ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 771 คำรามด้วยความเกรี้ยวกราด!
ตอนที่ 771 คำรามด้วยความเกรี้ยวกราด!
“เจี๊ยกๆๆ!!!!” โจวเจ๋อจอดรถ แล้วอุ้มเจ้าลิงน้อยลงมา
นักพรตเฒ่าอยู่ข้างหลัง มองซ้ายแลขวา เอ่ยว่า “แถวนี้น่าอยู่เหมือนกัน”
ที่นี่น่าอยู่จริงๆ ถึงแม้ที่นี่จะไม่ใช่ย่านหรูในเขตเมืองที่เจริญอะไร ก่อนที่จะมีการปรับปรุงก็ถือว่าเป็นหมู่บ้านชนบท แต่แตกต่างกับสิ่งที่เรียกว่าหมู่บ้านในเขตภูเขาอย่างสิ้นเชิง
ทว่าไม่มีเหตุผลที่จะพูดว่าสถานที่อันห่างไกลต้องแย่แน่นอน และใต้แสงไฟในเมืองต้องสะอาดโดยแท้
“ลองแยกแยะให้ละเอียด อย่าหาบ้านผิดล่ะ” โจวเจ๋อกำชับเจ้าลิงน้อย
“เจี๊ยกๆๆ!” เจ้าลิงน้อยชี้ทางข้างหน้าต่อ โจวเจอก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคง ดูเหมือนไม่มีความลังเลเลยสักนิด
“เจี๊ยก!” เจ้าลิงน้อยชี้ไปยังตึกทรงตะวันตกขนาดเล็กที่อยู่ตรงหน้า
“หาเจอแล้ว” โจวเจ๋อถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก แล้ววางเจ้าลิงลง
นักพรตเฒ่ายืนอยู่ข้างๆ โจวเจ๋อ มองประตูที่อยู่ข้างหน้า
“คนอยู่ข้างในนี้ คุณไปจัดการเถอะ” โจวเจ๋อหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน ยื่นให้นักพรตเฒ่า “สูบสักมวน จะได้ใจกล้า”
นักพรตเฒ่ากัดก้นบุหรี่ แล้วหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ สองครั้ง แต่กลับไม่ก้าวเท้าเข้าไป เขาไม่ถามโจวเจ๋อว่าทำไมถึงไม่แจ้งตำรวจ เพราะเถ้าแก่ของเขาถ้าหากอยากแจ้งความให้ตำรวจมาจัดการเรื่องนี้ละก็ จะไม่ลากเขามา แต่จะลากเหล่าจางมาแทน
เขาไม่สามารถถามโจวเจ๋อว่าทำไมถึงปล่อยให้เขาเข้าไปก่อน เพราะถ้าไม่เห็นเขาตอนที่นั่งอยู่ในสถานที่ทำงานของฟางซิ่งก่อนหน้านี้ เถ้าแก่คงไม่ลากเขาออกมาแก้แค้นให้ฟางซิ่ง
อึกๆ อักๆ ก็คือตัวเอง โง่เขลาเบาปัญญาก็คือตัวเอง รู้สึกโกรธแค้นก็คือตัวเอง ดังนั้นจึงควรจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง จึงจะสมเหตุสมผล เพื่อความยุติธรรม เพื่อความเป็นธรรม เพื่อฟางซิ่ง นักพรตเฒ่าสูดลมหายใจลึกๆ แล้วสูดลมหายใจลึกๆ อีกครั้ง เขาพูดเร่งตัวเองไม่หยุด โน้มน้าวตัวเองไม่หยุด แต่เท้าข้างนี้กลับไม่ก้าวเข้าไป
‘เพียะ!’ นักพรตเฒ่าตบหน้าตัวเองหนึ่งที ตบเสียงดังมาก เจ้าลิงน้อยที่อยู่ข้างๆ ยังตกใจ รีบมุดไปอยู่บนไหล่ของนักพรตเฒ่า ใช้อุ้งมือน้อยๆ ของมันนวดใบหน้าของนักพรตเฒ่า
โจวเจ๋อจุดบุหรี่หนึ่งมวน ยืนรออยู่ข้างนักพรตเฒ่านานมากแล้ว จึงเอ่ยว่า “เดี๋ยวนะ คุณกำลังเตรียมตัวยิงหรือไง จะรอให้คนลักพาตัวที่อยู่ข้างในถูกคุณฆ่าตายเหรอ”
“เจี๊ยกๆๆ!” เจ้าลิงน้อยจู่ๆ หันหน้ามาทางโจวเจ๋อ พร้อมทำท่าอยากจะโกรธแต่ก็ไม่กล้า เจ้าลิงน้อยกลัวโจวเจ๋อ กลัวตั้งแต่แรกแล้ว แต่มันเป็นลิงวิเศษ ดังนั้นที่ผ่านมา รวมถึงตอนนี้ เจ้าลิงน้อยจึงสามารถรับรู้ได้ว่าโจวเจ๋อกำลังพูดบีบบังคับนักพรตเฒ่าอยู่
โจวเจ๋อนั่งลงบนบันได ไม่ว่าอย่างไรเจ้าลิงน้อยก็อยู่ตรงนี้ บุคคลเป้าหมายที่อยู่ข้างในอยากจะหนีก็หนีไม่พ้น
“นักพรตเฒ่า คุณรู้ไหม คนเรามักมีความคิดวู่วามอยากทำลายเรื่องที่สวยงาม นี่คือสันดานของคน”
นักพรตเฒ่ามองโจวเจ๋ออย่างตกตะลึงอยู่บ้าง เขาไม่รู้ว่าประโยคนี้หมายความว่าอะไรกันแน่
“โอเค ผมไปจัดการเอง ไม่อยากทำให้คุณลำบากใจ คุณยืนมองผมอยู่ข้างหลัง ค่อยๆ ดูไปเรื่อยๆ ได้ใช่ไหม” ขณะที่พูด โจวเจ๋อโยนก้นบุหรี่ไปบนพื้นแล้วขยี้ จากนั้นลุกขึ้นเดินเข้าไปข้างใน
“เถ้าแก่!” นักพรตเฒ่ายื่นมือจับข้อมือของโจวเจ๋อเอาไว้แน่น พลางเม้มปาก ประโยคนั้นที่ว่า แจ้งความเถอะ หรือบอกเหล่าจางเถอะ ประโยคเหล่านี้ไม่อาจพูดออกไป เขามักรู้สึกว่าคำพูดเหล่านี้ ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบเท่าไร อุตส่าห์ตามหาเจอแล้ว คนก็อยู่ข้างใน ไม่ใช่แค่คนที่ลักพาตัวเท่านั้น แต่ยังเป็นฆาตกรอีกด้วย คนที่อยู่ข้างในตายไปก็ไม่เสียดาย!
นักพรตเฒ่าไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะใช้เหตุผลใดห้ามเถ้าแก่ของตัวเอง ไม่ว่าอย่างไรเถ้าแก่ของตัวเองก็เป็นผี และกฎหมายไม่สามารถผูกมัดผีได้
“คุณยังจะห้ามผม” โจวเจ๋อย้อนถาม เส้นเลือดฝอยปรากฏขึ้นในดวงตา
นักพรตเฒ่าสะดุ้งตกใจเพราะแววตานี้ เขารู้สึกจริงๆ ว่าวันนี้เถ้าแก่ไม่ค่อยปกติเท่าไร ไม่ค่อยปกติจริงๆ เหมือนมีปัญหาเกิดขึ้นตรงไหน เพราะที่ผ่านมาเถ้าแก่กลัวเจอเรื่องยุ่งยากมากที่สุด เจอเรื่องอะไรก็ไม่วู่วาม ส่วนที่เถ้าแก่บอกว่าเห็นใจเด็กที่มาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าเหมือนกัน ถ้าจะพูดแบบไร้น้ำใจนิดหน่อย มันเกี่ยวเหรอ
“เถ้าแก่ๆ อย่าไป อย่าไปเลย!” นักพรตเฒ่ายื่นมือจับมือของโจวเจ๋อ ไม่ปล่อยมือ นี่คือกระตุ้นความกล้าของตัวเองเต็มที่แล้ว! เขาไม่อยากเสียเถ้าแก่คนที่สองแล้ว!
“คุณปล่อย!” โจวเจ๋อกระชากอย่างแรง
นักพรตเฒ่าตัวเซ แต่ก็ยังไม่ปล่อย “ข้าไม่ปล่อย เถ้าแก่ เจ้าใจเย็นหน่อย ใจเย็นๆ ก่อน!”
“ลู่ฟ่างเวิง ทำไมคุณไม่ได้เรื่องแบบนี้”
“ข้าไม่ได้เรื่อง ข้าไม่ได้ความ ข้ารู้ ข้ารู้แล้ว ข้าเป็นคนดีเกินเหตุ แต่ไม่มีความรับผิดชอบ ชาตินี้เอาแต่ใช้ชีวิตอยู่ในความฝันของตัวเอง ทำความดีก็เป็นแบบนี้ เป็นคนก็เป็นแบบนี้ อายุเจ็ดสิบปี ก็ใช้ชีวิตตัวเองอย่างงุนงงสับสนแบบนี้! ฟางซิ่งตายแล้ว ข้าเสียใจ ข้าเกลียดคนพวกนี้ ข้าอยากจะฆ่าพวกเขามาก แต่เถ้าแก่ วันนี้รู้สึกว่าเจ้า…”
“เข้าไปด้วยกันกับผม!” โจวเจ๋อลากนักพรตเฒ่าเดินเข้าไปข้างใน
“เถ้าแก่ๆ!” นักพรตเฒ่าพูดเสียงทุ้มต่ำ ทันใดนั้นโจวเจ๋อรู้สึกว่าส่วนลึกของจิตวิญญาณตัวเองเหมือนกำลังพังทลายลงมา เกิดเสียงดังขนาดใหญ่ส่งผ่านเข้ามา
“โอ๊ย!” ความเจ็บปวดปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของโจวเจ๋อเพียงชั่วครู่ แต่ในแววตากลับฉายแววอย่างอื่น
โจวเจ๋อหัวเราะทันที เอ่ยว่า “ผมไม่ได้พูดว่าจะเข้าไปฆ่าคน คุณรีบร้อนไปทำไม”
“อ้าว ไม่ได้ฆ่าคนเหรอ” นักพรตเฒ่างง เป้าหมายที่มาเพราะต้องการฆ่าคนเลวไม่ใช่เหรอ
“พูดอย่างนี้แล้วกัน เมื่อวานจิตของผมได้รับการกระตุ้นเล็กน้อย รู้สึกทรมานมาก เป็นผลทำให้รู้สึกกดดันมากจนถึงตอนนี้ ต้องหาที่ระบายหน่อย คุณพอเข้าใจได้ใช่ไหม ไม่ฆ่าคน แต่ผมจะซัดให้น่วม ซัดกระดูกหักสองสามท่อน แล้วก็เล่นเกมทรมานคนนิดหน่อยโอเคไหม”
“อ้อ ได้ โอเคๆ” นักพรตเฒ่าพยักหน้า และเป็นฝ่ายเดินเข้าไปข้างในด้วยตัวเอง
“เถ้าแก่ ข้าไปต่อยเอง ข้าจะต่อยพวกเขาหนึ่งยก จัดการให้น่วมไปเลย ไอ้เลวพวกนี้ พอต่อยมันแล้วค่อยส่งพวกมันไปกินลูกปืน! ให้พวกมันได้รับการลงโทษทางกกฎหมาย!” นักพรตเฒ่าเดินได้ครึ่งทาง ก็ไม่เห็นโจวเจ๋อเดินตามมาทันใดนั้นจึงหยุดเดิน ชี้ไปที่ใบหน้าของตัวเองอย่างเจี๋ยมเจี้ยมเล็กน้อย เอ่ยว่า “เถ้าแก่ เจ้าคิดว่าข้าไม่ได้เรื่องมากใช่ไหมแม้แต่ฆ่าคนก็ไม่กล้า”
ดวงตาของโจวเจ๋อแดงทันที นักพรตเฒ่าตัวสั่น แววตาของเถ้าแก่น่ากลัวมาก!
นักพรตเฒ่ารีบหันหน้าทันที เดินเข้าไปข้างในต่อ ไม่กล้าหันกลับมามอง สักพักหนึ่งโจวเจ๋อจึงหลับตา เผยรอยยิ้มเล็กน้อย พลางส่ายหน้า แต่รอยยิ้มนี้ดูเหมือนจะฝืนยิ้มไปนิด
‘ให้ตายเถอะ เจ้าโง่ คุณกำลังทำอะไร!!!!’ โจวเจ๋อใช้มือข้างหนึ่งจับหน้าอกของตัวเองอย่างแรง แล้วคำรามด้วยความเกรี้ยวกราดอยู่ในก้นบึ้งหัวใจ!
‘เพิ่ง…จะ…รู้…เหรอ…’
‘ผมก็คิดอยู่ว่า ความโกรธของผม เจตนาฆ่าของผม ผุดขึ้นมาจากที่ไหน คุณจะบ้าเหรอ!’
‘เจ้า…แหละ…ที่…บ้า…’
‘ผมเป็นผม คุณเป็นคุณ คืนนี้ผมจะเรียกปากกาพิฆาตกลับมา ดูซิว่าวันหลังคุณจะกล้าแอบออกมาส่งผลกระทบกับอารมณ์ของผมอีกไหม!’
‘แล้ว…แต่…เจ้า…’
‘คุณบังคับให้ผมเพิ่มพลังการฆ่า มีข้อดีอะไร คุณให้ผมบังคับเขา มีข้อดีอะไรอีก! คุณว่างและเบื่อก็เล่นฟิกเกอร์ของคุณต่อ คุณเก็บสะสมไว้ตั้งเยอะแยะไม่ใช่เหรอ! หุ่นแต่ละตัวมัดติดเสา ซ่อนอยู่ใต้ทะเล คุณไปบ้าสะสมฟิกเกอร์ของคุณให้พอใจเถอะ!’
‘มี…คน…ต้อง…การ…เห็น…เลือด…’
‘แม่งเอ๊ย! อิ๋งโกว ร่างกายนี้ คุณต้องอาศัยตอนที่ปากกาพิฆาตไม่อยู่ คุณถึงจะมาแย่งได้! แอบทำอะไรลับหลังอย่างนี้ คุณหมายความว่ายังไง!’ มีประโยคหนึ่งที่โจวเจ๋อไม่ได้พูด แต่เข้าใจความหมายได้ดี นี่ไม่ใช่สไตล์ของคุณ!
‘เจ้า…กำ…ลัง…ตะ…คอก…ใส่…ข้า…เหรอ…สุ…นัข…เฝ้า…บ้าน…’
‘คนกลุ่มนี้ ผมอยากฆ่าก็ฆ่า แต่นั่นขึ้นอยู่กับความเต็มใจของผม ผมไม่ต้องการให้คุณสร้างอารมณ์แปรปรวนให้กับผม! ทำไมคุณถึงจู้จี้ขนาดนี้ เรื่องในโลกมนุษย์ คุณก็สนใจเหรอ คุณอยากฆ่าพวกเขา คุณก็ยึดร่างของผมแล้วไปฆ่าเลย ตอนนี้คุณทำไมเหมือนผู้หญิงเข้าไปทุกวัน!’
‘โอ…หัง…’
‘ครืน!’ ส่วนลึกสุดของจิตวิญญาณโจวเจ๋อ ภูเขาไท่ซานนั่นสั่นสะเทือนขึ้นมากะทันหัน ‘เจ้า…ก็…โอ…หัง…’
‘ครืน!’
โจวเจ๋อรู้สึกว่าตัวเองมึนเป็นระยะ ฟุบลงไปบนพื้นทั้งตัว หายใจพะงาบๆ ตา หู จมูก ปากมีเลือดสดไหลออกมาไม่หยุด
เจ้าลิงน้อยหันมาเห็นสภาพของโจวเจ๋อ จึงกระโดดเข้ามาทันที นั่งลงยองๆ ตรงหน้าโจวเจ๋อ มองอย่างระมัดระวังด้านนักพรตเฒ่า กำลังลองเปิดประตูเข้าไปต่อ ประตูไม่ได้ปิดสนิท สามารถเปิดได้ แต่ต้องใช้มืองัดเล็กน้อย
โจวเจ๋อรู้สึกว่าในทะเลจิตสำนึกของตัวเอง วุ่นวายไปหมด ทำให้เขาเวียนหัวเหมือนฟ้าหมุนก็ไม่ปาน
‘กอง…เศษ…สวะ…ทั้งหลาย…’ อิ๋งโกวคำรามออกมาด้วยความโกรธ
‘คุณก็เหมือนกัน!’ โจวเจ๋อด่าตอบ
ตอนนี้โจวเจ๋อไม่ถือสาหากอิ๋งโกวจะแย่งร่างของตัวเอง ไม่ว่าจะชั่วคราวหรือตลอดไป ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่นำปากกาพิฆาตไปผนึกเซี่ยจื้อไว้ในร่างของเหล่าจาง
แต่แอบทำอะไรลับหลังโดยไม่บอกกล่าว สร้างพฤติกรรมที่มีผลกระทบต่ออารมณ์ของตัวเอง ทำให้เถ้าแก่โจวยากที่จะทนรับไหว
ต่อให้ตาย ฉันก็ต้องตายในแบบของ ‘ตัวเอง’ ไม่ใช่หุ่นเชิดของอิ๋งโกว
‘พวก…เจ้า…ล้วน…เป็น…เศษ…สวะ…’
‘ครืน!’
‘พรืด!’ โจวเจ๋อกระอักเลือดออกมา สองมือจับดินที่แข็งตัวอยู่บนพื้นแน่น จนเวลาผ่านไปนานมาก ส่วนลึกของจิตวิญญาณจึงหยุดลงในที่สุด โจวเจ๋อถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก แล้วยันตัวกับพื้นลุกขึ้นยืนอย่างโงนเงน ยื่นมือเช็ดมุมปากของตัวเอง
เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรกันแน่ จู่ๆ อิ๋งโกวก็ส่งอารมณ์โกรธให้เขาอย่างไม่มีสาเหตุ กระตุ้นอารมณ์ของเขาอย่างเงียบๆ ถ้าหากไม่ใช่เพราะนักพรตเฒ่าจับตัวเขาในตอนท้าย โจวเจ๋อคงจะบังคับพานักพรตเฒ่าเข้าไปฆ่าคนแล้ว ฆ่าคนเลวสองสามคนนั้นต่อหน้านักพรตเฒ่า!
‘หรือว่าในสมัยโบราณคุณเคยถูกลักพาตัวมาก่อน’ โจวเจ๋อพูดเยาะเย้ย แต่ครั้งนี้ ไม่มีเสียงของอิ๋งโกวส่งผ่านมา โจวเจ๋อหายใจหอบต่อ
แต่เวลานี้ นักพรตเฒ่าที่ไม่รู้เลยว่าเมื่อครู่นี้เถ้าแก่ที่อยู่ข้างหลังกำลังทำสงครามอยู่ภายในใจ สามารถเปิดประตูได้ในที่สุด เสียงดัง ‘แกร๊ก’ ประตูถูกเขาผลักออก สิ่งที่เข้ามาในสายตาก็คือ ห้องรับแขกที่เชื่อมต่อกับห้องครัวเตาอิฐ นักพรตเฒ่ากวาดตามอง แล้วอุทานด้วยความตกใจทันที “แม่งเอ๊ย!”
……………………………………………………………………….