ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 761 ต่อยมัน!
ตอนที่ 761 ต่อยมัน!
“โอ้ว จบเรื่องแล้ว บ้านก็ถล่มลงมา เหอะๆ ทำไมพวกคุณไม่รอผมล่ะ รอผมมาแล้วเรื่องราวทุกอย่างก็แก้ไขได้แล้วไม่ใช่เหรอ มีหรือจะตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้” ทนายอันรู้สึกว่า เรื่องที่มีความสุขมากที่สุดในโลกก็คือเป็นตำรวจในภาพยนตร์ฮ่องกง
หลังจากตัวเอกกับตัวร้ายไล่ฆ่ากันสะเทือนฟ้าสะเทือนดินเรียบร้อยแล้ว ตำรวจฮ่องกงก็ปรากฏตัวถือโทรโข่ง ตะโกนว่า ‘พวกเราคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ พวกคุณถูกล้อมหมดแล้ว…’ จากนั้นผู้กำกับตะโกนว่า ‘คัต’ แล้วทุกคนจึงไปรับข้าวกล่องด้วยกัน
ดูสิ ตอนที่รถเพิ่งขับเข้ามารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของพลังต่อสู้ที่น่ากลัว พอตัวเขามาถึง ทุกอย่างสงบลงแล้ว สบายไร้กังวล หากจะพูดให้สวยหน่อย ฮิๆ มีความสุข!
เพียงแต่ความสงบสุขอยู่ได้ไม่นาน ทนายอันก็เห็นชายชราจมูกแดงกระโดดออกมาพลางหายใจหอบแฮก แล้วพุ่งมาหาตัวเขาโดยตรง!
“โอ้ คุณคือ…นายคือ…ไอ้ชาติชั่ว!”
ผู้คนเวลาที่เจ็บแค้นถึงขีดสุดแล้ว มักจะพูดประโยคหนึ่ง ‘ต่อให้มันกลายเป็นเถ้าถ่านฉันก็จำมันได้’ แต่นี่มักจะเป็นประโยคที่ไร้สาระ หากไม่เชื่อคุณลองนำเขาไปอยู่หลังเตาเผาศพ ปล่อยให้เขาใช้ช้อนคันเล็กจำแนกกองขี้เถ้าเป็นเอบีซีดีดูสิ
แต่ในสายตาของยมทูต นี่กลับไม่ใช่ปัญหา กายเนื้อเปลี่ยนแปลงได้ รูปลักษณ์เปลี่ยนแปลงได้ นิสัยก็เปลี่ยนได้ แต่จิตวิญญาณของคุณเปลี่ยนไม่ได้!
เห็นได้ชัดว่าทนายอันก็จำได้ว่าชายชราจมูกแดงที่อยู่ตรงหน้าเป็นใคร วางมือข้างหนึ่งไว้ข้างหน้าอย่างรวดเร็ว แล้วพูดคำรามเสียงต่ำ “ยมโลกมีกฎ กฎแห่ง…” ความสัมพันธ์ดีเลิศจนไม่ต้องพูดให้จุกจิกยุ่งยาก แม้แต่ทักทายพี่น้องที่ไม่ได้พบกันนานถามสารทุกข์สุกดิบว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรสบายดีไหมก็ไม่ต้องถาม เจอหน้ากันแล้วใช้หมัดปะทะทักทายกันด้วยความสนิทสนมและจริงใจที่สุดโดยตรงเลย!
“ไอ้เลว!” ชายชราจมูกแดงไม่พูดเยอะ ใช้หมัดทุบลงไปทันที
ทนายอันเห็นดังนั้น ไม่กล้าปะทะ จึงหมุนตัวแล้วอ้อมไป
‘ปึ้ง!’ ชายชราใช้หนึ่งหมัดทุบไปที่กระโปรงรถ หน้ารถยุบลงไปทันที ถุงลมนิรภัยรถเด้งออกมา แต่ชายชราจมูกแดงก็ไม่ลดละอย่างชัดเจน คำรามเสียงทุ้มต่ำ “กฎแห่งความตายไร้ความปรานี ผนึก!” ชั่วพริบตาเดียว เงาคนสีดำปรากฏอยู่ด้านหลังทนายอัน
ทนายอันเบี่ยงตัวทันที มือกระดูกขาวจิกลงไป กรีดให้เป็นรอยแล้วแหวกออก ก่อนจะอ้อมไปจากตรงนี้ ทว่าชายชรากลับเดินเข้ามาใกล้ไม่ลดลาวาศอก!
ทนายอันจึงตะโกนทันที ขี้เกียจทำท่ามุทราแล้ว และพุ่งไปหาเถ้าแก่โดยตรง ฉันมีแก๊ง ทำไมต้องสู้กับนายด้วย อีกอย่าง รังแกฉันเพราะตอนนี้ไม่มีตำแหน่งแล้วใช่ไหม ถ้าเป็นตอนนั้น นายกล้าลงมือกับฉันเหรอ สู้ตัวต่อตัวเหรอ ไม่มีทาง ฉันมีแก๊งของฉัน เว้นเสียแต่ว่านิ่วในไตจะแพร่กระจายมาถึงสมองฉัน ฉันถึงจะยอมสู้กับนายตัวต่อตัว!
โจวเจ๋อสงสัยเรื่องหนึ่งมาตลอด นั่นก็คือข้าราชการระดับผู้ตรวจสอบหลังจากถูกถอดตำแหน่งแล้ว จะเกิดปฏิกิริยาลูกโซ่อย่างไร เฝิงซื่อเอ๋อร์ตอนนั้นเป็นลูกน้องของทนายอัน แต่ความสามารถที่เฝิงซื่อเอ๋อร์แสดงออกมาตอนที่ขึ้นมาครั้งที่แล้ว ถือว่าเก่งกว่าทนายอันจริงๆ
ทนายอันอย่างน้อยก็เคยเป็นผู้ตรวจสอบป้ายทองมาก่อน ความสามารถถ้าหากอ่อนปวกเปียกมาตลอด ใครจะเชื่อ
หรือว่ายมโลกมีการแบ่งเส้นระหว่างผู้จับกุมกับผู้ตรวจสอบ ไม่ว่าอย่างไรตัวเขาถึงแม้จะมีป้ายของผู้จับกุมที่มีคุณค่าที่สุดในประวัติศาสตร์อยู่ในมือก็ตาม แต่กลับไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเลยสักนิด และเป็นไปไม่ได้ที่เจอใครแล้วต้องโชว์ป้ายตลอด เห็นหรือยัง ป้ายของฉันเป็นทองคำแท้นะ! ฉันมีค่ามากนะ!
สงสัยต้องรีบเลื่อนขั้นเป็นผู้ตรวจสอบโดยเร็ว ถึงตอนนั้นถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง ทว่าความคิดก็เป็นเพียงความคิดเท่านั้น แต่เถ้าแก่โจวไม่ปล่อยให้งานของตัวเองต้องล่าช้า เพียงสายตาที่บอกเป็นสัญญาณ เจ้าลิงน้อยกับเหล่าจางก็พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกัน
ต่อให้เมื่อครู่จะเคยแบกปืนอยู่ในสนามเพลาะเดียวกัน แต่ถ้าหากศัตรูถูกทำลาย พี่น้องก็พร้อมที่จะแบกปืนถือมีดทะเลาะกันภายในอย่างรวดเร็ว เช่นนั้นพวกเราก็ไม่ต้องลังเลแล้ว จัดการเลย
ถึงแม้คู่กรณีทั้งสองฝ่ายจะไม่พูดให้ชัดเจน แต่ในใจของโจวเจ๋อพอเดาออกเจ็ดแปดส่วน น่าจะเป็นศัตรูในอดีตของทนายอันตอนอยู่ที่นรก ซึ่งเพียงพอแล้ว
ฐานะของทนายอันไม่สามารถเปิดเผยได้อย่างโจ่งแจ้ง อีกอย่างหนึ่ง ร้านหนังสือก็ขาดเขาไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรเมื่อเผชิญหน้ากับเรื่องแบบนี้ ทุกคนมีความสามัคคีกันเป็นอย่างมาก
อยู่ในเมือง นี่คือหน้าตาของหน่วยงาน อยู่ในชนบท นี่คือหน้าตาของทีมพวกเรา
และสิ่งที่ควรค่าต่อการเฉลิมฉลองคือ สิ่งที่อุปกรณ์เชิดสิงโตนั้นนำพามาเป็นเพียงการกระตุ้นจิตวิญญาณเท่านั้น ร่างกายกลับไม่ได้รับบาดเจ็บ หายใจสองสามทีก็ปรับตัวได้แล้ว
อย่างน้อย เมื่อเทียบกับเมื่อก่อนนี้ที่หลังจากเจอเรื่องราวแต่ละครั้งทุกคนต้องบาดเจ็บเป็นอัมพาต ถือว่าดีกว่ามาก
เจ้าลิงน้อยตบหน้าอก กลายเป็นร่างยักษ์ทันที โชว์พลังของปีศาจลิงออกมาอีกครั้ง ขนดำขลับ ลูกตาใหญ่เท่าลูกกระดิ่ง ปล่อยไอปีศาจออกมาทั่วร่าง เมื่อดูในยามกลางคืนแล้ว เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจของปีศาจยักษ์จริงๆ!
คนของร้านหนังสือสองสามคนนี้ มันมีความสนิทสนมเป็นอย่างมาก เจ้าลิงตัวนี้จิตใจดี ชาติที่แล้วรู้จักช่วยคน โดยที่ตัวเองก็ไม่ได้ผลประโยชน์อะไร แต่ชาตินี้ก็ไม่เปลี่ยน ไม่อย่างนั้นคงไม่ช่วยชีวิตโจวเจ๋อในตอนแรก
ส่วนทนายอัน เจ้าลิงก็สนิทเป็นอย่างมาก แต่ที่แตกต่างจากปู่นักพรตเฒ่าคือ ทนายอันชอบพามันไปรู้เห็นเรื่องที่เด็กไม่ควรเห็น เหมือนอาที่ชอบพาหลานชายไปเล่นตู้เกมเพื่อความสนุกสนาน
ชายชราจมูกแดงเห็นเงาร่างขนาดยักษ์ปกคลุมตัวเองเข้ามา จึงถอยหลังทันที แต่ความเร็วของเจ้าลิงสูงมาก ชายชราจึงหลบไปไม่พ้น ถูกไล่ตามทัน
ถึงแม้จะเป็นท่านผู้ตรวจสอบ เจอปีศาจลิงตัวหนึ่งในโลกมนุษย์ ก็รู้สึกหวั่นใจอยู่บ้าง
“ยมโลกมีกฎ กฎแห่งความตายไร้ความปรานี กด ทับ ผนึก!” เมื่อกดรอยมุทราลงไป ร่างยักษ์ของเจ้าลิงเริ่มสั่นไหว ไอปีศาจบนร่างกายเริ่มกระจัดกระจาย แต่มันก็ยังกัดฟัน จับขาข้างหนึ่งของชายชราจมูกแดงแล้วสะบัดออกไป
‘ปึ้ง!’ ทนายอันขับรถคันนั้นเข้ามาชนอีกครั้ง กระจกหน้าต่างรถร่วงกราวบนพื้น ชายชรากลิ้งลงมา ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด เขารีบสะบัดศีรษะ ปรับลมหายใจ ฆ่าศัตรูหนึ่งพันคน คนของตัวเองเสียหายแปดร้อยคน นี่ขนาดอาศัยว่าตัวเองมีประสบการณ์เยอะกว่านะ
และตอนนี้เหล่าจางก็เดินเข้ามา ตอนที่เป็นตำรวจเกรงใจก็คือเกรงใจ กฎก็คือกฎ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของตำรวจ ในนรกมีสถานการณ์เป็นเช่นไรเหล่าจางก็รู้ดี หากจะพูดให้ดูดีหน่อย เรียกว่าเป็นบทลงโทษที่รุนแรง หากจะพูดให้ดูแย่ ก็คือสังคมป่าเถื่อน
เวลานี้ ถึงแม้เขาจะรู้สึกดีต่อชายชราคนนี้แค่ไหน แต่เขาจะใจอ่อนไม่ได้ เพราะค่าตอบแทนของความใจอ่อนมีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นจุดจบอันน่าเวทนาของทุกคนในร้านหนังสือ
“ไอ้เด็กเวร แกก็มา!” ชายชราจมูกแดงพูดเสียงดุ ตัวกระโดดขึ้นมา กระโจนเข้าหาเหล่าจางโดยตรง
เขาได้ต่อสู้กับเหล่าจางก่อนหน้านั้น ดังนั้นจึงคุ้นชินกับเหล่าจางมากกว่า ตอนนี้ เขาจึงรู้ว่าถ้าหากจะแก้แค้นต่อไป เขาจะต้องอยู่ในสภาพโดนรุมประชาทัณฑ์แน่นอน
แต่เขาไม่มีทางเลือก ถ้าไม่ใช่เพราะตอนแรกอันปู้ฉี่ก่อเรื่องซี้ซั้ว ตัวเขาคงไม่โดนหางเลขถูกทำลายอนาคตจนหมดสิ้น! ไม่แน่ ตอนนี้เขายังสามารถฝันว่าจะเป็นผู้พิพากษาได้!
เหล่าจางเป็นคนตรงไปตรงมา ตัวเขาเองก็รู้ดี ตัวเองทำอย่างอื่นไม่ได้ อย่างน้อยตอนนี้ ได้อาศัยพลังช้างของตัวเองดูเหมือนจะไม่เลว
‘ปึ้ง!’ ชายชราจมูกแดงโดนหมัดของเหล่าจางเข้าเต็มเปา แต่ไม่กระเด็นออกไป เขาทนรับแรงนี้แล้วคลานไปด้านหลังของเหล่าจาง ว่องไวเป็นอย่างยิ่ง เหมือนงูตัวหนึ่ง และขณะเดียวกัน เหล็กหมาดอันหนึ่งปรากฏที่มือข้างหนึ่งของเขาแล้วแทงลงไป ถึงแม้เหล่าจางไม่ตาย แต่ก็ต้องบาดเจ็บหนัก!
สามารถพูดได้ว่า การแสดงออกนี้ ถือเป็นการปลิดชีพอย่างรวดเร็วจากประสบการณ์การต่อสู้ที่เหนือกว่าของผู้ตรวจสอบ
ไม่ว่าอย่างไร ตอนนั้นชายชราจมูกแดงเคยร่วมปราบปรามกบฏเหนียนพร้อมกับเนี่ยจวินเหมิน รวมถึงสงครามจีน-ฝรั่งเศส สงครามจีน-ญี่ปุ่น กบฏนักมวยด้วย ถือว่าคลานออกมาจากกองคนตาย ถึงแม้จะตาย ก็ตายในภายหลังด้วยปืนของโจรตอนที่เป็นตำรวจลาดตระเวน เมื่อลงไปนรกยังต้องต่อสู้ตลอดทาง จนสามารถเป็นผู้ตรวจสอบ ตัวตนที่โดดเด่นกว่านั้นมี แต่เขาไม่ใช่เศษสวะในความหมายที่แท้จริงแน่นอน
ทว่าไม่รู้เป็นเพราะอะไร ชายชราถอนหายใจ มองคอเปลือยเปล่าของไอ้งั่งที่อยู่ด้านล่างแล้วทำไม่ลง ตัวเขาเองยังรู้สึกตกใจ รู้สึกว่ากีบเท้าหมูยักษ์ที่อยู่ใต้ร่างตัวเองนี้ นุ่มมาก เสียดายที่จะทิ่มมัน
ทนายอันกลับตกใจ เฮ้ย ถ้าหากเหล่าจางถูกปลิดชีพทันที ตัวเขาเองวันหลังคงไม่มีหน้าอยู่ในร้านหนังสือได้อีก ทันใดนั้น มือกระดูกขาวของเขาปรากฏควันสีชมพูออกมา กลายเป็นเชือกเส้นหนึ่ง สวมเข้าไปบนตัวของชายชราจมูกแดงทันที จากนั้นออกแรงดึง!
ชายชราจมูกแดงยังคงลังเล เมื่อถูกทนายอันซุ่มโจมตี เขาจึงล้มไปทั้งตัว ถูกลากไปกับพื้นไม่หยุด แต่เขากลับไม่ลนลานตื่นตระหนก พูดด่าว่า “อันปู้ฉี่ คิดว่าเหมือนสมัยก่อนเหรอ” พอสิ้นเสียง ดอกบัวสีดำกลุ่มหนึ่งปรากฏที่หน้าอกของชายชรา ดอกบัวมาพร้อมกับเปลวไฟสีดำพลิ้วไหว พุ่งไปหาทนายอันโดยตรง
เปลวไฟบนดอกบัว สามารถเผาจิตวิญญาณให้มอดไหม้!
“เถ้าแก่” ทนายอันตกใจแต่ไม่ลนลาน! แม่งเอ๊ย แต่ละคนเห็นฉันเป็นไก่ตกน้ำแกง[1]สินะ ตอนนี้ฉันจะเสียอะไรก็ได้ แต่เสียขาทองคำไม่ได้เด็ดขาด! มาเลย โมโหอกแตกตายไปเลย โมโหให้ตายไปเลย!
โจวเจ๋อก้าวหนึ่งก้าว เล็บทั้งห้านิ้วหวดไปข้างหน้า ดอกบัวเหี่ยวเฉาร่วงหล่นทันที เปลวไฟสีดำกลุ่มนั้นกำลังเผาไหม้อยู่บนเล็บ พยายามลามขึ้นไปเผาจิตวิญญาณของเขา แต่กลับโดนปราณพิฆาตของเขาสกัดกั้น ได้แต่รวมตัวอยู่บนปลายเล็บ เมื่อมองไกลๆ เหมือนมีไฟวิญญาณดวงเล็กๆ ห้าดวงอยู่บนปลายเล็บของคุณ
ปลายเล็บอยู่ตรงหน้า มองเปลวไฟพลิ้วไหว โจวเจ๋อหันหน้าเล็กน้อยเพื่อชื่นชมมัน จากนั้นจึงเป่าที่ปลายเล็บ ‘ฟู่’และแล้วไฟจึงดับลง ส่วนเล็บของโจวเจ๋อ กลับไม่มีแผลเลยสักนิด
ชายชราตกใจนิ่งอึ้ง พูดพึมพำว่า “นี่คือร่างผีดิบอะไรกันแน่!” ผีดิบทั่วไป ไม่มีทางทำได้ถึงจุดนี้!
ทนายอันออกแรงอีก ชายชราถูกดึงมาอยู่ตรงหน้าส้นเท้าของเขา เขาใช้เท้าเหยียบหน้าอกของชายชรา แล้วจึงหัวเราะฮ่าๆ ด่าว่า “ฮ่าๆ คิดว่าเหมือนสมัยก่อนเหรอ”
……………………………………………………………………….
[1] ไก่ตกน้ำแกง หมายถึง ตัวเปียกปอนเหมือนลูกหมาตกน้ำของไทย และยังหมายความว่า ตกอยู่ในความลำบาก สภาพดูไม่ได้