ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 716 เถ้าแก่เนี้ยสุดยอด!
ตอนที่ 716 เถ้าแก่เนี้ยสุดยอด!
เช้าวันรุ่งขึ้น รอโจวเจ๋อตื่นขึ้นมาบอกว่าตัวเองไม่นอนต่อแล้ว อิงอิงจึงลงมาซักผ้าปูที่นอน เถ้าแก่เป็นคนรักความสะอาด ของใช้บนเตียงต้องสะอาดหมดจด โดยเฉพาะตอนนี้เถ้าแก่นอนซมอยู่บนเตียง ดังนั้นจึงต้องระวังเป็นพิเศษ
งานเหล่านี้ อิงอิงไม่เคยรู้สึกยุ่งยากรำคาญใจเลยสักนิด กระทั่งรู้สึกว่าความอนามัยของเถ้าแก่สำหรับเธอแล้วไม่ใช่ภาระ แต่เป็นความสุข
เสื้อผ้าและของใช้ติดตัวของเถ้าแก่รวมทั้งการทำความสะอาดห้องนอน รวมไปถึงหนังสือพิมพ์และกาแฟ สิ่งเหล่านี้เถ้าแก่เคยบอกว่าสั่งให้คนอื่นทำเขารู้สึกไม่สบายใจ มีเพียงเธอทำเท่านั้นเขาถึงจะรู้สึกว่าสะอาด
อิงอิงชอบคำพูดเหล่านี้เป็นอย่างมาก นี่ทำให้เธอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในร้านหนังสือ เป็นหนึ่งเดียวไม่เหมือนใครในสายตาของเถ้าแก่
อืม แต่สิ่งที่อิงอิงไม่รู้คือ จริงๆ แล้วในครอบครัวส่วนใหญ่หลังจากที่แต่งงานแล้วผู้ชายจะแอบขี้เกียจแล้วหลอกภรรยาของตัวเองให้ทำงานบ้านแบบนี้แหละ
เธอเพิ่งใส่ผ้าปูเตียงเข้าไปในเครื่องซักผ้า ประตูห้องน้ำก็ถูกเคาะพอดี เมื่ออิงอิงเปิดประตู ก็เห็นเดดพูลยืนอยู่หน้าประตู เดดพูลถือตะกร้าใบหนึ่งอยู่ในมือ มีผลไม้ใส่อยู่ข้างใน ดูเหมือนเพิ่งจะเด็ดลงมา เพราะยังมีน้ำค้างอยู่บนนั้น
เขาชี้ไปที่ตัวเอง แล้วชี้ไปที่ผลไม้ที่อยู่ในตะกร้า จากนั้นทำท่า ‘กิน’
อิงอิงรับตะกร้าผลไม้มา แล้วพูดด้วยความสงสัยว่า “ผลไม้พวกนี้ เจ้าเป็นคนปลูกเองเหรอ”
เดดพูลหัวเราะเหอๆๆ พลางพยักหน้า อันที่จริง เดดพูลพูดได้ เพราะเมื่อก่อนตอนที่ทนายอันสั่งให้เขาดูการ์ตูนญี่ปุ่น เขามักจะพูดโพล่งภาษาญี่ปุ่นออกมาสองสามประโยค แต่ดูเหมือนเวลาปกติเขาไม่ค่อยชอบพูดจา โดยเฉพาะหลังจากหญิงสาวตัวดำนำเขาปลูกลงไป เขายิ่งเงียบมากกว่าเดิม
อิงอิงมองผลไม้ พลางทอดถอนใจ ต่อไปหากเปิดร้านหนังสือต่อไม่ไหว เปลี่ยนเป็นร้านผลไม้ไปเลยเถอะ เพราะผลไม้พวกนี้เป็นผลไม้นอกฤดูกาล และไม่เห็นหญิงสาวตัวดำกับเดดพูลสร้างโรงเรือนอะไรข้างสวนผัก
แต่คาดว่าเถ้าแก่ของตัวเองคงจะไม่เห็นด้วย ถ้าทุกคนช่วยกันขายผลไม้ตะโกนเสียงดัง เถ้าแก่คงไม่สามารถนอนอาบแดดอ่านหนังสือพิมพ์ได้อย่างสุขสงบแน่นอน
เมื่อลองสวมความคิดของเถ้าแก่แล้ว ร้านหนังสือถึงแม้จะขาดทุน แต่ก็มีหน้ามีตาสูง!
“อย่างนั้นก็ ขอบใจนะ” อิงอิงเอ่ย
เดดพูลพยักหน้า หัวเราะเหอะๆ อย่างเซ่อซ่า จากนั้นชี้ไปที่แขนของตัวเอง แขนของเขายังไม่งอกยาวออกมา แต่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างนิดหน่อย
พลังฟื้นฟูร่างกายของเขาเป็นที่น่าตกใจอย่างยิ่ง นี่คือคุณลักษณะพิเศษของเขาที่มีมานานแล้ว
“ความหมายของเจ้าคือ รอเถ้าแก่หายดีแล้ว เจ้าจะให้แขนกับเถ้าแก่”
เดดพูลพยักหน้า ตบหน้าอกของตัวเอง
ทำไมถึงว่าง่ายขนาดนี้
ทำไมถึงเป็นเด็กดีขนาดนี้
อิงอิงยังจำได้ตอนที่เดดพูลช่วยฟื้นฟูแขนของโจวเจ๋อให้กลับมามีสภาพเดิมก่อนหน้านั้น ตัวเธอยืนเฝ้าระวังอยู่ตลอดเวลา และยังกังวลว่าเดดพูลจู่ๆ จะคิดไม่ซื่อทำให้ไม่เป็นผลดีกับเถ้าแก่หรือไม่
เดดพูลเหมือนจะมองไม่เห็นความสงสัยของในดวงตาของอิงอิง ชี้ไปที่สวนผักที่อยู่ถัดไป แล้วทำมือท่านอนหลับจากนั้นจึงหมุนตัวเดินกลับไป
อันที่จริง สำหรับเดดพูล โจวเจ๋อก็ไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าอีกฝ่ายจะไม่หักหลัง แน่นอนว่า โจวเจ๋อไม่ไร้เดียงสาคิดว่า ‘ความสัมพันธ์พ่อลูก’ จะยั่งยืนมั่นคงตลอดไป
ดังนั้นครั้งที่แล้ว เขาจึงถ่ายทอดอักขระให้เดดพูลนิดหน่อย ช่วยพัฒนาให้เขา ความสัมพันธ์อย่างอื่นล้วนมีการเปลี่ยนแปลง มีเพียงสายสัมพันธ์ของผลประโยชน์เท่านั้นถึงจะยั่งยืนนาน
อิงอิงถือตะกร้าผลไม้ ไม่ได้กลับขึ้นไปชั้นบน แต่เดินไปที่ร้านขายยาข้างๆ ตอนนี้เถ้าแก่แม้แต่ข้าวยังกินไม่ได้ อย่าว่าแต่ผลไม้เลย ผลไม้ถูกอิงอิงแบ่งให้หมอและพยาบาลในร้านขายยา ฟางฟางก็ไม่เกรงใจ หยิบแอปเปิลสองลูกไปล้างแล้วกัดทันที แถมยังชมไม่หยุดว่าแอปเปิลหวานกรอบสดชื่นมาก ถามอิงอิงว่าซื้อมาจากที่ไหน
คำถามนี้ ตอบลำบาก อิงอิงจึงมองไปที่อาการของพวกเยวี่ยหยาทั้งสามคน สัญญาณทางกายภาพโดยพื้นฐานฟื้นฟูกลับมาแล้ว ทั้งสามคนทยอยตื่นขึ้นมา แต่ไม่ช้าก็สลบอีก
คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักพักเพื่อค่อยๆ ปรับตัว ไม่ว่าอย่างไรถูกชายชราคนนั้นส่งเข้าไปในห้วงเวลาหนึ่ง ความเสียหายทางจิตใจที่ทุกคนได้รับอาจจะรุนแรงกว่าทางร่างกาย แต่ทุกคนเป็นยมทูต จิตใจไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น แค่ต้องใช้เวลาวันสองวันเพื่อพักฟื้นตัว
แต่สิ่งที่ทำให้อิงอิงรู้สึกสงสัยอยากรู้คือพวกโกวซินทั้งสามคน สามคนนี้อยู่ในห้องคนไข้ห้องหนึ่ง ผิวหนังที่ไหม้เกรียมเริ่มหลุดลอกแล้ว ผิวหนังชั้นใหม่งอกออกมา ทั้งสามคนนี้ ดวงแข็งชะมัด
แต่ดวงแข็งแบบนี้ คนทั่วไปก็ไม่อยากยอมรับ ถูกซัดจนพิการ แล้วโดนระเบิดกระเด็น จากนั้นกว่าจะรักษาแผลให้หายดีก็ไม่ง่าย แต่กลับต้องโดนเผาจนเกือบกลายเป็นเถ้าถ่านอีก หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น จิตใจอาจจะพังทลายไปนานแล้วฆ่าตัวตายไปเลย
ตอนแรกที่มามีความมั่นใจกระหยิ่มยิ้มย่อง คิดว่าตัวเองเป็นบุตรของความโชคดี จากนั้นเพิ่งจะอวดเก่งเสร็จ ก็มานอนอยู่ที่นี่หนึ่งถึงสองเดือนแล้ว ตอนที่พวกเขาตื่นขึ้นมา ยังต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลเป็นจำนวนเงินที่น่ากลัวมากอีกด้วย
เปิดร้านขายยามาก็นานแล้ว พวกเขานับว่าเป็นรายได้ก้อนใหญ่ที่สุดแล้ว ปีนี้ร้านขายยาจะเปลี่ยนจากขาดทุนเป็นกำไรได้หรือไม่ คงต้องฝากความหวังไว้ที่พวกเขาสามคนนี้
“พวกเขาสามคนถ้าหากมีโอกาสที่จะตื่นขึ้นมาก็รีบรายงานด้วยนะ อย่ามัวรีรอ” อิงอิงพูดเตือนฟางฟาง
“ค่ะ เถ้าแก่เนี้ย” ฟางฟางตอบโดยตรง
อิงอิงตาเป็นประกายแวบหนึ่ง แล้วพูดต่อว่า “ช่วงนี้ทุกคนเหนื่อยหน่อยนะ สิ้นปีให้โบนัสเพิ่มอีกเท่า!”
“ขอบคุณเถ้าแก่เนี้ย!”
“เถ้าแก่เนี้ยใจดีจริงๆ!”
พวกหมอและพยาบาลในร้านขายยาตะโกนพร้อมกัน
โอ้ว!!!!!!!
“นอกจากเงินโบนัสแล้ว ยังมีของขวัญสิ้นปีมอบให้อีก วางใจได้ มีเซอร์ไพร์สแน่นอน!”
“ว้าว เถ้าแก่เนี้ยสุดยอด!”
“เถ้าแก่เนี้ยใจกว้างสุดๆ!”
“เถ้าแก่เนี้ยมีหน้ามีตาในสังคมสุดๆ!”
…
“ทำไมดีใจขนาดนี้ เจอเรื่องน่ายินดีอะไรเหรอ” นักพรตเฒ่าลงมาข้างล่างกำลังถือแก้วน้ำดื่มน้ำ เห็นอิงอิงเดินกลับมาจากร้านขายยาข้างๆ พอดี
“ไม่มีอะไร”
“ฮิๆ ไม่น่าใช่ ต้องมีอะไรแน่นอน” นักพรตเฒ่าชี้ไปที่ใบหน้าของอิงอิง “ยิ้มหน้าบานยิ่งกว่าดอกไม้ขนาดนี้”
“เจ้าลิงล่ะ เป็นยังไงบ้าง” อิงอิงถาม
“ดูเหมือนไข้จะเริ่มลดแล้ว ถือว่าโล่งใจได้เสียที” นักพรตเฒ่าแสดงใบหน้าดีใจ ชาตินี้เขาช่วยคนมาเยอะ แต่พูดจริงๆ นะ คนที่ทำให้เขายอมทุ่มเททั้งหัวใจ ปฏิบัติเหมือนญาติสนิทแท้ๆ ก็มีแค่เจ้าลิงน้อยเท่านั้น
เขามองเจ้าลิงน้อยเป็นเหมือนหลานชายคนหนึ่ง เจ้าลิงก็เป็นเด็กดี และมีความกตัญญูรู้คุณ ดังนั้น บางครั้งมนุษย์ก็สู้สัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่งไม่ได้
อิงอิงเดินไปที่ชั้นวางหนังสือ เธอเริ่มหาหนังสือ
“หาอะไร” นักพรตเฒ่าถาม
“ตำราอาหาร!”
‘พรืด!’ นักพรตเฒ่าพ่นน้ำออกมาหนึ่งคำ
“ทำไมเหรอ” อิงอิงหันมามองนักพรตเฒ่าด้วยแววตาเย็นชา เขาทำได้ ข้าจะทำไม่ได้เหรอ
“ข้างล่างชั้นวางหนังสือด้านหลัง คือตำราอาหาร” นักพรตเฒ่ากล่าว
“อ้อ ขอบคุณ” อิงอิงหยิบตำราอาหารขึ้นมา จากนั้นเตรียมจะเดินเข้าไปในห้องครัว
“เอ่อ ข้าว่านะ คงไม่คิดจะทำอาหารจริงๆ ใช่ไหม” เดิมทีนักพรตเฒ่าไม่กล้าถามคำถามนี้ แต่เพื่อความปลอดภัยของอาหารตัวเอง ควรทราบว่า ผีดิบไม่กินข้าว พวกมันไม่กลัวว่าจะโดนพิษ ดังนั้น ผีดิบตัวหนึ่งที่ไม่เคยทำอาหารมาก่อนจะทำอาหารให้กิน…ในใจของนักพรตเฒ่ารู้สึกกังวลไม่สบายใจจริงๆ
“สั่งอาหารมาจากข้างนอกสิ ข้าจะฝึกทำก่อนเฉยๆ”
‘ฮู่ว…’ นักพรตเฒ่าถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก
“ทำเสร็จแล้วจะให้เจ้าช่วยข้าชิมด้วย และขอคำแนะนำ”
“…” นักพรตเฒ่า
แต่อิงอิงฉุกคิดได้ว่า ร่างกายของนักพรตเฒ่ามีสุขภาพแข็งแรงมาตลอด กินอะไรก็ไม่น่ามีปัญหาถึงจะถูก ใช่แล้ว เอาอย่างนี้แหละ!
อิงอิงหยิบพลั่วขึ้นมา มองเครื่องครัวที่อยู่ตรงหน้า ตัวเองดูเหมือนจะไม่โดนลวกมือ แล้วยังจำเป็นต้องใช้พลั่วด้วยเหรอ ใช้มือผัดผักอย่างไรนะ ในตำราอาหารบอกว่าต้องใช้ไฟแรง ไฟแรงมันเท่าไร อิงอิงเปิดเตาแก๊ส จากนั้นวางมืออังเปลวไฟเพื่อสัมผัสอุณหภูมิ แบบนี้ถือว่าไฟแรงไหม ดูเหมือนจะไม่ร้อนเท่าไร
‘ฮัดเช้ย!’ นักพรตเฒ่าจาม หยิบเก๋ากี้ขึ้นมา แล้วใส่ลงไปในแก้วเก็บอุณหภูมิ จากนั้นเติมน้ำร้อน เขย่าแก้วเล็กน้อย นักพรตเฒ่าบิดขี้เกียจ เขาแค่ลงมาเติมน้ำ อีกสักพักต้องขึ้นไปดูแลเจ้าลิงน้อยต่อ
ไลฟ์สดของนักพรตเฒ่าไม่ได้เปิดมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่เขาได้ย้ายฐานไปทำวิดีโอสั้นแทน ในนั้นมีแฟนคลับมากมายนับไม่ถ้วน หลังจากได้รับความนิยมสูง ก็รับโฆษณาสองสามตัว ตอนนี้มีกระแสก็เท่ากับมีเงินเยอะ กระแสไม่สามารถประเมินค่าได้
ดังนั้น ไม่มีกระแสก็ต้องสร้างกระแสขึ้นมา ไม่ว่าอย่างไรนักพรตเฒ่ารู้สึกว่าตอนนี้มีหนุ่มวัยละอ่อนมากมายเขาไม่ค่อยคุ้นหน้า ไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ความนิยมในเวยป๋อดูเหมือนจะสูงมาก
เหอะๆ ไม่บ่น ไม่นินทา ไม่วิจารณ์ ถึงอย่างไรเส้นทางเดินของพวกเขากับตัวเองไม่เหมือนกัน ข้าวบ้านใครก็กินข้าวบ้านนั้น
นักพรตเฒ่าหยิบโทรศัพท์ออกมา เลื่อนหน้าจอ ในระบบหลังบ้านมีข้อความจากผู้ชมมากมายเร่งให้ตัวเองอัปเดตวิดีโอใหม่ แต่เจ้าลิงอยู่ในสภาพนี้ จะถ่ายวิดีโออย่างไร
ถ่ายเจ้าลิงนอนป่วย คาดว่าแฟนคลับกลุ่มนี้คงแตกตื่นยกใหญ่! ไม่ใช่สิ ดูเหมือนจะสร้างกระแสได้ บอกว่าเจ้าลิงป่วยหนัก ต้องการเงินสนับสนุนค่าผ่าตัด เพื่อให้ทุกคนบริจาค เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ นักพรตเฒ่าส่ายหน้าทันที เรื่องไร้สาระแบบนี้ อย่าทำ
เมื่อลองคิดดูแล้ว นักพรตเฒ่าจึงโพสต์ประกาศ บอกว่าช่วงนี้ตัวเองพาเจ้าลิงขึ้นภูเขาไปค้นหาธรรมชาติ ไม่สามารถอัปเดตวิดีโอใหม่ได้ชั่วคราว ถ้าหากทุกคนอยากดูเจ้าลิง สามารถติดตามภาพยนตร์ที่ถ่ายทำร่วมกันของครึ่งปีหลังเพื่อคลายเหงาก่อน
เมื่อโพสต์ข้อความแล้ว นักพรตเฒ่าจึงหยิบแก้วเก็บอุณหภูมิเตรียมเดินขึ้นชั้นบน ทีวีจอแอลอีดีที่แขวนอยู่บนเคาน์เตอร์กำลังออกอากาศข่าวทีซีทีวี
“รานงานข่าว เมื่อวานตอนเช้ามืด มหาวิทยาลัยการแพทย์ทงเฉิงเกิดเหตุการณ์นักศึกษากระโดดตึกฆ่าตัวตาย นักศึกษาที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายขึ้นมาบนดาดฟ้าของอาคารเรียนยามวิกาล เป็นผู้ชาย ปีนี้อายุยี่สิบปี เป็นนักศึกษาชั้นปีที่สอง มาจากครอบครัวธรรมดาในเขตภูเขา XX ตอนนี้สาเหตุที่กระโดดตึกฆ่าตัวตายยังอยู่ระหว่างการสืบสวน ฉันนักข่าวไถจะติดตามมารายงานให้คุณ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กรณีการฆ่าตัวตายในรั้วมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นเป็นบางครั้ง ปัญหาเรื่องการเสริมสร้างจิตใจของนักศึกษาในมหาวิทยาลัยได้รับความสนใจจากสังคมอย่างต่อเนื่อง…”
‘เพล้ง!’ แก้วเก็บอุณหภูมิของนักพรตเฒ่าลื่นหล่นจากมือของเขา กระแทกบนพื้น เก๋ากี้กระเด็นไปทั่วพื้น…
……………………………………………………………………….