ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 160 ดียิ่งนัก! ยังมีการขายแบบผูกขาดเช่นนี้อีกด้วย!
บทที่ 160 ดียิ่งนัก! ยังมีการขายแบบผูกขาดเช่นนี้อีกด้วย!
แม้หลิงเยว่จะถูกเนรเทศออกไปยังทะเลทราย แต่ตำนานของนางไม่ได้หายไปด้วย
อย่างไรก็ตาม… เสียงดังสนั่นของเตากลั่นโอสถที่ระเบิดก็ยังลอยตามลมไปสู่เมืองฮั่วหยางอยู่ดี
เถาวั่งส่ายศีรษะพลางถอนหายใจ เวลาเพียงครึ่งเดือนเกรงว่าจะน้อยเกินไปแล้วกระมัง
เขาเหลือบมองไปยังสหายที่กำลังต่อสู้กับการทำเต้าฮวยก็ยิ่งอยากถอนหายใจเข้าไปใหญ่ สิ่งที่พวกเจ้ากำลังทำนั่นคืออะไรกัน
ทั้งกินก็ไม่ได้ จะกลืนก็ไม่ลง!
ต่อให้พวกเขาใช้เวลาหนึ่งปี พวกเขาก็ไม่อาจทำได้ ตอนนี้เถาวั่งเข้าใจความรู้สึกของชิงยวนเป็นอย่างยิ่ง
ซูซวงผู้เดินทางกลับมายังเมืองฮั่วหยางมองไปยังจวนเจ้าเมืองที่ถูกระเบิดจนราบเป็นหน้ากลอง นางใจหายวาบ ทั้งอยากหัวเราะและรู้สึกโกรธไปพร้อม ๆ กัน
“เป็นเช่นนี้มานานเท่าใดแล้ว?”
คนรับใช้ของนางที่ถูกซักถามพลันได้สติ แล้วจึงตอบกลับว่า “ได้ยินว่าห้าวันแล้ว”
“เหตุใดจึงไม่สร้างใหม่?”
“ท่านรองเจ้าเมืองยังไม่ได้มอบหินวิญญาณให้”
ทั้งสองถามตอบกันไปมา ผู้ที่ซักถามจึงมุ่งตรงไปยังเขตทะเลทรายเพื่อตามไปทวงหนี้กับหลิงเยว่
จวนที่อาศัยมานานหลายร้อยปีได้สูญสลายไปเช่นนี้ จำเป็นต้องทวงคืนให้มาก ไม่เช่นนั้นเมื่อหลิงเยว่สะบัดก้นไปที่เหอตงแล้ว นางจะไปทวงกับผู้ใด
ชิงยวนหรือ?
ล้มเลิกเถิด นางสู้ไม่ได้
เมื่อซูซวงมาถึงเขตทะเลทราย เสียงระเบิดก็ต้อนรับนางทันที หากนางหลบไม่ทันคงถูกฝังอยู่ที่นี่แล้วเป็นแน่
สมคำร่ำลือจริง ๆ รองเจ้าเมืองน้อยผู้นี้ เมื่อยามกลั่นโอสถไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู ล้วนระเบิดกระจุยไม่มีผู้ใดรอดพ้นได้
“ระบบ เจ้าแกล้งข้าใช่หรือไม่!”
หลิงเยว่โกรธจัดถามหาคำตอบกับระบบทันที ห้าวันระเบิดเตากลั่นโอสถไปห้าเตา เตากลั่นระดับห้าสี่เตา เตากลั่นระดับหกหนึ่งเตา ทั้งยังเป็นเตากลั่นโอสถที่ชิงยวนหลอมออกมาเองด้วย ผลงานของอาจารย์จะแย่ได้อย่างไร?
แค่ไม่ซื้อเตากลั่นโอสถเบญจธาตุระดับห้าที่เจ้าเสนอมา จะมาเล่นงานข้าอย่างนี้หรือ!
ชิงยวนเองก็โกรธมากเช่นกัน ถึงขั้นนำเตากลั่นโอสถระดับเทพที่ตนเองใช้อยู่ในปัจจุบันออกมา หากเตากลั่นโอสถระดับเทพเตานี้ยังระเบิดอีก นางก็จะระเบิดลูกศิษย์น้อยนี้ทิ้งไปด้วย!
ถึงจะไม่ระเบิดก็จริง ทว่าเตากลั่นโอสถระดับเทพที่มีวิญญาณเตาอยู่ไม่อนุญาตให้หลิงเยว่แตะต้องสักนิด ราวกับกลัวว่าจะโชคร้ายหากถูกนางแตะต้อง
[เตากลั่นโอสถเบญจธาตุระดับห้า ราคาห้าพันล้าน ต้องการซื้อหรือไม่?]
ระบบขี้เกียจจะตอบโต้ จึงทำเพียงขายของต่อไป เตือนไปแล้วสองรอบ หากยังไม่เข้าใจมันจะไม่ให้ขายเสียเลย!
หลิงเยว่แทบจะระเบิดออกมาแล้ว แต่ในที่สุดสติของนางก็กลับคืนมา “เคล็ดวิชาหมื่นชีวางอกเงย ตำราการกลั่นโอสถเบญจธาตุที่ข้าซื้อไป จำเป็นจะต้องใช้เตากลั่นโอสถที่เจ้าพยายามขายให้เท่านั้น มิฉะนั้นจะกลั่นโอสถไม่สำเร็จหรือ?”
นับว่ายังดีที่นางไม่โง่จนเกินไป
[ถูกต้อง]
“ก่อนหน้านี้ข้าก็ใช้เตากลั่นโอสถระดับสามกลั่นโอสถฟื้นปราณสำเร็จมาแล้วไม่ใช่หรือ!”
[มีเพียงสมุนไพรชนิดเดียวที่ได้จากเคล็ดวิชาหมื่นชีวางอกเงย วิชาเร่งการเจริญเติบโต จึงไม่ส่งผลกระทบมากนักเมื่อใช้กับเตากลั่นทั่วไป]
ดียิ่งนัก! ยังมีขายแบบผูกขาดเช่นนี้อีกด้วย!
ขายของเก่งเสียจริง!
หลิงเยว่กัดฟันกรอด รู้สึกอยากจะพูดเสียงแข็งว่าไม่ซื้อ แต่นางดันทุ่มซื้อตำรานี้มาตั้งหนึ่งหมื่นล้านแล้ว หากจะวางไว้เฉย ๆ ให้ฝุ่นเกาะก็กระไรอยู่ อีกอย่างนางยังเคยโอ้อวดไว้ต่อหน้าซากปรักหักพังที่จวนเจ้าเมืองด้วย แต่หากทำไม่ได้ก็คงไม่เป็นอะไร เพราะนางหน้าด้านจนชินชาแล้ว แต่… นางยังมีสำนักกลั่นโอสถค้ำคออยู่!
รู้อย่างนี้ไม่โอ้อวดเสียดีกว่า…
หลังจากยืนดูอยู่สักพัก หลิงเยว่ก็เห็นซูซวงยื่นมือมาหานางพร้อมรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยอารมณ์หลากหลาย
“ค่าชดใช้ที่เจ้าทำจวนข้าพัง”
หลิงเยว่จับมือซูซวง “ข้าเป็นเช่นนี้แล้ว ท่านยังใจร้ายทวงค่าชดใช้จากข้าอยู่อีกหรือ?”
“เรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว” ซูซวงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาและไร้เยื่อใย
“ก่อนหน้านี้การสร้างจวนเจ้าเมืองใช้หินวิญญาณไปสิบล้าน หากเห็นแก่ความสัมพันธ์อันดีของเรา ข้าจะคิดกับเจ้าสิบห้าล้านก็แล้วกัน”
ชิงยวนกลั้นขำไม่อยู่ โดยเฉพาะตอนที่ได้ยินคำว่า หินวิญญาณจำนวนสิบห้าล้าน ท่าทางของลูกศิษย์น้อยที่แสดงออกถึงความสงสัยในชีวิตนั้น ช่างดูมีชีวิตชีวาสำหรับนางยิ่งนัก
หลิงเยว่ “…”
ความสัมพันธ์อันดีอย่างไรถึงคิดราคาแพงขึ้นอีกห้าล้าน นางไม่เข้าใจ และรู้สึกว่ามันเกินจริงไปมาก
“ก็แค่สิบห้าล้านเอง ให้นางไปเลย”
ศิษย์น้อยซึ่งมีหินวิญญาณถึงแปดแสนล้านก้อนนั้นไม่น่าจะอิดออดกับการจ่ายสิบห้าล้านสักเท่าไหร่ นางจึงรีบไล่ให้ซูซวงออกไป เพื่อจะได้กลับมากลั่นโอสถต่อ เพราะเหลือเวลาเพียงสิบวันแล้ว
หลิงเยว่ไม่ได้มีหินวิญญาณมากมายเหมือนอย่างที่ชิงยวนกล่าว บัดนี้นางมีหินวิญญาณอยู่เพียงไม่กี่ก้อนเท่านั้น
“ท่านไปหาศิษย์พี่สามและศิษย์พี่รองของข้าเถิด เอาหินวิญญาณจากพวกเขาแล้วบอกไปว่าเจ้าหนี้ผู้นี้อย่างข้าเป็นคนสั่ง”
หลังจากไล่ซูซวงออกไปแล้ว หลิงเยว่ก็ห่อไหล่ด้วยท่าทางอยากจะร้องไห้ เหตุใดการกลั่นโอสถถึงได้ยากเย็นเช่นนี้?
ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่ทำให้นางกังวลก็คือ ถึงซื้อเตากลั่นโอสถจากระบบมาแล้ว แต่จะหาข้ออ้างอะไรที่เหมาะสมเพื่อบอกชิงยวนว่าเตานี้มาจากที่ใด?
หลิงเยว่ใช้การเตากลั่นโอสถระดับเทพไม่ได้ ชิงยวนจึงเอาเตากลั่นโอสถระดับหกเตาหนึ่งออกมา ตัวเตาเป็นสีเขียวอ่อนไร้ซึ่งตำหนิใด ๆ ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางทะเลทรายสีเหลือง แต่ก็คงท่าทีสง่างามไว้ได้ ถึงแม้ลักษณะภายนอกจะไม่อาจเทียบเท่าเตากลั่นโอสถระดับเทพก็ตาม…
หลิงเยว่ได้แต่ถอนหายใจ อาจารย์ของนางช่างโปรดปรานสีเขียวเสียจริง
[จะซื้อหรือไม่? หากท่านซื้อ ข้าจะได้ช่วยท่านแลกกับเตากลั่นโอสถระดับหกเตานี้]
น้ำเสียงของระบบเริ่มจะหมดความอดทนแล้ว
“ซื้อ”
[ซื้อสำเร็จ!]
หลิงเยว่เฝ้ารอคอยดูว่าเจ้าระบบบ้านั่นจะแลกเตากลั่นโอสถอย่างไร!
เพียงไม่นานหลิงเยว่พลันเบิกตากว้าง เมื่อเห็นเตากลั่นโอสถสีเขียวอ่อนตรงหน้าไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มันยังคงเป็นเตากลั่นโอสถระดับหกที่ชิงยวนนำออกมา
[แลกเปลี่ยนสำเร็จ]
หลิงเยว่ “???”
หลิงเยว่ไม่อาจรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่ชิงยวนผู้แข็งแกร่งในระดับบำเพ็ญเต๋าไฉนจึงมิทันสังเกตเห็นว่าเตากลั่นโอสถของตนเองถูกเปลี่ยนไป?
เจ้าระบบช่างเก่งกาจล้ำเลิศยิ่งกว่าที่นางคาดหมายเอาไว้นัก
“เจ้ามัวยืนงงสิ่งใดอยู่ ลงมือเสีย”
หลิงเยว่เป็นกังวลใจยิ่งนัก และเป็นอีกครั้งที่นางเริ่มต้นกลั่นโอสถด้วยท่วงท่าไหลลื่นราวสายน้ำไหล ไม่ติดขัดแต่อย่างใด
นั่นล้วนเป็นผลจากการที่นางฝึกฝนอย่างหนักหน่วงในช่วงเวลานี้ แม้ว่าผลลัพธ์จะยังไม่เป็นดั่งใจสักเท่าไหร่ก็ตาม
เมื่อโอสถกำลังก่อตัว ชิงยวนพลันรู้สึกใจหายตามไปด้วย เตากลั่นโอสถที่นางพกติดตัวมาด้วยนั้นเหลือเพียงเตาสุดท้ายแล้ว หากครั้งนี้ยังไม่สำเร็จอีก…
เสียงระเบิดที่แสนคุ้นเคยไม่ได้ดังกึกก้องขึ้น โอสถที่ก่อตัวเสร็จสมบูรณ์แล้วถูกห่อหุ้มด้วยพลังวิญญาณ ลอยนิ่งอยู่ในอากาศ
ปรากฏเป็นหกเม็ดอีกเช่นเคย!
อัตราการกลั่นโอสถของศิษย์น้อยผู้นี้ช่างต่ำเหลือเกิน ชิงยวนเอื้อมมือคว้าเม็ดหนึ่งมาพิจารณาอย่างละเอียด ในครานี้โอสถนั้นเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก จากสีน้ำตาลอ่อนกลายเป็นสีเหลือง เขียว น้ำเงิน แดง น้ำตาล ห้าสีแยกจากกันอย่างชัดเจน ไม่มีสีใดล้ำหน้าไปกว่ากัน
ชิงยวนรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างยิ่ง โอสถประเภทนี้เคยปรากฏในโลกผู้บำเพ็ญเซียนมาก่อน เล่ากันว่า… โอสถฟื้นปราณเบญจธาตุ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้บำเพ็ญระดับบำเพ็ญเต๋า ทั้งยังปราศจากพิษที่ปะปนในโอสถ สามารถกลั่นเองภายในเวลาหนึ่งถ้วยชา โอสถฟื้นปราณเบญจธาตุเป็นโอสถชั้นสูงสามารถบรรลุผลได้ในทันที
ชิงยวนโยนโอสถฟื้นปราณเบญจธาตุเข้าปากโดยไม่รอให้กลั่นเสร็จ จากนั้นก็ส่งจิตวิญญาณไปสำรวจในร่างกายของนาง โอสถนั้นเป็นไปตามคำร่ำลือจริง!
“อาจารย์ เป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ?” หลิงเยว่เอ่ยถามอย่างกระวนกระวายใจ
นางรู้ดีว่าโอสถฟื้นปราณที่นางกลั่นออกมานั้นดูแปลกประหลาดจากโอสถฟื้นปราณทั่วไปนัก แต่นางได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้วว่ามันยังคงมีผลในการฟื้นฟูปราณอยู่!
[กลั่นโอสถฟื้นปราณเบญจธาตุสำเร็จเป็นครั้งแรก! ได้รับรางวัลค่าพลังวิญญาณ +1,000,000 แต้ม อายุขัย +1,000 วัน ค่าพลังวิญญาณคงเหลือ 3,911 ล้านแต้ม อายุขัยคงเหลือ 30,999 วัน]
“!!!”
หลิงเยว่รอฟังคำตอบจากระบบด้วยใจจดจ่อ เมื่อได้ยินคำตอบแล้ว นางดีใจจนน้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้ม ในที่สุดนางก็เป็นอิสระจากการกลั่นโอสถแล้ว ต่อไปนางจะได้เดินทางไปยังสำนักเหอตงเพื่อสอนอาหารวิญญาณพิเศษได้แล้ว นางไม่ต้องกลั่นโอสถอีกแล้ว!
“ช่างน่าเหลือเชื่อเสียจริง…”
ชิงยวนมองหลิงเยว่ด้วยสายตาเต็มไปด้วยความรักใคร่ จ้องจนอีกฝ่ายขนลุกไปทั้งตัว
“เมื่อกลั่นเสร็จอีกหนึ่งเตาก็จะสามารถเดินทางไปสำนักเหอตงได้แล้ว”
หลิงเยว่ “…”