ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 255 ไม่เคยรู้สึกไร้เหตุผลขนาดนี้มาก่อน
บทที่ 255 ไม่เคยรู้สึกไร้เหตุผลขนาดนี้มาก่อน
สัตว์อสูรในชั้นสองและชั้นสามตื่นขึ้นมาทั้งหมด!
ผู้บำเพ็ญที่เข้ามาในวิหารเสินโม่ในตอนนี้ถูกสัตว์อสูรกินไปเกือบหมดแล้ว ผู้บำเพ็ญที่เหลืออยู่ไม่สามารถถอยหลังหรือเดินหน้าต่อไปได้ ทำได้แต่รอความตายเท่านั้น
วิหารเสินโม่ในสนามรบของดินแดนตะวันตกล้วนเป็นกับดัก หลอกล่อให้ผู้บำเพ็ญเข้ามาเป็นอาหารให้สัตว์อสูร ไม่มีทั้งตำนานของผู้บำเพ็ญที่ตายในสงคราม ไม่มีทั้งครึ่งเทพและอาวุธเทพชั้นยอด มีแต่สัตว์อสูรไม่มีที่สิ้นสุด!
ตอนนี้กลุ่มคนสิบคนกำลังซ่อนตัวอยู่ใต้รูปปั้นสัตว์อสูร เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์อสูรไล่ล่าพวกเขาอย่างไม่ลดละ พวกเขาจึงกางม่านป้องกันไว้หลายชั้น ไม่เพียงแต่ป้องกันได้ แต่ยังซ่อนพลังชีวิตได้ด้วย
ผู้นำที่เป็นนักดาบหันไปถามชายในชุดแดงขาดวิ่นว่า “สหายผู่ เจ้ามีความคิดอะไรดี ๆ บ้างไหม?”
ผู่ตานที่ถูกถามเพียงเหลือบมองเพียงหางตา ความคิดเดียวคือฆ่าจากชั้นสองไปจนถึงชั้นบนสุด แต่มองจากคนข้าง ๆ ที่เหลือแค่ครึ่งเดียวแล้ว ความคิดนี้ไม่ต่างอะไรกับการส่งพวกเขาไปตาย
ปัง!
ผู่ตานที่พิงผนังอยู่ถูกกำแพงอีกด้านหนึ่งทุ่มออกมานอกม่านพลังเช่นเดียวกับอีกสามคน
“!!!”
ห้องข้าง ๆ ต่อสู้กันรุนแรงขนาดนี้เลยเหรอ?
ผู่ตานค่อย ๆ ลุกขึ้นจากพื้น กำลังจะคลานกลับเข้าไปในตำราการวางแผนผัง แต่น่าเสียดายที่เสียงฝีเท้าจากรอบด้านหยุดการเคลื่อนไหวของเขาเสียก่อน
ภายในชั่วพริบตา สี่คนที่ถูกกำแพงอีกด้านหนึ่งทุ่มออกมานอกม่านพลังถูกสัตว์อสูรล้อมไว้
เปลวไฟปรากฏขึ้นใต้เท้าของผู่ตาน ขยายวงกว้างออกไปเรื่อย ๆ ลวดลายประหลาดบนใบหน้าครึ่งหนึ่งของเขาสว่างวาบแล้วหรี่ลง สัตว์อสูรที่กำลังจะเข้าโจมตีไม่รู้ว่าทำไมถึงได้หยุดชะงัก จ้องมองชายที่ยืนอยู่ในเปลวไฟอย่างงงงัน
สิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ยืนอยู่ด้านหลังฝูงสัตว์เอียงหัวเล็กน้อย พิจารณาผู่ตานอย่างละเอียด พลังชีวิตนี้ช่างคุ้นเคยเหลือเกิน…
ในตอนที่ผู่ตานกำลังจะฝ่าทางออกไป เสียงคำรามดังสะท้านไปทั่ว สัตว์อสูรวิ่งหนีจนหมดภายในพริบตา
“???”
ผู้บำเพ็ญที่อยู่ในสถานที่นั้นต่างมีคำถามเต็มหัว พวกเขามองไปที่ผู่ตานซึ่งเก็บเปลวไฟกลับไปแล้วพร้อมกัน เด็กหนุ่มคนนี้ยังซ่อนพลังที่แท้จริงไว้อีกหรือ?
ผู่ตานผู้อยู่ในขอบเขตจินตาน “?”
ซ่อนพลังอะไรของพวกเจ้ากัน!
ตูม!
การต่อสู้ในห้องข้าง ๆ ยิ่งดุเดือดขึ้น กำแพงที่กั้นระหว่างพวกเขาทะลุเป็นรู งูปีศาจสีดำตัวหนึ่งถูกกระแทกลงบนพื้น ตามมาด้วยร่างสีดำอีกร่างหนึ่ง
ยังไม่จบแค่นั้น สิ่งที่มีรูปร่าง… ไม่อาจบรรยายได้ถูกกระบี่ที่มีหมอกน้ำแข็งปกคลุมแทงจนลอยขึ้นมา เงาสีดำอีกร่างหนึ่งวูบไปที่ร่างสีดำที่นอนอยู่ในหลุม แล้วขุดเธอขึ้นมา
“นางเป็นของข้า!”
งูทะเลปีศาจที่มีหางเต็มไปด้วยเถาวัลย์พิษกระโดดขึ้นจากพื้น อ้าปากกว้างจะกัดโม่จวินเจ๋อ
“นางเป็นของข้า!”
ปีศาจดอกเบญจมาศใช้ร่างกายชนใส่งูทะเลปีศาจ ทั้งสองต่อสู้กันอีกครั้ง อสูรนับไม่ถ้วนไหลทะลักออกมาจากกำแพงที่มีรูโหว่ใหญ่
ผู่ตานและคนที่อยู่ในสถานที่นั้น “…”
เพิ่งวิ่งหนีไปกลุ่มหนึ่ง อีกกลุ่มก็มาแล้ว ไม่เท่านั้น ยังมาเล่นฉากชายหนึ่งกับสัตว์สองตัวแย่งผู้หญิงคนเดียวกันอีก?
ถ้าไม่ใช่สถานที่ไม่เหมาะสม ผู้ชมที่มุงดูอยากจะนั่งลง แล้วหยิบขนมมากินไปด้วยราวกับดูละครเลยทีเดียว
“รับไว้!”
หลิงเยว่ถูกโม่จวินเจ๋อโยนไปยังด้านหน้าของผู่ตานที่ยืนอยู่ไกล ๆ ด้วยสีหน้าสงสัยในชีวิต
“ท่านพี่!”
ผู่ตานจำเสียงนี้ได้ จึงยื่นมือออกมารับ แต่หลิงเยว่กลับลอยผ่านปลายนิ้วของเขาตกลงไปบนพื้นโดยตรง
หลิงเยว่และผู่ตาน “…”
ไม่เคยรู้สึกไร้คำพูดขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต
“เจ้ามนุษย์เปราะบาง!”
ตะขาบมรกตตัวที่สองเหยียบอยู่บนหลังของหลิงเยว่ พลันกระโดดไปมาอย่างร่าเริง จากนั้นก็ปีนขึ้นไปบนไหล่ของนาง “รีบหาอะไรมากินหน่อย ข้าจะอดตายแล้ว!”
“อย่า… เหยียบสิ” หลิงเยว่อดกลั้นความเจ็บปวดที่พุ่งขึ้นมาในลำคอ พูดอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เจ้าดูข้าสิ ตอนนี้ข้าจะไปหาอะไรมากินได้ยังไง!”
วันแล้ววันเล่า มีแต่จะกิน นางใกล้ตายอยู่แล้วยังไม่รู้จักห่วงใยกันบ้างเลย!
ผู่ตานปัดตะขาบมรกตตัวที่สองออกไปอย่างรังเกียจ พยุงหลิงเยว่ขึ้นมา แล้วยัดโอสถเข้าไปในปากของนาง
“เจ้าไปเจออะไรมาถึงได้ย่ำแย่ขนาดนี้?”
หลิงเยว่เงยหน้าขึ้นชำเลืองมองผู่ตาน ถ้าไม่ใช่เพราะบาดเจ็บภายในนั้นการหัวเราะจะทำให้เจ็บมากขึ้น นางคงหัวเราะออกมาดัง ๆ แล้ว
ยังมีหน้ามาพูดว่านางย่ำแย่อีก ตัวเขาเองก็ย่ำแย่ไม่ใช่น้อย!
“เราก็เหมือน ๆ กันแหละ”
ผู่ตานอึ้งไป และก้มลงมองเสื้อผ้าขาด ๆ บนร่างของเขา… เขาก็ดูย่ำแย่เหมือนกันจริง ๆ
“มอบนางให้ข้า เจ้าจะได้พาพรรคพวกขึ้นไปชั้นสามได้”
แมงมุมสีดำขนาดเล็กตัวหนึ่งปีนขึ้นมาบนหลังมือของผู่ตาน สายตาของมันมองไปที่หลิงเยว่ด้วยความโลภ
ผู่ตานตบแมงมุมปลิวออกไป ตะขาบมรกตตัวที่สองรีบกระโดดคาบแมงมุม พลันตวัดลิ้นเตรียมจะกลืนกิน แต่ชั่วพริบตาถัดมา ตัวมันถูกใยสีดำพันจนกลายเป็นรังไหม
“ศิษย์น้อง เจ้ามีของที่ดึงดูดอสูรร้ายติดตัวมาหรือไม่?”
ผู่ตานสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเกือบอาเจียนออกมาเพราะกลิ่นเหม็นแปลก ๆ จาก ร่างของหลิงเยว่
มันเลวร้ายขนาดนั้นเชียวหรือ?
หลิงเยว่ยกมือขึ้นดมตัวเองแล้วก็… อ้วก!
นางเหม็นขนาดนี้แล้ว ทำไมอสูรร้ายยังไม่ยอมปล่อยไปอีก?
เมื่อแมงมุมผู้นำชั้นสองออกมาแล้ว นั่นหมายความว่าประตูไปชั้นบนไม่มีอสูรเฝ้าอยู่ นี่คือโอกาสดีที่จะขึ้นไปชั้นสาม!
ผู่ตานจูงหลิงเยว่วิ่งตรงไปที่ปลายทางเดินยาวทันที
ผู้บำเพ็ญที่ขึ้นมาถึงชั้นสองได้ไม่ใช่คนโง่เขลา แน่นอนว่าพวกเขาสามารถเดาได้ว่าตอนนี้กำลังวิ่งไปที่ปลายทาง!
แมงมุมดำที่ถูกตะขาบมรกตตัวที่สองพันไว้ส่งเสียงร้องลั่น ฝูงอสูรปรากฏตัวอีกครั้ง พวกมันจ้องมองมนุษย์ตรงหน้าอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับถ้าพวกเขากล้าขยับ พวกมันจะฉีกทิ้งทันที!
“อย่าแตะต้องของล้ำค่าของข้า!”
ร่างแยกของปีศาจดอกเบญจมาศขวางหน้าหลิงเยว่ไว้ พวกมันแยกเขี้ยวใส่ฝูงอสูรด้วยพลังกดดันของอสูรระดับกลาง ทำให้ฝูงอสูรตัวสั่นเทิ้มไม่กล้าขยับไปไหน
“ข้าก็ชอบนางเช่นกัน!”
แมงมุมดำที่หลุดจากการควบคุมของตะขาบมรกตตัวที่สองทิ้งตัวลงมาตรงหน้าของปีศาจดอกเบญจมาศ มันอ้าปากร้องเสียงดังโดยไร้เสียง ลูกน้องของมันก็รุมเข้าใส่ ต่อสู้กับปีศาจดอกเบญจมาศอย่างดุเดือด
ทุกอย่างกลายเป็นความวุ่นวายมากขึ้น
หลิงเยว่ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว นางแงะปากผู่ตาน แล้วเทชารู้แจ้งให้ดื่ม ส่วนตัวนางเองก็ดื่มเช่นกัน ร่างของทั้งสองจึงหายวับไปในทันที
ต้นหญ้าเล็ก ๆ ต้นหนึ่งจูงอีกต้นหนึ่งวิ่งลงใต้ดินอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางต้องหลบเท้าและศพที่ร่วงลงมา มันเดินทางอย่างยากลำบากยิ่งนัก!
ผู่ตานที่แปลงร่างเป็นต้นหญ้ารู้สึกมึนงง ไม่คิดว่าศิษย์น้องจะมีของดีแบบนี้ติดตัวมาด้วย
เมื่อปลอดภัยแล้วเขาจะต้องขอคำแนะนำจากนางให้ดี!
สองต้นหญ้าพยายามวิ่งไปถึงห้องที่อยู่ปลายทาง หลิงเยว่ดึงผู่ตานให้ปีนขึ้นบันไดชั้นแรก ต้นหญ้าครางฮึมฮัมพยายามปีนขึ้นไป ภาพนั้นช่างน่าประหลาดยิ่งนัก!
“สมบัติของข้าหายไปไหนแล้ว!”
ปีศาจดอกเบญจมาศเมื่อไม่ได้กลิ่นของหลิงเยว่แล้ว มันก็เริ่มคลั่ง ไม่สนใจแม้แต่โม่จวินเจ๋อและเหล่างู และพุ่งขึ้นไปชั้นสามอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของงูทะเลปีศาจวาววับ มีอารมณ์ลังเลใจราวกับมนุษย์ อันดับของเผ่าปีศาจนั้นชัดเจน หากมันบุ่มบ่ามบุกเข้าไปในชั้นสาม มันอาจต้องตายก็เป็นได้
แต่พลังชีวิตอันยิ่งใหญ่ของหญิงมนุษย์ผู้นั้นทำให้มันไม่อาจละทิ้ง หากสามารถครอบครองพลังที่ยิ่งใหญ่ของนางได้สำเร็จ มันจะกลัวความตายอีกหรือ?
ลุยเลย!
งูทะเลปีศาจกระโดดสูงขึ้น ใช้ร่างกายทะลวงเพดานจนแตกเข้าไปในชั้นสาม โดยมีโม่จวินเจ๋อตามมาติด ๆ เหล่าผู้บำเพ็ญที่ซ่อนตัวอยู่ตามมุมต่าง ๆ มองหลุมดำทะมึน แล้วลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตามขึ้นไปบ้าง
มีเพียงการมุ่งสู่ที่สูงขึ้นเท่านั้น จึงจะมีความหวังที่จะมีชีวิตรอด!