ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 845 อวบหนา
ตอนที่ 845 อวบหนา
……….
ทนายอันลืมตา
ในเวลาเดียวกันนั้น เฉิงอาเผิงที่อยู่บนระเบียงชั้นสองวิลล่าในระยะไกลค่อยๆ คุกเข่าลงด้วยสีหน้าเศร้าโศก เอาแต่อยู่ในท่าทางเดิมไม่ขยับเหมือนในภาพลวงตาก่อนหน้านี้
เขาจมดิ่งลงไปแล้ว นอกเสียจากว่าจะมีใครสักคนที่ฝีมือด้านพลังจิตเหนือกว่าระดับของทนายอันยอมช่วยเขาคลายมัน ไม่อย่างนั้นชาตินี้เขาจะจมดิ่งลงไปในนั้นไปชั่วกาล
ชีวิตหลักฐานคือ เขายังมีชีวิตชาตินี้อยู่
ทนายอันคลำบุหรี่ออกมาและจุดมัน ถือว่าเป็นบุหรี่หลังจบเรื่อง คุณอยากจะบอกว่ารู้สึกสะใจแค่ไหนที่ชนะเกมนี้ จริงๆ แล้วก็ไม่เสมอไป แต่หากไม่ชนะละก็คงไม่รู้แจ้งเหมือนตอนนี้อย่างแน่นอน
อันที่จริง มีเรื่องหนึ่งที่ทนายอันยังไม่ได้บอกชัดเจน แต่เขาเชื่อว่าเถ้าแกต้องเดาออกแน่ๆ
ตอนแรกเริ่มเป็นหน่วยบังคับใช้กฎหมายลงมือทำร้ายผู้หญิงที่เขาชอบจริงๆ แต่หน่วยบังคับใช้กฎหมายใหญ่มากมาก อีกทั้งหน่วยบังคับใช้กฎหมายก็เป็นเพียงมีดสังหารในมือของผู้อื่น
จนในท้ายที่สุดสติเขาก็ขาดผึ่งจนพยายามเข้าไปร่วมวงพัวพันกับคนชั้นสูง นี่เป็นส่วนหนึ่งของเหตุผลว่าทำไมเขาถึงสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป
แต่ว่ามันไม่สำคัญหรอก ยุคนี้มีเหล้าก็เมายุคนี้ ยุคนี้มีดวงอาทิตย์ก็ตากแดดยุคนี้ คนธรรมดาไหนเลยใยจะมองเห็นการเปลี่ยนแปลงในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้าได้
ใช้ชีวิตตอนนี้ถึงจะเป็นทางเลือกที่ฉลาดมากที่สุด
สูบบุหรี่ไปได้ครึ่งมวน ความตื่นเต้นในใจพลันสงบลงช้าๆ ทนายอันเอื้อมมือไปนวดคิ้วเบาๆ จนมีเวลาสังเกตสถานการณ์การต่อสู้ของอีกสองฝั่ง
ฝั่งเถ้าแก่ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ว่าผู้หญิงคนนั้นจะพุ่งเข้ามาหรือต่อสู้อย่างไรล้วนรุกรับด้วยความมั่นใจ
นี่อาจจะเป็นผลพวงมาจากการมีผู้เล่นเก็บเลเวลระดับสูงเล่นกับคุณตลอดเวลา ตัวเถ้าแก่เองพัฒนาความสามารถของมาถึงขั้นนี้โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
การเผชิญหน้าประเภทนี้คนอื่นไม่สามารถเรียนรู้หรือเลียนแบบได้
ในบรรดาพวกที่อิ๋งโกวรวบรวมมาได้มากมายในกำมือ คงมีผู้ที่มีความสามารถน่าทึ่งไม่น้อยแน่ๆ แต่จนถึงตอนนี้ มีเพียงสองคนครึ่งเท่านั้นที่สามารถกระโดดออกมาเป็นที่รู้จักจริงๆ
คนหนึ่งคือเจ้าครึ่งหน้า หลังจากหลอกอิ๋งโกวก็แยกตัวออกมา ก่อตั้งเอกราชของเขาขึ้นมาเอง เรียกได้ว่าเป็นตำนานในโลกสุนัขเฝ้าบ้าน ทำให้สุนัขเฝ้าบ้านรุ่นต่อๆ ไปโหยหามัน
หนึ่งในนั้นก็เป็นเถ้าแก่โจว คุณสมบัติของเถ้าแก่โจวค่อนข้างซับซ้อน แม้ว่าไม่มีโลกเจ๋งๆ ที่แยกจากอิ๋งโกว แต่อย่างน้อยในตอนนี้ ใช้ชีวิตน้อยๆ นี้สบายยิ่งกว่าที่เจ้าครึ่งหน้าอยู่เสียอีก
ยังมีอีกครึ่งหนึ่ง เป็นเจ้าของศพที่เถ้าแก่พบในสถาบันวิจัยใต้ดินสถานีตำรวจ น่าจะเป็นร่างของสุนัขเฝ้าบ้านสักยุคสมัยหนึ่งของอิ๋งโกว เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายได้พัฒนาพลังผีดิบบางส่วนออกมา แต่น่าเสียดายที่ตายโดยไร้ชื่อเสียงเรียงนามและไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วย
บางครั้งทนายอันยังคิดว่าหากทุกคนดำเนินชีวิตไปอย่างราบรื่นเพื่อโต้ตอบนรกในอนาคตได้จริงๆ หลังจากเรื่องจบลงแล้วเขาก็สามารถประสบความสำเร็จมีชื่อเสียง แต่เขาอยากให้คนที่ข้างบนเป็นอิ๋งโกวหรือว่าแขวน…
เมื่อก่อนเคยคิดว่าไม่มีทางเลือกอะไรมากนัก ที่เห็นได้ชัดๆ ถ้าติดตามลูกพี่ใหญ่มีอนาคตยิ่งกว่า ในชั่วพริบตาทำให้คุณสลายกลายเป็นเถ้าได้โดยไม่ส่งเสียงน่ารำคาญแม้แต่น้อย
เพียงแต่ จู่ๆ ทนายอันก็รู้สึกว่าหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาอาจจะรู้สึกไม่คุ้นชินอยู่บ้าง
ทนายอันเดินตรงไปข้างหน้าและเข้าบ้าน พร้อมกับดูลาดเลาในห้องรับแขกก่อน โดยเฉพาะเห็นลูกบอล (อัณฑะ) คู่หนึ่งที่ยังไม่ได้เก็บ “จุ๊ๆ หน่วยบังคับใช้กฎหมายยังนิสัยโรคจิตไม่เปลี่ยนเลยนะ”
หน่วยบังคับใช้กฎหมายถือได้ว่าเป็นโรงเก็บขยะของยมโลก ในปีนั้นหัวหน้าใหญ่ของพวกเขาดูเหมือนจะจงใจเลือกแบบนี้ เป็นผลพ่วงให้ลูกน้องของเขาเหมือนกันทั้งหมด ยิ่งกว่านั้น หลังจากขยะเหล่านี้มารวมตัวกัน ราวกับว่าเป็นกลิ่นเดียวกันเริ่มมีอิทธิพลซึ่งกันและกัน จากนั้นก็จับมือพากันวิ่งไปอย่างดุเดือดด้วยกันบนถนนแห่งความวิปริต
เมื่อขึ้นไปชั้นบนผ่านห้องนอนและเดินออกไปที่ระเบียง
ทนายอันย่อตัวลงตรงหน้าเฉินอาเผิง เขาจำได้ว่าวันนั้นเฉินอาเผิงสวมชุดสีดำมาตามหาเขาโดยเฉพาะและพูดประโยคหนึ่งกับเขา “ได้ยินมาว่าเจ้าชอบนางหรือ”
เขาไม่ใช่ผู้ร้ายกระทำผิด แต่เขากลับเป็นคนแรกที่กระโดดออกมาล้อเลียนเขาหลังเกิดเหตุ
เจ้าคู่ควรที่จะชอบนางด้วยหรือ นางรู้ไหมว่าเจ้าอันปู้ฉีเป็นพวกไม่มีราคาค่างวด
จากนั้น นางเสียชีวิตแล้ว
แต่ไหนแต่ไรทนายอันไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนดี ความจริงแล้ว สิ่งที่เขากระทำมันอยู่ตรงกันข้ามกับการเป็นคนดีมาเป็นเวลานานแล้ว
นี่คือสถานที่ทำงาน นี่คือหน่วยงาน เว้นเสียแต่คุณจะรู้แจ้งและหลงใหลในดาราศาสตร์ ไม่เช่นนั้นจะจบลงด้วยการต่อสู้ วางแผนช่วงชิง ไม่ได้ถูกคนอื่นเหยียบย่ำ แต่ไปเหยียบย่ำคนอื่นแทน
สิ่งที่น่าโมโหก็คือในนรกไม่มีดวงดาว มีเพียงพระจันทร์สีเลือด อยากจะดูดาวฆ่าเวลาตอนเบื่อหน่ายเป็นเรื่องสิ้นเปลืองมาก ดังนั้นหากเจ้ายั่วยุข้า ทำให้ข้าอึดอัด ข้าก็จะปล่อยให้เจ้าตาย
มือกระดูกของทนายอันค่อยๆ แทงเข้าไปในคอของเฉินอาเผิง เฉินอาเผิงตัวสั่นเทา วิญญาณของเขาก็สั่นสะท้านเช่นเดียวกัน
“ที่จริง เจ้าเป็นไอ้ขี้แพ้มาโดยตลอด” ทนายอันมองเฉินอาเผิงตรงหน้าและพูด
ย้อนกลับไปตอนทำงาน เจ้าเคยเล่นงานข้าแล้ว ถูกข้าบีบออกไปอย่างรวดเร็วและง่ายดาย จนสุดท้ายได้แต่มุดหัวอยู่แต่ในรังของพวกวิปริตเท่านั้น
ท่าทีที่เจ้าปฏิบัติต่อผู้หญิงของตัวเอง เจ้าขายภรรยาทิ้ง จากนั้นทำเหมือนเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น ข้าเป็นนายทัพโกรธเกศาชันเพื่อโฉมงาม แม้ว่าจะยอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างในตอนแรก ข้าก็ไม่เคยเสียใจ
ต่อให้เริ่มใหม่อีกครั้ง ข้าก็มีต้นขาไว้ให้กอดพึ่งพิง แล้วเจ้าล่ะมีอะไรบ้าง
จริงๆ แล้วอาจจะเป็นพระประสงค์ของสวรรค์
เมื่อสิบปีก่อน ทนายอันหวนคืนสู่แดนมนุษย์ไปทำธุระฮ่องกงครั้งหนึ่งจริงๆ ตอนนั้นมีวิญญาณร้ายเข้าสิงตระกูลหยินหยางในฮ่องกง ทนายอันได้รับคำสั่งให้ช่วยยมทูตท้องถิ่นกำจัดเขา ความบังเอิญที่ไม่บังเอิญคือ ตอนนั้นทนายอันกำลังดื่มชาอยู่ในโรงน้ำชาและหยิบ ‘หนังสือพิมพ์หมิงเป้า’ มาอ่านนิยายด้านบน จากนั้นดันเห็นประกาศคนหายจริงๆ
คนที่ตามหาเป็นผู้ชายชื่อเฉินเผิง เมือง XX อำเภอ XX
นี่เป็นศัตรูตัวฉกาจของเขาไม่ใช่หรือไง
ทนายอันตามข้อมูลติดต่อในหนังสือพิมพ์ไปจนเจอกับหญิงชราคนนั้น
อันที่จริง หญิงชราคนนั้นเลิกตามหาสามีที่โหดร้ายของตัวเองไปนานแล้ว แถมนางยังใช้ชีวิตของตัวเองด้วย เพียงแต่เมื่อแก่ตัวลง เลี่ยงไม่ได้ที่อยากจะแก้ไขความเสียใจเล็กๆ น้อยๆ ของตัวเอง และไม่ได้คาดหวังจะหาเจอจริงๆ แค่คิดเท่านั้น
ทนายอันมาแล้ว ถึงได้มีบทสนทนาเริ่มแรกพวกนั้น
เพียงแต่ว่า ทนายอันเป็นใครกันล่ะ หญิงชราใช่คู่ต่อสู้ของทนายอันหรืออย่างไร ข้อเท็จจริงในเรื่องราวและตัวตนจริงๆ ของหญิงชราจะปกปิดจากทนายอันได้อย่างไร
เพียงแต่หลังจากทนายอันกลับนรกได้ไม่นาน ดันเจอเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงขึ้นกับหน่วยบังคับใช้กฎหมาย คำสั่งของพระกษิติครรภโพธิสัตว์บวกกับพระยมฉู่เจียงหวังปราบปรามด้วยตัวเอง ส่งผลให้จิตวิญญาณหน่วยบังคับใช้กฎหมายเสียหายรุนแรง ส่วนที่เหลืออยู่ก็ยังถูกคุมขังอีก
แต่จนสุดท้ายแล้ว มันก็วนเป็นวงกลมจริงๆ
หลายทศวรรษต่อมา ทั้งสองกลับมาพบกันอีกครั้ง ตัวตนและสถานะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่ทนายอันยังสามารถใช้เรื่องราวนี้มัดตัวเฉินอาเผิงได้อีก
“จุ๊ๆ…”
เฉินอาเผิงยังคงดิ้นรนต่อต้าน แต่ทว่ายิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ ร่างกายและจิตวิญญาณของเขาก็อ่อนแอลงเช่นเดียวกัน
แม้ว่าการทำให้เขาจมดิ่มถลำลึกไปตลอดกาล ดูเหมือนจะสอดคล้องกับหัวข้อของ ‘การทรมาน’ แต่ระยะนี้ทนายอันได้รับอิทธิพลจากเถ้าแก่ของเขาค่อนข้างหนักหน่วง รู้และเข้าใจหลักการ ‘มีน้ำใจเมตตาต่อผู้อื่น’ ในโลกนี้ มีเพื่อนเพิ่มหนึ่งคนก็ย่อมดีกว่ามีศัตรูเพิ่มอีกหนึ่ง
อ้อ ไม่สิ
เพิ่มอากาศมวลหนึ่งก็ดีกว่ามีศัตรูเพิ่มมาอีกหนึ่งคน
เมื่อวิญญาณใกล้ดับสูญ จิตสำนึกของเฉินอาเผิงดูเหมือนจะดิ้นหลุดออกจากภาพลวงตาไร้ขอบเขตได้ชั่วขณะหนึ่ง ความหมายคล้ายกับหวนคืนสู่แสงสว่างเล็กน้อย
เขาลืมตามองทนายอันและพูด “เป็นเด็กผู้ชาย…หรือเด็กผู้หญิง…”
ทนายอันเม้มริมฝีปากและพูด “เด็กผู้ชาย หรือว่าเป็นแฝดนะ”
เฉินอาเผิงหัวเราะแลพูด “เจ้าหลอกข้า…”
ทนายอันพยักหน้า ก็แค่อยากให้เจ้าทรมานก่อนตายเท่านั้น
ทุกคนล้วนเป็นคนที่ ‘ฟื้นคืนชีพจากความตาย’ เรื่องที่ว่าคนตายเป็นใหญ่สำหรับพวกเขานั้นไม่มีอยู่จริง ไม่เช่นนั้นนรกจะไม่เต็มไปด้วย ‘พ่อ’ หรือ
“นะ…นาง…นาง…ตายแล้ว…”
นางที่ว่าไม่ได้หมายถึงหญิงชราคนนั้น
ทนายอันมองเฉินอาเผิงและไม่พูดอะไร
“ตะ…แต่นางสวยมากจริงๆ…”
จู่ๆ หัวใจทนายอันพลันกระตุกวูบ เพราะเขามีลางสังหรณ์ว่าเฉินอาเผิงกำลังจะแกแค้นเขาแล้ว
เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งสอง คนหนึ่งแม้ว่าคุณกำลังจะตายก็ยังทรมานคุณ ส่วนอีกคนแม้ว่าตัวเองใกล้จะตายก็ยังทำให้คุณอึดอัด
ทุกคนล้วนเป็นคนน่ารังเกียจ และเป็นคนจิตใจคับแคบ การให้อภัยและปรับความเข้าใจไม่มีอยู่จริง
ทนายอันรู้ว่าสิ่งที่ถูกต้องที่เขาควรจะทำในเวลานี้คือการรีบปิดปากอีกฝ่าย ไม่ปล่อยให้เขาพล่ามประโยคต่อไปได้จนขาดใจตาย แต่ทนายอันไม่ทำถึงขนาดนั้น เพราะไม่ว่าจะเป็นข่าวจริงหรือปลอม เขาอยากจะรู้ทั้งสิ้น
เขาต่ำช้า…
“ศพของนาง…ถูก…หัวหน้าใหญ่ของเรา…เก็บเอาไว้…เหอะๆๆ…”
ทนายอันสูดหายใจเข้าลึกๆ และกัดริมฝีปาก
“ไม่ต้องเป็นห่วง อีกหน่อยมีโอกาสไว้ข้าจะคิดบัญชีกับเขา เขาถูกพระยมฉู่เจียงหวังคิดบัญชีไปแล้ว หากเขาไม่ตายละก็ข้าจะมอบจุดจบให้เขาเอง”
“เหอะๆๆ…เจ้าอันปู้ฉี…นอกจากจะกอดขาเบื้องบน…ยังมีความสามารถอะไรอีก…”
เห็นได้ชัดว่า เฉินอาเผิงกำลังพูดถึงช่วงเวลาที่เขาถูกผู้พิพากษาหัวหน้าทรมานจนตาย
ทนายอันเอื้อมมือไปจับหน้าเฉินอาเผิงและดันหน้าออกไปให้เขามองทางด้านนอกพร้อมพูดช้าๆ “ผู้ชายที่ถูกทุบตีจนฟกช้ำดำเขียวคนนั้น ในร่างของเขามีวิญญาณเซี่ยจื้ออยู่ด้วย”
ดวงตาเฉินอาเผิงแข็งค้างครู่หนึ่ง
“ที่ร้านหนังสือน่ะ ข้าดื่มชากับไท่ซานฝู่จวินทุกวัน หากข้าเปลี่ยนรสนิยมละก็ เราน่าจะไปเกรตแบร์ริเออร์รีฟด้วยกันได้”
เฉินอาเผิงพลันเบิกตากว้าง
“นี่น่ะ มองเห็นหรือยัง เขาเป็นจ้าวทะเลแห่งความตาย”
ลูกตาเฉินอาเผิงแทบจะถลนออกจากเบ้าตา
“เอ๋ เจ้าดันเชื่อจริงๆ สินะ ก็จริง เหมือนที่เจ้าเพิ่งพูดออกมาเองนั่นแหละ ข้าอันปู้ฉีไม่มีความสามารถอื่น ก็แค่กอดขาอวบ เจ้าน่ะเป็นเพื่อนสนิทสุดๆ ของข้า ช่วยข้าตรวจดูหน่อยว่าต้นขารอบนี้ หนาดีหรือไม่”
“นะ…นะ…นรก…”
‘ผัวะ!’
ทนายอันตบกบาลเฉินอาเผิงฉาดหนึ่งพร้อมกับตกตะลึงและไม่เต็มใจสุดๆ วิญญาณของเฉินอาเผิงดับสูญจนสิ้นซาก
ทนายอันพ่นควันบุหรี่และพยักหน้าพูด “ถูกต้อง มันหนา”
…………………………………………………………..