ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 301 เงามังกรปีศาจจะเทียบมังกรแท้ได้อย่างไร!
บทที่ 301 เงามังกรปีศาจจะเทียบมังกรแท้ได้อย่างไร!
เพลิงสีม่วงแปลกประหลาดเริ่มอาละวาด!
ทะเลเพลิงดูดกลืนพลังของพืชและสัตว์ที่ติดอยู่ รวมทั้งมนุษย์ด้วย…
ผู่ตานรู้สึกว่าปฐมวิญญาณของเขาเริ่มมีรอยร้าวปรากฏขึ้น น้ำตาพลันคลอเบ้า ความหวังของเขาพังทลายลงทันที เมื่อเห็นหมอกแดงและทะเลเพลิงอาละวาด
แสงสีเขียวมรกตสิบสายทะลุผ่านทะเลเพลิง หลอมรวมเข้ากับเก้าคนหนึ่งตะขาบในทันที ปฐมวิญญาณที่แตกร้าวถูกเชื่อมต่อเข้าด้วยกันอีกครั้ง แสงสีเขียวห่อหุ้มปฐมวิญญาณของพวกเขาไว้อย่างแน่นหนา ไม่ยอมให้เพลิงสีม่วงบ้าคลั่งทำสำเร็จ!
พลังนี้…
ผู่ตานจำได้ นี่คือพลังของศิษย์น้องห้า และยังจำได้ว่านางมีทักษะการรักษาที่แข็งแกร่งมาก!
ในยามวิกฤตยังคงต้องพึ่งศิษย์น้องสินะ!
อวี้เจินไม่เพียงแต่พบว่าปฐมวิญญาณของตนเองได้รับการซ่อมแซมแล้ว ยังรู้สึกด้วยว่าพลังวิญญาณที่เหือดแห้งกำลังฟื้นตัว นางจึงชูกำปั้นทุบเข้าใส่เปลวเพลิงสีม่วงที่กักขังนางอย่างแรง
“ดื่มชาแปลงร่างแล้วมาช่วยปกป้องข้ากับดอกบัวเพลิงหน่อย!”
เมื่อได้ยินเสียงของหลิงเยว่ ทั้งสิบคนจึงดื่มชาแปลงร่างทันที
“หัวหน้าตะขาบมรกตท่านออกไปจากทะเลเพลิงเถอะ”
หัวหน้าตะขาบมรกตไม่เต็มใจ แต่พอคิดถึงฮวนฮวนและหู่พั่วในท้อง เขาลังเลครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมแปลงร่างแอบหนีออกจากสนามรบ
เงามังกรปีศาจเก้าตัวบินวนคำรามอยู่ในทะเลเพลิง ทุกที่ที่พวกมันผ่านไป เปลวเพลิงจะถูกกลืนกินจนหมดสิ้น!
หมอกแดงใบหน้าซีดเช็ดเลือดที่มุมปากอย่างไม่แยแส นางประเมินความแข็งแกร่งของเพลิงสีม่วงแปลกประหลาดต่ำไป นางกำลังจะหลบหนีไปพักฟื้นก่อนค่อยมาแย่งชิง ใครจะคิดว่า… สวรรค์กลับเข้าข้างเผ่าปีศาจ!
ให้นางค้นพบดอกบัวเพลิง!
“สวรรค์ช่วยข้าแท้ ๆ!”
หมอกแดงหัวเราะเสียงดัง เงามังกรปีศาจทั้งเก้ามุ่งหน้าไปล้อมดอกบัวเพลิง
รอยยิ้มเยาะเย้ยทำให้เพลิงสีม่วงโกรธแค้น ตอนที่มันกำลังจะระดมพลังทั้งหมดเพื่อโจมตีหมอกแดง กลับพบว่าแก่นแท้ของมันกำลังถูกดูดกลืน!
ความโกรธแค้นไม่อาจบรรยายความรู้สึกของมันในตอนนี้ได้
ใครกัน? ใครที่บังอาจดูดกลืนแก่นแท้ของมัน การดูดกลืนพลังงานของสรรพสิ่งในโลกแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงาน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมันไม่ใช่หรือ!
ในไม่ช้าเพลิงสีม่วงจึงพบกับดอกบัวเพลิง ทำให้มันชะงักไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็พบกับรากที่หนาและยาวกำลังค้นหาแก่นแท้ของมัน
เมื่อมองตามรากไปก็พบกับมนุษย์ที่เชื่อมต่อกับดอกบัวเพลิง
ดีนัก! มันประมาทหมอกแดงเกินไปแล้ว ไม่เพียงแต่นางจะพบดอกบัวเพลิง ยังพกมนุษย์อีกหลายคนมาช่วยด้วย
อยู่ที่นี่กันให้หมด!
คลื่นเพลิงโหมกระหน่ำรุนแรงขึ้น สัตว์อสูรที่เกิดจากเปลวเพลิงนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า บ้างก็พุ่งเข้าหามังกรปีศาจ บ้างก็พุ่งเข้าหาดอกบัวเพลิง รวมถึงหลิงเยว่และคนอื่น ๆ
ผู่ตานที่แปลงร่างเป็นกิเลนไฟคำรามก้องฟ้า เปลวเพลิงสีแดงพุ่งชนฝูงสัตว์อสูรเพลิงอย่างรุนแรง เมื่อขาทั้งสี่ขยับ ร่างกายอันใหญ่โตพุ่งเข้าหามังกรปีศาจอย่างรวดเร็ว…
โม่จวินเจ๋อที่แปลงร่างเป็นอิงหลงยืนขวางหลิงเยว่อยู่ เขาสะบัดหางปัดมังกรปีศาจที่พุ่งเข้ามาเป็นตัวแรกออกไป
หมอกแดงที่เกือบตกลงไปในทะเลเพลิงตกตะลึง กิเลนไฟยังพอว่า แต่ทำไมถึงมีอิงหลงมาด้วย?
เรื่องนี้ทำให้นางหวั่นใจ เงามังกรปีศาจจะเทียบกับมังกรแท้ได้อย่างไร?
พึ่งปะทะกัน มังกรปีศาจใต้เท้าของนางเพียงโดนโจมตีครั้งเดียว เงาก็จางหายไปมากแล้ว
กิเลนไฟหนึ่งตัว อิงหลงหนึ่งตัว… บวกกับเพลิงสีม่วง หมอกแดงคำนวณแล้วคำนวณอีก ไม่พบโอกาสชนะแม้แต่น้อย
ถ้าอย่างนั้นปล่อยให้พวกมันสู้กับเพลิงสีม่วง จนทั้งสองฝ่ายบาดเจ็บสาหัสก่อน แล้วนางค่อยกลับมาจัดการทีหลัง!
ถ้าเป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ นางจะต้องหนีอย่างน่าอับอายเช่นนี้หรือ?
หมอกแดงที่กำลังจะจากไปพร้อมกับมังกรปีศาจ ถูก… ชิงหลง มังกรสีเขียวสามกรงเล็บขวางทางไว้
หลงหว่านโหรวผู้แปลงร่างเป็นชิงหลงกะพริบตาสีฟ้าขนาดใหญ่ด้วยท่าทางเย็นชา กรงเล็บทั้งสามขยับ หางมังกรสะบัด ปากอ้าออกพ่นเปลวเพลิงที่มีสายฟ้าส่องประกายพุ่งเข้าหาหมอกแดงอย่างรวดเร็ว แม้แต่ชิงหลงก็มาถึงหน้านางแล้ว
แก่นแท้ของเพลิงสีม่วงเห็นหมอกแดงถูกสัตว์เทพโบราณรุมล้อมก็แอบยิ้มดีใจ แยกส่วนหนึ่งของแก่นแท้ออกไปรวมกับเปลวเพลิง ค่อย ๆ เลื้อยเข้าหาดอกบัวเพลิง
ตราบใดที่ทำลายดอกบัวเพลิงนี้ได้ การดูดกลืนพลังวิญญาณและการบำเพ็ญของสิ่งมีชีวิตแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานย่อมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมันเพียงผู้เดียว!
ในไม่ช้าเพลิงสีม่วงพิสดารก็เข้าใกล้ดอกบัวเพลิงได้ ตอนที่มันกำลังจะเผาดอกบัวเพลิง รอบ ๆ ดอกบัวก็เปล่งแสงสีทองเจิดจ้า ฉีซิวซีที่แปลงร่างเป็นเสวียนอู่ปรากฏตัวขึ้น!
สิ่งที่ปรากฏตัวพร้อมกันคือ สือเชี่ยนที่แปลงร่างเป็นเสวียนอู่โบราณอีกหนึ่งตัว เต่าดำศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองร่วมมือกัน ใช้กระดองที่มีพลังป้องกันแข็งแกร่งที่สุดในโลกห่อหุ้มดอกบัวเพลิงเอาไว้
แก่นแท้ของเพลิงสีม่วงพิสดาร “?”
มันถอยออกไปพร้อมกับสบถด่าอยู่ในใจ แม้จะยอมรับว่าตนเองเก่งกาจ แต่ตอนนี้ยังไม่มีทางเผากระดองของเสวียนอู่ได้
เมื่อไม่มีทางจัดกับดอกบัวเพลิงได้ ก็…
เพลิงสีม่วงพิสดารเบนเป้าหมายไปที่มนุษย์ที่นั่งสมาธิอยู่ในทะเลเพลิง นางกำลังส่งพลังงานให้กับดอกบัวเพลิงอย่างต่อเนื่อง
งั้นก็ดูดพลังนางให้หมดเลยแล้วกัน!
เพลิงสีม่วงพิสดารดูดไปดูดมาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมในร่างกายมนุษย์คนนี้ถึงมีพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์มากมายมหาศาลราวกับไม่มีวันหมดสิ้น แถมยังบริสุทธิ์จนทำให้มันแทบบ้า!
ที่ผ่านมามันดูดกลืนแต่ขยะอะไรเข้าไปกัน!
เพลิงสีม่วงพิสดารดูดกลืนพลังวิญญาณอย่างตะกละตะกลาม จนไม่ทันสังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งที่เป็นสีแดงเข้มปนเปื้อนมากับพลังวิญญาณสีแดง ถูกมันดูดกลืนเข้าไปในแก่นแท้ด้วย
ตราบใดที่ดูดกลืนอีกเล็กน้อย พลังงานที่สูญเสียไปในการต่อสู้กับหมอกแดงก็จะฟื้นตัวเต็มที่แล้ว!
หลิงเยว่ที่หลับตาอยู่พลันลืมตาขึ้น ความดีใจฉายวาบในดวงตา นางเห็นแก่นแท้ของเพลิงสีม่วงพิสดารที่ซ่อนอยู่ในทะเลเพลิงแล้ว!
สีของมันอ่อนกว่าเปลวไฟสีม่วงรอบ ๆ แก่นแท้สีม่วงอ่อนเป็นเพียงเปลวไฟเล็ก ๆ เปลวไฟนั้นยังมีแสงสีเขียวจาง ๆ ปะปนอยู่ด้วย
ดูเหมือนจะเป็นเพลิงอสูร
ดอกบัวเพลิงเพียงสัมผัสเล็กน้อยก็พบเมล็ดบัวขนาดเล็กที่ถูกเพลิงสีม่วงพิสดารกลืนเข้าไปในแก่นแท้ รากพลันแผ่ขยายไปยังแก่นแท้ของเพลิงแปลกพิสดารด้วยความเร็วราวสายฟ้า
แน่นอนว่ามันไม่ได้หยุดดูดกลืนพลังงานของเพลิงสีม่วง แม้ว่าจะไม่บริสุทธิ์เท่าแก่นแท้ของเพลิงสีม่วงพิสดาร แต่ยังมีพลังมากมายมหาศาล!
“ระบบ เอาโอสถฟื้นปราณระดับเทพมาอีกสองเม็ด!”
“ออกไปแล้วจะคืนให้ทันที!”
ประโยคหลังได้ผลดีมาก หลิงเยว่ที่กำลังจะถูกดูดจนแห้งก็เติมพลังให้ตัวเองอีกครั้ง
ตอนที่แก่นแท้ของเพลิงสีม่วงพิสดารคิดว่าตัวเองกำลังจะดูดมนุษย์คนนี้จนแห้ง นางก็มีพลังอีกแล้วเหรอ!
แปลกประหลาดจริง ๆ!
ถึงจัแปลกประหลาดก็ช่างเถอะ เพลิงสีม่วงพิสดารที่โลภมากไม่ยอมละทิ้งพลังวิญญาณเบญจธาตุที่บริสุทธิ์และหาได้ยากในรอบหมื่นปีนี้เป็นแน่ มันถึงขั้นสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตที่แฝงอยู่ในพลังวิญญาณอีกด้วย!
การค้นพบครั้งนี้ทำให้มันยิ่งไม่อยากยอมแพ้
สิ่งที่หลิงเยว่ต้องการคือผลลัพธ์เช่นนี้ นางต้องการถ่วงเวลาให้ดอกบัวเพลิงนานขึ้นอีกหน่อย…
เร็วเข้า! ดอกบัวเพลิงใกล้จะถึงแก่นแท้ของเพลิงสีม่วงพิสดารที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของทะเลเพลิงแล้ว!
หลิงเยว่ที่ตื่นเต้นจนควบคุมลมหายใจไม่อยู่ ทำให้แก่นแท้ของเพลิงสีม่วงพิสดารที่กำลังดูดกลืนอย่างเมามันตกใจตื่น!
แต่ดูเหมือนจะสายเกินไปแล้ว…
ดอกบัวเพลิงมาถึงเบื้องหน้าแก่นแท้ของมันแล้ว กลีบดอกบานสะพรั่ง รากที่ยาวเหยียดได้สัมผัสกับแก่นแท้ของมันเรียบร้อยแล้ว!