ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 788 องค์หญิง!
ตอนที่ 788 องค์หญิง!
Ink Stone_Fantasy
ผีน้อยสั่วน่าก้มหน้า มองบุหรี่ที่เหลือครึ่งหนึ่งกลางฝ่ามือของตัวเองอย่างจริงจัง จากนั้นมองโจวเจ๋อที่อยู่ตรงหน้าอย่างตั้งใจ เขาเหมือนอยากจะยืนยันว่า ลูกพี่ที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ กำลังล้อเล่นกับตัวเองอยู่หรือเปล่า
แต่เถ้าแก่โจวไม่ได้ล้อเล่นจริงๆ น่าขัน ฉันจ่ายเงินปลอบขวัญก้อนใหญ่ไปแล้ว ตอนนี้เธอดันส่งคนกลับมาให้ฉัน กำลังเจ็บปวดใจอยู่ทีเดียวเชียว…
เดิมทีคิดว่า คนเราเมื่อเกิดอุบัติเหตุในที่ทำงาน ควรให้เงินปลอบขวัญก็ให้ ควรชดเชยก็ทำ เป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล ตอนนี้จะทำอย่างไรล่ะ สั่งให้ทนายอันไปขอเงินคืนเหรอ ไม่มีเงินใครพัดมาจากพายุไต้ฝุ่นหรอกนะ…
เงียบงัน เงียบกริบ เงียบสนิท หลังจากความเงียบผ่านไปสามนาทีเต็ม ผีน้อยสั่วน่าจึงพูดเสียงดัง เหมือนจะหมดความอดทนแล้ว เพราะไม่ได้ล้อกันเล่น!
คนชุดแดงที่อยู่ข้างหลังเริ่มวิ่งขึ้นภูเขาทันที ดูท่าแล้วคงจะเตรียมตัวต่อสู้เต็มที่! ขณะเดียวกันสั่วน่าที่อยู่ในมือของผีน้อยสั่วน่าได้ทุบไปที่ศีรษะของโจวเจ๋อโดยตรง! ทำงานให้นายแล้ว ไม่จ่ายเงินใช่ไหม จะจัดการนายให้เละไปเลย!
เล็บของโจวเจ๋อขวางสั่วน่าไว้ จากนั้นพลันพลิกมือสะบัดเบาๆ แล้วถีบเท้าข้างหนึ่งขึ้นไป ‘ปึ้ง!’ ผีน้อยสั่วน่าถูกถีบกระเด็นออกไป กลิ้งลงไปตามทางลาดเอียงเหมือนลูกโบว์ลิ่ง พร้อมกับชนโดนคนของตัวเองไปด้วย นี่ไม่ใช่การต่อสู้ในระดับเดียวกันจริงๆ
โจวเจ๋อเริ่มเดินลงไปข้างล่าง คนชุดแดงสองสามคนจึงพุ่งเข้ามาเพื่อต่อสู้ แต่ปลายเล็บของโจวเจ๋อมีปราณพิฆาตที่กลายเป็นสายแส้แล้วฟาดลงไป ฟาดตัวประกอบทั้งหลายกระเด็นออกไปทันที ในปากของพวกมันส่งเสียงร้องของสัตว์ป่าออกมาไม่หยุด คาดว่าน่าจะเป็นปีศาจที่กลายร่าง แต่ในความเป็นจริงกลับอ่อนแอเกินไป ความสามารถแค่ระดับอำพรางตาได้เท่านั้น ไม่สามารถเทียบเคียงกับสัตว์ปีศาจที่ฝึกตนเป็นเซียนในป่าเก่าแก่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างสิ้นเชิง
เถ้าแก่โจวมาอยู่บนถนน ยืนสำรวจอยู่ข้างๆ อย่างละเอียด ไม่น่าเชื่อว่าแต่ละคนยังไม่ตาย ถึงแม้จะสลบอยู่ แต่ยังมีพลังชีวิต
“ฮือๆ โฮๆๆ!!!!”
“ฮือๆๆ!!!”
“โฮๆๆ!!!!”
ต่อจากนี้ฉากที่ทรงพลังได้ปรากฏ ผีน้อยสั่วน่านำหน้า คนชุดแดงที่เหลือล้อมรอบโจวเจ๋อ พวกเขาไม่ได้ลงมือ อีกทั้งท่าทีพลันเปลี่ยนไป คุกเข่าคำนับเถ้าแก่โจวในทันใด คำนับพร้อมกับร้องไห้โฮเสียงดัง ร้องไห้อย่างน่าสงสาร… ตอนนี้เถ้าแก่โจวรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเลวของสังคม รู้สึกผิดที่ติดค้างเงินเดือนกรรมกรผู้ใช้แรงงาน
โจวเจ๋อตรวจสอบทุกคนที่อยู่บนพื้นเสร็จแล้ว หลังจากยืนยันว่าไม่มีใครตาย จึงยื่นมือล้วงกระเป๋าส่ายหน้าอย่างจนใจอยู่บ้าง “ใกล้จะปีใหม่แล้ว พวกแกมาร้องไห้ให้ฉันตรงนี้นี่นะ…”
โจวเจ๋อควักเงินกระดาษสิบกว่าใบออกมาแล้วโปรยลงบนพื้น
“อย่ารังเกียจเงินน้อย เพราะมีแค่…” โจวเจ๋อยังพูดไม่ทันจบ คนที่ร้องไห้อยู่รอบๆ เมื่อครู่พลันกระโจนเข้ามาเก็บเงินกระดาษที่อยู่บพื้น จากนั้นยกโลงศพกระโดดลงที่หน้าผาอีกด้านหนึ่งอย่างรวดเร็ว ประหนึ่งสายลมพัด หายไปอย่างไร้ร่องรอย กลัวว่าหากชักช้าอีกนิดโจวเจ๋อจะเปลี่ยนใจ
โอ๊ย…โจวเจ๋อรู้สึกเจ็บหัวใจทันที เขารู้สึกว่าตัวเองให้เยอะไป ผีสางในเขตภูเขาที่ห่างไกล รายได้ไม่ค่อยสูงเท่าไร…
โจวเจ๋อหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความหาทนายอัน ผ่านไปประมาณสิบห้านาที ทนายอันที่เพิ่งอาบน้ำเย็นๆ จากลำธารในภูเขาได้พาอิงอิงกับเด็กผู้ชายมาด้วยกัน หากมองแต่ไกล จะมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งนอนอยู่บนพื้น ทนายอันจึงตะโกนพูดว่า “จริงๆ เลย เงินปลอบขวัญของฉัน!”
เด็กผู้ชายที่อยู่ข้างหลังเบ้ปาก พูดบ่นว่า “เจ้าสนใจเงินแค่นี้ด้วยรึ”
“ไร้สาระ อย่างผมเรียกว่าหลอมรวมเข้าสู่โหมดความคิดของผู้นำอย่างสมบูรณ์ คุณต้องหัดเรียนรู้เยอะๆ!” ทนายอันหันกลับไปขึงตาใส่เด็กผู้ชายหนึ่งที ตอนที่หันหน้ากลับมา ได้แสดงสีหน้าปวดใจสุดขีดบนใบหน้าของเขา จนเกือบจะมีน้ำตาและน้ำมูกไหลลงมา
…
“อะไรนะ อยู่ในโลงศพ” หลังจากฟังโจวเจ๋อเล่าจบแล้ว ทนายอันจึงยืดมือบิดขี้เกียจ กล่าวว่า “ดูท่าแล้วสงสัยจะเจอผีน้อยดักปล้น โดยทั่วไปสถานที่ที่มีสภาพพื้นดินเกิดภัยพิบัติค่อนข้างบ่อยถึงจะมี แต่ไม่นับว่าเป็นการปล้นจริงแน่นอนว่า ถ้าหากคนไหนดวงซวยเดินอยู่ใต้ไฟสลัวมีความเป็นไปได้สูงที่จะโดนผลกระทบ
แต่ผีน้อยกลุ่มนี้ จริงๆ แล้วเหมือนองค์กรหนึ่ง ที่อาจจะเข้ามาช่วยผู้ประสบภัยโดยเฉพาะ จากนั้นค่อยเก็บค่าธูปเทียนของเขา ในนิยายโบราณมากมาย อย่างเช่นใครเจอแผ่นดินไหวหรือเจอน้ำท่วม พอตื่นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในสถานที่ปลอดภัย ก็คือฝีมือของคนกลุ่มนี้ คนที่เข้าใจ กลับไปก็จะรีบจุดธูปบูชาทันที ถือว่าเป็นเงินค่าเหนื่อย ถ้าหากไม่เข้าใจ ไม่รู้จักตอบแทนบุญคุณ เขาก็จะมารบกวนคุณถึงบ้าน ทำให้คุณอยู่ไม่สุข”
“ดังนั้น ครั้งนี้ถือว่าพวกเราโชคดีเหรอ” โจวเจ๋อถาม
“ไม่ขนาดนั้น แบบนี้ยิ่งอธิบายว่า โคลนถล่มครั้งนี้มีปัญหา ผีน้อยเหล่านี้ปกติเข้าไปช่วยเหลือคนน้อยมาก หนึ่งคือหาโอกาสไม่เจอ สองคือพวกเขาก็มีกฎของพวกเขาเอง ถ้าหากเล่นสนุกมากเกินไป แล้วจะมีทีมกู้ภัยไปทำไม จะต้องเป็นเพราะเหตุการณ์โคลนถล่มนี้มีปัญหาที่น่าสงสัย ดังนั้นถึงดึงดูดพวกเขาเข้ามาทำงานนี้
แต่มีจุดหนึ่งที่มั่นใจได้คือ โคลนถล่ม ไม่ใช่ฝีมือของพวกเขา แบบนี้กลายเป็นการลักพาตัว หลักของนรกและโลกมนุษย์ ถ้าคุณเป็นผี ถึงแม้จะเป็นผีร้าย ก่อกรรมทำชั่ว ฆ่าทำร้ายคน ควรจะจัดการอย่างไรก็ทำอย่างนั้น แต่ถ้าหากคุณรวมตัวกัน และยังจัดตั้งองค์กรผี เช่นนั้นเป็นปัญหาใหญ่แล้ว ไม่แน่ยมทูตแต่ละท้องที่อาจจะถูกเรียกมารวมตัวกันเพื่อกวาดล้างคุณ”
โจวเจ๋อพยักหน้า เอ่ยว่า “ตรงนั้นจัดการเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“จัดการเรียบร้อยแล้ว กุญแจตู้นิรภัยอยู่นี่” ทนายอันยื่นกุญแจให้โจวเจ๋อ บนนั้นมีกุญแจสามดอก “ใช้อันนี้เปิดก็ได้แล้ว”
“อย่างนั้นคุณช่วยจัดการคนพวกนี้ให้เรียบร้อย” โจวเจ๋อลุกขึ้นพูดกำชับ อย่าให้เดิมทีไม่ตาย ปรากกฎว่าโดนลมภูเขาพัดหนาวตาย
“ข้าจะอยู่ช่วยเจ้า” เด็กผู้ชายพูด
“ไม่ต้อง!” ทนายอันแอบขึงตาใส่เด็กผู้ชาย “โลงศพของคนอื่นยังสามารถยัดคนได้เยอะขนาดนี้ รถตู้ของผมนี่อู่หลิงหงกวงเชียวนะ (ชื่อรถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อหนึ่งของจีน) จะแย่กว่าพวกเขาได้อย่างไร ผมเป็นคนไปส่งเอง ผมทำได้อยู่แล้ว คุณอยู่คอยฟังคำสั่งของเถ้าแก่ ข้างกายเถ้าแก่จะขาดคนไม่ได้”
สามารถพูดได้ว่า ถ้าหากไม่ใช่เพราะเงื่อนไขไม่อำนวย ทนายอันอยากเข้าไปเคาะกบาลของเด็กผู้ชายแรงๆ สักสองสามที เมื่อเหลือบตาเห็นเถ้าแก่จะลงไปแล้ว คุณไม่คอยเฝ้าอยู่ใกล้ๆ จะรู้ได้อย่างไรว่ามีของดีไหม คุณดันอยากจะไปส่งเนื้อคนกับผม สายตาไม่กว้างไกลเอาเสียเลย!
“อย่างนั้นคุณระวังตัวด้วย ลำบากคุณแล้ว” โจวเจ๋อพยักหน้าให้ทนายอัน
“แน่นอนอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่สมควรทำอยู่แล้ว”
มองดูเถ้าแก่พาอิงอิงกับเด็กผู้ชายเดินย้อนขึ้นไปบนภูเขา จากนั้นทนายอันมองคนสิบหกคนที่นอนอยู่บนพื้น พลางขมวดคิ้วแน่น
ของที่ต้องส่งด่วนนี้ ต้องส่งไปที่ไหน พวกยามส่งไปโรงพยาบาล ผู้อยู่อาศัยเดิมเหล่านี้ ลองวนหาสถานที่ดูก่อน ตอนนี้สามารถทำได้เพียงเท่านี้ ตอนที่ซ่อมบำรุงสถานพักฟื้นก่อนหน้านี้ ผู้อยู่อาศัยกลุ่มนี้ให้เงินอยู่ไม่น้อย ดังนั้นจะไม่ดูแลก็ไม่ได้
ทนายอันเริ่มแบกคน ปริมาณความจุของรถอู่หลิงหงกวงน่ากลัวมากจริงๆ โดยเฉพาะหลังจากทนายอันถอดเบาะหลังสองสามตัวออกไป ถึงแม้จะใส่เข้าไปสิบคนแล้ว ยังกว้างขวางอย่างเห็นได้ชัด!
ตอนที่ทนายอันแบกคนที่สิบเอ็ดขึ้นมา เขาตกตะลึงเล็กน้อย เพราะจากการสัมผัสแล้ว น่าจะเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ใส่ชุดนอนอยู่ น่าจะเป็นผู้อยู่อาศัยเดิม
แต่ผู้อยู่อาศัยเดิมที่นี่ ทนายอันไม่พูดว่ารู้จักทุกคน แต่อย่างน้อยก็รู้สภาพร่างกายของพวกเขา โดยทั่วไปแล้วผอมแห้งเหมือนท่อนฟืน พูดให้น่าฟังหน่อยก็คือผีดูดเลือด พูดไม่เพราะหน่อยก็ไม่ต่างจากพวกติดยา
ทว่าคนนี้กลับมีน้ำมีนวล ทนายอันได้เขย่าสองสามครั้งเมื่อรู้ตัว ลองสัมผัสใหม่อีกครั้ง ทันใดนั้น เขาหันหน้ามองผู้หญิงที่เขาแบกไว้บนหลังของตัวเอง ผมเผ้ายุ่งเหยิงเล็กน้อย ใบหน้ามีเศษดินโคลนติดอยู่บ้าง ทนายอันยื่นมือเช็ดหน้าให้เธอ ไม่เลอะแล้ว แต่กลับเผยใบหน้าที่สวยงามออกมา!
ไอเย็นส่งตรงจากฝ่าเท้าพุ่งขึ้นไปที่สมองของทนายอันโดยตรง ความรู้สึกตอนที่แอบเอาเปรียบเธอก่อนหน้านี้หายไปในพริบตา!
ผู้อยู่อาศัยเหล่านี้เขาไม่ได้รู้จักทุกคน ไม่ได้จำใบหน้าได้ทั้งหมด ซึ่งเป็นเรื่องปกติ! แต่ในกลุ่มผู้อาศัยเหล่านี้มี ‘ผีดูดเลือด’ ที่สวยขนาดนี้ เขากลับไม่รู้มาก่อน เป็นไปได้อย่างไร!
ผู้ที่มีประสบการณ์โชกโชนเกือบหนึ่งร้อยปี จะพลาดเหมือนมือใหม่ได้อย่างไร! ดังนั้น ผู้หญิงคนนี้ เป็นใครกันแน่ผีน้อยกลุ่มนั้นจัดโปรโมชันฉลองตรุษจีน ซื้อสิบแถมหนึ่งเหรอ
ทนายอันเม้มปาก ดวงตาฉายแววดุดันแวบหนึ่ง เขาเดิมทีเป็นคนที่เด็ดขาดคนหนึ่งอยู่แล้ว พลันเดินตรงไปที่ริมถนน “น้องสาว ขอโทษนะ!” พูดจบ ทนายอันสะบัดตัว คิดจะทิ้งผู้หญิงลงหน้าผา!
แต่เวลานี้ ผู้หญิงกลับยิ้มโค้งที่มุมปาก เสียงฟ้าร้องน่าตกใจ ประหนึ่งฟาดลงมาที่กลางสมองของทนายอันโดยตรง
“โอหัง!”
ทนายอันตัวสั่น ตาหูจมูกปากเริ่มมีเลือดสดไหลออกมา ตามมาด้วยเสียงดัง ‘พลั่ก’ คุกเข่าลงไปบนพื้นทั้งตัว ผู้หญิงยังคงอยู่บนหลังของเขา ไม่ได้โดนทิ้ง
สายลมเย็นตอนกลางคืนในภูเขาพัดเข้ามา พัดภาพแห่งความเงียบนี้ ในดวงตาของทนายอันเหลือเพียงความงุนงงและสับสน และในเวลานี้ เขาสูญเสียความสามารถในการคิดอย่างสิ้นเชิง ในที่สุดหลังจากเหม่อลอยอยู่นาน ทนายอันจึงยื่นมือของตัวเอง เผยให้เห็นกระดูกขาว ทิ่มลงไปที่ท้องของตัวเอง!
‘ฉึก!’ นัยน์ตาของทนายอันเริ่มจับจุดโฟกัสอีกครั้ง ร่างกายสั่นสะท้าน ขณะเดียวกัน เขาเอ่ยพูดอย่างยากลำบากว่า “คุณเป็นใครกันแน่…”
ผู้หญิงไม่ตอบ เกาะอยู่บนหลังของทนายอันต่อไป ในหุบเขา บรรยากาศสวยงามและเงียบสงบ เสียดายที่ทั้งสองคนไม่ใช่คู่รักที่มาเดินเล่นในป่าอะไร
นัยน์ตาของทนายอันเริ่มกลับมาสดใสและเผยให้เห็นถึงการดิ้นรนอย่างชัดเจน มือกระดูกขาวของเขากำลังสั่น “อยากจะควบคุมฉัน…ตลกแล้ว ฉันอันปู้ฉี่ อาศัยวิชาสะกดจิตทำมาหากิน! คิดจะสะกดจิตฉัน ฝันไปเถอะ มา พวกเรามาแข่งกัน เธอทำต่อไป ฉันอยากจะดูว่า เธอจะสะกดจิตฉันอย่างไร ฉันจะทำให้เธอได้เห็นว่าอะไรเรียกว่ายอดฝีมือแห่งการสะกดจิต! เหอะๆ… น้อมรับคำสั่งของท่าน องค์หญิง!”
……………………………………………………………………….