ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 271 เกิดเพราะเจ้า พลีชีพเพื่อเจ้า
บทที่ 271 เกิดเพราะเจ้า พลีชีพเพื่อเจ้า
บันไดยาวมาก โม่จวินเจ๋อไม่รู้ว่าเดินมานานเท่าไรกว่าจะแบกหลิงเยว่ไปถึงจุดหมาย
เขาคิดว่าตามการก่อสร้างอันหรูหราของที่นี่ ชั้นบนสุดน่าจะยิ่งแสบตามากกว่านี้ แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น ที่นี่ราวกับถูกตัดขาดจากวัง เป็นเหมือนโลกเล็ก ๆ แยกออกมาต่างหาก
เพียงแต่ทิวทัศน์ภูเขาน้ำตกและดอกไม้ที่นี่ทำให้โม่จวินเจ๋อเกิดแผลในใจ ตอนแรกชั้นบนสุดของวิหารบูชาปีศาจก็เป็นเช่นนี้ ผลสุดท้าย…
ทุกคนเกือบตายที่นั่นทั้งหมด!
โม่จวินเจ๋อเครียดจัด สายตากวาดไปรอบ ๆ สายตาหยุดนิ่งอยู่ที่ต้นไม้ยักษ์ที่ตายแล้ว
อายุของต้นไม้ต้นนี้อาจจะหลายพันล้านปีกระมัง?
เพียงแค่ลำต้นไม้ต้นเดียวก็ครอบครองพื้นที่สองในสามของโลกเล็ก ๆ แล้ว ต้นไม้ยักษ์ที่มีอายุยืนยาวเช่นนี้ ยากจะจินตนาการได้ว่าตอนมันยังมีชีวิตอยู่จะงดงามอลังการเพียงใด
โม่จวินเจ๋อสะเทือนใจ แต่ภายนอกยังคงรักษาสีหน้าไร้อารมณ์เอาไว้ แต่สายตาของเขาเหมือนถูกติดกาวไว้กับต้นไม้นั้นแล้ว ไม่สามารถละสายตาไปได้เลย
บนลำต้นไม้ที่เหี่ยวเฉาล้อมรอบไปด้วยกลิ่นอายปีศาจ ในกลิ่นอายปีศาจมีแสงเรืองรองสีเขียวมรกตระยิบระยับ พวกมันหลบหลีกกลิ่นอายปีศาจอย่างยากลำบาก
ตอนที่ตาแก่กับเด็กน้อยเทพพฤกษาเห็นต้นไม้ ทั้งคู่ต่างคุกเข่าลง หน้าผากทั้งสองกระแทกพื้นดังปัก! เหมือนใครยิ่งกระแทกแรงเท่าไหร่ก็ยิ่งแสดงความศรัทธามากขึ้นเท่านั้น
โม่จวินเจ๋อรู้สึกว่ามันไร้สาระ ตาแก่ลูบหัวที่กระแทกจนมึนงงแล้วลุกขึ้นเดินโซเซ
“ยืนงงอะไรอยู่ วางหลิงเยว่ไว้ใต้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณแห่งชีวิตจะช่วยรักษาบาดแผลให้นางเอง!”
“ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์?”
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่ปรากฏเพียงไม่กี่ตัวอักษรในตำราโบราณกลายเป็นต้นไม้ที่ตายแล้วตรงหน้า?
ถึงแม้จะมีท่าทีสงสัย แต่โม่จวินเจ๋อก็ยังอุ้มหลิงเยว่เดินเข้าไปใกล้ต้นไม้ทีละก้าว หากมันช่วยได้จริงล่ะ?
อย่างไรก็ตาม ตำนานของต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์นั้น…
ในยุคโบราณ ทั่วทั้งโลกอยู่ในความวุ่นวาย สวรรค์ได้โยนเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ลงสู่ความวุ่นวายนั้น เมื่อเมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ดูดซับความวุ่นวายของสวรรค์และโลก จนรากงอกและเติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่สูงเสียดฟ้า จากนั้นจึงออกดอก… และออกผล
ผลจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุกงอมร่วงหล่นลงพื้น กลายเป็นกลุ่มแสงสีเขียวมรกต กลุ่มแสงวิ่งขึ้นลงรอบ ๆ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์อย่างคึกคัก
เมื่อเวลาผ่านไป กลุ่มแสงแทบจะกระจายไปทั่วโลก กลุ่มแสงกลุ่มแรก ๆ ได้ฝังตัวลงในพื้นดิน พวกมันกลายเป็นภูเขาสูง ลำธาร พืชพรรณ และสายลม…
โลกอันวุ่นวายเริ่มมีรูปร่างขึ้นมาทีละน้อย เนื่องจากผลต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ สิ่งมีชีวิตตัวแรกที่ถือกำเนิดขึ้นคือ อีกาสุริยัน ซึ่งกลายเป็นดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุและอบอุ่น ส่องแสงสว่างให้โลก
สิ่งมีชีวิตอื่น ๆ เกิดขึ้นมามากมาย ทั้งสัตว์และมนุษย์…
โลกอันเงียบสงบกลับกลายเป็นโลกที่คึกคักไม่เงียบเหงาอีกต่อไป เนื่องจากการปรากฏตัวของพวกมัน
สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าอย่างเลือนราง ที่ชายชราเรียกว่าวิญญาณแห่งชีวิต นั่นคือผลจากต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์หรือ?
“รีบเข้าไปเถอะ ก่อนที่วิญญาณแห่งชีวิตจะถูกกลืนกินด้วยพลังปีศาจจนหมด”
ชายชราเต็มไปด้วยความเศร้าโศก เมื่อเห็นพลังปีศาจรอบ ๆ ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์และวิญญาณแห่งชีวิตที่กำลังจะหายไปทั้งหมด เขาก็รู้ว่าตนมาสายไป
จอมปีศาจได้ดูดซับวิญญาณแห่งชีวิตนับไม่ถ้วนผ่านร่างแยกของตนไปแล้วโดยไม่รู้ตัว นั่นเป็นของขวัญที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ทิ้งไว้ให้ผู้สืบทอด…
เขาขโมยไปหมดแล้ว แม้แต่เมล็ดพันธุ์ศักดิ์สิทธิ์ของผู้สืบทอดเองยังถูกขโมยไปครึ่งหนึ่ง ร่างแยกของจอมปีศาจยังต้องการครึ่งหนึ่งที่อยู่ในร่างของหลิงเยว่อีกด้วย!
วิญญาณแห่งชีวิตดูเหมือนจะรับรู้ถึงการมาถึงของผู้สืบทอด พวกมันทะลุผ่านพลังปีศาจมาถึงตรงหน้าหลิงเยว่ที่สลบไสล แทบจะไม่ลังเลเลยที่จะหลอมรวมเข้าไปในร่างของนาง
หนึ่งกลุ่ม สองกลุ่ม…
ใบหน้าซีดเซียวของหลิงเยว่ค่อย ๆ กลับมามีสีสันอีกครั้ง พลังปีศาจที่กำลังคุกคามก็สงบลง ไม่พลุ่งพล่านไปทั่วอีกต่อไป
ไม่พอ สิ่งนี้ยังไม่เพียงพอ!
ชายชราก้าวเดินไปยังต้นไม้ ทุกย่างก้าวที่เขาเดิน ร่างกายของเขาก็จางลงทีละน้อย แต่เขาไม่ใส่ใจ
แต่กลับกำชับโม่จวินเจ๋อว่า “เจ้าจงใช้พลังทั้งหมดสังหารร่างแยกของปีศาจ เพื่อปกป้องคนในอ้อมกอดของเจ้า จำ… ไว้ให้ดี”
ร่างของชายชราหายไป เขาแปรเปลี่ยนเป็นแสงสีเขียวมรกต หลอมรวมเข้าไปในหว่างคิ้วของโม่จวินเจ๋อ
“ข้าคนแก่จะช่วยเจ้าสักแรง!”
“ท่านตา… ท่านแม่…”
เด็กน้อยเทพพฤกษามองไปยังชายชราที่หายตัวไปอย่างงุนงง สายตาที่สับสนของเขามองไปที่หลิงเยว่อย่างฉับพลัน
จุดสีเขียวลอยออกมาจากร่างของเขา ดวงตาสีเขียวมรกตมองไปยังท่านแม่ผู้มอบชีวิตให้เขาด้วยความห่วงหา ก่อนจะตัดสินใจกลายเป็นกลุ่มแสงเพื่อต่ออายุให้หลิงเยว่
“ท่านแม่ ตื่นมาตีคนร้ายเร็วเข้า!”
โม่จวินเจ๋อไม่อาจแยกแยะความรู้สึกของตนเองในตอนนี้ได้ แต่เขารู้สึกโล่งใจเล็กน้อย ที่หลิงเยว่ผู้ซึ่งหมดสติไปตลอดทาง ไม่ได้เห็นลูกน้อยน่ารักตัวหนึ่งเรียกนางอย่างสนิทสนมว่าท่านแม่ และมอบชีวิตของตนเองเพื่อให้นางฟื้นขึ้นมา
และยังมีชายชราตัวเล็กที่พูดไม่หยุดปากอีกด้วย…
ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ล้มลงในทันทีเพราะสูญเสียการปกป้องจากวิญญาณแห่งชีวิต ต้นไม้และพื้นหญ้าเหี่ยวแห้ง น้ำในแม่น้ำแห้งขอด นกน้อยที่ร่าเริงหายไป…
ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังสูญสิ้น
“ที่แท้เจ้าอยู่ที่นี่นี่เอง?”
ประโยคคุ้นหูดังขึ้นจากด้านหลังของโม่จวินเจ๋อ เขาหันหลังกลับไปโดยสัญชาตญาณ ผู่ตานกำลังอุ้มกล่องหยกขาวพลางเดินเข้ามาอย่างร่าเริง
“เจ้าดูสิว่าข้าเจอของดีอะไรมา ต้องช่วยให้ศิษย์น้องฟื้นได้แน่ ๆ!”
ผู่ตานเดินไปพลางเปิดกล่องในอ้อมแขน ลูกแก้วใสลูกหนึ่งกระโดดออกมา
เมื่อลูกแก้วกำลังจะหนี ผู่ตานก็คว้ามันไว้ได้อย่างรวดเร็ว
“ของเล่นนี่มันฉลาดขึ้นมาได้ยังไง? รู้จักหนีด้วย แต่น่าเสียดายที่ตกมาอยู่ในมือข้าแล้ว เจ้าหนีไม่รอดหรอก!”
ลูกแก้วดิ้นอย่างรุนแรง ผู่ตานที่กำมันไว้ใช้แรงทั้งหมดแต่ก็… ต้องปล่อยให้มันหนีไปได้
ลูกแก้วพุ่งเข้าไปในหว่างคิ้วของโม่จวินเจ๋ออย่างรวดเร็ว
ผู่ตาน “?”
นั่นเป็นลูกแก้ววิเศษที่เขาลำบากขโมย ไม่สิ! ลำบากแย่งมา ดันถูกเจ้านี่แย่งไปซะได้!
“เจ้าคืนมาให้ข้า!”
ผู่ตานตะโกนอย่างสิ้นหวัง
โม่จวินเจ๋อที่ดูดกลืนวิญญาณชีวิตที่กลายร่างมาจากชายชราและลูกแก้ววิเศษก็รู้สึกงุนงงเช่นกัน เขาไม่ได้ทำอะไรเลย
“รีบคายออกมาเร็วเข้า!”
โม่จวินเจ๋ออ้าปากเหมือนจะบังคับให้ลูกแก้ววิเศษออกมาจากร่าง แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ลูกแก้วทั้งลูกเกาะแน่นอยู่บนจินตานของเขา แถมยังหลอมรวมไปแล้วด้วย!
“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านเป็นอะไรไป ทำไมถึงได้กระโดดโลดเต้นเหมือนลิงแบบนั้น?”
ผู่ตานและโม่จวินเจ๋อมองไปที่หลิงเยว่ที่ลืมตาขึ้น “!!!”
“ศิษย์น้อง เจ้าตื่นแล้ว!”
ทั้งสองเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
หลิงเยว่รู้สึกว่าร่างกายเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง สภาพจิตใจดีมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากต้องเผชิญกับดวงตาปีศาจอีกครั้ง นางมั่นใจว่าจะสามารถกำจัดมันได้ด้วยหมัดเดียว!
“อืม ข้าตื่นแล้ว พวกเจ้าให้ข้ากินอะไร ตอนนี้ข้ารู้สึกดีมาก!”
โม่จวินเจ๋อเลือกที่จะไม่ตอบตามความจริง
ผู่ตานที่ถูกขโมยลูกแก้วจิตวิญญาณกลางทางยิ่งไม่อยากตอบ เขาจ้องมองโม่จวินเจ๋อด้วยสายตาเคียดแค้น รอกลับไปค่อยจัดการเอาคืนให้รู้แล้วรู้รอด!
“ยังมีพลังปีศาจหลงเหลืออยู่อีกหรือไม่?” ผู่ตานถาม
หลิงเยว่ตรวจสอบภายในร่างกายตนเอง มองโม่จวินเจ๋อด้วยสายตาประหลาดใจ จากนั้นจึงส่ายหน้า
นางรู้ดีถึงสภาพร่างกายของตนเอง เดิมทีก็เตรียมใจรับมือกับความตายไว้แล้ว แต่กลับตื่นขึ้นมาเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง ช่างน่าอัศจรรย์จริง ๆ!
โม่จวินเจ๋อที่ถูกจ้องมองด้วยสายตาสองคู่ยังคงเงียบงัน
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาเองก็รู้เพียงครึ่งเดียว ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไร
จะให้เขาอธิบายกับหลิงเยว่ว่านางเป็นผู้สืบทอดต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ และผู้สืบทอดรุ่นก่อนหน้าของนางเสียสละลูกของตนเพื่อช่วยนางงั้นหรือ?
ใครจะเชื่อเขากัน?