ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 784 แจกความหวาน
ตอนที่ 784 แจกความหวาน
“ฮู้…สบายจัง!” ทนายอันใส่ชุดนอนลายเสือเดินออกมาจากห้องน้ำ สองมือถือผ้าเช็ดตัวเช็ดผมอย่างแรง เหมือนอยากจะได้ผลลัพธ์ของโฆษณาเฮดแอนด์โชว์เดอร์
“โอ้ว แขนกลับมาแล้วเหรอ ยินดีด้วย ต่อไปจะได้บินคู่เสียที” จิ้งจอกขาวนอนอยู่บนโซฟาอย่างขี้เกียจ ถือกล้วยหอมอยู่ในมือพลางพูดอย่างเนิบนาบ
กล้วยหอมนี้ไปขอมาจากเจ้าลิง เจ้าลิงน้อยตะกละ แต่ไม่ขี้งก โดยเฉพาะจิ้งจอกขาวที่อ้างว่าเป็นปีศาจเหมือนกันอยู่ตลอด ในสายตาของเจ้าลิง จึงไม่มองเธอเป็นคนนอก
สายตาของทนายอันมองไปที่ริมฝีปากแดงของจิ้งจอกขาวที่กำลังกินกล้วยหอมอยู่สองสามที ไม่พูดอะไร เดินไปที่ตู้เย็นหลังเคาน์เตอร์ หยิบเครื่องดื่มออกมาหนึ่งขวด หลังจากเปิดแล้วดื่ม ‘อึกๆๆ’ หมดรวดเดียว
“วันพรุ่งนี้พวกเจ้าจะออกไปข้างนอกเหรอ” จิ้งจอกขาวชี้ไปที่กระเป๋าสองสามใบที่อยู่ตรงมุมแล้วถาม
“ต้องการให้ผมรายงานให้คุณทราบไหม” ทนายอันย้อนถาม
“อือหือ ข้าก็แค่ถาม ตอนนี้ข้าไม่ได้ไปไหนชั่วคราว ได้แต่รออยู่ที่นี่ อ้อใช่ ร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ฝั่งตรงข้ามถูกพวกเจ้ารับช่วงต่อแล้วใช่ไหม ดูเหมือนกำลังซ่อมแซมอยู่ ขอข้าสักห้องได้ไหม ข้าต้องการห้องน้ำส่วนตัว”
“คุณนี่เรื่องเยอะจริง แค่เอากระดาษชำระสองสามแผ่นมารองพื้นหน่อย แล้วเปลี่ยนร่างกลับไปเป็นจิ้งจอก แก้ไขปัญหาเรื่องการขับถ่ายแล้วค่อยกลายร่างเป็นคน ห่อกระดาษแล้วเอาไปทิ้งถังขยะก็จบแล้ว”
จิ้งจอกขาวกะพริบตาปริบๆ ชูนิ้วกลางให้ทนายอันอย่างเงียบๆ “ผู้ชายก็เป็นแบบนี้ ก่อนที่จะได้ ก็เอาใจทุกอย่าง หลังจากได้แล้ว ก็บอกว่าขยับไปนอนริมเตียงหน่อย ร้อน”
“ปีนี้ค่าห้องแพง” ทนายอันก็ไม่ใช่คนขี้อาย เมื่อโดนแซวแบบนี้ จึงเฉยๆ มาเลย ท้าแข่งรถไหมล่ะ ใครกลัวใคร!
“ข้าเช่าห้องให้ก็แล้วกัน”
“เชอะ พูดเหมือนใครกำลังสนใจเงิน ผมจะบอกคุณนะ ในร้านนี้ นอกจากเถ้าแก่แล้ว ไม่มีใครสนใจเงินหรอก”ทนายอันรู้สึกว่า หลังจากได้ยินนักพรตเฒ่าบอกว่าบริจาคเงินสองสามร้อยล้านหยวนมากับหูตัวเองแล้ว แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังถูก ‘ชำระใจ’ อ้อไม่ เหมือนถูกยกระดับ
“อ้อใช่ ไอ้แก่นั่น พวกเจ้าต้องจัดการหน่อยไหม ข้าถูกเขาเล่นงานสองครั้งแล้ว ไม่อยากโดนเป็นครั้งที่สามแล้ว” จิ้งจอกขาวทำสีหน้าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก
ครั้งที่หนึ่ง ในคลับของจิ้งจอกขาวเอง โดนอาจารย์ของสวี่ชิงหล่างตัดหาง เกือบไม่สามารถกลายร่างได้ ครั้งที่สองสัมผัสรับรู้ได้แล้ว จึงอยากกลับไปที่ร้านหนังสือเพื่อกู้หน้าคืนจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ผลปรากฏว่ากลับโดนกับดักอย่างงุนงง
ตอนนี้พอถึงภาพในตอนนั้น จิ้งจอกขาวรู้สึกใจสั่นอยู่บ้าง โดนเล่นงานครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างนี้ แล้วใครจะทนรับได้
“คุณไม่ต้องกังวล ผ่านไปอีกสักพักจะไปจัดการ” ทนายอันหัวเราะฮ่าๆ แต่จะจัดการอย่างไรนั้น จัดการด้วยวิธีไหน เขาไม่คิดว่าตัวเองจำเป็นต้องอธิบายให้จิ้งจอกขาวตัวนี้ฟัง คนบางคน สุดท้ายแล้วต่างกันคนละชั้น
“ในป่าเก่าแก่ก็ไม่สงบสุขเหมือนก่อน ทางนั้นส่งข่าวมาหาข้าสองสามครั้งแล้ว”
“คราวที่แล้วบอกว่ามีชีพจรมังกรหรือว่าอะไรสักอย่าง ใช่เรื่องนั้นไหม”
“ชีพจรมังกรเป็นแค่ตำนาน ครั้งนี้มีปัญหาจริงๆ ดูเหมือนว่าวิญญาณปีศาจร้ายตัวไหนที่โดนผนึกหลุดออกมากำลังฟื้นฟูอยู่”
“สัตว์เซียนทางโน้นมีเยอะ พวกคุณอาศัยจำนวนคนก็สามารถกดมันตายได้ใช่ไหม”
“ค่อยว่ากัน ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ขี้เกียจกลับไปยุ่งเรื่องพวกนี้แล้ว”
เวลานี้ หญิงสาวตัวดำนั่งเก้าอี้รถเข็นออกมาจากสวนผัก ถือตะกร้าผลไม้อยู่ในมือ นำมาวางบนเคาน์เตอร์ จากนั้นเข็นเก้าอี้รถเข็นของตัวเองกลับไป
“โอ้ว สองสามีภรรยาคู่นี้ตอนนี้รู้ประสีประสามากแล้ว” จิ้งจอกขาวยิ้มพูด
“ชีวิตไม่ง่าย ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี ก็ยิ่งไม่ง่าย”
“ปวดหัวจริงๆ เกลียดที่สุดเลยก็คือผู้ชายที่แสร้งทำเป็นคนสุขุม ข้าพูดแบบนี้ก็แล้วกัน มือสองข้างของเจ้าเพิ่งฟื้นฟูกลับมา แล้วอยากไปหาที่ผ่อนคลายทันทีเลยใช่ไหม อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”
อิงอิงเดินลงมาจากข้างบน ทนายอันมองหนึ่งที จากนั้นเบิกตาโต เพราะวันนี้อิงอิงแต่งตัวแปลกมาก เมื่อก่อนตอนที่นอนเป็นเพื่อนเถ้าแก่ในห้องนอน เธอใส่ชุดนอนอะไร ทนายอันไม่รู้อยู่แล้ว แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น อิงอิงจะใส่เสื้อผ้าเรียบร้อย ให้ความรู้สึกเหมือนชุดสาวใช้เล็กน้อย แต่ไม่โป๊เลยสักนิด
แต่ตอนนี้อิงอิงใส่เสื้อแจ็กเก็ตหนัง ด้านล่างคือกระโปรงหนังตัวเล็ก ใส่ถุงน่องสีขาว ปล่อยผมประบ่า ไม่ว่าจะมองอย่างไร ให้ความรู้สึกเหมือนหวังจู่เสียนในภาพยนตร์ผี
หวังจู่เสียนเวอร์ชันสาววัยรุ่น
อิงอิงเดินไปที่เคาน์เตอร์ ทำตัวเหมือนปกติ ถามทนายอันว่า “ดื่มกาแฟไหม” ของเพิ่งมาล็อตใหม่ ต้องรีบกำจัดของเก่า
“เอ่อ เพิ่งดื่มเครื่องดื่มไป ตอนนี้ยังไม่ต้องการ เอ่อ คือว่า อิงอิง เธอจะออกไปข้างนอกเหรอ”
“อื้ม ออกไป” อิงอิงยิ้มเล็กน้อยพลางพยักหน้า “เถ้าแก่ส่งวีแชตมาหาข้า บอกว่ากำลังกลับมา จากนั้นจะพาข้าไปดูภาพยนตร์”
“แต่งแบบนี้แล้ว สวยมากจริงๆ” เขาไม่ได้พูดแบบขอไปที แต่พูดจากใจ อิงอิงเดิมทีก็เป็นคนสวยอยู่แล้ว
“ขอบคุณเจ้าค่ะ ทนายอัน”
สายตาของทนายอันมองไปที่จิ้งจอกขาวที่นั่งอยู่บนโซฟา ขมวดคิ้วเล็กน้อยเอ่ยว่า “นั่นคือที่นั่งของเถ้าแก่”
“อืม ข้าชอบกลิ่นที่เขาทิ้งไว้” จิ้งจอกขาวดูเหมือนจะพูดเพื่อแซวอิงอิง แสร้งขยับใบหน้าเข้าไปใกล้โซฟาแล้วดมกลิ่นเหมือนเคลิ้มมาก แล้วยืดตัวอย่างยั่วยวน
อิงอิงไม่ได้โกรธเดือดดาล เพียงแค่พูดอย่างจนใจเป็นอย่างยิ่ง “เจ้าไม่รู้ว่าตัวเองขนเยอะใช่ไหม พอเจ้าลงมาแล้วข้าก็ต้องทำความสะอาดโซฟาของเถ้าแก่ใหม่”
จิ้งจอกขาวหน้านิ่งทันที “เชอะ” แล้วลุกขึ้นเปลี่ยนที่นั่งเป็นโซฟาตัวอื่น
“นี่ ข้าว่าเมื่อก่อนไม่เคยเห็นเจ้าแต่งตัวสวยขนาดนี้เวลาออกไปข้างนอกกับเถ้าแก่เลยนะ”
“เจ้าไม่ต้องยุ่ง”
“ต้องยุ่งสิ ต้องยุ่งอยู่แล้ว ข้าว่านะ สาววัยรุ่นคนหนึ่งเหมือนเพิ่งมีความรักจริงๆ ที่ข้าพูดคือเรื่องจริง เนื้อของตัวเองปกป้องดูแลมาตั้งนาน ถึงเวลาที่ต้องใช้มีดกับส้อมหั่นชิ้นเนื้อกินแล้วใช่ไหม”
“เจ้าอยู่ที่บ้านของหลินเข่อไม่ใช่เหรอ กลับมาอีกทำไม”
“ข้าอยากอยู่ที่นี่ ไม่ได้เหรอ”
“โกหก”
“ทำไมข้าต้องโกหกเจ้า”
“เพิ่งจะลงมา เห็นเจ้านอนอยู่ตรงนั้น แล้วอยากจะหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเจ้าจริงๆ แล้วใส่แคปชัน”
“คนสวยแห่งร้านหนังสือเหรอ”
“ซานเอ๋อร์ที่สิ้นหวัง” (ซานเอ๋อร์คือเมียน้อย)
“อ้อ กีบเท้าหมูน้อย ข้าจะฉีกปากเจ้าเดี๋ยวนี้!”
จิ้งจอกขาวทำท่าจะลุกขึ้น แต่เวลานี้ประตูร้านหนังสือกลับถูกผลักออก โจวเจ๋อเดินเข้ามาจากด้านนอก
จิ้งจอกขาวกลับไปนั่งใหม่ ไม่กล้าทำตัวโอหัง ตลกแล้ว เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้ปกป้องผีดิบสาวคนนี้มากแค่ไหน หากตัวเองเข้าไปล้อเล่นตอนนี้ ไม่แน่ด้วยความไม่รู้จักกาลเทศะแล้วอาจจะโดนตบกลับมา เพราะฉะนั้นจะหาเรื่องไปทำไม
“เถ้าแก่ ท่านกลับมาแล้ว กินข้าวหรือยังเจ้าคะ”
“กินแล้ว ไปกันเถอะ”
“เจ้าค่ะ”
อิงอิงเดินออกจากร้านหนังสือ เดินไปบนถนนหนานต้ากับเถ้าแก่
วันนี้อากาศกลับมาอุ่นขึ้นเล็กน้อย แต่ถึงแม้จะเป็นช่วงที่หนาวที่สุดก่อนหน้านี้ บนถนนหนานต้า คนที่แต่งกายคล้ายอิงอิงก็มีไม่น้อย ไม่ว่าอย่างไร บนโลกนี้ ผู้หญิงผู้ชายที่ไม่อยากได้ความอบอุ่นแต่อยากมีสไตล์ มีเยอะเกินไป
ตอนแรกโจวเจ๋อเดินนำหน้า อิงอิงเดินตามหลังด้วยความเคยชิน จากนั้นทั้งสองคนจึงเดินเคียงข้างกัน ต่อจากนั้นอิงอิงจึงใช้ความกล้า ยื่นมือคล้องแขนของโจวเจ๋อ
เธอมองเถ้าแก่ของตัวเองหนึ่งทีอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นเถ้าแก่ไม่รำคาญ อิงอิงจึงก้มหน้าทันที เธอแอบดีใจอยู่ในใจ แล้วรักษาท่าเดินนี้เดินไปข้างหน้า ทุกวันนี้คู่รักทั่วไปมาเดินเล่น จริงๆ แล้วก็หนีไม่พ้นการกินและดื่ม เสียดาย อิงอิงไม่ค่อยสนใจของพวกนี้
โจวเจ๋อบอกว่าจะไปดูภาพยนตร์ แต่เขาไม่ได้ตรงไปที่โรงภาพยนตร์บนถนนหนานต้า แต่เดินเล่นเลาะไปตามหน้าร้านต่างๆ ภายใต้แสงไฟสีเหลืองนวล
นักพรตเฒ่ายังคงจัดการเรื่องงานศพทางนั้นต่อ แต่เรื่องพิธีไหว้ทุกเจ็ดวันห้ารอบ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพวกเขาสองคนแล้ว
เมื่ออยู่ในงานศพตลอดทั้งวันแล้ว โจวเจ๋อไม่ได้หงุดหงิดเลยสักนิด แต่กลับรู้สึกว่าในใจของตัวเองในเวลานี้มีความสงบใจเป็นพิเศษ เหมือนได้รับการชำระจิตและปรับปรุงใหม่
เวลานี้เดินเล่น เดินชอปปิง เดินไปเรื่อยเปื่อย ก็เป็นความสุขอย่างหนึ่ง
โจวเจ๋อยื่นมือคลำกระเป๋า อิงอิงเห็นดังนั้นจึงรีบปล่อยมือ เดินไปที่ร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามซื้อบุหรี่กับไฟแช็กกลับมา
ระหว่างที่เดินกลับมา ได้แกะบุหรี่มาคาบหนึ่งมวน จุดไฟ แล้วสูบหนี่งที พอเดินมาอยู่ข้างโจวเจ๋อค่อยหยิบบุหรี่ออก แล้วยื่นไปที่ปากของโจวเจ๋อ
คู่รักที่เดินผ่านไปมาแถวนั้นหลายคู่ ผู้ชายบางคนหลังจากที่เห็นฉากนี้แล้ว ล้วนเบิกตาโต อาจจะคิดในใจว่า เป็นผู้ชายเหมือนกัน ทำไมต่างกันขนาดนี้ ตัวเองสูบบุหรี่อยู่ในบ้านยังต้องแอบไปสูบที่ห้องครัวใกล้เครื่องดูดควัน…
“วันนี้แต่งตัวสวยมาก” ถ้าหากเป็นผู้ชายคนอื่น ไม่ได้สังเกตการแต่งตัวใหม่ของผู้หญิงทันที หรือไม่ได้ชมทันที มีความเป็นไปได้สูงที่จะต้องเจอกับความน่ากลัวของลมฝน
แต่อิงอิงกลับแอบดีใจ “เถ้าแก่ชอบก็ดีแล้วเจ้าค่ะ”
ตอนที่โจวเจ๋อสูบบุหรี่ อิงอิงยื่นมือคล้องแขนของโจวเจ๋ออีกครั้ง เขาชอบความรู้สึกแบบนี้ ชอบเป็นอย่างมากโดยเฉพาะตอนที่ทั้งสองคนกำลังอยู่บนถนน รู้สึกประสบความสำเร็จที่ได้ประกาศให้ผู้คนรับรู้
อันที่จริง มีบางเรื่อง อิงอิงไม่ได้พูด สาเหตุที่วันนี้แต่งตัวแบบนี้ เป็นเพราะตอนที่เถ้าแก่ส่งวีแชตมาหา ถามว่า ‘เย็นนี้ไปดูหนังไหม’ ถ้าเป็นเมื่อก่อน เถ้าแก่จะพูดตรงๆ ว่า ‘ตอนเย็นดูหนัง’ ความเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ กลับทำให้อิงอิงเบิกบานใจทันที คนที่รู้จักพอ ถึงจะมีความสุขได้ง่ายกว่า
“อา ใช่แล้ว เถ้าแก่ ร้านถ่ายรูปข้างหน้า ข้าลืมไปรับรูปที่นั่นเจ้าค่ะ”
อิงอิงกับโจวเจ๋อเดินมาที่หน้าร้านถ่ายรูปด้วยกัน
“เถ้าแก่ มารับกรอบรูปที่สั่งทำไว้”
“อ้อ ใกล้จะหนึ่งเดือนแล้ว จนผมเกือบลืม เหอะๆ รอเดี๋ยวนะ ผมหาก่อน โอ้ว เจอแล้ว ให้คุณครับ”
โจวเจ๋อเดินเข้าไปข้างๆ มองกรอบรูปที่อิงอิงถืออยู่ในมือ บนรูปภาพ อิงอิงนั่งอยู่บนยอด ‘เขาดาบ’ ด้านหลังเป็นท้องฟ้าสีคราม อิงอิงยิ้มอย่างงดงามและสดใส
……………………………………………………………………….