ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 782 งานศพ (2)
ตอนที่ 782 งานศพ (2)
ผู้หญิงร้องไห้ เด็กผู้หญิงก็ร้องไห้ หญิงสูงวัยก็ร้องไห้เช่นกัน แต่พอจะดูออกนิดหน่อยว่า หญิงสูงวัยคนนี้น่าจะมีมนุษย์สัมพันธ์ที่แย่มากในหมู่บ้านแห่งนี้ เกิดความวุ่นวายจนป่านนี้แล้ว ยังไม่เห็นเพื่อนบ้านมาช่วยไกล่เกลี่ยสักคน ส่วนคนที่ออกมาช่วยด่าแทนเธอ ก็ยิ่งไม่มี
กลับกันทุกคนกลับแอบพูดคุยกัน แสดงความเห็นอกเห็นใจหญิงม่ายที่โดนผลักลงไปบนพื้นอย่างเห็นได้ชัดเหลือเกิน
เถ้าแก่โจวสูบบุหรี่ต่อไป เขากำลังครุ่นคิด ตอนเช้าตัวเองต่อยคนไปแล้วหนึ่งครั้ง หรือว่าตอนบ่ายต้องต่อยคนอีกครั้งเหรอ แต่หญิงสูงวัยที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ไม่เหมือนผู้ร้ายที่ก่ออาชญากรรม
สุดท้ายก็ไม่ได้ลงมือ เรื่องภายในครอบครัวมีความซับซ้อนยากจะตัดสิน แค่โดนด่าด้วยคำที่ไม่น่าฟังสองสามประโยค หากคุณเข้าไปต่อยคน บางทีทั้งสองฝ่ายอาจจะโทษคุณ แล้วทำไมต้องหาเรื่องใส่ตัวล่ะ
เถ้าแก่โจวตบไหล่ของนักพรตเฒ่า เพื่อบอกว่ากลับได้แล้ว เรามาส่งคนถึงที่แล้ว เรื่องในครอบครัวของเธอเกี่ยวอะไรกับฉัน
ทว่าตอนนี้ผู้หญิงที่โดนผลักล้มบนพื้นคนนั้น พลันเอามือกุมหน้าอกเริ่มหายใจหอบ จากนั้นหายใจดัง ‘เฮือก’ แล้วเป็นลมไปเลย คราวนี้ชาวบ้านที่พากันรุมล้อมจึงวงแตก แม้แต่หญิงสูงวัยที่ด่าฉอดๆ เมื่อครู่ก็ยังตกใจมือเท้าสั่น หลานสาวพุ่งเข้าหาแม่ของตัวเอง ชั่วเวลาเดียวเต็มไปด้วยความวุ่นวาย
โจวเจ๋อปิดประตูรถ พลางคิดในใจผู้หญิงคนนี้ช่างเรื่องเยอะจริงๆ ฉันเพิ่งได้รับเงินรางวัลจำนวนน้อยนิดมาจากเหล่าจาง แล้วยังต้องช่วยเขาทำเรื่องดีเป็นคนดี ตอนนี้ยังต้องเป็นหมอออกตรวจอีกเหรอ และที่สำคัญที่สุดคือถ้าหากเธอตาย ไม่แน่ฉันยังต้องกลับร้านหนังสือส่งเธอไปสู่สุคติอีก เป็นหนี้เธอหรืออย่างไร!
เด็กผู้หญิงจับแม่พลางร้องตะโกนเสียงดัง ผู้คนล้อมวงอยู่รอบๆ หญิงสูงวัยคนนั้นด่าว่าด้วยความเจ็บปวดใจระคนเสียใจ “ถ้าจะตายก็อย่ามาตายที่นี่ อย่ามาตายที่นี่นะ ฉันยังต้องจัดงานศพให้เธออีก ฉันไม่ทำให้เธอหรอกนะ! จัดงานให้ลูกชายของฉันก็ไม่เท่าไร แต่ยังต้องพ่วงเธอเข้าไปอีก!”
โจวเจ๋อที่ถูกกลุ่มคนกั้นไว้ด้านนอกสูดลมหายใจลึกๆ แล้วพูดตวาดว่า “หลีกทางให้ผมหน่อย ผมเป็นหมอ!!!”
…
“สาวน้อย ตื่นแล้วเหรอ”
ผู้หญิงลืมตา พบว่าข้างนอกฟ้ามืดแล้ว เธอกำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนเก้าอี้ตัวยาวที่นำมาต่อกันเป็นเตียงเล็กๆ แล้วปูด้วยผ้าฝ้าย นักพรตเฒ่าอยู่ข้างๆ คอยดูแลเธอตลอด
“มา สาวน้อย ดื่มก่อน”
“ขอบคุณค่ะ” ผู้หญิงไม่ได้ให้นักพรตเฒ่าป้อนเธอ รับถ้วยมาแล้วค่อยๆ ดื่ม
“คุณไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่ถ้าไม่ให้ความสำคัญหรือปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป ร่ายกายจะทนไม่ไหว”
โจวเจ๋อนั่งลงข้างๆ ถือมันเผาอยู่ในมือ ค่อยๆ ลอกเปลือกออกแล้วกินมัน เด็กผู้หญิงคนนั้นเอามาให้เขา พวกเขาปลูกเอง รสชาติหวานมาก
หญิงสูงวัยที่เป็นแม่สามีของผู้หญิงคนนี้ หลังจากโจวเจ๋อบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว ก็ด่าผู้หญิงคนนี้สองสามประโยคแล้วไม่พูดอีก
ตอนนี้ดึกแล้ว คนที่จ้างมาพับกระดาษกลับไปแล้ว วงดนตรีงานศพรวมทั้งพระและนักพรตที่จ้างเหมามาพร้อมกับวงดนตรีก็กลับกันหมดแล้ว วันนี้แค่เตรียมงานเท่านั้น วันพรุ่งนี้ถือว่าเป็นงานศพอย่างเป็นทางการ เพื่อนบ้านที่มาร่วมวงก็กลับแล้ว เวลานี้เหลือเพียงหญิงสูงวัยคนนั้นที่หยิบเก้าอี้ไปนั่งนอกห้องรับแขกซึ่งเป็นโถงที่ตั้งศพ แล้วเผาเงินกระดาษ หลานสาวของเธอกำลังนั่งทำการบ้านอยู่บนโต๊ะในโถงที่ตั้งศพ
บรรยากาศเงียบเชียบ เปล่าเปลี่ยวจริงๆ โดยทั่วไปแล้ว งานศพในหมู่บ้านปกติจะคึกคัก ญาติสนิทและเพื่อนบ้านจะมาช่วยงาน แต่ดูจากตอนนี้แล้ว กลับไม่รู้สึกถึงความคึกคักเลยสักนิด เงียบเหงามากกว่างานไว้อาลัยที่หอประกอบพิธีฌาปนกิจในเมืองเสียอีก
“แม่สามีของคุณมนุษย์สัมพันธ์แย่มากใช่ไหม” โจวเจ๋อกัดมันหวานหนึ่งคำ อืม หอม หวาน
ไม่มีญาติและเพื่อนมาช่วยงานศพเลยเหรอ ผู้หญิงไม่ตอบ โจวเจ๋อก็ไม่สนใจ เขาเป็นแค่แขกคนหนึ่ง และขี้เกียจที่จะสนใจเรื่องการใช้คำพูดว่าผิดหรือไม่
“บ้านสามีของคุณ ไม่มีเพื่อนและญาติสนิทเหรอ”
“มีลุงคนหนึ่ง เป็นหัวหน้าหมู่บ้านนี้” ผู้หญิงตอบ
“อ้อ จากนั้นล่ะ” โจวเจ๋อถาม
“ลุงของเขาทุจริตเงินซ่อมถนนในหมู่บ้าน ถูกแม่แจ้งไปที่อำเภอ จึงโดนยึดตำแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน แล้วโดนจับจากนั้นจึงแตกหักกับญาติทางโน้นค่ะ”
“อ้อ เหอะๆ” โจวเจ๋อดูดนิ้วมือ “สงสัยนิสัยแม่ของคุณ ไม่ได้ทำบ้าๆ กับคุณคนเดียวใช่ไหมครับ”
“เธอ จริงๆ แล้วเป็นคนปากร้ายใจดีค่ะ…”
“ไม่น่าใช่ เป็นญาติกัน แต่แจ้งจับญาติตัวเอง มีเจตนาอะไร” โจวเจ๋อหลังจากถามคำถามนี้ ทันใดนั้นรู้สึกแปลกเล็กน้อย ถึงแม้จะรู้สึกว่าไม่ควรถาม ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องจริง ทว่าสังคมก็เป็นแบบนี้ ความนิยมของสังคมก็เป็นเช่นนี้ บางครั้งเรื่องที่ทำถูกต้อง ก็ยังถูกคนถามว่า ‘ทำไม’
หากจะพูดจริงๆ สำหรับเรื่องราวที่หัวหน้าหมู่บ้านพาคนในหมู่บ้านทำให้บ้านตัวเองร่ำรวย ทุกคนสามารถพูดได้เต็มตะกร้า
“คงเห็นแล้วรกหูรกตา จึงไปฟ้อง” ผู้หญิงตอบเช่นนี้
โอเค เหตุผลนี้ ยิ่งใหญ่มาก
“นักพรตเฒ่า ไปช่วยหน่อย ดูซิว่ามีตรงไหนต้องแก้ไขและปรับปรุง”
“ได้เลย เถ้าแก่” นักพรตเฒ่าไปทำงานทางโน้น ตอนแรกเขาเคยเป็นผู้รับจัดทำงานศพมาก่อน สำหรับกฎเกณฑ์ของที่นี่ เขารู้และเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
“สามีของคุณทำอาชีพอะไรครับ ตายได้อย่างไร” โจวเจ๋อถาม
“เขา…เขาเป็นคนขับรถ เกิดอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิตค่ะ”
โจวเจ๋อพยักหน้า แล้วลุกขึ้น ขี้เกียจพูดอะไรอีก
นักพรตเฒ่ากำลังช่วยงานอยู่ตรงนั้น หญิงสูงวัยจงใจมองมาทางนี้สองสามที แล้วรีบลุกขึ้นทันที เดิน ‘ฉับๆๆ’ เข้ามาชี้หน้าโจวเจ๋อโดยตรง ขนาดยังไม่ได้พูดอะไร โจวเจ๋อก็รู้สึกถึงลมพายุที่กำลังถาโถมเข้ามา!
“ดีเลย ดีมาก เข้ามาจีบกันใช่ไหม ฉันก็ว่าอยู่ทำไมไม่นอนในห้อง บอกว่าในห้องควันเยอะไป ในนี้อากาศถ่ายเทกว่า ดีสำหรับเธอ ฉันว่าคุณอยากมองเธอต่อมากกว่า! นี่คืออยากจะตัวติดกันตลอด ห่างกันไม่ได้เลยใช่ไหม! ใช่สิพลอดรักกันต่อหน้าศพของลูกชายฉัน ชอบหาเรื่องนักใช่ไหม!”
โจวเจ๋อพยักหน้า “ใช่ครับ”
หญิงสูงวัยโกรธเดือดดาล ชี้หน้าโจวเจ๋ออย่างเหลืออดเหลือทน “ไปเลย ไปไหนก็ไป! แล้วก็เธอด้วย!” หญิงสูงวัยชี้ไปที่ผู้หญิง “ไสหัวไปกับชู้ของเธอเลย!”
“แม่…”
“ฉันไม่ใช่แม่ของเธอ ลูกชายของฉันตายแล้ว เธอเรียกฉันว่าแม่ทำไม! ฉันไม่เหมาะ เธอไปเลย ไปกับผู้ชายบ้าๆของเธอ ไสหัวไป! แต่ฉันจะบอกเธอให้นะ หลานสาวของฉันเธอห้ามเอาไป ฉันไม่ยอมให้เธอเอาไปด้วย! ไป ไปเลย ไสหัวไป! ไสหัวไปคืนนี้เลย ไปสิ!”
‘แค่กๆ…’ โจวเจ๋อไอสองสามที รีบกวักมือเรียกนักพรตเฒ่าที่อยู่ทางโน้น ตะโกนว่า “นักพรตเฒ่า พวกเรากลับบ้านเถอะ” ครอบครัวนี้แปลกมาก ขี้เกียจอยู่ต่อแล้ว โดยเฉพาะหญิงสูงวัยคนนี้ เหมือนกินดินปืนเข้าไป พร้อมกราดยิงตลอด
หญิงสูงวัยหมุนตัวเดินเข้าไปในบ้าน ไม่ช้าจึงหยิบกระเป๋าออกมาใบหนึ่ง ตะโกนพูดว่า “ของของเธออยู่กับฉัน ฉันเก็บให้เธอเรียบร้อยแล้ว เธอไสหัวไปซะ ฉันเห็นเธอแล้วหงุดหงิด! ไอ้เหี้x!”
โจวเจ๋อเพิ่งจะเปิดประตูรถ หญิงสูงวัยก็เปิดประตูหลังรถทันที ยัดกระเป๋าเข้าไปข้างในโดยตรง โจวเจ๋อสูดลมหายใจลึกๆ หายใจเข้าลึกๆ
“แม่หนูขอร้องละ แม่อย่าทำแบบนี้ อย่าทำแบบนี้เลย หนูไม่ไป ให้ตายอย่างไรหนูก็ไม่ไป! เสาหลักของบ้านไม่อยู่แล้ว หนูต้องเลี้ยงแม่จนแก่เฒ่าอีกนะ!”
“ถุย ฉันไม่สน เธออยากจะได้บ้านหลังนี้ของฉันใช่ไหม ฉันจะบอกเธอเอาบุญ หยุดคิดไปได้เลย! นี่คือบ้านที่ฉันสร้างขึ้นมาเอง เธอไม่มีสิทธิ์!”
โจวเจ๋อยื่นมือลากกระเป๋าใบนั้นออกมา ตอนที่เขากำลังจะโยนลงพื้นแล้วขับรถออกไป เขากลับเห็นผู้หญิงคนนั้นวิ่งไปที่บ่อน้ำ!
“แม่งเอ๊ย!” นักพรตเฒ่ารีบกระโจนเข้าไปทันที หญิงสูงวัยก็ตกใจเช่นกัน รีบวิ่งเข้าไป แม้แต่ลูกสาวที่นั่งทำการบ้านอยู่ก็ยังร้องกรี๊ด ร้องไห้วิ่งเข้ามา
ผู้หญิงจับขอบบ่อ ร้องไห้ตะโกนพูดว่า “แม่ ถ้าแม่ไล่หนูอีก ได้ หนูจะกระโดดลงไป กระโดดให้แม่ดู แม่ลองดู ว่าหนูจะกล้าไม่กล้ากระโดด! ถ้าหนูจะตาย หนูก็จะตายอยู่ที่นี่!”
นักพรตเฒ่าจับไหล่ของผู้หญิงคนนั้นอย่างแน่นหนา กลัวว่าผู้หญิงจะพลิกตัวลงไป โจวเจ๋อยืนอยู่ข้างๆ มองฉากใหญ่ที่น่าตื่นตานี้ รู้สึกว่าน่าสนุกจริงๆ แม่สามีไล่ลูกสะใภ้ออกไป ลูกสะใภ้ให้ตายก็ไปยอมไปไหน แถมยังเอาเรื่องตายมาบังคับเธออีก ทำไมถึงแปลกเช่นนี้
“คุณย่า อย่าไล่แม่ของหนูได้ไหมคะ หนูจะตั้งใจเรียน หนูจะขยันเรียนหนังสือ ขอร้องอย่าไล่แม่ของหนูไปเลยค่ะ”
หญิงสูงวัยนั่งลงบนพื้นในทันใด คลานไปข้างๆ ผู้หญิง ตีผู้หญิงไปหนึ่งยก แล้วด่าว่า “เธอผู้หญิงโง่ ไล่เธอ ก็ต้องไปสิ! เธอยังสาว เธอยังสาวนะ! ไม่มีเสาหลักของบ้านแล้ว เธอยังสาวขนาดนี้ เธอจะทนใช้ชีวิตคนเดียวเพื่อเขาทำไม! ฉันจะเป็นคนเลี้ยงลูกสาวให้เธอเอง เธอจะได้ลดภาระ แล้วเธอก็ไปหาผู้ชายคนใหม่ใช้ชีวิตให้มีความสุข ทำไมต้องให้ตัวเองเหนื่อยด้วย! อาาาา! ไร้จิตสำนึก! ไร้จิตสำนึก!”
“แม่ขาาาา” ผู้หญิงกอดหญิงสูงวัยเริ่มร้องไห้ขึ้นมาพร้อมกัน
นักพรตเฒ่าเกาศีรษะแกรกๆ แบบนี้คือคืนดีกันแล้วเหรอ นักพรตเฒ่าลุกขึ้นเดินไปข้างๆ โจวเจ๋อ “เถ้าแก่ ทำไมข้ารู้สึกงงๆ”
“ผมก็งงนิดหน่อย”
เวลานี้ รถตู้สองคันแอบเข้ามาจากทางถนนเล็กในเวลาดึก จอดอยู่ข้างแปลงผัก จอดอยู่ข้างหลังรถของโจวเจ๋อนั่นเอง จากนั้นผู้ชายผู้หญิงสิบกว่าคนจึงลงมา ล้วนใส่ชุดนอกเครื่องแบบ
“แม่งเอ๊ย ไม่ได้มาไหว้ศพใช่ไหม ใครจะมาไหว้ศพตอนดึกดื่นเที่ยงคืนแบบนี้!”
แอบพาคนกลุ่มหนึ่งเข้ามากลางดึกเช่นนี้ เหมือนมาหาศัตรูเพื่อแก้แค้นจริงๆ ผลปรากฏว่า คนกลุ่มนี้กลับวิ่งไปที่ลานกว้าง ยืนอยู่ตรงหน้าห้องรับแขกตรงโถงที่ตั้งศพ ยืนเรียงเป็นสองแถว ตอนที่ยืนนิ่งด้วยท่าทางที่เป็นระเบียบแบบนั้นทำให้โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย
หญิงสูงวัยปาดน้ำตา ลุกขึ้นพร้อมกับลูกสะใภ้ พาลูกสาวเดินไปยังห้องโถงที่ตั้งศพ คุกเข่าบนเบาะกลม แล้วคำนับเพื่อเป็นการตอบแทน
คนสิบกว่าคนทั้งสองแถว มีหนึ่งคนในนั้นเป็นผู้นำ พูดเสียงทุ้มต่ำว่า “ถอดหมวก!”
คนที่ใส่หมวกรีบถอดหมวกทันที
“ทำความเคารพ!” คนที่ยืนเรียงสองแถวทำความเคารพพร้อมกันตอนกลางดึก พวกเขายืนอยู่นาน ยืนนิ่งเหมือนหินแกะสลักตั้งตระหง่านอยู่ตรงนั้น
บนโต๊ะไว้ทุกข์ รูปภาพผู้ตายหนุ่มวางอยู่ตรงนั้น เป็นใบหน้าชายหนุ่มที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“เถ้าแก่ ทำไมข้ารู้สึกว่าเหมือนตำรวจเลยล่ะ หรือว่าต้องแอบมาไหว้ศพตอนกลางคืนจริงๆ เพราะกลัวว่าตอนกลางวันจะมีคนเห็น ทำไมกัน”
โจวเจ๋อหยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนอย่างเงียบๆ คาบไว้ในปาก แล้วพูดอย่างช้าๆ “ตำรวจปราบปรามยาเสพติด”
……………………………………………………………………….