ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 242 ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้?!
บทที่ 242 ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้?!
หลิงเยว่ถูกสายฟ้าสีม่วงดำลูกแรกฟาดเข้าอย่างจัง เมื่อสายฟ้าจางหายไป ร่างบอบบางในชุดดำทั้งตัวนั้นก็ล้มลงในหลุมใหญ่ นางนอนนิ่งไม่ไหวติง
หลิงเยว่ที่มีสายฟ้าวิ่งผ่านทั่วร่างกัดฟันเค้นเสียง ผิวที่เพิ่งฟื้นตัวดีกลับเป็นสีดำอีกครั้ง ผมตั้งชันขึ้นทีละเส้น ทั้งตัวดูย่ำแย่ยิ่งนัก
เมฆดำยังไม่จางหาย เสียงฟ้าร้องยังดังก้อง สายฟ้าส่องสว่างท้องฟ้ามืดครึ้ม และยังส่องให้เห็นสีหน้าที่ซับซ้อนของฝูงชนที่มุงดู
เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีคนฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตจินตานได้โดยไม่มีบาดแผลอื่นนอกจากตัวดำและดูย่ำแย่ไปหน่อยเช่นนี้?
เซี่ยซิ่นรุ่ยและคนอื่นต่างนึกถึงตอนที่พวกเขาฝ่าทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตจินตาน แม้พลังจะอ่อนกว่าอาจารย์เล็กน้อย แต่ก็ไม่อาจหลีกเลี่ยงสภาพน่าสังเวชที่ผิวหนังปริแตก เลือดไหลพุ่ง เจ็บปวดจนต้องร้องโหยหวน
แม้ทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตจินตานของหลิงเยว่ดูเหมือนจะมีพลังมหาศาล แต่คนที่รู้ย่อมสังเกตได้ถึงความแตกต่าง
สายฟ้าระลอกสองโผล่ขึ้น ครั้งนี้เป็นสายฟ้าสีดำเหลือบทอง ซึ่งใหญ่กว่าลูกแรก เพียงมันปล่อยพลังออกมา ฝูงชนที่อยู่ในขอบเขตจินตานต่างแข้งขาอ่อนล้มลงกับพื้น
หลิงเยว่ที่นอนอยู่ในหลุมลุกขึ้นนั่ง ไม่หลบหลีก พร้อมรับการมาเยือนของสายฟ้าลูกที่สองทันที
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว ร่างที่ดูสงบนิ่งนั้นจมหายไปอีกครั้ง หลุมฟ้าผ่าขยายใหญ่ขึ้น ในหลุมเต็มไปด้วยสายฟ้าที่กำลังลามออกมา ศิษย์ที่อ่อนแอต่างหันหลังวิ่งหนีเอาตัวรอด
นักกลั่นโอสถอาวุโสและอาจารย์ใหญ่ไม่ได้หลบ แต่กลับย่อตัวลง พลางยื่นมือไปหาสายฟ้า สายฟ้าเหล่านั้นวิ่งไปทั่วร่างของพวกเขา ทั้งสองพยายามทำให้ใบหน้าดูปกติที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไม่ให้เสียหน้า
ไม่ผิดแน่ นี่คือทัณฑ์สวรรค์ของจริง ที่มีพลังแข็งแกร่งทำให้คนเจ็บปวดแสนสาหัส
หัวหน้าตะขาบมรกตที่หลบอยู่ไกล ๆ มองไปยังสายฟ้าสีแดงดำลูกที่สาม พลางส่งสายตาเห็นใจไปให้ผู้อาวุโสทั้งสองคน
อย่างที่คาดไว้ไม่ผิด สายฟ้าลูกที่สามแยกออกเป็นสามสาย ฟาดใส่คนในหลุมและสองผู้อาวุโสทันที
อาจารย์ใหญ่และนักกลั่นโอสถอาวุโสที่โดนฟาดเข้าอย่างจังต่างมองหน้ากันอย่างตกตะลึง พวกเขาน่าจะหลบได้แท้ ๆ แต่ร่างกายกลับควบคุมไม่ได้ เลยต้องยืนนิ่งรับทัณฑ์สวรรค์เช่นนี้
สายฟ้าสีแดงทองพลันระเบิดใส่พวกเขา ใบหน้าของทั้งสองไม่ค่อยดีนัก อาจารย์ใหญ่และนักกลั่นโอสถอาวุโสต่างใช้แรงทั้งหมดพยายามดึงร่างที่จมลึกอยู่ใต้พื้นดินขึ้นมา แต่พวกเขากลับขยับไม่ได้อยู่ดี!
สายฟ้าสีน้ำเงินดำสายที่สี่ได้ลงมาแล้ว มันหนามากจนทำให้ขนลุก ขณะที่มันกำลังผ่าลงมาก็แยกออกเป็นสามสาย สายที่ฟาดใส่คนที่ถูกกลืนหายไปในหลุมฟ้าผ่านั้นเล็กเท่าเส้นผม แต่ที่เหลือทั้งหมดกลับกระหน่ำใส่อาจารย์ใหญ่และนักกลั่นโอสถอาวุโสเข้าอย่างจัง
ผู้คนที่มุงดู “???”
ช่างเป็นผู้ใหญ่ที่ดียิ่งนัก พวกเขายังช่วยนางรับทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตจินตานด้วย นับเป็นแบบอย่างของผู้บำเพ็ญเซียนโดยแท้!
สองท่านผู้อาวุโสที่กำลังจะถูกสายฟ้าฝังทั้งเป็นอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองท้องฟ้า สายฟ้าสีดำเขียวสายที่ห้าได้ผ่าลงมาแล้ว ดีนัก! ครั้งนี้พวกเขาโดนสายฟ้าฟาดศีรษะจนร่างถูกฝังจนมิดแล้ว!
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทั้งสองเจอคนที่ต้องรับทัณฑ์สวรรค์ขอบเขตจินตานถึงห้าสาย และเป็นครั้งแรกที่เจอสายฟ้าที่แยกกิ่งก้าน สีสันชัดเจน ทั้งยังมีพลังมหาศาลเช่นนี้ และเป็นครั้งแรกที่ถูกบังคับให้ช่วยคนอื่นรับสายฟ้าอีกด้วย!
นี่มันเรื่องอะไรกัน!
กระดูกเกือบจะแตกไปหมดแล้ว!
เมฆดำได้จางหายไปแล้ว แต่สายฟ้ากลับยังคงอยู่ แสงอาทิตย์ส่องทะลุผ่านท้องฟ้า แต่ก็ยังส่องไม่เห็นสามคนที่ถูกกลืนหายไป
สายฟ้าห้าสาย ใช้เวลาเพียงครึ่งวันเท่านั้น สิ่งนี้ทำให้ผู้ที่มาดูไม่เคยคาดคิดมาก่อน ตอนที่พวกเขาก้าวข้ามขอบเขตนั้นมีเพียงสองสาย หนึ่งสายก็ใช้เวลาเกือบทั้งวัน เมื่อรวมกับการฟื้นฟูร่างกายต้องใช้เวลาถึงสามวัน แต่ตอนนี้…
น่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ถึงแม้อาจารย์ใหญ่และนักกลั่นโอสถอาวุโสจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก แต่บาดแผลภายนอกก็ยังมีอยู่ ตอนนี้อวัยวะภายในยังมีสายฟ้าที่พยายามจะทำลายเส้นลมปราณของพวกเขาอีกด้วย แต่ทั้งสองไม่ได้ใส่ใจ กลับกระโดดลงไปในหลุมลึกแล้วดึงหลิงเยว่ที่ตอนนี้เนื้อหนังเละเทะ แต่ยังมีลมหายใจอยู่ขึ้นมา
โดนทัณฑ์สวรรค์ฟาดไปถึงห้าสาย แล้วพลังของสามสายสุดท้ายนั้น… อืม ไม่ต้องสนใจก็ได้ แต่ยังเละขนาดนี้ ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาถูกบังคับให้ช่วย ป่านนี้หลิงเยว่คงกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้วกระมัง?
ตันเถียนที่ก่อนหน้านี้เหมือนแอ่งน้ำได้หลอมรวมกันเป็นลูกกลมเล็ก ๆ แต่เดิมควรจะเป็นสีทองอร่าม แต่หลิงเยว่กลับพบว่าจินตานของตนนั้นมีหลากหลายสี
สีทั้งห้าสีเหลือบกันไปมาอย่างสวยงาม เหตุใดจินตานของนางถึงต่างจากคนอื่นเล่า!?
หลิงเยว่ที่สลบอยู่พยายามลืมตา แต่ไม่ว่านางจะพยายามแค่ไหน เปลือกตากลับยังหนักอึ้ง
ในตอนนั้นหยดฝนสีเขียวอ่อนขนาดเท่าเมล็ดถั่วพลันตกลงบนร่างของหลิงเยว่ที่นอนอยู่บนพื้น สายฟ้าใต้ร่างนางกำลังค่อย ๆ ดับลงเมื่อสัมผัสกับสายฝนศักดิ์สิทธิ์
ในตอนแรกสายฝนศักดิ์สิทธิ์ตกลงมาเพียงเล็กน้อยเพื่อช่วยฟื้นฟูบาดแผลของหลิงเยว่เท่านั้น แต่ดูเหมือนว่ามันจะพบบาดแผลบนร่างของอีกสองคนด้วย จึงลอยไปหยดลงบนร่างของพวกเขาเพื่อเป็นการแสดงน้ำใจเล็กน้อย
อาจารย์ใหญ่ นักกลั่นโอสถอาวุโส และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ “…”
ไม่เคยเห็นสายฝนศักดิ์สิทธิ์ที่ขี้เหนียวแบบนี้มาก่อน แต่พลังการรักษาถือว่าแข็งแกร่งมาก เกือบจะเป็นหยดเดียวที่ตกลงมาแล้วสามารถห้ามเลือดและสมานแผลได้ทันที เมื่อแผลสมานตัวแล้วจึงตกสะเก็ดและหลุดออกเผยให้เห็นผิวหนังที่เรียบเนียน
อาจารย์ใหญ่แลบลิ้นออกมาลองชิมรสชาติ พร้อมกับวิเคราะห์ว่าสายฝนศักดิ์สิทธิ์ครั้งนี้แตกต่างจากที่อื่นอย่างไร ผลปรากฏว่าหยดฝนนั้นราวกับมีสติปัญญาเป็นของตนเอง มันลอยโค้งในอากาศแล้วตกลงบนร่างของหลิงเยว่
ไม่ว่าใครจะพยายามเก็บหรือลิ้มลองรสชาติของมัน ล้วนถูกปฏิเสธทั้งหมด!
เหตุการณ์นี้ช่างประหลาดเกินไป ทำให้อาจารย์ใหญ่และนักกลั่นโอสถอาวุโสตกอยู่ในความเงียบ และพร้อมใจกันมองไปที่หลิงเยว่
ตอนนี้บาดแผลภายนอกของหลิงเยว่ฟื้นตัวเกือบสมบูรณ์แล้ว ผิวพรรณกลับสู่สีปกติ นางค่อย ๆ ลืมตามองสายฝนศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังตก นางอ้าปากเพื่อรองรับสายฝนนั้นทันที
หยดน้ำใส รสชาติหวาน และมีพลังเข้มข้น เมื่อกลืนลงท้องพวกมันก็ค่อย ๆ ซ่อมแซมเส้นเอ็นที่ถูกทำลายอย่างอ่อนโยน ช่างสบายนัก… หลิงเยว่ถอนหายใจ แล้วอ้าปากรองรับน้ำฝนต่อไป
อาจารย์ใหญ่ “…”
หยดน้ำพวกนั้นยังจะเลือกปฏิบัติอีกหรือ?
สายฝนศักดิ์สิทธิ์ที่น่าฉงนใจนี้ไม่ได้ตกนานนัก เมื่อหลิงเยว่ฟื้นตัวเต็มที่แล้ว พวกมันก็หายไป
นักกลั่นโอสถอาวุโสมองหลิงเยว่ด้วยความประหลาดใจ นางมีที่มาอย่างไรกันแน่?
“เหตุใดท่านถึงมองข้าเช่นนั้น?”
หลิงเยว่สบตากับนักกลั่นโอสถอาวุโสที่มองนางอย่างประหลาด พลางยกมือลูบใบหน้าตนเอง ก่อนจะก้มลงมองเสื้อผ้าที่สวมใส่ แม้จะขาดวิ่นไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยร่างกายมากนัก
อาจารย์ใหญ่และนักกลั่นโอสถอาวุโสส่ายหน้าพร้อมกัน พวกเขาไม่อยากสืบค้นความลับของผู้อื่นให้ลึกเกินไป ใครเล่าจะไม่มีความลับติดตัวบ้าง?
ขอเพียงนางไม่เป็นอันตรายก็เพียงพอแล้ว
หลิงเยว่ตั้งใจจะถามเรื่องจินตานที่มีสีสันแปลกประหลาดภายในร่างกายของนาง แต่ท่านผู้อาวุโสทั้งสองกลับหายตัวไปอย่างรวดเร็ว นางยังไม่ทันได้เอ่ยปากเลยด้วยซ้ำ
“ระบบ จินตานของข้าเป็นอย่างไรกันแน่?”
[ก็จินตานเบญจธาตุไง จะให้เป็นอย่างไรเล่า?]
“คนอื่นไม่ว่าจะมีแก่นปราณเดี่ยวหรือคู่ จินตานก็เป็นสีทองวาววับทั้งนั้น เหตุใดพอมาถึงข้ากลับเป็นเช่นนี้?”
[ก็เจ้าไม่ใช่คนนี่]
ระบบพูดประโยคนี้ไม่รู้กี่รอบแล้ว มันพูดจนเหนื่อยแล้วจริง ๆ!
หลิงเยว่ “…”
ได้! นางอยากรู้เหมือนกันว่าตัวตนที่แท้จริงของนางนั้นเป็นอะไรกันแน่? สนามรบโบราณเฉียนซี นางมาแล้ว!