ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 262 เขาแค่อยู่ในช่วงต่อต้าน!
บทที่ 262 เขาแค่อยู่ในช่วงต่อต้าน!
ร่างกระดาษยังคงล้มลงอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ดวงตาที่ดูมีชีวิตชีวาที่สุดก็กลายเป็นหม่นหมอง ราวกับดวงตาที่วาดลงบนกระดาษ ดูไร้ชีวิตยิ่งนัก!
สิ่งนี้ทำให้ดวงตาปีศาจที่กำลังจะลงมือตกใจเป็นอย่างมาก พวกมันสงสัยผู่ตานเป็นคนแรก แต่ตามที่พวกมันรู้ ชายคนนี้น่ากลัวก็จริง แต่ไม่ได้น่ากลัวถึงขนาดที่ไม่มีโอกาสให้ตอบโต้!
สิ่งแรกที่ติงหลิวหลิ่วและคนอื่น ๆ นึกถึงคือหลิงเยว่ ที่ถูกระเบิดด้วยพลังปีศาจจนไม่เหลือแม้แต่ซากศพ
แต่นางยังไม่ตาย!
จำนวนดวงตาที่ถูกดูดซับมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อครู่พวกมันยังคึกคะนอง แต่ตอนนี้กลับหันหลังหนี แต่ก็เปล่าประโยชน์ ไม่ว่าจะหนีไปไกลแค่ไหน จุดจบยังเป็นเช่นเดิม
น่าขนลุกมาก!
“ใคร มันเป็นใคร!”
ความหวาดกลัวทำให้พวกปีศาจตื่นตระหนก เพื่อเอาชีวิตรอด พวกมันจึงโจมตีคนที่ยังมีชีวิตอยู่ตรงหน้า แต่เพียงแค่ขยับตัว ก็กลายเป็นกระดาษในพริบตา
ว่านอวี้เฟิงลากร่างอวี้เจินที่บาดเจ็บสาหัสจนหมดสติถอยหลังทีละก้าว ส่วนติงหลิวหลิ่วและลู่เป่ยเหยียนพยุงกันและกันออกห่างจากดวงตาพวกนั้น
ศิษย์น้องของพวกเขา… เพียงแค่ไม่ได้พบกันสามปี ก็เติบโตได้ถึงขั้นนี้แล้ว!
ลวดลายบนใบหน้าของผู่ตานหายไป เขากลับสู่ปกติและวิ่งตรงไปยังทิศทางของ หลิงเยว่
“ข้าหยุดนางไม่ได้”
โม่จวินเจ๋อมองคนในอ้อมกอดด้วยสีหน้าเศร้าสร้อย หลิงเยว่หลับตาแน่น ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ ปากบ่นพึมพำอะไรบางอย่าง
ไม่มีใครได้ยินชัดเจน แต่ยิ่งนางพูดเร็วเท่าไหร่ ความเร็วในการหายไปของดวงตาปีศาจก็ยิ่งเร็วขึ้นเท่านั้น หากดูดซับต่อไป มันไม่ใช่แค่การตกอยู่ภายใต้อำนาจของมารธรรมดา แต่จะระเบิดร่างกายตายและแม้แต่วิญญาณก็…
“ศิษย์น้อง เจ้าตื่นเถอะ!”
ผู่ตานดันร่างหลิงเยว่ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนอง
“นางนั่นแหละ! ฆ่าหญิงคนนี้เสีย!”
ดวงตาปีศาจสังเกตเห็นชายหนึ่งและหญิงหนึ่งที่ไม่ตายในการระเบิดของพลังปีศาจ
ดวงตาปีศาจทั้งหมดใช้การโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกมัน!
“ศิษย์น้อง!”
สามคนพิการตะโกนจนเสียงแหบ แต่พวกเขาไม่มีทางเลือก ได้แต่มองดูอาวุธนับไม่ถ้วนที่รวมตัวกันจากพลังปีศาจพุ่งเข้าใส่คนกลุ่มนั้น
ถ้ำปีศาจหมื่นเนตรสั่นไหว ก้อนหินร่วงลงมาอย่างบ้าคลั่งเหมือนลูกเห็บ ลู่เป่ยเหยียนและอีกสี่คนถูกระเบิดจนหมดสติในทันที ร่างพวกเขาร่วงหล่นลงไปในความมืดพร้อมกับก้อนหิน
เสียงร้องของนกที่ไพเราะดังก้องไปทั่วถ้ำปีศาจหมื่นเนตรที่กำลังพังทลาย แสงไฟส่องสว่างแทนความมืด ก้อนหินถูกความร้อนสูงหลอมละลาย อีกาสุริยันตัวใหญ่ที่มีเปลวไฟปกคลุมทั่วร่างรีบดำดิ่งลงไปรับสี่คนที่กำลังร่วงหล่น
จากนั้นนางก็บินขึ้นสูง มุ่งหน้าตรงไปยังยอดถ้ำปีศาจหมื่นเนตร ใช้ร่างกายชนทะลุถ้ำอย่างดุดัน
ดวงตาปีศาจที่เหลือถูกเปลวเพลิงแห่งสวรรค์เผาจนเป็นเถ้าถ่าน ถ้ำปีศาจหมื่นเนตร… ถูกทำลายจนราบคาบ
ทั้งวิหารเสินโม่สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ต่อมาก็กลับคืนสู่ความสงบ ผู้บำเพ็ญที่ถูกขังอยู่ในถ้ำปีศาจหมื่นเนตรคนอื่น ๆ พบว่าดวงตาปีศาจหายไปแล้ว พวกเขาจึงหนีออกจากถ้ำตามทิศทางที่พวกมันจากไปด้วยความดีใจจนน้ำตาไหล
ชั้นห้าไม่มีปีศาจเลยสักตัว ไม่รู้ว่าพวกมันหวาดกลัวเสียงดังหรือไม่ จึงหนีไปซ่อนตัว จนทั้งชั้นว่างเปล่า
ในห้องโถงใหญ่มีผู้บำเพ็ญจำนวนไม่น้อยนอนแน่นิ่ง พวกเขาถูกดวงตาปีศาจทรมานแสนสาหัส แม้แต่การป้องกันผู้บำเพ็ญแปลกหน้าขั้นพื้นฐานก็ทำไม่ได้ ตอนนี้แค่ปีศาจระดับต่ำตัวเดียวมาก็สามารถกินพวกเขาจนหมดเกลี้ยง
ตุ๊กตาผ้าขี้ริ้วทั้งเจ็ดตัวถูกอีกาสุริยันโยนไปที่มุมห้อง นางแปลงร่างเป็นคน ใบหน้าเล็กดูไม่พอใจนัก พลางยกขาสั้น ๆ ของตนเองขึ้นเตะหลิงเยว่ที่สลบไม่ได้สติ
“ตื่นสิเจ้ามนุษย์!”
หลิงเยว่ยังไม่ได้สติ หากไม่ใช่เพราะหน้าอกที่ยังขยับขึ้นลงเล็กน้อย คงไม่ต่างอะไรจากคนตายแล้ว
นางยังมีชีวิตอยู่ นอกจากผมที่ยุ่งเหยิงไปบ้าง ชุดกระโปรงยาวขาดวิ่น และใบหน้าซีดเซียว นอกนั้นก็ยังดีอยู่ ส่วนอีกหกคนที่เหลือนั้นไม่ค่อยดีนัก
โดยเฉพาะโม่จวินเจ๋อที่พยายามปกป้องหลิงเยว่ จนร่างกายไม่เหลือส่วนที่ดี นอนแผ่อยู่กับพื้นจนเลือดย้อมเป็นสีแดง ดูเหมือนเขาจะไม่รอดแล้ว
อีกาสุริยันตัวน้อยเดินเตะทั้งเจ็ดคน และมีเพียงคนเดียวที่ฝืนตื่นขึ้นมาได้
เมื่อผู่ตานลืมตาขึ้น สายตาเขาเลือนราง
“อย่ามัวแต่มองสิ ถ้าไม่รีบช่วยคนอื่น ทุกคนจะตายหมดแล้วอย่ามาโทษข้านะ!”
ผู่ตานกำลังจะถามว่าเจ้าตัวน้อยนี่เป็นใคร แต่สายตาเหลือบไปเห็นโม่จวินเจ๋อที่นอนข้าง ๆ เหลือลมหายใจเพียงครึ่งเดียว ทันใดนั้นความเจ็บปวดในร่างกายก็หายไป สมองที่มึนงงกลับมาแจ่มใสอีกครั้ง รีบควานหาโอสถแล้วเทใส่ปากของเขาทั้งหมด คิดแล้วคิดอีก เลยป้อนสุราปราบมารเข้าไปอีกหนึ่งอึกใหญ่
เลือดของโม่จวินเจ๋อจึงหยุดไหล
ว่านอวี้เฟิงและติงหลิวหลิ่วที่ได้รับโอสถตื่นขึ้นมา ลากร่างที่บาดเจ็บสาหัสและเริ่มพันแผลให้ผู้บาดเจ็บ แต่เมื่อมาถึงตรงหน้าหลิงเยว่กลับไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี
ไม่มีบาดแผลภายนอก แม้แต่บาดแผลภายในก็ไม่มี ภายในร่างกายมีเพียงพลังปีศาจที่แผ่ไปทั่ว
ครั้งนี้ศิษย์น้องห้าไม่ได้ใช้พืชดูดซับพลัง แต่ใช้ตัวเองเป็นภาชนะบรรจุ!
“งั้นลองใช้สุราปราบมารดูไหม?”
ผู่ตานหยิบสุราปราบมารออกมา
“ไม่มีประโยชน์หรอก” อีกาสุริยันน้อยส่งเสียงห้าม “เก็บเหล้านี่ไว้ดี ๆ เถอะ มันจะช่วยรักษาชีวิตพวกเจ้าได้”
“งั้นเจ้าว่าจะทำยังไงดี” ติงหลิวหลิ่วถามอย่างร้อนใจ
“เมื่อนางย่อยพลังด้วยตนเองจนหมดสิ้น ก็จะตื่นขึ้นเอง”
แน่นอนว่าหากย่อยไม่หมด คงต้องรอให้ร่างตายไปเท่านั้น
“เจ้ากำลังล้อเล่นหรือ!” ผู่ตานตะโกนเสียงแตกพร่า
พลังปีศาจในดวงตปีศาจนับพันนั้น หลิงเยว่จะสามารถย่อยกลืนจนหมดได้หรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น ภายในนั้นไม่เพียงแต่มีพลังปีศาจ แต่ยังมีความทรงจำของเหล่าผู้บำเพ็ญอาวุโสมากมาย รวมถึงอารมณ์ด้านลบต่าง ๆ ต่อให้ย่อยกลืนพลังปีศาจได้ หลิงเยว่ที่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิดก็คงเสียสติไปแล้ว!
“ท่านสามารถช่วยดูดซับส่วนหนึ่งได้นะ!”
อีกาสุริยันตัวน้อยมองผู่ตานขึ้นลงอย่างสนใจ “คนอื่นไม่สามารถดูดซับได้ แต่ท่านไม่มีปัญหาเลยสักนิด อ้อ! ใช่แล้ว ดอกไม้โลหิตปีศาจข้างนอกวิหารก็ช่วยได้เหมือนกัน”
ผู่ตาน “เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”
อีกาสุริยันตัวน้อย “หืม? ท่านไม่รู้ตัวเองหรือว่ามีฐานะอะไร?”
“ข้ามีฐานะอะไร?”
อีกาสุริยันตัวน้อยไม่ตอบ เพียงแต่มองผู่ตานอย่างลึกซึ้ง
“พูดมาสิ ข้ามีฐานะอะไร?”
ผู่ตานไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
“ท่านคงจะไม่ใช่ร่างแยกของจอมปีศาจกระมัง?”
ติงหลิวหลิ่วไม่เคยคิดมาก่อน แต่เมื่อครู่ตอนอยู่ในถ้ำ เมื่อเห็นลวดลายประหลาดที่ปรากฏวูบวาบบนใบหน้าของผู่ตานและสายตาเย็นชาที่มองพวกเขา ก็รู้สึกว่านั่นไม่ใช่เขาอีกต่อไป เหมือนมีวิญญาณอีกดวงหนึ่งถูกผนึกอยู่ในร่างของเขา…
“เป็นไปไม่ได้!”
ว่านอวี้เฟิงไม่ยอมรับคำพูดนี้ “เขาคือน้องรักของข้า ต่อไปห้ามพูดแบบนี้อีก!”
ศิษย์น้องรักที่เขาดูแลมาตั้งแต่เด็กจะเป็นปีศาจได้อย่างไร ติงหลิวหลิ่วไม่รู้ว่าตอนเด็ก ๆ ผู่ตานน่ารักและว่านอนสอนง่ายแค่ไหน แต่โตขึ้นมาออกจะดื้อรั้นไปบ้าง!
“ข้าก็พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น…”
ติงหลิวหลิ่วเสียใจยิ่งนัก หากคำพูดของนางถูกเผยแพร่ออกไป ศิษย์น้องสี่ต้องถูกผู้บำเพ็ญเซียนทั่วโลกประณามแน่
“เขาไม่ใช่ปีศาจเกิดใหม่ แต่ก็มีความเกี่ยวข้องกับปีศาจนั่นจริง ๆ”
อีกาสุริยันตัวน้อยชื่นชมความคิดของติงหลิวหลิ่ว
“งั้น… เป็นลูกชายของปีศาจหรือ?”
ลู่เป่ยเหยียนที่ตื่นขึ้นมาไม่สนใจบาดแผลบนร่างกาย ก็เข้าร่วมการนินทาครั้งใหญ่ด้วย
เขาต่างหากที่เป็นลูกชายของปีศาจ! ทั้งครอบครัวของเขาเลย!
ผู่ตานตบลู่เป่ยเหยียนทันที ตบโดนบาดแผลที่ไหล่ของเขาพอดี
“โอ๊ย! เจ็บ ๆ ข้าผิดไปแล้ว!”
ลู่เป่ยเหยียนเจ็บจนน้ำตาไหลพราก พลางร้องขอความเมตตา
ผู่ตานพอใจแล้วก็เก็บมือกลับ จากนั้นเขามองไปที่หลิงเยว่ พลางถามอีกาสุริยันน้อยว่า “จะช่วยให้นางดูดซับได้อย่างไร?”