ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 183 แน่ใจหรือว่าจะเป็นผลดี?
บทที่ 183 แน่ใจหรือว่าจะเป็นผลดี?
ชารู้แจ้งเก้าหยด ไม่สิ! แปดหยด ทำกำไรก้อนโตให้กับหลิงเยว่ แต่น่าเสียดาย… ระยะทางในการซื้อหินหงส์ไฟที่สมบูรณ์ได้นั้นยังอีกยาวไกลนัก
“ท่านอาจารย์หลิง เหตุใดท่านถึงไม่ดีใจเลยเจ้าคะ?”
ผู้ใหญ่ทั้งหลายล้วนแย่งกันซื้อชารู้แจ้งนี้ นางช่วยอาจารย์แย่งมาได้แล้ว เหตุใดอาจารย์ของนางถึงยังทำหน้าเคร่งเครียดเช่นนั้นอยู่?
“ดีใจ ข้าดีใจยิ่งนัก”
หลิงเยว่ยิ้มกว้างให้กับฮวนฮวนน้อย ทว่ารอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความขมขื่น
หัวหน้าตะขาบมรกตเห็นเช่นนั้นพลันหัวเราะออกมา
ขณะที่ชารู้แจ้งขวดสุดท้ายยังคงอยู่ในระหว่างการประมูล หลิงเยว่จึงเรียกคนดูแลมาเพื่อมอบชารู้แจ้งจำนวนหนึ่งร้อยหยด
ในตอนแรกคนดูแลยังคงคิดว่าหลิงเยว่โกหก แต่เมื่อเขาตรวจสอบขวดเคลือบใบเล็กทีละใบ สีหน้าของเขาพลันแข็งทื่อ เป็นชารู้แจ้งหนึ่งร้อยหยดจริง!
เขากำลังฝันอยู่หรือ?
“รีบไปเถิด ก่อนที่ผู้คนจะไปกันหมด”
คนดูแลได้สติ รีบวิ่งออกจากห้องส่วนตัวด้วยความร้อนรน ขณะที่ไปถึงประตูสีหน้าก็กลับมาเรียบเฉยเช่นเดิม จากนั้นก็เดินลงบันไดไปอย่างใจเย็น
เดิมทีคิดว่าการประมูลได้จบลงไปแล้ว แต่เพราะการปรากฏตัวของชารู้แจ้งอีกหนึ่งร้อยหยด สร้างความตื่นเต้นขึ้นอีกครั้ง
“ใช้จ่ายมากเกินไปแล้ว!”
“ข้าขอเดาว่าอีกฝ่ายคงจะเป็นคนยากจนอย่างแน่นอน แล้วยังเป็นพวกที่ไม่รู้ด้วยว่าชารู้แจ้งนั้นมีค่ามากเพียงใด”
“คนผู้นั้นจะต้องเสียใจในภายหลังแน่!”
“ว่ากันว่าชารู้แจ้งที่นำมาประมูลนั้นมีมากถึงหนึ่งร้อยหยด แสดงว่าเขายังมีอีกใช่หรือไม่?”
เหล่าผู้บำเพ็ญที่กำลังพูดคุยกันอยู่ สายตาของพวกเขาต่างจับจ้องไปที่ห้องส่วนตัวชั้นสองและชั้นสามอย่างไม่รู้ตัว แล้วพยายามหาว่าห้องใดเป็นพ่อค้าที่นำชารู้แจ้งที่สามารถแปลงร่างได้มาประมูล เมื่อถึงเวลานั้นอาจเกิดการฆ่าชิงทรัพย์หินวิญญาณและชารู้แจ้งได้ไม่ใช่หรือ!
หัวใจของเหล่าผู้บำเพ็ญพลันร้อนรุ่ม
แน่นอนว่าไม่เพียงแค่พวกเขาที่มีความคิดชั่วร้าย แต่ยังมีผู้บำเพ็ญขั้นสูงที่ดื่มชารู้แจ้งในทันทีเพื่อแยกแยะของจริงและของปลอม
“ชารู้แจ้งแปลงร่างได้ร้อยหยดนี้ ข้าขอเสนอหนึ่งพันล้านหินวิญญาณระดับกลางเพื่อซื้อทั้งหมด ท่านโปรดให้เกียรติข้าผู้นี้ด้วย”
ห้องส่วนตัวที่อยู่ชั้นสามพลันเปิดออก ปรากฏเป็นผู้อาวุโสคนหนึ่งที่ระเบียง แรงกดดันมหาศาลแผ่ซ่านทำให้สถานที่นั้นเงียบสงบลง
“หึ! คิดว่าหนึ่งพันล้านจะสามารถซื้อได้ทั้งหมดอย่างนั้นหรือ?” มีหญิงงามเปี่ยมเสน่ห์เดินออกมาจากห้องส่วนตัวข้าง ๆ “ข้าเสนอหนึ่งพันห้าร้อยล้าน”
“สองพันล้าน”
เหล่าผู้มีอิทธิพลที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องส่วนตัวเริ่มปรากฏตัวขึ้นทีละคน ราคาที่พวกเขาเสนอเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ หลิงเยว่ตื่นเต้นจนแก้มแดง แม้ว่าจะคำนวณจากราคาขั้นต่ำสามสิบล้านหินวิญญาณระดับกลางต่อหนึ่งหยดตามที่ตกลงไว้ นางก็ยังขาดทุนอยู่ดี แต่นางจะไม่โลภ!
“สองพันหนึ่งร้อยล้าน!”
“สองพันสองร้อยล้าน!”
ทันใดนั้น ปรมาจารย์ด้านการกลั่นโอสถและท่านอาจารย์ใหญ่แห่งสำนักกลั่นโอสถก็ปรากฏตัวที่ด้านนอกห้องส่วนตัวทีละคน สายตาที่พวกเขามองนั้นเต็มไปด้วยการต่อสู้
“สองพันห้าร้อยล้าน!”
เมื่อได้ยินราคาที่ประกาศโดยซีชาง เปลือกตาหลิงเยว่พลันกระตุกโดยไม่รู้ตัว ผู้สร้างรากฐานขั้นปลายจะใช้ชารู้แจ้งมากถึงร้อยหยดเชียวหรือ?
“ข้าเพียงประมูลให้ท่านพ่อเท่านั้น” ซีชางผู้เป็นจุดสนใจของคนทั้งมวล คำนับเหล่าผู้ยิ่งใหญ่ด้วยความเคารพ บิดาของเขาติดอยู่ที่ขอบเขตแสวงหาขั้นปลายมาเป็นเวลากว่าหกร้อยปีแล้ว หากไม่ลองค้นหาหนทางแห่งการหลุดพ้น เกรงว่า…
ดังนั้นชารู้แจ้งจำนวนร้อยหยด พวกเขาตระกูลซีต้องช่วงชิงมาให้ได้!
เหล่าคนรุ่นหลังที่นำโดยซีชาง ต่างรวบรวมความกล้าตะโกนประมูลราคาแทนคนในครอบครัว หลิงเยว่สังเกตเห็นศิษย์จากสำนักจำนวนไม่น้อย รวมถึง… ฮูหยินเซี่ยด้วย
ไม่! ลูกสาวคนเล็กของนางหายไปนานเช่นนี้ แต่ยังไม่ส่งคนออกตามหา มันสมควรแล้วหรือ!?
ทุกคนต่างปรารถนาที่จะได้ชารู้แจ้งจำนวนหนึ่งร้อยหยดมาครอบครอง แน่นอนว่าชาเพียงหนึ่งหยดนั้นย่อมไม่เพียงพอสำหรับผู้บำเพ็ญที่มีขอบเขตการบำเพ็ญสูง จึงทำได้เพียงให้พวกเขาได้สัมผัสประสบการณ์การแปลงร่างกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ขนาดเล็กเท่านั้น และไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก
หลิงเยว่รู้ดีว่าชาอันล้ำค่าของนางนั้นเป็นเช่นไร การดื่มครั้งละร้อยหยดจะทำให้คงสภาพอยู่ได้ประมาณหนึ่งลมหายใจ
“ครั้งก่อนที่เจ้าดื่มชาแล้วได้สิ่งใด?”
เมื่อถูกถามเช่นนั้น หัวหน้าตะขาบมรกตก็รู้สึกประหลาดใจ จะได้สิ่งใดหรือ? แค่กลายเป็นต้นหญ้าเล็ก ๆ แล้วใช้รากเดินไปมาอยู่ใต้ดินเท่านั้นเอง
“ฮวนฮวน เจ้าลองดื่มดู”
หลิงเยว่ที่พยายามจะสอบถามอะไรบางอย่างจากหัวหน้าตะขาบมรกตรู้สึกราวกับว่าตนเองเป็นคนโง่ทันที
“ให้ข้าดื่มหรือ?” ฮวนฮวนชี้ไปที่ตนเอง นี่คือชาที่นางเพิ่งจะประมูลมาให้อาจารย์หลิง หากจะดื่มชาก็ควรเป็นอาจารย์ต่างหาก!
“ไม่ได้เจ้าค่ะ!”
แม้จะอยากลิ้มลอง แต่ฮวนฮวนรู้ดีว่าสิ่งนี้มีค่ามากถึงสี่สิบล้านหินวิญญาณ หากท่านแม่รู้เข้าคงได้ตีนางแน่
“ฮวนฮวน สิ่งนี้หวานยิ่งกว่าน้ำผลไม้หรือสุราหมักใด ๆ ที่เจ้าเคยดื่มเสียอีก!”
หลิงเยว่ปรารถนาให้ฮวนฮวนลิ้มลอง ด้วยหวังจะเห็นผลของชาอันล้ำค่าต่อเด็กน้อยที่เพิ่งนำลมปราณเข้าสู่ร่างกาย
หลิงเยว่ดื่มชาเพียงแค่แปรเป็นเมล็ดฝังในดินเพื่อบำเพ็ญ เพียงแต่นางเท่านั้นที่มีผลเช่นนี้ ผู้อื่นรวมถึงหัวหน้าตะขาบมรกตดูเหมือนจะไม่สามารถทำได้
เด็กน้อยตกใจมาก นางรีบใช้มืออ้วน ๆ ปิดปากไว้ ก่อนจะทันได้กล่าวอะไรออกมา ร่างเล็กของนางก็แปรเปลี่ยนเป็นเมล็ดพันธุ์เล็ก ๆ แทน
หลิงเยว่หยิบเมล็ดนั้นขึ้นมา ปรากฏเป็นใบไม้เล็กสีเขียวอ่อนโผล่พ้นออกจากรอยแยกของเมล็ดพันธุ์ รากบางราวกับเส้นผมพันนิ้วก้อยของนางไว้ ทันใดนั้น ดอกไม้ตูมขนาดเล็กก็โผล่ออกระหว่างใบไม้สีเขียวอ่อนสองใบ
ดอกไม้สีเหลืองอ่อนนั้นบานสะพรั่งต่อหน้าต่อตาของหลิงเยว่
“!!!”
“ข้าเคยเป็นต้นหญ้ามาก่อนได้อย่างไร!”
ดอกไม้สีเหลืองนั้นราวกับจะเข้าใจคำพูดของหัวหน้าตะขาบมรกต กลีบดอกก็พับขึ้นอย่างภูมิใจ
“ฮวนฮวน?”
หลิงเยว่เรียกขาน ดอกไม้สีเหลืองใช้กลีบดอกพันรอบนิ้วก้อยของนางเป็นการตอบ
ในพริบตา กลีบดอกไม้สีเหลืองนั้นก็เปลี่ยนสี กลายเป็นดอกไม้สีแดง ต่อด้วยสีเขียว สีน้ำเงิน… และกลีบจำนวนแปดกลีบพลันปรากฏขึ้น ตรงกลางกลีบดอกสีเหลืองอ่อนพลันกลายเป็นสีทอง
ระบบเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“หากให้ฮวนฮวนดื่มโลหิตของข้าจะเกิดสิ่งใดขึ้น?” หลิงเยว่เอ่ยถามอย่างลังเล
[ข้าไม่อาจทราบได้ในตอนนี้ แต่นับว่าเป็นผลดีไม่ใช่หรือ?]
มันจะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ?
หลิงเยว่รู้สึกประหลาดใจนัก หากนางป้อนโลหิตของตนเองให้ฮวนฮวนดื่ม คงเกิดเรื่องที่นางคาดไม่ถึงกระมัง?
[ไม่ใช่โลหิตบริสุทธิ์ของเจ้า แค่โลหิตธรรมดาก็เพียงพอแล้ว]
“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะเป็นผลดีต่อฮวนฮวน?”
[ย่อมเป็นจริง]
แม้ระบบมักจะตื๊อให้ซื้อของ แต่ไม่เคยหลอกลวงนาง หลิงเยว่จึงจิ้มปลายนิ้วตนเอง แล้วหยดโลหิตหนึ่งหยด
โลหิตสีแดงไหลเข้าสู่เกสรดอกไม้ กลีบดอกทั้งแปดหุบลงทันที ใบไม้สีเขียวมรกตสองใบเริ่มเปล่งประกายสีแดง จากนั้นกลีบดอกสีต่าง ๆ ก็ค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นสีของโลหิต
ดอกไม้สีโลหิตเบ่งบานตรงหน้าหลิงเยว่และหัวหน้าตะขาบมรกต เกสรและกลีบดอกสีทองกลายเป็นสีแดงเข้มแผ่ประกายแสงจนส่องสว่างไปทั่วห้องส่วนตัว
ช่างดูแปลกประหลาดและเย้ายวนยิ่งนัก!
ตูม!
โต๊ะที่ถูกแสงสีแดงส่องถึงกลายเป็นผงธุลีในทันที รวมถึงเก้าอี้ที่หลิงเยว่นั่งอยู่เช่นกัน