ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 278 ข้าขอร้องเจ้าแค่ครั้งนี้
บทที่ 278 ข้าขอร้องเจ้าแค่ครั้งนี้
ผู่ตานจ้องมองข้อมือตัวเองอยู่นานพักใหญ่ด้วยความงงงวย จากนั้นก็หันไปมองหลิงเยว่อย่างเหม่อลอย
“เมื่อครู่… ข้าโดนกระบี่เหมันต์เร้นลับฟันไปที่แขน พวกเจ้าเห็นใช่ไหม?”
ทั้งสามคนรวมถึงกระบี่พยักหน้าพร้อมกัน
“เลือดพุ่งทะลักออกมาใช่ไหม?”
ยังคงพยักหน้าต่อ
ผู่ตานที่ได้รับคำตอบชี้ไปที่มือตัวเองให้ทั้งสามคนดู ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก
สามคนที่ยืนดูอยู่แสดงท่าทีเข้าใจและพยักหน้า
“ศิษย์พี่ เมื่อครู่ข้าใช้รักษาแผลให้ท่านนะ ท่านไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ?”
ผู่ตานรู้สึกแน่นอน แต่เขาโดนกระบี่เหมันต์เร้นลับที่กลายเป็นกระบี่เทพฟันจนบาดเจ็บ แม้แต่อาจารย์ยังไม่สามารถรักษาแผลให้หายได้ในพริบตา ต่อให้ทำได้ก็ไม่น่าจะสามารถทำให้เลือดที่กระเด็นออกมากลับเข้าไปได้ขนาดนี้
ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!
ผู่ตานย่อตัวลงไปดูกับพื้นเพราะกลัวว่าตัวเองจะมองผิด แต่กลับไม่พบเลือดของตัวเองแม้แต่หยดเดียว ช่างไม่เสียเปล่าเลยจริง ๆ!
“ศิษย์น้อง รีบรักษาสมองให้ข้าด้วยได้ไหม!”
หลิงเยว่ “?”
สมองได้รับบาดเจ็บเหรอ?
ผู่ตานดึงวิกผมบนหัวออก ชี้ไปที่หัวล้านเป็นมันวาวของตัวเอง แล้วมองหลิงเยว่ด้วยสายตาเปี่ยมด้วยความหวัง
ปีศาจไฟชั่วร้ายมาก แม้แต่สายฝนศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่สามารถทำให้ผมเขางอกกลับมาได้ ในที่สุดจึงต้องใช้วิกผมเช่นนี้ เขาทุกข์ใจนัก!
พรืด!
เสียงหัวเราะสามเสียงดังขึ้นพร้อมกัน เมื่อครู่พวกเขาบอกว่าผู่ตานดูแปลก ๆ ตอนนี้ในที่สุดก็รู้แล้วว่าแปลกตรงไหน!
“ศิษย์น้องหลิง เป็นอย่างไรบ้าง!”
ในตอนนี้ ด้านนอกกระโจมมีคนสวมหมวกฟางและหมวกดอกไม้อีกสี่คน
“พวกท่านไม่ใช่หัวล้านกันหรอกนะ?”
หลิงเยว่หัวเราะเสียงดังมาก
คนหัวล้านทั้งสี่มองหน้ากัน พวกเขาเพิ่งฝ่าทัณฑ์สวรรค์และรีบมาหานางทันที แต่กลับได้รับเสียงหัวเราะเยาะ!
เฮอะ!
เล่อเหอที่มุงดูความสนุกไม่กลัวเรื่องใหญ่ ยิ้มและหยิบเปลวไฟปีศาจออกมาจากอก
เมื่อเปลวไฟปีศาจปรากฏขึ้น อุณหภูมิภายในนั้นพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกหวาดกลัวที่เคยถูกเปลวไฟปีศาจครอบงำพุ่งสูงสุด ติงหลิวหลิ่วกอดหมวกดอกไม้หลากสีของตัวเองและหันหลังวิ่งหนี
สี่คนที่เหลือหายตัวไปในพริบตา ความเร็วนั้นทำให้หลิงเยว่อึ้งไปทีเดียว
ห้าคนที่วิ่งไปครึ่งทางในที่สุดก็รู้สึกผิดปกติ เปลวไฟปีศาจอยู่ในมือของบรรพจารย์เล่อเหอแล้ว แน่นอนว่าจะไม่มีปัญหา แล้วพวกเขาวิ่งหนีทำไม?
อ่านน้อยลง
ผู่ตานวิ่งกลับมาเป็นคนแรก “ศิษย์น้อง ข้าขอร้องเจ้าแค่ครั้งนี้…”
“ข้าจะลองดู”
หลิงเยว่ใช้พลังรักษาศีรษะโล้นที่โผล่เข้ามา แสงสีเขียวส่องสว่างบนหัวที่เกลี้ยงเกลาของผู่ตาน เพียงไม่นานผมก็งอกทะลุผิวหนังออกมา และเติบโตอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งผมยาวถึงเอว
สี่คนที่กลับมา “???”
“ศิษย์น้อง ช่วยข้าด้วยเถอะ!” ว่านอวี้เฟิงดึงหมวกฟางออก กำลังจะเข้าไปใกล้ แต่ถูกอวี้เจินคว้าตัวขึ้นมาแล้วโยนออกไป แทรกตัวเข้ามาข้างหน้าหลิงเยว่แทน
เพียงชั่วครู่เดียว ห้าหัวล้านก็มีผมอีกครั้ง พวกเขาลูบไล้ปลายผมนุ่มนิ่มอย่างหลงใหล ติงหลิวหลิ่วหลงใหลในผมยาวของตัวเอง สัมผัสดีกว่าผมเดิมเสียอีก!
“ศิษย์น้องหลิง… ผม… ผมเส้นนี้…”
ลู่เป่ยเหยียนชี้ไปที่ผมของตัวเองที่ขยับได้ด้วยสีหน้าตกใจ นี่มันอะไรกัน!
ผมของกลุ่มห้าคนที่ปล่อยสยายกำลังจัดทรงผมให้ตัวเอง
“!!!”
เกิดอะไรขึ้น?
“ระบบ!”
“ท่านแม่เก่งมากเลยขอรับ ผมที่งอกออกมามีชีวิตชีวาแล้ว!”
เสียงของหู่พั่วดังขึ้นกะทันหัน ดึงดูดสายตาของทุกคน
“เจ้าตัวน้อย เจ้ารู้เรื่องนี้หรือ?”
ติงหลิวหลิ่วรีบถาม นางกลัวมากว่าตอนตื่นนอน ตัวเองจะถูกผมรัดจนตาย
“พวกมันเก่งกว่าผมธรรมดามาก ไม่เพียงแต่จะถักเปียได้เอง ในยามอันตรายยังสามารถปกป้องหัวของพวกเจ้าได้ด้วย ไม่ต้องกลัวถูกไฟปีศาจเผาอีกต่อไป!”
ประโยคครึ่งหลังทำให้ทั้งห้าคนกระปรี้กระเปร่า เก่งขนาดนี้เชียวหรือ?
“พวกมันจะไม่ทำร้ายพวกเราใช่ไหม?”
เจ้าตัวน้อยไม่พอใจส่งเสียงฮึ่ม “แน่นอนว่าไม่!”
“เปลี่ยนผมให้ข้าด้วย”
เล่อเหอโกนผมตัวเองทันที พร้อมกับโม่จวินเจ๋อที่รู้สึกเย็นหัว เขาลูบหัวตัวเองอย่างหมดอาลัยตายอยาก มัน… เกลี้ยงเกลา ผมของเขาหายไป!
หลิงเยว่อยากหัวเราะ ความสามารถในการลงมือของบรรพจารย์นั้นแข็งแกร่งจริง ๆ!
โม่จวินเจ๋อน่าสงสาร แม้จะหัวล้านแต่เขาก็ยังหล่อเหลา ไม่จำเป็นต้องมีผมเลยด้วยซ้ำ!
น่าเสียดายที่หลิงเยว่ทนต่อสายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือจากสองหนุ่มหล่อไม่ไหว จึงต้องช่วยปลูกผมให้พวกเขา
เล่อเหอมองผมที่ถักเปียได้เองอย่างพึงพอใจ มุมปากฉีกยิ้มจนแทบจะถึงท้ายทอย ต่อไปไม่ต้องลงมือเองแล้ว สบายใจจริง!
“ให้เจ้า!”
ส่วนแบ่งของไฟปีศาจถูกโยนเข้าอ้อมกอดของหลิงเยว่ ยังไม่ทันได้ดูให้ละเอียด ก้อนไฟก้อนหนึ่งก็พุ่งออกมาจากตันเถียน กลืนกินไฟปีศาจเข้าไปในคำเดียว
ลูกอีกาสุริยันเรอออกมาเบา ๆ อย่างพอใจ จากนั้นใช้ปีกเล็ก ๆ ตบท้องแล้วกลับไปนอนต่อ
ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ “…”
ห้าคนที่ถูกไฟปีศาจทรมานจนเกิดแผลในใจ
นกน้อยทำได้ดีมาก!
หลิงเยว่แก้ปัญหาเรื่องผมเสร็จแล้ว และยังได้ทดลองพลังการรักษาอันทรงพลังของตัวเองด้วย นางเดินออกจากกระโจมด้วยความพึงพอใจ คนอื่น ๆ ไปที่สนามรบแล้ว
รอบ ๆ เต็มไปด้วยกระโจมมากมาย บนท้องฟ้ายังมีจุดเล็ก ๆ นับไม่ถ้วนกำลังรีบมา เสียงคำรามของสัตว์อสูรและเสียงตะโกนฆ่ากันดังแว่วมาถึงที่นี่
“หลิงเยว่ ดูนั่นสิ!”
สือเชี่ยนแบกปลาหมึกสีดำตัวใหญ่กว่านางหลายร้อยเท่า กำลังวิ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว เหมือนกับปีศาจกำลังวิ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง
ปัง!
เสียงดังสนั่น ฝุ่นฟุ้งกระจาย พื้นสั่นสะเทือนเล็กน้อย
“หลิงเยว่ พวกเราได้ยินมาว่าเจ้าเอาของพวกนี้ไปย่างกินในวิหารบูชาปีศาจ รสชาติดีมาก ข้าเลยอยากลองชิมบ้าง”
สือเชี่ยนยิ้มกว้าง ขยี้มือพลางมองปลาหมึกเหมือนกำลังมองของอร่อยอะไรสักอย่าง นางแทบอยากจะกัดกินตรงนั้นแล้ว!
ข่าวนี้ใครเป็นคนเผยแพร่ออกไปกันนะ?
ตอนนั้นพวกเขากินพร้อมกับสุราปราบมารด้วย ตอนนี้ถ้ากินส่งเดช แล้วเกิดอะไรขึ้นมาจะทำยังไงดี?
“จะเกิดอะไรขึ้นได้ล่ะ? ข้ากำลังลองอยู่ ไม่มีเห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย”
หัวหน้าตะขาบมรกตกำลังกินหนวดปลาหมึกจิ้มกับน้ำจิ้มในชามอีกมือหนึ่ง สีหน้าเคลิบเคลิ้มราวกับกำลังฝันกลางวัน
“ท่านอาจารย์ ฮวนฮวนก็ไม่เป็นไรนะ”
ฮวนฮวนที่แปลงร่างเป็นคน กินท่าทางเหมือนกับหัวหน้าตะขาบมรกตเป๊ะ!
“ฮวนฮวน เจ้า…?”
หลิงเยว่มองไปที่ฮวนฮวน ชัดเจนว่านางอายุเกือบสิบขวบแล้ว แต่ไม่ได้สูงขึ้นเลยสักนิด
“เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ อาจารย์?”
ฮวนฮวนกะพริบตาอย่างไร้เดียงสา
ตัวหนึ่งเป็นแค่ตะขาบ ส่วนอีกด้านเป็นดอกไม้โลหิตปีศาจ กินเข้าไปแน่นอนว่าไม่เป็นไร แต่ถ้าผู้บำเพ็ญปกติกินเข้าไป อาจจะมีเรื่องได้!
“อาจารย์หลิง ของกินนี่เหนียวมาก ฮวนฮวนแค่ต้มสุกธรรมดา ราดด้วยน้ำจิ้มรสเผ็ด หอมอร่อยมากเลยเจ้าค่ะ!”
ตอนนี้หลิงเยว่รู้แล้วว่าใครเป็นคนเผยแพร่ข่าวออกไป ต้องเป็นอวี้เจินแน่นอน!
“เอ่อ… ศิษย์น้องหลิง ในสนามรบยังมีสัตว์อสูรอีกมาก พวกมันกินได้ไหมเจ้าคะ? ข้าว่าเอาพวกมันมาย่างหมดเลย ไม่งั้นคงเสียดายแย่!”
อวี้เจินพูดไปกินไป สายตาจับจ้องไปที่สนามรบแล้ว เหมือนกับว่าถ้าหลิงเยว่บอกว่ากินได้ นางจะวิ่งเข้าไปในสนามรบทันที แล้วเอาทุกอย่างที่ดูน่ากินกลับมา!
สำหรับเรื่องนี้ หลิงเยว่ไม่สงสัยเลยสักนิด
“ไม่รู้สิ ต้องลองดูก่อน”
จริงอย่างที่อวี้เจินพูด วัตถุดิบจำนวนมากถูกเผาทำลาย ดูเหมือนจะน่าเสียดายไปหน่อย!