ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 715 จิ้งจอกอัดอั้นจนบาดเจ็บภายใน
ตอนที่ 715 จิ้งจอกอัดอั้นจนบาดเจ็บภายใน
‘หนังหน้าถูกคุณฉีกลงมาให้หมากินแล้วไม่ใช่เหรอ’ โจวเจ๋อย้อนถามในใจ
‘สุนัข…เฝ้า…บ้าน…’
‘ฟังเบื่อแล้ว จริงๆ นะ คุณไม่ได้ยินสาวใช้ของผมพูดเหรอ เราสองคนใครเป็นสุนัขของใครกันแน่ อ้อใช่แล้ว ครั้งนี้ไม่ถูก เมื่อก่อนหลังจากที่คุณออกมาหนึ่งครั้ง ก็ต้องพักตัวนานครึ่งเดือนไม่ใช่เหรอ แต่นี่เพิ่งสองสามวันเอง ก็ออกมาเตร็ดเตร่ได้แล้ว’
‘ร่าง…ของ…เจ้า…แข็ง…แรง…แล้ว…’
‘โดยทั่วไปคำพูดแบบนี้ ล้วนเป็นผู้หญิงนอนอยู่บนเตียงพูดกับผู้ชาย’
ฝ่ายนั้นเงียบไป โจวเจ๋อจึงไม่กล้าพูดยั่วยุต่อ ถ้าหากอิ๋งโกวหมดความอดทน แล้ว ‘ผ่าท้อง’ ตัวเองไปด้วย คงสนุกน่าดู
ตอนที่อยู่เสฉวนช่วงก่อนหน้านี้ เด็กผู้ชายอาศัยจังหวะตอนที่อิ๋งโกวนอนหลับ เล่าเรื่องในอดีตให้โจวเจ๋อฟัง บอกว่าอิ๋งโกวบังคับให้เขาฆ่าตัวเอง โจวเจ๋อฟังแล้วรู้สึกกลัว ที่แท้ตัวเองอันตรายขนาดนี้เชียว!
แต่สิ่งที่ทำให้โจวเจ๋อแปลกใจคือ อิ๋งโกวดูเหมือนจะมองข้ามคำพูดแซวก่อนหน้า และไม่มีวี่แววว่าจะโกรธแต่อย่างใด เพียงพูดตามตรงว่า ‘ลูก…แก้ว…นั่น…สั่ง…ให้…พ่อ…ครัว…ไป…หา…’
‘เป็นสิ่งของที่ชายชราคนนั้นทิ้งไว้จริงๆ เหรอ เขาคือสิ่งใดกันแน่’
ชายชราเป็น ‘ตัว’ อะไรกัน เป็นสิ่งที่โจวเจ๋อสงสัยมากมาตลอด
‘อาวุธ…วิเศษ…’
‘อาวุธวิเศษ? อาวุธวิเศษสุดยอดขนาดนี้เชียว’
ชายชราถูกฆ่าแล้วยังกลับมาได้ ตัวเขาเองก็กลุ้มใจที่ตัวเองไม่ตาย จริงๆ แล้วได้อธิบายบางสิ่งชัดเจนแล้ว อย่างเช่น ชีวิตของเขา จริงๆ แล้วไม่ใช่ของตัวเขาเลยด้วยซ้ำ การหายไปและการปรากฏตัวของเขา ก็ไม่ใช่ตัวเขาที่กำลังควบคุมอยู่
‘อาวุธ…เซียน…’
‘อาวุธเซียน!’ โจวเจ๋อพูดสองสามคำนี้อยู่เงียบๆ ในใจ คำว่า ‘เซียน’ คำนี้ โจวเจ๋อได้สัมผัสอยู่ไม่น้อย สิ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับมันแม้แค่นิดเดียว ล้วนมีความพิเศษเฉพาะตัว และน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
‘คนที่ชื่อหลี่ซิ่วเฉิง กับแม่นางไป๋คนนั้น เกือบจะฆ่าผมตายแล้ว’ โจวเจ๋อนึกเรื่องนั้นขึ้นมาได้ จึงระบายกับอิ๋งโกวสักหน่อย
คุณมีหุ่นมากมายจัดอยู่ในส่วนลึกของจิตวิญญาณ แต่ปรากฏว่าตอนที่คุณหลับไปหุ่นพวกนี้กลับคิดก่อกบฏ
ความผิดนี้ คุณต้องรับแทน
‘ข้า…ก็ว่า…อยู่…ทำ…ไม…มี…ภู…เขา…เยอะขึ้น…’
‘ชายชราคนนั้น คราวที่แล้วคุณมองไม่ออกเหรอว่าเขาเป็นอะไร’
‘มอง…ออก…แล้ว…จะ…ทำ…อะ…ไร…ได้…’ เจ้าในตอนนั้นใหญ่เท่ากับมด ยังจะมีความคิดอย่างอื่นได้อย่างไร
ประโยคนี้ ไม่พูดออกมา แต่ความหมาย ทุกคนล้วนเข้าใจ
‘แต่ผมต้องพักรักษาตัวระยะหนึ่ง ครั้งนี้ทุกคนบาดเจ็บหนัก จำเป็นต้องฟื้นฟูพลังชีวิตต้นกำเนิดช่วงเวลาหนึ่ง’
‘พวก…เศษ…สวะ…ทั้งนั้น…’
คนมากมายในร้านหนังสือ อิ๋งโกวถูกใจเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นก็คือนักพรตเฒ่า แม้แต่โจวเจ๋อก็ไม่อยู่ในลิสต์เพราะโจวเจ๋อเป็น ‘สุนัขเฝ้าบ้าน’ ไม่นับว่าเป็นคน
ในสายตาของอิ๋งโกว โจวเจ๋อกลัวความจน ดังนั้นจึงคุ้นชินกับการเก็บขยะกลับมาที่บ้าน
‘คุณพักผ่อนต่อเถอะ จะไปเสฉวนตามหาคนที่ทำร้ายคุณเจ็บแสบมากที่สุดก่อน หรือว่าไปหาของของชายชราคนนี้ก่อน’
‘เส…ฉวน…’
‘โอเค แต่ต้องรอผมพักผ่อนให้หายดีก่อนนะ ไม่อย่างนั้นคุณไม่สะดวก ผมก็ไม่สะดวก’
‘ตก…ลง…’
‘อย่างนั้นคุณนอนหลับต่อเถอะ’ โจวเจ๋อลืมตา ยื่นมือลูบเส้นผมของอิงอิงเบาๆ แล้วนำมาเสียดสีกันที่ปลายนิ้ว
แม่นางไป๋ทำดีกับอิงอิงมากจริงๆ อย่างน้อยก่อนที่จะใช้ประโยชน์เธอ ทำดีมาก ดังนั้น เธอถึงได้สวยขนาดนี้ ทุกส่วนล้วนสวยงามและสมบูรณ์แบบ
“อ้อใช่” จู่ๆ โจวเจ๋อก็นึกอะไรออก จึงถามว่า “จิ้งจอกตัวนั้น ใครเป็นคนดูแล”
“ถูกหลินเข่อส่งกลับบ้านแล้ว ไม่ได้อยู่ในร้านหนังสือ”
…
ข้างโซฟาในห้องรับแขก มีกล่องใบหนึ่งเพิ่มขึ้นมา ด้านล่างรองด้วยผ้าห่มหนึ่งชั้น จิ้งจอกขาวตัวหนึ่งกำลังนอนอยู่ในนั้น
หวังเคอนั่งอยู่บนโซฟา กำลังดูโทรทัศน์ ลูกสาวอยู่ที่ร้านหนังสือ ยังไม่กลับมา บอกว่าจะอยู่เล่นที่นั่นสองสามวันหวังเคอจึงตกลง
ความสัมพันธ์พ่อลูกของพวกเขา จริงๆ แล้วมีหลายครั้งที่ต้องเก็บซ่อนความรู้ใจกันระหว่างทั้งสองฝ่าย ความเข้าอกเข้าใจกันและความร่วมมือกันระหว่างคนทั้งสอง ไม่สามารถบังคับควบคุมได้
หวังเคอเข้าใจในจุดนี้ ภรรยาอาบน้ำขึ้นไปนอนข้างบนแล้ว ดูเหมือนเธอจะเป็นหวัดนิดหน่อย ในห้องรับแขก มีเพียงหวังเคอกับจิ้งจอกตัวนี้
จิ้งจอกถูกลูกสาวส่งกลับมา หลังจากส่งกลับมาบ้านแล้วเธอจึงออกไป แต่เห็นได้ชัดว่า ถึงแม้ลูกสาวจะไม่พูด แต่ไม่ได้ตั้งใจส่งอาหารป่ากลับบ้านแน่นอน
อีกอย่าง จิ้งจอกตัวนี้ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไมถึงสลบไม่ได้สติ แต่ขนกลับสวยเป็นประกาย น่ารักมากจริงๆ หากจะถลกหนังของมัน ยากที่จะลงมือจริงๆ
ภรรยาของหวังเคอเป็นคนที่ชอบเลี้ยงสัตว์ตัวเล็ก เมื่อก่อนตอนที่เพิ่งอยู่ด้วยกันสองคน เคยเลี้ยงสุนัขพันธุ์โกลเด้นรีทรีฟเวอร์หนึ่งตัว หลังจากโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ตายไป ทั้งสองคนเสียใจอยู่นานมาก
คนที่เคยเลี้ยงสัตว์อย่างแท้จริงไม่ใช่พวกที่เลี้ยงเล่นๆ น่าจะเคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้ หลังจากเลี้ยงสัตว์นานแล้ว ไม่มีความแตกต่างจากคนในครอบครัวเลยจริงๆ แต่อายุขัยของสัตว์โดยทั่วไปน้อยกว่าคนมาก ดังนั้นตอนที่พวกมันตายเหมือนกับสูญเสียสมาชิกในครอบครัวของตัวเองจริงๆ
ช่วงที่รู้สึกเจ็บปวดเสียใจ มีเพียงคนที่เคยประสบมาก่อนถึงจะเข้าใจ ต่อจากนั้นจึงไม่กล้าเลี้ยงสัตว์อีก
แต่สิ่งที่หวังเคอแปลกใจคือ ภรรยาของตัวเองไม่ค่อยสนใจจิ้งจอกตัวนี้เท่าไร ได้แต่มองสองสามทีแล้วก็ไม่สนใจมันอีก การจัดกล่องและผ้าห่มพวกนี้ หวังเคอเป็นคนทำด้วยตัวเอง ในโทรทัศน์กำลังเสนอข่าวช่วงเย็น หวังเคอดูข่าวพลางเหลือบตามองกล่องที่อยู่ข้างตัวเองสองทีเป็นระยะ
บนตัวของจิ้งจอกมีกลิ่นเฉพาะตัว สัตว์ส่วนใหญ่จะมีกลิ่นสาบ แต่ตัวนี้ไม่เหมือนกัน นอกจากมันไม่มีกลิ่นเหม็นแล้ว ตัวยังส่งกลิ่นหอมเหมือนจันทน์หอม ซึ่งน่าดมเป็นอย่างมาก
หวังเคอหยิบรีโมตขึ้นมา กดเปลี่ยนสองสามช่อง เขากะว่าอีกสักพักจะไปอาบน้ำและเข้านอน แต่ใครจะรู้ว่ายิ่งนั่งก็ยิ่งตื่นตัว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาจึงไปที่ห้องทำงาน หยิบเคสของคนไข้สองสามเคสแล้วเดินกลับมาที่ห้องรับแขก ถือปากกาด้ามหนึ่งอยู่ในมือ และเริ่มทำงานต่อ
อ่านไปอ่านมา ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร หวังเคอจึงบิดขี้เกียจ เอนตัวพิงไปด้านหลัง แล้วค่อยๆ นอนหลับไป
เขาฝันดีเป็นอย่างมาก ในความฝัน เขาพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในสถานที่ที่เต็มไปด้วยดอกไม้สวยงามหลากสีสันบนภูเขา ผีเสื้อโบยบิน ดอกไม้ร่วงพราว เหมือนอยู่ในดินแดนสุขาวดี เขาเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งนั่งอยู่ริมลำธาร แช่เท้าเปล่าอยู่ในน้ำ พร้อมกับตีผิวน้ำเล่นไปเรื่อยเปื่อย มีความเป็นผู้ใหญ่ที่แฝงไปด้วยความซุกซน น่ารักแต่มีเสน่ห์แพรวพราว
หวังเคอไม่ได้วิ่งเข้าไป ในความเป็นจริง ภาพนี้ ทิวทัศน์แบบนี้ อย่าว่าแต่ความฝันเลย แม้แต่ในชีวิตจริง ไม่ว่าผู้ชายคนไหนได้เห็น ยกเว้นคนกลุ่มน้อยไม่กี่คน โดยทั่วไปยากที่จะอยู่เฉย
แต่หวังเคอไม่เสียแรงที่โตมากับโจวเจ๋อ ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะนั่งยองๆ อยู่ตรงนั้น ใช้ดวงตามองผู้หญิงสวยคนนั้น แต่ก็แค่มองเท่านั้น
เท้าของผู้หญิงแกว่งไปมาจนเกือบจะเป็นตะคริวแล้ว ใบหน้าของผู้หญิงยิ้มแข็งแล้ว ก้นของผู้หญิงเกือบจะโดนก้อนหินที่อยู่ใต้ร่างสีจนถลอกแล้ว แต่แมลงเม่าตัวนั้น ยังไม่คิดที่จะบินเข้ากองไฟ
ผู้หญิงลุกขึ้น เดินเยื้องย่างเข้ามาโดยตรง เธอเดินเท้าเปล่า นิ้วเท้าแวววาว บนตัวคลุมด้วยเสื้อคลุมไหล่ พลิ้วไหวไปตามสายลม
นางสนมต๋าจี่ของโจ้วหวัง หยางกุ้ยเฟยของจักรพรรดิถังเสวียนจง ฉินเข่อชิงในความฝันในหอแดง คงจะบรรยายมาตรฐานความงามไว้ประมาณนี้
ผู้หญิงเดินมาตรงหน้าหวังเคอ แต่หวังเคอยังคงมองเท่านั้น และขมวดคิ้วเป็นบางครั้ง
ผู้หญิงโน้มตัว โชว์โกดังอาหารขนาดใหญ่ของเด็กทารกตรงหน้าอกตัวเอง
“คุณกำลังคิดอะไรอยู่” ผู้หญิงถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“นี่คือความฝันใช่ไหม” หวังเคอถาม
“ใช่แล้ว นี่คือความฝัน ความฝันที่อิสระเสรี
ผู้หญิงลุกขึ้น หมุนตัวอยู่ตรงหน้าหวังเคอ แสดงความงดงามของตัวเองให้ประจักษ์
“ในความฝัน ไม่ว่าจะทำอะไร ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ ทุกอย่าง ล้วนเป็นอิสระ กฎเกณฑ์ทุกอย่าง ก็ไม่มีเช่นกัน”
หวังเคอพยักหน้า เอ่ยว่า “ผมกำลังคิดว่า จิตใจของผมช่วงนี้น่าจะมีปัญหาหรือเปล่า หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ในความฝัน ได้เจอผู้หญิงสวย มีความหมายว่าอะไรกันแน่”
หวังเคอยื่นมือประคองกรอบแว่นขอบทองของตัวเอง เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
“คุณไม่อยาก ถือโอกาสนี้ ทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งกว่านี้เหรอ” ผู้หญิงวางสองมือไปด้านล่าง เริ่มลูบคลำบนร่างของตัวเอง พลางแลบลิ้นออกมาเลียไปทั่วริมฝีปาก
หวังเคอกลับส่ายหน้ายืนกราน เอ่ยว่า “ทุกอย่างเป็นของปลอม จะมีความหมายอะไร”
“ถ้าหากฉันบอกว่า ทั้งหมดนี้สามารถกลายเป็นของจริงได้ล่ะ” ผู้หญิงถามต่อ คุณอยากได้ของจริง ได้เลย!
คุณคิดว่าฉันอยากเล่นของปลอมเหรอ!
หวังเคอลังเลเล็กน้อย พูดว่า “ผมแต่งงานแล้ว”
“ฉันรู้ แต่ฉันไม่ขอชื่อเสียงไม่ขอลาภยศ ขอแค่…”
“เดี๋ยวก่อน” หวังเคอตัดบทของผู้หญิง ยื่นมือแตะไปที่หน้าผากของตัวเองเบาๆ “ไม่ใช่ นี่ไม่เหมือนความฝัน เหมือนถูกสะกดจิต”
เขา เขารู้ตัวแล้ว จิตแพทย์เก่งกาจขนาดนี้เชียวเหรอ!
หวังเคอลุกขึ้น ใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของตัวเองไม่หยุด “อย่างนั้นก็ตื่นได้แล้ว เวลาสะกดจิตนานเกินไป จะไม่ดีต่อสุขภาพร่างกาย”
ทันใดนั้นลมจึงพัดขึ้นมา ทุกสิ่งรอบตัวเริ่มบิดเบี้ยว และสิ่งที่บิดเบี้ยวไปด้วยกัน ยังมีใบหน้าอันงดงามเหมือนนางล่มเมืองของผู้หญิงคนนั้น
“อย่าไป…อย่าไป…” ผู้หญิงตะโกนเสียงสูง ขอร้องอ้อนวอน
แต่หวังเคอกลับไม่สนใจ ตรงกันข้ามกลับพูดอย่างสงสัย “ครั้งหน้าห้ามดูเคสผู้ป่วยแล้วนอนอีก มันเหนื่อยเกินไป”
…
วินาทีต่อมา หวังเคอลืมตา เคสผู้ป่วยหนีบอยู่ในมือของเขา และเขาเมื่อครู่น่าจะนอนหลับไป
หวังเคอบิดขี้เกียจ ยืดเส้นยืดสาย จงใจมองจิ้งจอกขาวที่อยู่ในกล่องข้างๆ เมื่อเห็นมันนอนนิ่งอยู่ในนั้น หน้าอกกระเพื่อมขึ้นลงเล็กน้อยตามจังหวะการหายใจ เขาจึงหัวเราะ แล้วลุกขึ้นไปอาบน้ำที่ห้องน้ำ
แต่ที่เขาไม่ได้สังเกตคือ ตอนที่เขาลุกขึ้นเดินออกไปได้ไม่นาน จิ้งจอกขาวในกล่องมีเลือดไหลออกมาจากในปากอย่างช้าๆ นี่คืออัดอั้นจนบาดเจ็บภายใน…
……………………………………………………………………….