋อโดยตรง ยังมีอีกจุดหนึ่ง นั่นก็คือมันคิดว่าตัวเองเป็นตัวตน ‘ที่อยู่เหนือกว่า’ ดังนั้นมันคิดว่าคนธรรมดาไม่มาท้าทายตัวมันมั่วซั่วหรอก มันอยากจะขุดให้ถึงราก มันจะกวาดเรียบไม่ให้เหลือ
“คำสั่ง?” โจวเจ๋อแสยะยิ้ม
“ปราณพิฆาตของคุณถูกตีกระจัดกระจายแล้ว ร่างกายก็บาดเจ็บ จนป่านนี้แล้ว หากมองจากมุมมองชีวิตของฉัน ก้มหัว ไม่ใช่เรื่องน่าอับอาย”
“อ้อ งั้นเหรอ”
“ใช่แล้ว ไม่มีอะไรสำคัญยิ่งกว่าชีวิต นี่คือหลักการและเหตุผลที่ฉันสรุปออกมาเป็นเวลานานหลายปีจนนับไม่ถ้วนแล้ว ดังนั้น พูดมาเถอะ พูดสิ่งที่คุณรู้ออกมาทั้งหมด ว่าใครสั่งให้คุณทำเรื่องนี้ ร่างแยกมากมายนับไม่ถ้วนของฉัน ถูกทำลายหนึ่งร่างแยกไม่ถือว่าเป็นการสูญเสียที่ใหญ่มาก แต่ที่ฉันให้ความสนใจ คือความน่าเกรงขามของฉันถูกล่วงเกินหรือไม่”
ขณะที่พูด ตำรวจเฉินมองศีรษะของชายชราที่ถูกตัวเองปิดด้วยขี้ผึ้งเมื่อครู่ “เดิมทีฉันไม่อยากเอาจริงกับเขา แต่เขากลับกำเริบเสิบสานอยากควบคุมฉัน คนต้อยต่ำไร้ค่า กล้าคิดที่จะควบคุมผู้ยิ่งใหญ่อย่างฉัน! เขา สมควรตาย!”
“คุณเป็นสัตว์วิเศษ” โจวเจ๋อกล่าว
“หืม”
“แต่คุณกลับบอกว่าคุณสรุปออกมาแล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่สำคัญกว่าการมีชีวิต”
“ทำไม”
“คุณเป็นสัตว์วิเศษ”
“…”
“คุณเป็นสัตว์วิเศษ”
“…”
“แม่งเอ๊ยคุณเป็นสัตว์วิเศษไง!” สีขาวในดวงตาของโจวเจ๋อเริ่มปรากฏอีกครั้ง “เหอะๆ เขาเป็นคนเลวระยำคนหนึ่ง แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาพูดถูก คุณก็แสร้งทำเป็นตาบอดเหมือนกัน!”
ตำรวจเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เหมือนจะทนไม่ไหวกับการยั่วยุและเสียดสีของโจวเจ๋อ นิ้วมือเตรียมออกแรง แต่ร่างของโจวเจ๋อกลับเกร็ง สองมือจับข้อมือของตำรวจเฉินทันที ก้มหน้า เขี้ยวโผล่ออกมา แล้วกัดเข้าไป!
ตำรวจเฉินยื่นเท้าถีบท้องน้อยของโจวเจ๋อโดยตรง ‘ปึ้ง!’ ทั้งตัวของโจวเจ๋อลอยออกไป ร่วงไปบนพื้นกลิ้งขลุกๆ ติดต่อกัน สีขาวยังคงปกคลุมอยู่ในนัยน์ตา แต่ร่างของโจวเจ๋อกลับชักกระตุกไม่หยุด
ตำรวจเฉินค่อยๆ เดินเข้ามาอีกครั้ง “ความอดทนของฉัน แย่มาก ทำไมฉันต้องเก็บหัวของเขา ก็เพราะไอ้หมอนี่ถึงแม้มันจะเหม็นมาก แต่ค่ายกลที่สร้างขึ้นที่นี่ กลับไม่เลว ถึงแม้จะปิดกั้นการติดต่อและการรับรู้ของฉันกับร่างจริง แต่สามารถทำให้ฉันอิสระมากขึ้นเมื่ออยู่ในนี้ ไม่ว่าทำอะไร ไม่จำเป็นต้องยับยั้งชั่งใจ แต่เวลาของฉัน กลับเหลือไม่มากแล้ว”
‘ปึ้ง!’ ตำรวจเฉินเตะออกไปอีกครั้ง
โจวเจ๋อลอยออกไปอีกแล้ว หลังจากร่วงไปบนพื้น โจวเจ๋อร้องเสียงอู้อี้ออกมาหนึ่งที เขากับชายชราต่อสู้กันให้ตายไปข้างหนึ่ง บาดเจ็บระนาวกันทั้งสองฝ่าย ตอนนี้กลับถูกคนที่อยู่ตรงหน้าเอาเปรียบเสียดื้อๆ
“คุณยังจะดื้อรั้นอีกทำไม จะดื้อรั้นไปทำไม รีบพูดในสิ่งที่คุณควรจะพูดออกมา แล้วรอการตัดสินของฉัน คุณรู้ว่าฉันเป็นใคร และรู้ถึงความแตกต่างระหว่างพวกเรา ใช่ไหม”
โจวเจ๋อเงยหน้าอย่างยากลำบาก พร้อมกับรอยยิ้มเย้ยหยันที่มุมปาก ไร้ซึ่งความหวาดกลัว ไร้ซึ่งความลังเล และไร้ซึ่งความตกใจและเลื่อนลอย เขาเพียงแต่จ้องมองตำรวจเฉิน แล้วเอ่ยว่า “แน่นอนว่าผมรู้ว่าคุณเป็นใคร”
“ในเมื่อรู้แล้ว คุณก็น่าจะรู้จัก…”
“คุณคือเจ้ารุ่งเรือง!”
“…” ตำรวจเฉิน!
……………………………………………………………………….