ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 260 ทำไมถึงดูถูกเขา!
บทที่ 260 ทำไมถึงดูถูกเขา!
ถ้ำปีศาจหมื่นเนตรตามตำนานเป็นหนึ่งในสิบผู้พิทักษ์จอมปีศาจและเป็นวิชาลับที่ทำให้แม่ทัพหมื่นปีศาจโด่งดัง
ดวงตาแต่ละดวงนั้นเป็นตัวแทนของผู้บำเพ็ญเซียนผู้ทรงพลังในโลกผู้บำเพ็ญเซียน เจ้าของดวงตาไม่เพียงแต่มีชีวิตอยู่ในตอนที่ถูกควักดวงตาออกมาเท่านั้น แต่ยังเคยถูกทรมานอย่างโหดร้ายทารุณ ในช่วงวาระสุดท้ายก่อนตาย เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความเคียดแค้น ความโหดร้าย ความเย็นชา และการขอร้องวิงวอน… อารมณ์ของพวกเขาถูกเก็บไว้ด้วยเช่นกัน
แม่ทัพหมื่นปีศาจใส่ตาของพวกเขาลงในดวงตาของสัตว์อสูร ทำให้สัตว์อสูรสืบทอดความทรงจำ พลัง และแม้กระทั่งรูปลักษณ์ของผู้บำเพ็ญ
พวกมันเก่งในการปลอมตัว โดยอาศัยการสืบทอดเพื่อเข้าใกล้ครอบครัว เพื่อน และสำนักของเจ้าของดวงตา เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจ แล้วสังหารพวกเขา
หลิงเยว่เหงื่อแตกพลั่กเมื่อได้ยินคำอธิบายของโม่จวินเจ๋อ หากพวกเขาตายที่นี่และถูกควักตา แล้วถูกสัตว์อสูรเข้ามาแทนที่…
สำนักหลานเทียนจะต้องประสบกับหายนะอย่างแน่นอน รวมถึงเมืองฝู่ซางและเมืองฮั่วหยางก็ไม่อาจรอดพ้น
นี่เป็นเพียงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ผู้บำเพ็ญคนอื่น ๆ ที่เข้ามาที่นี่มาจากทั่วทุกแห่งในโลกผู้บำเพ็ญเซียน หากพวกเขาถูกแทนที่ด้วยสัตว์อสูร ทั้งโลกผู้บำเพ็ญเซียนคงจะวุ่นวายอย่างแน่นอน!
ช่างเลวร้ายเหลือเกิน!
“แค่กำจัดดวงตาพวกนี้ทั้งหมด ก็ไม่ต้องกลัวว่าพวกมันจะออกไปก่อเรื่องเดือดร้อนแล้ว” ผู่ตานพูดอย่างสบาย ๆ แต่สีหน้าเคร่งขรึมของเขาทำให้รู้ว่าเขากำลังเครียด
การกำจัดทั้งหมดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่พวกเขาจะหนีออกไปจากที่นี่ได้อย่างราบรื่นหรือไม่ก็ยังไม่รู้
“หรือพวกเราจะระเบิดตัวตายด้วยกันดีไหม!”
เมื่อได้ยินวิธีของอวี้เจิน คนที่เหลืออีกหกคนก็เงียบไป หากหนีไม่รอด คงมีเพียงทางเดียวคือระเบิดตัวตายจริง ๆ
“สมกับเป็นลูกหลานตระกูลอวี้ของข้า ช่างใจดีและใจกว้าง!”
ชายร่างสูงผอมปรากฏตัวขึ้นในความมืด เขาค่อย ๆ เดินไปหาอวี้เจิน ทุกย่างก้าวมั่นคงและทรงพลัง
“ลุงใหญ่…”
อวี้เจินจำชายคนนั้นได้ ดวงตาของนางแดงก่ำ ถึงแม้จะรู้ว่าเขาไม่ใช่คนจริง เป็นเพียงปีศาจที่ใช้รูปลักษณ์ของท่านลุงของนางมาหลอกล่อ แต่นางก็ยังอดร้องไห้ด้วยความเศร้าโศกไม่ได้
ท่านลุงที่เอ็นดูนางสมัยเด็ก ได้หายตัวไปถึงยี่สิบหกปี ที่แท้กลับมาอยู่ที่นี่!
และเขาก็ตายแล้ว
ว่านอวี้เฟิงพยายามลากตัวอวี้เจินสุดชีวิต แต่ด้านหลังไม่มีบันไดให้ถอยแล้ว พวกเขาจึงได้แต่ยืนมองชายคนนั้นเดินเข้ามาอย่างสิ้นหวัง
“หลานสาวตัวน้อยของข้าโตขนาดนี้แล้วหรือ?”
ชายคนนั้นหยุดอยู่ห่างจากอวี้เจินไม่มากนัก เขามองนางด้วยสายตาอ่อนโยนเต็มไปด้วยความเอ็นดู ในดวงตาเต็มไปด้วยความคิดถึงและความเมตตา ไม่มีร่องรอยของการปลอมแปลงแม้แต่น้อย
ใครกันจะไม่หลงเชื่อ!
หลิงเยว่คิดว่าหากนางเป็นคนเผชิญหน้ากับญาติผู้ใหญ่ที่มองนางด้วยสายตาเมตตาและอ่อนโยนเช่นนี้ ต้องยินดีมอบชีวิตให้อย่างแน่นอน
อวี้เจินก็เช่นกัน นางสะบัดมือว่านอวี้เฟิงออก แล้ววิ่งเข้าหาชายคนนั้น
“ท่านลุง กลับบ้านกับข้าเถิด ทุกคนในครอบครัวตามหาท่านจนแทบคลั่ง”
อวี้เจินมีน้ำตาเต็มใบหน้า ยื่นมือไปหาชายคนนั้น
ในดวงตาของชายคนนั้นฉายแววเจ็บปวดและดิ้นรน จากนั้นเขาก็ส่ายหน้าและถอยหลัง
เมื่ออวี้เจินเห็นเขากำลังจะจากไป นางก็โผเข้าไปกอดเขาอย่างง่ายดาย
“ท่านลุง ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน”
น้ำตาร้อน ๆ หยดลงบนลำคอของชายคนนั้น เขาชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วจากนั้น…
ว่านอวี้เฟิงเห็นชัดเจนว่ามุมปากของบุรุษนั้นยกยิ้มอย่างประหลาด
ในตอนที่บุรุษนั้นกำลังจะยื่นมือกอดอวี้เจิน ทั้งตัวของเขาก็ชะงักไปในทันใด
“ท่านลุง ขออภัยด้วย”
เสียงกระซิบของอวี้เจินดังวนเวียนอยู่ข้างหูของบุรุษนั้น ส่วนตันเถียนของเขาถูกแสงสีทองทะลุผ่าน เขากำลังจะโต้กลับ แต่กลับมีหมัดชกเข้าที่ดวงตาของเขาเสียก่อน
ครึ่งหนึ่งของศีรษะบุรุษนั้นระเบิดออก!
น่าเสียดายที่เขาไม่ตาย ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันอย่างดุเดือด แทบจะเป็นการชกกันทุกหมัด อวี้เจินเต็มไปด้วยรอยเลือดบนใบหน้า ถูกตีจนอาเจียนออกมาเป็นเลือดแต่ก็ไม่ส่งเสียงใด ๆ
กลิ่นคาวเลือดเหมือนจะปลุกตาในถ้ำปีศาจหมื่นเนตร
ผู้บำเพ็ญเดินออกมาทีละคน พวกเขายืนอยู่กลางอากาศ แล้วเลือกคู่ต่อสู้
หลิงเยว่ถูกเลือกเป็นคนแรก จากนั้นก็เป็นโม่จวินเจ๋อ…
มีเพียงผู่ตานที่ไม่มีใครสนใจ
เขา “???”
ทำไมถึงไม่สนใจข้า!
ถ้าเป็นคนปกติ ต้องดีใจ หาทางหนีหรือไปช่วยเหลือคนอื่น แต่ผู่ตานกลับไม่ทำเช่นนั้น เขาโมโหมากและรวมก้อนไฟขนาดใหญ่ขว้างใส่ดวงตาโดยรอบอย่างดุดัน ปากพึมพำด้วยความแค้นใจ “พวกเจ้าไม่สนใจข้า พวกเจ้าไม่สนใจข้า!”
“ท่านพี่สี่ อย่าบ้าไปเลย รีบหาทางออกเร็วเข้า!”
หลิงเยว่ถูกหญิงโหดร้ายคนหนึ่งเหวี่ยงร่างนางลงบนบันไดอย่างแรง นางลุกขึ้นและถอยหลังอย่างรวดเร็ว หญิงคนนั้นไล่ตามอย่างไม่ลดละ
โม่จวินเจ๋อเห็นดังนั้น จึงละทิ้งเซียนกระบี่ตรงหน้า หันไปจัดการหญิงสาวแทน
เซียนกระบี่รู้สึกว่าตนเองโดนดูถูก จึงยกกระบี่ในมือขึ้นด้วยความโกรธเคือง สายฟ้าสีม่วงวนอยู่บนตัวกระบี่ แรงกดดันอันทรงพลังแผ่ซ่านออกมา ฟาดใส่โม่จวินเจ๋ออย่างแรง
หลิงเยว่ไม่รู้ว่าความกล้าหาญมาจากที่ใด นางรีบวิ่งเข้าไปรับกระบี่เอาไว้ด้วยมือเปล่า
ผู่ตานที่คลุ้มคลั่งได้ก่อตัวเป็นมังกรสีแดงขึ้นมา งับข้อมือของบุรุษเอาไว้ ทำให้กระบี่ในมือเขาไม่อาจกดลงมาได้อีก เพราะถ้ากดลงมาอีก หลิงเยว่คงจะถูกผ่าออกเป็นสองท่อนแล้ว
โม่จวินเจ๋อปัดตัวหญิงสาวออก แล้วโจมตีเซียนกระบี่อีกครั้ง ตัวเขาวุ่นวายจนแทบจะไม่มีเวลาพัก
หลิงเยว่ที่รับกระบี่เอาไว้นั้น ร่างกายเต็มไปด้วยสายฟ้า ผมของนางตั้งชันขึ้นทีละเส้นๆ นางอ้าปากจะพูด กลับมีแต่ควันลอยออกมา
“ศิษย์น้อง เจ้าช่วยเอาจริงเอาจังหน่อยได้หรือไม่?”
หลิงเยว่ที่ถูกผู่ตานดูถูกพลันรู้สึกโกรธ นางไม่ได้อ่อนแอแค่ยังไม่พร้อมเท่านั้น!
นางโปรยเมล็ดพันธุ์นับไม่ถ้วนสู่ความมืด เถาวัลย์พิษที่ลุกเป็นไฟงอกขึ้นส่องแสงสว่างในความมืด หลิงเยว่กระโดดขึ้นเถาวัลย์ไฟเส้นหนึ่ง มือถือเถาวัลย์อีกเส้นแล้วฟาดใส่หญิงสาวอย่างแรง
เถาวัลย์พิษที่เหลือพุ่งเข้าโจมตีดวงตาที่กำลังดูเรื่องราวอยู่อย่างดุดัน หลิงเยว่ที่ไม่เคยฝึกวิชาแส้มาก่อน กลับฟาดแส้เถาวัลย์พิษได้อย่างคล่องแคล่วว่องไว เพียงนางคิดแส้ที่มีพลังชีวิตก็แตกแขนงออกมานับไม่ถ้วน พวกมันสานเป็นตาข่ายไฟในอากาศอย่างรวดเร็ว แล้วครอบหญิงสาวเอาไว้
ตาข่ายไฟหดตัวแน่น หนามพิษสีดำทองพุ่งเข้าใส่หญิงสาว
“หือ? สำนักหลานเทียนมีเคล็ดวิชาที่เก่งกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?”
หญิงสาวดึงหนามพิษที่ปักเข้าที่แขนออก ริมฝีปากของนางกลายเป็นสีดำอย่างรวดเร็ว ถึงแม้จะได้รับพิษแล้ว พิษก็แพร่กระจายไปทั่วร่าง แต่นางกลับจ้องมองหนามพิษราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แค่นี้ยังไม่เป็นไร?
หลิงเยว่สีหน้าไม่ดี นางปลุกให้หนามพิษงอกขึ้นมาอีกครั้ง แล้วแทงทะลุร่างหญิงสาว
ร่างกายมีรูโหว่ทั่วไปหมด แม้แต่ดวงตาก็ถูกหนามพิษนับไม่ถ้วนแทง แต่หญิงผู้นั้นก็ยังคงนิ่งเฉย ทั้งยังหัวเราะเสียด้วย
หัวเราะเพื่อ?
หลิงเยว่ “???”
หรือว่าข้าจะเจออะไรที่ฆ่าไม่ตายอีกแล้ว?
ความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักผุดขึ้นในใจของหลิงเยว่ นางเปลี่ยนน้ำให้กลายเป็นน้ำแข็ง เกล็ดน้ำแข็งพุ่งเข้าใส่หญิงที่อยู่ในตาข่ายไฟอย่างไม่ปรานี
หญิงผู้นั้นร่างแตกกระจาย
“ระวังตัวด้วย ศิษย์น้อง!”
มังกรไฟตัวหนึ่งงับหญิงที่กำลังจะลอบโจมตีหลิงเยว่ที่ด้านหลัง
หญิงผู้นั้นถูกกลืนกินไปแล้ว
แต่นางก็กลับมาอีก โผล่ออกมาจากด้านข้างของหลิงเยว่อย่างกะทันหัน
ผู่ตานและหลิงเยว่ “…”
นี่มันอะไรกันแน่!?
“นางฝึกฝนเคล็ดวิชาเช่นเดียวกับปีศาจเบญจมาศนั่น!”
โม่จวินเจ๋อเตือนสองคนที่จ้องมองกันอย่างงุนงง
สองคนที่งุนงงต่างมองหน้ากันอย่างไร้ถ้อยคำ ดังนั้นจึงต้องหาตัวจริงของหญิงผู้นั้นให้เจอ จึงจะสามารถกำจัดนางได้อย่างราบคาบ
นางปรากฏตัวในร่างแยกทุกครั้ง หลิงเยว่ไม่รู้เลยว่าตัวจริงของนางซ่อนอยู่ที่ใดกันแน่!
ช่างยุ่งยากจริง ๆ!